อนันทิตา ที่พึ่งนอนไปได้ไม่นานก็ต้องสะดุ้งตื่นเพราะเสียงโทรศัพท์ เลขาโทรมาเตือนเธอเื่ประชุม เมื่อเธอดูนาฬิกา ก็ต้องรีบสุดตัว เพราะเหลือเวลาแค่ครึ่งชั่วโมง โชคดีที่เธอนอนที่บริษัท ไม่งั้นเธอไม่ทันประชุมแน่นอน
การประชุมผ่านไปจนเกิบเที่ยง ก็เดินออกมาจากห้องประชุม เพื่อที่จะกลับขึ้นไปพักบนห้องต่อ แต่ก็ต้องหยุดเพราะเลขาของเธอบอกมีเด็กใหม่มาขอฝึกงานเป็เลขาของเธอ รออยู่ในห้องทำงาน อนันทิตาเลยต้องเดินเปิดประตูเข้าไปในห้องเพื่อสัมภาษณ์งานเอง เธอจะดูว่าเด็กที่มาฝึกงานจะเหมาะที่จะทำงานร่วมกับเธอมั้ย
เมื่ออนันทิตาเปิดประตูเข้าไปก็เห็นว่าไม่ใช่ใครอื่น แต่คือเวรา ซึ่งจริงๆ เธอไม่ต้องมาสมัครงานเลยด้วยซ้ำไป เวราสามารถมาทำงานที่บริษัทได้ทันที แต่เวราเลือกที่จะทำตามกฎ และเวราก็รู้ดีว่า อนันทิตายังไงก็ไม่มีทางกล้าจะปฎิเสธการสมัครงานของเธอแน่นอน เพราะเธอเองก็สามารถเป็ CEO ได้เช่นกัน แต่เวราไม่คิดจะรับตำแหน่งนั้นเพราะเหตุผลที่เธอเข้ามา เพื่อที่จะแก้แค้นอนันทิตาเท่านั้น ไม่คิดจะทำงานในบริษัทนี้จริงๆ บริษัทของพ่อเธอมีหลายแห่งแต่เธอไม่ไป
อนันทิตาเห็นแววตาที่น้องสาวมองเธอแบบนั้น เหมือนกับตัวเธอโดนเจาะทะลุไปถึงเนื้อหนังที่ไม่ใสเสื้อผ้า ทำให้อนันทิตา ถึงกับทำท่าจะถอยหลัง แต่กลับถูกเวราดึงมือไว้และล็อคประตูไม่ให้คนนอกเข้า อนันทิตาถึงกับหน้าเสีย รู้ชะตากรรมตัวเองเลยว่า คงโดนน้องสาวตัวเองทำอะไรแปลกๆ อีกแน่ แต่เธอก็โล่งใจได้นิดหนึ่งที่ว่านี่คือบริษัท เวราคงไม่กล้าทำอะไรรุนแรงแน่นอน
เวราก็ไม่รอช้า เปิดคอเสื้อที่เธอทำรอยไว้เมื่อคืนออกมาดู ก่อนจะก้มลงไปทำรอยเพิ่ม แล้วกระซิบว่า
“อย่าคิดว่าจะหนีไปไหนพ้น รอยนี้จะคอยย้ำเตือนเธอเสมอว่า บาปกรรมที่เธอก่อไว้กับเค้า มันมากแค่ไหน ซ่อนไว้ให้ดีละ ถ้าใครเห็นเขาจะคิดว่าเธอไปมั่วกับใครมาถึงตื่นมาประชุมเกิบสายต้องให้เลขาโทรขึ้นไปปลุก”
เมื่อได้ยินเวราพูดแบบนั้น อนันทิตาก็รู้ทันทีว่า เวราได้มารอเธอั้แ่เธอยังไม่ตื่น ก่อนที่จะคิดอะไรต่อ เวราก็จูบเธออีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่รุนแรง และไม่ได้เนิ่นนานอะไร เพราะอนันทิตาผลักเวราออกไปและพูดว่า
“หยุดทำเื่แบบนี้สักทีเถอะเวย์ เธอเป็เด็กและที่สำคัญก็เป็น้องสาวเราด้วย นั่งลงสิ จะสมัครเป็เลขาส่วนตัวของเราไม่ใช่หรือ”
