ถังกวน เจ็ดมหาหุบเขา
เจ็ดมหาหุบเขาที่ตั้งตระหง่านมาเนิ่นนานแห่งนี้ได้กลายเป็ดั่งหลุมฝังศพทหารผู้ฝึกยุทธ์ของทั้งอาณาจักรต้าถังและกู่เิมานานแล้ว ต่อให้เป็หุบเขาลำดับที่หนึ่งที่มีขนาดเล็กที่สุดก็ยังมีกระดูกของผู้ฝึกยุทธ์ซ่อนอยู่จำนวนนับไม่ถ้วน
หลงอวี้และเฟิงฉางเกอหิ้วหัวของขุนพลเฒ่าหมานอี้เดินบนพื้นหิมะ
แม้ว่าหมานอี้จะถูกอวี่เชียนหนิงฆ่า แต่หัวของหมานอี้กับอยู่ในมือของพวกเขาสองคน
ตามกฎหมายของอาณาจักรต้าถังแล้ว ผลงานนี้นับเป็ของหลงอวี้และเฟิงฉางเกอ
‘ในหุบเขาเหมือนจะไม่มีคนอยู่เลย’
หลงอวี้ได้ยินแต่เพียงสายลมอันหนาวเหน็บที่พัดผ่านในหุบเขาอย่างเงียบเหงา แต่ไม่สามารถััถึงกลิ่นอายของสิ่งมีชีวิตใดๆ ได้เลย จึงอดรู้สึกสงสัยขึ้นมาไม่ได้
ปกติแล้ว ต่อให้ไม่ได้อยู่ใน่า อาณาจักรต้าถังก็ยังต้องส่งหน่วยลาดตระเวนจำนวนหนึ่งมาคอยตรวจตราภายในหุบเขาอยู่ดี ไม่มีทางที่จะไม่มีคนอยู่เลยเหมือนกับตอนนี้แน่
“จากที่เ้าเล่ามา หมานซิ่นได้นำทัพไปกลุ้มรุมโจมตีหลงจี๋สินะ หรือว่าจะเกิดเื่อะไรขึ้นกับหลงจี๋?”
เฟิงฉางเกอคาดเดาออกมาพร้อมกับขมวดคิ้ว
“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พอกลับไปถึงเดี๋ยวก็รู้เอง”
หลงอวี้เงยหน้ามองไปทางเจ็ดมหาหุบเขา เขาเลือกเดินทางผ่านหุบเขาลำดับที่สามที่มีทางเดินกว้างที่สุด เพราะที่นั่นมีลักษณะเป็พื้นโล่งกว้าง ยากที่จะดักซุ่มโจมตีได้
ทั้งสองเดินทางต่อไปยังเมืองถังกวน เพียงไม่นานก็มองเห็นป้อมปราการเมืองถังกวน ประตูเมืองปิดสนิทอย่างแ่า มีเพียงบนหอสังเกตการณ์หลายแห่งที่สร้างขึ้นบนกำแพงเมืองเท่านั้นที่มีทหารจำนวนไม่น้อยยืนเฝ้าระวัง
พอเห็นหลงอวี้และเฟิงฉางเกอแล้วทหารเหล่านี้ก็สีหน้าเปลี่ยนทันที
นั่นมันหลงอวี้คนทรยศไม่ใช่หรือ แถมยังสวมชุดเกราะของแม่ทัพเล็กฝ่ายศัตรูอยู่ด้วย!
“เตรียมลูกธนู!”
ทหารคนที่เป็หัวหน้าหน่วยเฝ้าระวังนั้นออกคำสั่งทันที ในดวงตาเป็ประกายเร่าร้อนรุนแรง
ก่อนหน้านี้ไม่นาน ขุนพลน้อยหลงจี๋ได้กลับมาถึงเมืองถังกวน จากนั้นก็ป่าวประกาศว่าหลงอวี้เป็ผู้ทรยศอาณาจักร หากผู้ใดพบเจอให้ฆ่าทันที!
