มือของบุรุษเช่นนั้นหรือ?
ร่างกายของเหนียนอีหลานสั่นไหว แววตาสั่นระริกกระวนกระวายปากบ่นพึมพำ "มือของบุรุษ...เป็มือของมู่อ๋อง มู่อ๋องต้องมาส่งนางด้วยตัวเองเป็แน่นางผู้หญิงชั้นต่ำนางนี้...หึ เหนียนยวี่เอ๋ยเหนียนยวี่ทำให้ข้าต้องมองเ้าใหม่เสียแล้ว คาดไม่ถึงว่ามู่อ๋องจะให้ความสำคัญกับนางมากขนาดนี้เลยงั้นหรือ?”
แรงริษยาในใจเหนียนอีหลานปะทุขึ้นมาอย่างต่อเนื่องใบหน้างดงามใบนั้นไม่หลงเหลือร่องรอยความไร้เดียงสาดั่งเช่นที่เคยเป็อีกต่อไป
“คุณหนูเ้าคะ มิเช่นนั้นลองให้ฮูหยินคิดหาหนทางแค่บุตรีอนุที่ไร้มารดาผู้หนึ่ง ถ้าหากหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยก็คงไม่มีผู้ใดซักถามสืบหาเป็แน่เ้าค่ะ” ฟางเหอมองเหนียนอีหลาน กล่าวเอ่ยอย่างระมัดระวัง
ในที่สุดสายตาของเหนียนอีหลานก็สั่นไหว “หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย...ไม่ นางมิอาจหายตัวไปได้
นามของเหนียนยวี่ถูกบันทึกลงหนังสือราชสำนักแล้วยามพรุ่งจะมีพิธีบวงสรวง นางทำได้เพียงต้องยอมรับเหนียนยวี่ในยามนี้มิใช่เหนียนยวี่ในอดีตผู้นั้นที่ไม่ว่าใครในจวนเหนียนก็สามารถข่มเหงรังแกได้!
ยิ่งไปกว่านั้น จวนเหนียนยามนี้มีจ้าวอิ้งเสวี่ยเพิ่มมาอีกคนท่านแม่เคยกล่าวไว้ว่า จ้าวอิ้งเสวี่ยนั้นคอยจ้องมองพวกเขาอยู่ทุกเมื่อไม่ว่าเื่อะไรก็ตาม หากถูกนางจับได้แล้ว ก็มิอาจตบตาได้เช่นเดิม
เหนียนอีหลานสูดหายใจลึก นางรู้ดีว่าจะปล่อยให้ภัยคุกคามอย่างเหนียนยวี่ผู้นี้เติบโตต่อไปอีกไม่ได้
"แล้วเหนียนยวี่เล่า?" หลังครุ่นคิดไปครู่หนึ่ง เหนียนอีหลานก็เอ่ยปากถามขึ้น
"เมื่อครู่นี้บ่าวแอบอยู่ด้านหลัง นางกลับลานเซียนหลานไปแล้วเ้าค่ะยามนี้อยู่ในห้องตัวเองแล้ว บ่าวเห็นท่าทางนาง เหมือนดื่มสุรามา ดูมึนเมาสะลึมสะลือเล็กน้อยเ้าค่ะ"
"เมาหรือ?" เหนียนอีหลานหรี่ตาลงกำผ้าเช็ดหน้าปักลายแน่น ราวกับกำลังคิดคำนวนวางแผนอะไรอยู่ เวลาผ่านไปไม่นานดวงตาของเหนียนอีหลานก็เปี่ยมไปด้วยความแน่วแน่ แล้วเหลือบมองฟางเหอ"ไปเอาดอกกล้วยไม้แห้งและเมล็ดผลซิ่ง [1] มา"
"คุณหนู นี่ท่าน้า...” ฟางเหอไต่ถาม ทว่าเหนียนอีหลานจ้องมองมาด้วยสาตาที่ไม่พอใจทำให้ใจนางสั่นสะท้าน ไม่กล้าเปล่งวาจาอะไรออกมาอีก รีบทำตามคำสั่งในทันที “เ้าค่ะ บ่าวจะรีบไปเดี๋ยวนี้เ้าค่ะ”
ฟางเหอออกไป ในใจเหนียนอีหลานก็ค่อยๆ สงบลง
เมาสุรา...หึ ในเมื่อเหนียนยวี่เมา เช่นนั้นนางผู้นี้ที่เป็พี่สาวก็ควรดูแลน้องสาวให้ดีเป็ธรรมดา!