เวราดึงอนันทิตาเข้ามากอดอีกรอบอย่างโหยหาอ้อมกอดนั้นแบบเธอเองก็ไม่รู้ตัว และกระซิบข้างหู ทำให้คนฟัง ทั้งดีใจ และก็ไม่อยากเชื่อว่า มันคือความจริง
“คิดถึงจัง ไม่ได้เจอกันตั้งนาน”
อนันทิตา กอดกลับและพูดขึ้นมาทำให้เวรา ดึงสติกลับมาได้
“คิดถึงกันแล้วทำไม เมื่อคืนถึงทำรุนแรงขนาดนั้นกับพี่”
แค่นั้น เวราถึงกับเปลี่ยนท่าทางทันที กดอนันทิตาไปนอนหงายและเธอก็เอาตัวเธอกดทับร่างอนันทิตาไว้ ก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าเป็เ็าและแววตาที่เ็ปเหมือนเมื่อคืน เวราเอามือข้างหนึ่งจับแขนอนันทิตาไว้และอีกข้างพยายามปลดกระดุมเสื้อของอนันทิตาออก จนเหลือแต่บราลูกไม้แสนสวย อนันทิตาพยายามร้องห้ามบอกว่า
“เวย์หยุดนะนี่ที่ทำงานนะ เธอจะทำอะไรนะ ปล่อยพี่เดียวนี้”
แต่เวราไม่ฟัง เธอกระซิบข้างหูอนันทิตาว่า
“ถ้าอยากให้คนข้างนอกรู้เื่ของเรา เธอก็ส่งเสียงสิ คนในบริษัทเธอจะได้รู้ว่า ในนี้เกิดอะไรขึ้น”
พอเวราพูดจบเธอก็ไม่รอช้าอะไรอีก เพราะในขณะที่พูดเธอก็ปลดตะขอบราของพี่สาวแสนสวยเธอออกเรียบร้อยแล้ว เวราใช่ริมฝีปากเธอดูดตรงหัวนมของอนันทิตาอย่างเมามัน ซึ่งอนันทิตาไม่เคยที่จะโดนใครััแบบนี้มาก่อนแม้แต่ เมธานัน ทำให้เธอถึงกับส่งเสียงครางออกมาแต่เธอ ต้องเอามืออีกข้างของตัวเองปิดปากเอาไว้ไม่ให้มีเสียง มันยิ่งทำให้เวราได้ใจ เอามืออีกข้างบีบคลึงหน้าอกอวบอิ่มอนันทิตา ทำให้เธอมีความรู้สึกที่ไม่เคยมีมาก่อน แต่ทั้งคู่ก็ต้องหยุดชะงักลงเมื่อได้ยินเสียงเคาะประตู ของผู้เป็แม่ดังขึ้นมาว่า
“แล้วจะล็อกห้องทำไมคะคุณลูกสาว รีบเปิดเดียวนี้เลยนะ”
เมื่อได้ยินแบบนั้น คนทั้งสองก็ถึงกับรีบใส่เสื้อกลับคืนให้อนันทิตาอย่างรวดเร็ว แต่ที่แอบซ่อนไม่ได้คือ สีหน้าที่แดงเหมือนเืนกของอนันทิตา กับ แววตาที่แดงเหมือนคนร้องไห้ของเวรา เมื่อเปิดประตูให้คนเป็แม่เข้ามา เธอก็เห็นสีหน้าแววตาของลูกทั้งสองคน เธอก็หันกลับไปบอกเลขาว่า ห้ามใครรบกวนพวกเธอแม่ลูกวันนี้ พวกเธอหยุดงาน ก่อนที่จะจับมือลูกสาวทั้งสองคนขึ้นชั้นบนสุดไป ซึ่งทั้งคู่ก็เดินตามผู้เป็แม่ที่จูงมือพวกเธอไปอย่างอ่อนโยน และหันกลับมายิ้มปลอบใจลูกทั้ง 2 โดยที่ไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับพี่-น้องที่เคยสนิทกันมาก แต่เมื่อเธอพบกลับเห็นว่า เหมือนคนทั้ง 2 กำลังมีปัญหากันด้วยแววตาของผู้เป็น้องและสีหน้าของคนเป็พี่