ผู้เป็หัวหน้าหน่วยเฝ้าระวังไม่คิดเลยว่าคนทรยศอย่างหลงอวี้จะมาปรากฏตัวต่อหน้าเขาในเวลาแบบนี้
หากเขาสังหารหลงอวี้ได้ ก็เท่ากับเขาสร้างผลงานใหญ่ได้ และอาจได้ผูกมิตรกับขุนพลน้อยหลงจี๋เลยน่ะสิ?
แต่ในตอนที่ผู้คนทั้งหมดกำลังเตรียมจะยิงธนูอยู่นั้น หลงอวี้กลับกระแทกเสียงอย่างเ็า
เขายกหัวของหมานอี้ในมือขึ้นสูงแล้วะโอย่างดุร้ายว่า
“พวกเ้าแหกตาดูให้เต็มๆ ตาเสีย นี่คือหัวของขุนพลเฒ่าหมานอี้แห่งอาณาจักรกู่เิ ยังไม่รีบเปิดประตูเมืองอีก!”
ทันทีที่หลงอวี้ะโ ผู้คนบนกำแพงเมืองทั้งหมดก็ตะลึงงัน
ขุนพลเฒ่าหมานอี้แห่งอาณาจักรกู่เิ!
ชื่อนี้ ไม่มีใครในกองทัพไม่รู้จักหรือไม่เคยได้ยินแน่นอน ใครบ้างที่ไม่รู้ว่า ในาสามอาณาจักรเมื่อสิบกว่าปีก่อนนั้น ที่อาณาจักรกู่เิสามารถบุกโจมตีเข้ามาในดินแดนต้าถังได้ก็เพราะมีหมานอี้ผู้นี้เป็ผู้นำทัพไม่ใช่หรือ?
แม้ว่ามันจะถูกจั่วหวังเหย่ฉู่เฉาเซิงใช้เล่ห์เหลี่ยมจนถูกทำลายวรยุทธ์ในท้ายที่สุด แต่เ้าหมานอี้นี่ก็ยังคงเป็ฝันร้ายของผู้คนจำนวนไม่น้อยอยู่ดี
บิดาของทหารผู้ฝึกยุทธ์หลายๆ คนในกองทัพล้วนถูกฆ่าตายด้วยฝีมือของกองทัพที่ขุนพลเฒ่าหมานอี้ผู้นี้เป็ผู้บัญชาการ!
เรียกได้ว่าขุนพลเฒ่าหมานอี้นั้นเป็ศัตรูตัวฉกาจคนหนึ่งของอาณาจักรต้าถัง แต่บัดนี้หลงอวี้กลับถือหัวของมันมาปรากฏตัวที่หน้าเมืองถังกวนแล้ว!
“ต้องเปิดประตูไหม?”
ผู้คนไม่น้อยต่างก็ลังเล
คนทรยศปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับถือหัวของจอมทัพฝ่ายศัตรูไว้ เื่แบบนี้มันผิดสามัญสำนึกไปหน่อยจริงๆ
หรือว่าเ้าหลงอวี้นี่จะแสร้งทรยศเพื่อที่จะได้เข้าหาศัตรูได้ง่ายขึ้น?
“ไปรายงานขุนพลน้อยก่อน”
หัวหน้าทหารเฝ้าระวังผู้นั้นรู้ทันทีว่าเื่ใหญ่แบบนี้ไม่ใช่สิ่งที่เขาจะตัดสินใจได้ จำเป็ต้องรายงานขุนพลน้อยหลงจี๋ก่อน
แม้หลงจี๋ตอนนี้จะาเ็สาหัส ออกคำสั่งห้ามไม่ให้ใครรบกวน แต่เื่ของคนทรยศหลงอวี้นั้น ขุนพลน้อยน่าจะสนใจอยู่มั้ง?
“ขุนพลน้อยมีคำสั่งให้เปิดประตูเมือง!”