มุมปากของเหนียนอีหลานยกยิ้มขึ้น รอยยิ้มนั้นทำให้ผู้คนสั่นสะท้าน
เหนียนยวี่กลับห้องแล้วก็เอนกายนอนลง ห้องที่มืดมิดเหนียนยวี่ที่กำลังหลับตา ปล่อยหัวให้โล่งไม่คิดอะไรทั้งสิ้น
ทันใดนั้น ประตูห้องถูกผลักออก เสียงฝีเท้าเบาตามมา
เหนียนยวี่ขมวดคิ้ว ผู้ใดเข้ามา?
ทันใดนั้น กลิ่นหอมจางๆ ของดอกกล้วยไม้ที่ลอยมาในอากาศก็ตอบเหนียนยวี่ได้อย่างกระจ่างแจ้ง
"น้องเหนียนยวี่ เ้าหลับหรือยัง?" เสียงของเหนียนอีหลานดังขึ้นท่ามกลางความมืด จากนั้นฟางเหอก็จุดไฟทั่วทั้งห้องพลันสว่างขึ้นทันที
"ท่านพี่? ดึกดื่นค่ำคืนเช่นนี้ท่านพี่มาหายวี่เอ๋อร์มีเื่อันใดหรือ?" เหนียนยวี่ลุกขึ้นนั่งเหนียนอีหลานมองเหนียนยวี่พลางยกชามบางอย่างเดินเข้ามาหานาง รอยยิ้มบนใบหน้าแลดูนุ่มนวลอ่อนหวาน
"ข้าได้ยินว่าเ้าดื่มสุรามา กังวลว่าร่างกายเ้าจะไม่สบายได้เพราะเหตุนั้นจึงให้คนไปเตรียมน้ำแกงแก้เมาค้างมาให้เ้าโดยเฉพาะเ้าดื่มก่อนแล้วค่อยนอนเถิด" ใบหน้าของเหนียนอีหลานเต็มไปด้วยความห่วงใย ถือน้ำแกงแก้เมาค้างส่งให้เหนียนยวี่
เหนียนยวี่จ้องมองเหนียนอีหลาน นางใจดีเช่นนี้เลยหรือ?
"เป็อะไรไปหรือ? ไม่รีบดื่มเล่า?
เหนียนยวี่ได้สติ รับน้ำแกงแก้เมาค้างมา กลิ่นของน้ำแกงแก้เมาค้างนั้นลอยขึ้นมาแตะจมูกแค่ดมเพียงครั้งเดียวก็ทำให้นางรู้เลยว่าใส่อะไรลงไปบ้าง
น้ำแกงแก้เมาค้างก็คือน้ำแกงแก้เมาค้าง ทว่าส่วนผสมในน้ำแกงแก้เมาค้างกลับเจือจางไปหน่อย!
นางไม่ได้ตั้งใจจะให้นางสร่างเมางั้นหรือ?
เช่นนั้นยังส่งน้ำแกงแก้เมาค้างเพราะเหตุใด?