เมื่อเข้ามาถึงห้อง คนเป็แม่ก็ยื่นคีย์การ์ดอีกใบให้เวรา มันทำให้อนันทิตาถึงกับคอตก เพราะเธอคิดในใจว่า คงไม่มีที่ไหนปลอดภัยสำหรับเธออีกแล้วละ ภายในห้องเงียบอยู่พักใหญ่ ทำให้คนเป็แม่ผิดสังเกตไปมาก เพราะคนที่ไม่ได้พบกันนาน และตัวติดกันตลอดเวลา กลับไม่มีอะไรคุยกันสักคำเดียว แม้แต่รอยยิ้มก็ไม่มี และคนที่บ่นตลอดเวลาว่าคิดถึงน้องสาว พอเจอกันจริงๆ กลับมีที่ท่านิ่งเงียบไปซะอย่างนั้น คนเป็แม่เลยพูดขึ้นมาว่า
“ทิตา ั้แ่พรุ่งนี้ไป แม่จะให้เวย์ ทำงานกับลูกนะ สอนงานในบริษัทให้น้องด้วย แม่ให้คนจัดที่นั่งของเวย์ไว้ให้ในห้องของลูกแล้วนะ วันนี้ลูกไม่ต้องลงไปทำงานก่อนนะ คนกำลังเคลียร์ห้องทำงานอยู่ แม่ฝากน้องด้วยละ จบแล้วจะได้มาช่วยกันทำงาน พ่อเขาก็จะได้ไม่เป็ห่วงมาก”
อนันทิตาถึงกับตัวแข็งไปเลย เมื่อแม่กำลังส่งเธอไปยังลานปะาด้วยมือของคนเป็แม่แท้ๆ ของเธอเอง อนันทิตาคิดในใจว่า
*แล้วฉันจะรอดไปได้ถึงเมื่อไหรนี่ แม่นะแม่ ทำกันได้ลงคอ แม่จะรู้มั้ย ว่าแววตาที่มองแม่ตอนนี้ของน้องสาวตัวแสบ ลูกสาวคนเล็กของแม่ มันใส่ซื่อก็จริงแต่ภายในใจมันไม่ใช่เลยนะแม่ ลูกแท้ๆ ของแม่ตายแน่ จะปฎิเสธก็ไม่ได้ จะไล่ไปยิ่งทำไม่ได้ ฉันต้องเสียความบริสุทธิ์ให้น้องสาวตัวเองเหรอนี่*
สีหน้าอนันทิตา แสดงออกอย่างเห็นได้ชัดเจนว่ากำลัง กลุ้มใจอย่างมาก คนเป็แม่ที่เห็นสีหน้าลูกสาวแท้ๆ ก็ถามว่า
“มีปัญหาอะไรหรือปล่าวทิตา ทำไมทำหน้าแบบนั้น แม่ไม่เคยเห็นเธอทำสีหน้าแบบนั้นมาก่อนเลยนะ เธอทั้งสองคนทะเลาะอะไรกันหรือปล่าวบอกแม่ได้นะ จะได้ไม่ผิดใจกัน เพราะถึงยังไงก็เป็พี่-น้องกัน ต้องอยู่ร่วมกันไปอีกนาน”
เวรามองหน้าอนันทิตา เมื่อทั้งคู่มองตากัน คนเป็พี่ก็รู้ด้วยแววตาว่า เวราจะพูดอะไร เธอเลยบอกแม่ว่า
“เราไม่ได้มีปัญหาอะไรกันนี่คะ ใช่มั้ยเวย์ //เราพยักหน้าแล้วยิ้มอย่างอ่อนโยนแต่แววตากลับตรงกันข้าม// จริงๆ แล้วหนูแค่เคลียร์เื่ผลตอบรับของบริษัทเดือนนี้นิดหน่อยนะคะ พอดียอดการสงออกมันลดลงนิดหน่อย หนูกลัวว่า หนูทำไม่ดีพอหรือปล่าว”
อนันทิตาก็หาเื่พูดไปที่จริงบริษัทไม่ได้มีปัญหาอะไรเลย คนเป็แม่ก็รู้ดี เพราะถึงเธอจะไม่ได้เข้ามาบริษัทบ่อยนัก แต่ก็คอยสอบถามเื่งานอยู่ตลอดเวลา เพราะถ้าลูกสาวพลาดขึ้นมา เธอจะได้ช่วยแก้ไขทัน แต่เธอไม่อย่าเซ้าซี้ลูกสาวแท้ๆ มากนัก ถ้าอนันทิตาอยากเล่าให้ฟัง คงไม่พูดหลบเลี่ยงแบบนี้แน่ เธอเลยเออ ออตามลูกไปว่า