ไม่นานนักก็มีทหารส่งคำสั่งกลับมา
“เปิดประตู”
หัวหน้าทหารเฝ้าระวังผู้นั้นออกคำสั่งทันที เขาย่อมไม่กล้าขัดคำสั่งของขุนพลน้อยหลงจี๋อยู่แล้ว
หลังจากสิ้นเสียงลง ประตูเมืองถังกวนที่ถูกปิดสนิทก็ได้ถูกเปิดออกอีกครั้ง
หลงอวี้เดินผ่านประตูเมืองเข้าไป สิ่งแรกที่ได้เห็นก็คือเงาร่างของคนคุ้นเคย ปู้สิงในชุดรัดรูปสีดำกำลังยืนรอต้อนรับเขาอยู่ตรงประตูเมือง!
“ศิษย์พี่ปู้!”
หลงอวี้ส่งเสียงทักทาย
“ฮ่าฮ่า ศิษย์น้อง!”
ปู้สิงหัวเราะ
“แม้ข้าจะรู้ว่าเ้าต้องไม่ทำให้ข้าผิดหวัง แต่ก็ไม่คิดว่าจะถึงกับถือหัวของจอมทัพฝ่าศัตรูกลับมาด้วย เ้าทำให้ศิษย์พี่ข้าตะลึงไปเลยทีเดียว!”
หลงอวี้ไม่ได้พูดอะไรมากนัก หันไปสบตากับเฟิงฉางเกอแล้วก็ก้าวเท้าเข้าไปในเมืองถังกวน
ผู้ที่ออกมาต้อนรับหลงอวี้มีเพียงปู้สิงคนเดียวเท่านั้น บรรยากาศภายในเมืองถังกวนดูตึงเครียดอย่างเห็นได้ชัด ทำให้หลงอวี้ระวังตัวมากขึ้น
เมื่อเข้ามาในเมืองแล้ว หลงอวี้ก็ได้มาถึงข้างกายของปู้สิง กดเสียงต่ำเอ่ยถาม
“ศิษย์พี่ปู้ ในกองทัพต้าถังเกิดเื่อะไรขึ้นหรือ? ทำไมไม่เห็นเ้าหลงจี๋เลย?”
พอได้ยินคำถามของหลงอวี้ ดวงตาของปู้สิงก็ฉายแววยิ้มเยาะ
“เ้าหลงจี๋ถูกขุนพลน้อยของฝ่ายศัตรูหมานซิ่นรุมโจมตีจนาเ็สาหัส ตอนนี้กำลังเก็บตัวและออกคำสั่งห้ามไม่ให้คนเข้าออกเมืองเด็ดขาด”
หลงจี๋าเ็สาหัส!
เื่นี้ทำให้หลงอวี้เปลี่ยนสีหน้า
อย่างนี้นี่เอง!
ถ้าอย่างนั้น ขุนพลน้อยของฝ่ายกู่เิหมานซิ่นก็มีความสามารถที่ไม่ธรรมดาจริงๆ มีความสามารถในการบัญชาการรบสูงกว่าหลงจี๋หลายเท่า
น่าเสียดายที่หมานซิ่นคาดไม่ถึงว่าอวี่เชียนหนิงจะปรากฏตัวลอบสังหารบิดาของเขา!
“อาการาเ็ของมันเป็อย่างไรบ้าง? ส่งผลอะไรกับระดับวิถียุทธ์ของมันไหม?”
หลงอวี้เอ่ยถามด้วยรอยยิ้มบางๆ
หลงจี๋าเ็สาหัส ย่อมต้องเป็ข่าวดีสำหรับหลงอวี้อยู่แล้ว!