เหนียนยวี่ควบคุมอารมณ์ไม่แสดงมันออกมาเหลือบมองเหนียนอีหลานอย่างแฝงนัยลึกล้ำ “ไม่มีอะไรเ้าค่ะ ท่านพี่ดีต่อข้าขนาดนี้ข้ารู้สึกซาบซึ้งใจยิ่งนัก”
“ข้าเป็พี่สาวเพียงคนเดียวของเ้า การที่ข้าทำดีกับเ้าก็ย่อมเป็เื่ธรรมดา”รอยยิ้มไร้เดียงสาเบ่งบานบนใบหน้าของเหนียนอีหลานอดไม่ได้ที่จะเอ่ยสิ่งที่คิดออกมา “มู่อ๋องนี่จริงๆ เลย น้องยวี่อย่างไรก็เป็เพียงสตรีผู้หนึ่งเหตุใดเขาถึงให้เ้าร่ำสุรามากมายถึงเพียงนี้? จากกลิ่นเหล้าบนตัวเ้า เพียงดื่มน้ำแกงแก้เมาค้างนี้ เ้าก็จะได้นอนหลับสบายๆรับรองได้ว่าพรุ่งนี้เช้าจะไม่มีอาการเมาค้างแน่นอนทุกครั้งที่ท่านพ่อร่ำสุราไปหลายจอก ท่านแม่เองก็ให้คนไปต้มน้ำแกงแบบนี้ให้ท่านพ่อดื่มตลอดได้ผลดียิ่งนัก"
"งั้นหรือ? ยวี่เอ๋อร์ขอบคุณท่านพี่แล้วท่านพี่ดีกับยวี่เอ๋อร์ขนาดนี้ ยวี่เอ๋อร์ควรตอบแทนท่านพี่อย่างไรดี?"
"หากเ้าพูดจาเช่นนี้อีก หลังจากนี้ข้าจะไม่สนใจเ้าแล้ว"เหนียนอีหลานมุ่ยปาก จ้องมองไปที่เหนียนยวี่แสร้งทำเป็โกรธ"รีบดื่มเร็วเข้าเถิด ตอนที่กำลังร้อนๆ อยู่"
เหนียนยวี่ยิ้มให้เหนียนอีหลาน ในระหว่างที่เหนียนอีหลานจับตามองอยู่นั้น นางก็ดื่มน้ำแกงแก้เมาค้างเข้าไปจนหมดถ้วย
“เ้านอนหลับพักผ่อนให้สบายเถิดพรุ่งนี้ยังต้องเข้าร่วมพิธีบวงสรวงอีกแล้วน้องยวี่เอ๋อร์ของข้าก็จะได้เป็คนในราชวงศ์ ท่านพ่อยังกล่าวอีกว่า เ้าจะเป็หน้าเป็ตาให้ตระกูลเหนียนของพวกเรา!" เหนียนอีหลานหยิบชาม ลูบแก้มของเหนียนยวี่อย่างสนิทสนมยิ้มแย้มงดงามมีชีวิตชีวา แล้วจึงหันหลังก้าวเดินออกจากห้องไป
ไฟในห้องถูกดับลง ความเงียบกลับมาอีกครั้งเหนียนยวี่นั่งอยู่บนเตียง ขมวดคิ้วเล็กน้อย
เหนียนอีหลานจากไปแบบนี้หรือ? เพียงแค่นำน้ำแกงแก้เมาค้างมาให้ถ้วยหนึ่งเท่านั้นหรือ?
ในไม่ช้า กลิ่นหอมจางๆ ที่กระจายไปทั่วทุกมุมห้องโชยเข้าจมูกของเหนียนยวี่
ชาติก่อน นางสนิทกับหมอทหารในค่ายทหารเป็อย่างมากหมอหลวงผู้นั้นเป็ลูกศิษย์ที่น่าภาคภูมิใจของอาจารย์เย่าซานฉานนางสนใจวิชาการปรุงยา ผลิตยา การเก็บรักษายา ทั้งสองมักจะศึกษาค้นคว้าแลกเปลี่ยนความคิดด้านการปรุงยาผลิตยาด้วยกันเมื่อจ้าวเยี่ยนรู้เื่ก็สนับสนุนนางอย่างเต็มกำลัง จึงทำให้เกิดยา‘เลี่ยซิน’ ออกมา
หลังจากการาสิ้นสุดลง นางสูญเสียขาทั้งสองข้างอีกสองปีให้หลัง นางได้คลุกคลีอยู่กับความรู้เื่การใช้ยาของอาจารย์เย่าซานฉานในยามที่ได้รับการรักษาจากอาจารย์เย่าซานฉาน นางก็ศึกษาด้านการรักษาโรคไปด้วย
่เวลานั้น นางต้องกินยาทุกวัน สมุนไพรเครื่องเทศนางแค่ดมกลิ่นก็รู้แล้วว่ามันคืออะไร
ดอกกล้วยไม้ เมล็ดผลซิ่ง...