“งั้นเวย์ก็เข้ามาทำงานได้เหมาะกับเวลาเลยสินะ จะได้ช่วยกันแก้ปัญหาเื่นี้ไปด้วย ทิตาก็ช่วยสอนน้องไปในตัวด้วยเลย มีประชุมข้างนอกก็พาน้องไปพบลูกค้าด้วย และอย่าลืมแนะนำเวย์กับคนในบริษัทด้วยละ ที่สำคัญ ผู้ถือหุ้นด้วย อย่าลืมแนะนำให้พวกท่านได้รู้จัก เวย์ด้วยละ”
เวรายิ้มให้พี่สาวที่มุมปากเหมือนเธอได้รับชัยชนะเต็มร้อยจากคนเป็แม่ที่เปิดทางให้เธอได้เอาคืนพี่สาวคนสวยของเธออย่างเต็มที่ แต่อนันทิตาสิ กลับทำหน้าเหมือนคนกำลังจะร้องไห้ เวราเลยแกล้งแสดงให้แม่เห็นโดยเอามือไปจับต้นขาจนเกิบโดนจุดสำคัญของเธอตรงกลางหว่างขาของคนเป็พี่ทำท่าเหมือนปลอบใจและบอกว่า
“พี่ไม่ต้องกังวลนะ เค้ามาช่วยพี่แล้ว เดียวเค้าช่วยพี่แก้ไขเื่งานที่มีปัญหาเองนะ จริงๆ แล้วที่มหาลัย เค้าเรียนจนได้เกียรตินิยมอันดับ 2 เลยนะ จริงๆ เค้าต้องได้อันดับ 1 แต่เค้ากลับไม่สบายต้องหยุดไป 1 เทอมเกรดเค้าเลยไม่ถึง แต่พี่เชื่อใจเค้าได้เลยเื่งาน ไม่มีปัญหาแน่นอนเค้าสัญญา”
อย่างน้อยอนันทิตา ก็เชื่อใจเวราเื่งานได้ ว่าเธอไม่เอาเข้ามาพัวพันกับเื่ส่วนตัวแน่นอน เพราะบริษัทนี้ พ่อของเธอก็มีหุ้นอยู่ถึง 20 เปอร์เซ็นเลยทีเดียว เธอคงไม่คิดจะพังมันลงกับมือของเธอแน่นอน
อนันทิตาทำสีหน้าดีขึ้นมานิดหน่อยและถอนหายใจอย่างโล่งอกไปหนึ่งเื่ เมื่อผู้เป็แม่เห็นแบบนั้นก็คิดไปเองว่า ลูกสาวคงกังวลว่าน้องจะทำไม่ได้ พอได้ยินน้องพูดแบบนั้น ถึงกับถอนหายใจออกมาแบบโล่งอก คนเป็แม่ลุกขึ้น แล้วบอกว่า
“งั้นแม่ขออาบน้ำหน่อยนะ วันนี้ออกไปหาลูกค้ารายใหม่ที่มาจากมาเลเซีย กว่าจะคุยกันเสร็จและเซ็นสัญญาได้ ทำเอาล้าไปทั้งตัว เสร็จแล้วเดียวจะออกมาทำกับข้าวให้ วันนี้กินข้าวเย็นกันที่นี่แหละ กินเสร็จค่อยกลับบ้านด้วยกันทั้งหมดนี่แหละ ทิตาก็พาเวย์กลับด้วยละ น้องขับรถไม่เป็ ส่วนแม่จะไปธุระต่อคงกลับดึกสักนิด”
เมื่อคนเป็แม่เดินเข้าห้องไป เวราก็ยังคงแกล้งอนันทิตาต่อโดยการเลื่อนมือของตนจะไปจับจุดสงวนของเธอ แต่อนันทิตาเหมือนรู้ทันรีบเอามือของตัวเองมาปิดเอาไว้ แล้วส่งสายตาห้ามปราม ก่อนจะกระซิบข้างหูน้องสาวตัวแสบว่า
“ไม่กลัวแม่เห็นหรือไง เธอคิดบ้าอะไรนี่...........”