“ระดับพลังน่าจะไม่เป็อะไร แต่ิญญาแท้ัโลหิตของมันถูกทำลายอย่างสิ้นเชิง อีกฝ่ายลงมืออำมหิตมาก หากไม่ใช่เพราะฉื่อเสียวเสว่เข้าไปช่วยเหลือได้ทันเวลา เกรงว่ามันคงไม่สามารถรอดชีวิตกลับมาได้แล้ว”
ปู้สิงส่ายหน้า
ฉือเสียวเสว่?
หลงอวี้ได้ยินชื่อนี้แล้วก็นึกถึงผู้ฝึกยุทธ์พเนจรที่ได้เจอตอนก่อนจะเข้ามาในเมืองถังกวน ชายวัยกลางคนที่สวมผ้าคลุมหนังสัตว์ผู้มีแววตาเด็ดเดี่ยวและน่าเกรงขามผู้นั้น
ไม่คิดเลยว่าสุดท้าย ผู้ฝึกยุทธ์พเนจรในยุทธ์จักรคนหนึ่งจะเป็คนช่วยเหลือหลงจี๋จากความตาย เกรงว่าเ้าหลงจี๋คงคาดไม่ถึงแน่!
‘หลงจี๋ยังไม่ตายหรือ ก็ดี ข้าจะได้เป็คนปลิดชีวิตของเ้าด้วยตัวเอง’
หลงอวี้ครุ่นคิดในใจ
ศัตรูของตัวเองย่อมไม่อาจปล่อยให้ผู้อื่นจัดการแทนได้ แม้หลงจี๋จะแข็งแกร่ง แต่หลงอวี้ก็ต้องเอาชนะมันให้ได้ถึงจะสามารถก้าวสู่ขอบเขตวิถียุทธ์ที่สูงขึ้นได้!
เพียงต้องกำหนดเป้าหมายขึ้นมาสักคนแล้วเอาชนะมันลงให้ได้เท่านั้น ถึงจะทำให้จิตใจแห่งวิถียุทธ์ของหลงอวี้หนักแน่นมั่นคงยิ่งกว่าเดิม!
“จริงสิ ศิษย์พี่ปู้ ไม่รู้ว่าท่านได้เจออวี่เชียนหนิงบ้างหรือเปล่า?”
หลงอวี้เหมือนจะนึกบางอย่างขึ้นได้เลยเอ่ยถามกะทันหัน
“นางมาถึงเมืองถังกวนั้แ่ก่อนหน้านี้แล้ว”
ปู้สิงตอบกลับด้วยสีหน้าจริงจัง
“แต่นางเพียงบอกว่าเ้าเป็คนทรยศเท่านั้น จากนั้นก็เดินทางออกจากเมืองทันที ไม่รู้ว่าไปที่ไหนแล้ว”
“ศิษย์พี่ปู้ ท่านรู้ไหมว่าตอนนี้นางระดับิญญาแท้ขั้นที่สี่แล้ว?”
หลงอวี้ขมวดคิ้วแล้วเอ่ยถาม
“อะไรนะ?"
ปู้สิงได้ยินแล้วก็ตกตะลึงทันที
ระดับิญญาแท้ขั้นที่สี่?
เป็ไปได้อย่างไร!
“นางเพิ่งจะก้าวขึ้นสู่ระดับิญญาแท้ได้ไม่นานไม่ใช่หรือ?”
ปู้สิงถามกลับไปอย่างไม่รู้ตัว
หลงอวี้ได้ยินดังนั้นก็รู้ได้ทันทีว่าอวี่เชียนหนิงต้องมีวิธีการบางอย่างที่สามารถปกปิดระดับพลังของตัวเองได้แน่!