แต่ละอย่างมีผลต่อการนอนหลับ ยามที่ใช้เพียงอย่างเดียวก็ต้องให้ความสำคัญกับปริมาณ ทว่ายามนี้ มีของทั้งสองอย่างอยู่ในกระถางธูป ปริมาณแต่ละอย่างไม่น้อยเลย ไม่เพียงเท่านั้นยิ่งหากเมาสุราด้วยแล้ว ก็จะยิ่งเพิ่มประสิทธิภาพที่ส่งผลให้ง่วงเหงาหาวนอนของดอกกล้วยไม้
เหนียนอีหลานแท้จริงแล้วมิใช่เพียงแค่นำน้ำแกงแก้เมาค้างมาให้เท่านั้น!
เหนียนอีหลาน้าทำให้นางหลับไหลไม่ได้สติ
ท้ายที่สุดนางจะทนได้หรือไม่?
นางอยากจะเห็นพี่สาวผู้นี้ของตนเหลือเกินว่าแท้จริงแล้วนาง้าทำอะไรกันแน่!
เหนียนยวี่ยิ้มนิดหัวเราะหน่อย ลุกลงจากเตียงแล้วะโออกไปนอกหน้าต่าง ผ่านไปชั่วครู่หนึ่ง ยามที่นางกลับมา ก็เหมือนมีอะไรอยู่ในปากของนางเหนียนยวี่เอนกายนอนลงบนเตียงด้วยท่าทางที่ผ่อนคลายดมกลิ่นธูปนอนรออะไรบางสิ่งอย่างสงบนิ่ง...
ท้องฟ้าล่วงเข้ายามดึก
เงาดำร่างหนึ่งวนเวียนเดินไปเดินมาอยู่ในลานเซียนหลานชั่วขณะหนึ่งและในที่สุดก็ผลักประตูบานนั้นให้เปิดออก
ค่อยๆ ก้าวย่องเข้ามาอย่างระมัดระวัง
ในความมืดมิด เหนียนอีหลานเดินตรงไปที่เตียงเห็นคนที่นอนอยู่บนเตียงอย่างสลัวๆ เลือนราง มุมปากยกยิ้มขึ้นเล็กน้อย
แม้นจะรู้ดีว่าด้วยฤทธิ์ของยานอนหลับนั้น คนบนเตียงถึงอย่างไรก็มิอาจต้านทานได้ ทว่าในใจเหนียนอีหลานก็ยังคงรอบคอบระมัดระวัง
ในวันนั้น ครั้นนางเห็นเหนียนยวี่กลับมาแต่งกายเฉกเช่นเด็กผู้หญิงนางรู้ทันทีว่าใบหน้านี้จะกลายเป็ภัยคุกคามต่อนาง
แท้จริงแล้ว นางใช้รูปโฉมใบหน้านี้ไปนานแค่ไหนกันถึงทำให้มู่อ๋องวุ่นวายสับสน
เหอะ เหนียนยวี่นางผู้หญิงชั้นต่ำผู้นี้ แม้นนางจะได้รับความโปรดปรานจากมู่อ๋องแล้วอย่างไร?
หากใบหน้านี้โดนทำลาย เกรงว่ามู่อ๋องคงจะไม่เหลียวแลนางอีกเป็แน่!