เวราไม่อยากฟังเสียงพี่สาวบ่น เธอจึงเอามือตัวเองจับไปยังต้นคอของพี่สาวคนสวยแล้วกดจูบเข้าที่ริมฝีปากบางอย่างอ่อนโยน คนเป็พี่ก็ถึงกับส่งเสียงครางเบาๆ ออกมา แต่คนทั้งคู่หารู้ไม่ว่าการกระทำนั้น คนเป็แม่เห็นทั้งหมด รีบถอยหลังไปกุมหน้าอกของตนอย่างไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง ก่อนจะเดินเข้าไปในห้องน้ำ ก็ส่งเสียงออกมาเหมือนจะห้ามการกระทำของลูกสาวเธอทั้งสองคนว่า
“นั่งกันเฉยๆ ก็ช่วยแม่เตรียมกับข้าวด้วยละกัน อยากกินอะไรก็เตรียมไว้เดียวแม่ออกไปทำให้”
ทำให้คนทั้ง 2 ผลักออกจากกัน เพราะการจูบที่อ่อนโยนของเวราทำให้อนันทิตาเผลอจูบตอบรับน้องสาวเธอไป อนันทิตาถึงกับไม่อยากเชื่อตัวเองว่าจะตอบรับจูบนั้นไปได้ และเธอเองกลับรู้สึกดีกับมัน เธอลุกขึ้นไปเตรียมกับข้าวตามที่แม่สั่ง ทิ้งคนเป็น้องให้นั่งคนเดียวบนโซฟา แต่เธอก็มองน้องสาวตลอดเวลาก็เห็นว่า เวราเอามือของตัวเองลูบปากเบาๆ และหน้าแดง ทำสีหน้าเหมือนไม่อยากจะเชื่อว่าตัวเองก็รู้สึกดี กับการตอบรับของพี่สาวที่จูบกันเมื่อกี้ ยิ่งทำให้อนันทิตาหน้าแดง จนเผลอทำมีดบาดมือตัวเอง
เมื่อเวราได้ยินพี่สาวคนสวยของตัวเองร้องเสียงหลง ก็รีบลุกขึ้นไปดูด้วยความเป็ห่วง เพราะใจจริงตัวเธอเองก็รักพี่สาวมากเหลือเกิน ยิ่งได้ใกล้ยิ่งรู้สึกดี ยิ่งได้ััร่างกายของพี่สาวหลายครั้ง เธอกลับมีความรู้สึกพิเศษ เธอรู้สึกอยากได้มากขึ้น อยากใกล้ชิดมากกว่าเดิม เธอรู้สึกหวงแหนพี่สาวมากขึ้น แต่ความโกรธแค้นมันก็มีมาไม่หยุด ทำให้ตัวเธอเองก็สับสนในความรู้สึกตอนนี้ แต่ ณ.เวลานี้ เธอเป็ห่วงมากกว่า
เวราจับมืออนันทิตาขึ้นมา ก็เห็นเืที่ไหลไม่หยุด เธอจึงเอานิ้วที่โดนมีดบาดใส่ปากตัวเอง เพื่อดูดเืออกจากนิ้วพี่สาว เธอจะได้ไม่ปวดมากถ้าเืออกมาเต็มที่แล้ว เธอจึงเปิดก๊อกน้ำเอามือของอนันทิตาไปล้างก่อนที่จะจูงมือไปที่โซฟาให้คนเป็พี่นั่งรอ ส่วนตัวเธอก็เดินไปที่ตู้เก็บอุปกรณ์ประถมพยาบาลเอาไว้ เวราเอามือพี่สาวมาทำแผลด้วยแววตาที่อ่อนโยนและห่วงใย เมื่อทำเสร็จเธอลุกขึ้นไปแล้วพูดว่า