ต่อจากนั้นหลงอวี้ก็ได้เล่าเื่ที่เกิดขึ้นในฐานทัพกู่เิให้ปู้สิงฟังคร่าวๆ
แน่นอนว่า เื่เกี่ยวกับบิดาของเขาคงไม่จำเป็ต้องเล่าให้ปู้สิงฟัง
“อย่างนี้นี่เอง ขุนพลเฒ่าหมานอี้ถูกนางลอบสังหาร... แต่หัวของเ้าขุนพลเฒ่านี่กลับถูกเ้าเด็ดกลับมา ผลงานครั้งนี้ ตามกฎของต้าถังเราแล้วนับว่าเป็ผลงานของพวกเ้าถึงจะถูก”
ปู้สิงเอ่ยพูดขึ้นเสียงเครียด
“หากเป็เช่นนั้น ในงานประลองเจ็ดสำนักอีกสี่เดือนหลังจากนี้ ศัตรูที่แข็งแกร่งที่สุดของข้าก็คืออวี่เชียนหนิงสินะ!”
หลงอวี้ไม่ได้เล่าเื่บึงอัสนีซ่อนฟ้าให้ปู้สิงฟัง
เขาเตรียมจะเดินทางไปสถานที่แห่งนั้นตัวคนเดียว เพราะมันอันตรายมากเกินไป ต่อให้เป็ปู้สิง หากตกอยู่ในเงื้อมมือขององค์ชายน้อยแห่งกู่เิก็ไม่อาจรอดได้เหมือนกัน!
“ในเมื่อาสงบลงแล้ว ข้ากับพ่อบุญธรรมข้าคงต้องขอตัวกลับไปที่เมืองอวี้กวนก่อนแล้วล่ะ”
หลงอวี้เอ่ยขึ้น
“ไม่ต้องรีบร้อนขนาดนั้น”
ปู้สิงเอ่ยพูดขึ้นด้วยรอยยิ้ม
“เ้าเด็ดหัวของขุนพลเฒ่าหมานอี้กลับมาได้ นับว่าสร้างผลงานใหญ่ได้ ต้องมีรางวัลมอบให้เ้าแน่ๆ งานมอบรางวัลให้กับฉือเสียวเสว่จะจัดขึ้นในอีกสามวัน ของเ้าเองก็น่าจะวันเดียวกัน”
ฉื่อเสียวเสว่ช่วยชีวิตหลงจี๋กลับมาได้ นับว่าสร้างผลงานใหญ่ได้
หลงอวี้ที่เด็ดหัวของขุนพลเฒ่ากลับมาได้ก็นับว่าเป็ผลงานใหญ่เช่นกัน!
แต่เดิมหลงอวี้ยังคิดว่าอาจจะได้พบกับอวี่เชียนหนิงที่เมืองถังกวน ไม่คิดเลยว่าหลังจากนางลอบสังหารเสร็จแล้วจะไปจากเมืองถังกวนทันที
‘หรือว่า นางจะรีบเดินทางไปบึงอัสนีซ่อนฟ้ากัน?’
หลงอวี้ครุ่นคิดในใจ เป็ไปได้มากเลยทีเดียว!
แต่หลงอวี้ที่รีบเร่งเดินทางกลับมานั้นก็เผาผลาญลมปราณไปไม่ได้น้อย คงไม่สามารถออกเดินทางต่อได้ทันที พักผ่อนที่เมืองถังกวนสักสามวันก็ดี จะได้ดูด้วยว่ากองทัพจะมอบรางวัลอะไรให้กับเขา
......
สามวันหลังจากนี้ หลงอวี้ได้พักผ่อนอยู่ในเมืองถังกวนคนเดียว ขณะเดียวกันเขาก็ได้ฝึกฝนวิทยายุทธ์ระดับิญญาชั้นยอด ฝ่ามือตื่นรู้สู่สังสารวัฏและบรรลุพลังของแผ่น์จันทราครึ่งชิ้นนั่นไปพร้อมกันด้วย
ใน่เวลานี้เอง เื่ที่หลงอวี้นำหัวของจอมทัพฝ่ายศัตรู ขุนพลเฒ่าหมานอี้กลับมาได้ถูกเล่าต่อไปทั่วทั้งเมืองถังกวนจนเป็ที่รับรู้ของทหารทั้งหมด
เมื่อเป็เช่นนี้แล้วก็ไม่มีใครคิดว่าหลงอวี้เป็คนทรยศอีก!