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ความบ้าคลั่งที่ปรากฎขึ้นในดวงตาเหนียนอีหลานก็ยิ่งทวีความรุนแรงขึ้นราวกับมิอาจทนต่อไปได้แม้เพียงชั่ววินาที นางกำกริชในมือแน่นกรีดลงไปบนใบหน้าของผู้ที่อยู่บนเตียง
แปดปีที่ใช้ชีวิตในค่ายทหารเมื่อชาติก่อน เหนียนยวี่สามารถรับรู้ได้ถึงอาวุธลอบสังหารได้อย่างว่องไวเฉียบแหลมเป็อย่างยิ่ง ััเย็นเยือกของคมกริชกระทบหน้าของนางเหนียนยวี่เข้าใจอย่างแจ่มแจ้ง อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเย้ยหยันเหนียนอีหลาน้าทำลายรูปโฉมของนางงั้นหรือ?
ชาติก่อน...เหนียนยวี่จำได้ว่าชาติก่อนั้แ่ก่อนที่นางจะเข้าคุกหลวงก็มีแผลเป็อันน่าหวาดกลัวประจักษ์อยู่บนใบหน้าของนางแล้ว
เริ่มแรกนางไม่รู้เลยว่ารูปลักษณ์หน้าตาของสตรีนั้นสำคัญเพียงใดจนกระทั่งนางได้พบกับหลีอ๋องจ้าวเยี่ยน ฐานะ รูปโฉมที่มีรอยแผลทั้งหมดทำให้นางรู้สึกต้อยต่ำเมื่อเผชิญหน้ากับเขา ทว่าบุรุษผู้นั้น...
นึกถึงเื่ราวของเขาและนางในชาติก่อนบุรุษผู้นั้นใช้ความน้อยเนื้อต่ำใจของนางให้เป็ประโยชน์ เพียงเพื่อหลอกใช้ให้นางเป็เครื่องมือ?
ในใจเหนียนยวี่เย้ยหยัน ย้อนคืนความคิดััได้ถึงความเย็นะเืที่อยู่ใกล้ใบหน้า...
ในชาติก่อนแผนชั่วของนางสำเร็จ ชาตินี้นางจะทำอย่างไรให้สมปรารถนา?
เหนียนยวี่ที่กำลังจะตอบโต้ กลับได้ยินเสียงแปลกประหลาดดังขึ้นเหนียนอีหลานทอดถอนใจด้วยความไม่สบอารมณ์ทันที เหนียนยวี่ใเล็กน้อยก่อนที่จะทันได้โต้ตอบ ก็ได้ยินเสียงคนเดินทะลุหน้าต่างมากลิ่นหอมของขี้ผึ้งที่ลมพัดเข้ามาทำให้เหนียนยวี่เดาได้ในทันทีว่าบุคคลที่ออกมาคือผู้ใด
คนที่พุ่งเข้ามาทำให้เหนียนอีหลานตื่นตระหนกแสงจันทร์ส่องผ่านหน้าต่าง ทำให้นางเห็นเพียงแค่เงาดำแต่กลิ่นอายความอันตรายที่แพร่ออกมาของเงาดำนั้น ทำให้นางไม่กล้าที่จะอยู่ต่อนางหนีเตลิดออกไปด้วยความอึดอัดใจ
เงาสีดำกำลังจะวิ่งไปตาม แต่มีมือข้างหนึ่งจับข้อมือของเขาไว้
บุรุษผู้นั้นขมวดคิ้ว เมื่อหันกลับมามองดูสตรีที่แต่เดิมหลับอยู่บนเตียงก็แปลกใจเล็กน้อยและหลังจากนั้นครู่หนึ่งก็กล่าวขึ้น “ดูเหมือนว่าความพยายามของข้าจะมากเกินควร”
สตรีนางนั้นรู้ดีถึงภัยใกล้ตัว แต่นางกลับอดทนรออะไรบางอย่างหรือนางกำลังวางแผนจะทำอะไร...?
แม่ทัพท่านทำลายแผนของข้า!
เชิงอรรถ
[1] ลูกซิ่งหรือ Apricot เป็ผลไม้ที่มีเมล็ดคล้ายกับเมล็ด almond