“ทำอะไรก็ระวังหน่อยจะได้ไม่าเ็อีก ที่เหลือเดียวทำเอง นั่งรอเฉยๆ อยู่ตรงนี้แหละเดียวจะทำอะไรง่ายๆ ให้ทานเอง”
การกระทำเมื่อครู่ของเวรา ทำให้อนันทิตายิ้มออกมาได้ เพราะเธอััได้ถึงน้องสาวตัวน้อยคนเดิมที่ห่วงใยเธอเสมอ เธอเป็คนซุ่มซ่ามเื่ทำครัวมาก และคนที่ต้องคอยช่วยทำต่อก็คือเวราเสมอ คนเป็แม่เองก็เห็นการกระทำนั้นเช่นกัน เห็นลูกสาวแท้ๆ ของตัวเองยิ้มได้ก็ถึงขั้นโล่งอก ก็คิดว่าภาพที่เธอเห็นเมื่อครู่ เธอคงกังวลคิดมากไปเองมากกว่า พี่-น้องจะจูบกันได้ยังไง ถึงจะคนละพ่อ คนละแม่ก็ตาม แต่ถึงยังไงก็ลูกสาวทั้งคู่ ถึงแม้ว่า ทั้งสองคน จะเคยมีแฟนเป็ผู้หญิงก็ตาม
เวราที่กำลังทำกับข้าว ก็ทำเสร็จเองก่อนที่คนเป็แม่จะออกมาเพราะเธอเผลอหลับไปเพราะความเหนื่อย และก็เห็นว่าลูกสาวคนเล็กทำกับข้าวเสร็จเรียบร้อยแล้ว อนันทิตาเลยถือโอกาสบอกกับแม่ว่า
“แม่คะ คืนนี้ลูกขอนอนค้างที่นี่นะคะ พรุ่งนี้ยังมีงานต้องเคลียร์แต่เช้า”
แต่จริงๆ เธอไม่มีงานอะไรต้องเคลียร์เลย แค่เธออยากจะหลบหน้าน้องสาวตัวเองมากกว่า คนเป็แม่เลยถามกลับไปว่า
“แล้วเวย์จะทำยังไง เราลืมไปแล้วหรือ ว่าแม่ไปธุระต่อนะ จะให้น้องกลับบ้านคนเดียวได้ยังไง หรือจะให้ค้างกับเราที่นี่ละทิตาก็ตัดสินใจเอาเองละกัน แม่จะไปละในเมื่อเวย์ทำกับข้าวให้ทานแล้ว”
อนันทิตาถึงกับหน้าซีดเมื่อเห็นคนเป็แม่เดินออกจากห้องไปทิ้งให้เธออยู่ลำพังในห้องสองคนกับน้องสาวตัวร้ายของเธอ ที่จ้องจะเอาเธอเป็เมียอยู่ตลอดเวลา อนันทิตารีบหาทางแก้สถานการณ์อย่างเร็ว โดยจะชวนน้องกลับบ้าน เพื่อที่เธอจะได้หนีกลับมานอนค้างที่บริษัทได้ แต่ไม่ทันได้เอ่ยปากพูดอะไร เวราก็บอกว่า
“เหนื่อย จะไปอาบน้ำก่อนละกัน คืนนี้นอนนี่แหละี้เีกลับบ้าน เธอเองก็ห้ามหนี ไม่งั้นเราจะฟ้องแม่ ว่าเธอทิ้งเราให้อยู่คนเดียว”
อนันทิตาถึงกับเอามือปิดหน้าแล้วคิดว่า