ส่วนความผิดที่หลงอวี้ถูกใส่ร้ายก่อนหน้านี้ว่าร่วมมือกับรองขุนพลของกู่เิในการสังหารหั่วฝู่นั้น ได้ถูกล้างมลทินไปเมื่อปู้สิงปล่อยิญญาแท้ฝ่ามือจารึกออกมาต่อหน้าผู้คนทั้งหมด
ทหารทั้งหมดในกองทัพจึงมองหลงอวี้ราวกับเป็วีรบุรุษเลยทีเดียว!
สถานการณ์แบบนี้ หลงจี๋ที่าเ็สาหัสอยู่นั้นไม่อาจหยุดยั้งได้อย่างสิ้นเชิง!
เขาทำได้เพียงออกคำสั่งให้ดำเนินการมอบรางวัลให้กับหลงอวี้เท่านั้น
หัวของขุนพลเฒ่าหมานอี้ ทำให้หลงอวี้เปลี่ยนจากอาชญากรไปเป็ผู้มีผลงานในทันที ทำให้เขากลายเป็วีรบุรุษในสายตาของเหล่าทหารทั้งหลาย!
เื่นี้มันทำให้หลงอวี้รู้สึกซาบซึ้งในตัวของขุนพลเฒ่าหมานอี้จากก้นบึ้งของหัวใจ
‘ขุนพลเฒ่า วางใจเถอะ สักวันหนึ่งข้าต้องสังหารไอ้ฉู่เฉาเซิงนั่นให้ได้!’
หลงอวี้ตัดสินใจเด็ดขาดแล้ว!
หลังจากผ่านไปได้สามวันแล้ว ในที่สุดก็ถึงวันมอบรางวัล
ขุนพลน้อยหลงจี๋าเ็สาหัสจึงไม่สามารถเข้าร่วมงานได้ จึงให้แม่ทัพใหญ่หัวล้านเหยียนซานมาดำเนินการแทน
บนลานกว้างที่ใหญ่ที่สุดภายในเมืองถังกวน หัวของขุนพลเฒ่าหมานอี้ถูกแขวนไว้บนจุดที่สูงที่สุดเพื่อแสดงบารมีทางการทหาร พิธีมอบรางวัลดำเนินบนลานกว้างที่มีผู้คนนับหมื่นมาเข้าร่วมงาน!
เื่ราวคราวนี้ยุติลงไปชั่วขณะ ผู้ที่มีผลงานมากที่สุดย่อมต้องเป็ผู้ฝึกยุทธ์พเนจรฉือเสียวเสว่ที่ช่วยชีวิตหลงจี๋ และหลงอวี้ที่สามารถเด็ดหัวของจอมทัพศัตรูกลับมาได้
ผู้คนทั้งหมดต่างก็พูดคุยกันไปต่างๆ นานา ไม่รู้ว่าทางกองทัพจะมอบสิ่งใดให้เป็รางวัล?
“ขุนพลเฒ่า หลังจากได้รับรางวัลแล้ว ข้าจะนำท่านกลับสู่ดินแดนบ้านเกิดเอง”
หลงอวี้ที่ยืนอยู่ด้านหน้าสุดของกลุ่มคนนั้นก็ได้เงยหน้ามองไปยังศีรษะของขุนพลเฒ่าหมานจี๋ ในดวงตาฉายแววเคร่งเครียดจริงจัง!
การกระทำของหมานอี้นั้นชนะใจของหลงอวี้ได้นานแล้ว!
ตัวเขานั้นไม่ได้สนใจรางวัลเลยแม้แต่น้อย สิ่งที่เขาสนใจตอนนี้มีเพียงขุนพลเฒ่าหมานอี้และบึงอัสนีซ่อนฟ้าที่เขาจะเดินทางไปหลังจากได้รับรางวัลแล้วเท่านั้น!