**นี่เราทำเวรกรรมอะไรไว้กับเด็กคนนี้กันนะ ทำไมถึงสู้เธอไม่ได้เลย เพราะเราเป็พี่งั้นหรือ แต่การกระทำของน้องกลับไม่ได้มองว่าเราเป็พี่เลยสักนิดเดียว แล้วคืนนี้จะทำยังไงดีนี่ ถ้าเกิดแม่คุณสติแตกขึ้นมาคิดจะจับเราทำเมียอีก ต้องแย่แน่ๆ หนีก็ไม่ได้ แม่ตัวดีเล่นเอาแม่มาขู่กัน ถ้ารู้ว่าเราทิ้งน้อง แม่ต้องสงสัยอีก แก้ตัวไม่ถูกอีกสิเรา เอาวะเป็ไงเป็กัน แต่ดูท่าทางน่าจะเหนื่อยจริงๆ คืนนี้คงรอด เพราะเราเองก็เหนื่อยและง่วงมาก**
อนันทิตาเดินเข้าห้องไป และรอให้เวราอาบน้ำเสร็จเธอจะได้อาบน้ำแล้วรีบนอน เพราะตัวเธอเองตอนนี้เพลียมากอยากนอนที่สุดจริงๆ ไม่มีแรงจะสู้กับน้องสาวตัวเองอีก เมื่อเวราอาบน้ำเสร็จก็นุ่งผ้าขนหนูผืนเดียวออกมา เธอรู้เลยว่า นิสัยเดิม นอนไม่ใส่เสื้อผ้า แต่ตอนนี้ความรู้สึกของเธอ ที่มีกับน้องสาวมันเริ่มเปลี่ยนไป เธอไม่กล้ามองน้องสาวได้เต็มตาอีกต่อไป เพราะสาวน้อยในตอนนั้น โตขึ้นตัวสูงกว่าเธอ แถมยังรูปร่างดีไม่แพ้เธอ มองยังไงก็คือ ผู้หญิงที่สวยมากคนหนึ่ง
อนันทิตาสายหัว เพื่อสลัดความคิดออกจากหัวตัวเอง และคิดว่า **นี่เราคิดอะไรอยู่นี่ นั้นน้องสาวนะ** แล้วเธอก็เลือกเดินเข้าไปอาบน้ำ ทางด้านเวราก็ยิ้มอย่างพอใจ ว่าแผนของเธอที่ยั่วยวนพี่สาวตัวเอง มันได้ผลดีเกินคาด เพราะผู้หญิงที่ชอบผู้หญิงด้วยกันมองออกว่า จุดไหนจะทำให้ฝ่ายตรงข้ามหลงใหลได้ นั้นคือร่างกายที่มีเสน่ห์ของตัวเองที่ไม่แพ้ใครแน่นอน
เวราใส่เสื้อคลุมของอนันทิตา แล้วเดินออกไปดูงานของบริษัทในโน๊ตบุ๊คของอนันทิตาที่เปิดค้างไว้เพื่อเรียนรู้งาน เมื่ออนันทิตาออกมาจากห้องน้ำไม่เห็นเวรา ก็เดินออกมาดูเห็นน้องสาวนั่งดูงาน เธอก็สบายใจ ก่อนจะหันหลังกลับเข้าไปแต่งตัว และล้มตัวลงนอนั้แ่ยังไม่มืด ปล่อยให้เวรานั่งศึกษางานด้วยตัวเองผ่านโน๊ตบุ๊คส่วนตัวของเธอเอาเอง พรุ่งนี้เริ่มงานเธอค่อยอธิบายรายละเอียดกับน้องอีกที และอนันทิตาก็หลับไปจริงๆ ด้วยความอ่อนล้าของร่างกายที่อดหลับเพราะโดนเวราก่อกวนเมื่อคืน
เมื่อเวราเห็นว่าดึกมากแล้วเธอก็ปิดโน๊ตบุ๊คและก็เดินเข้าห้องไปเห็นอนันทิตาที่นอนหลับ เธอปิดไฟดวงใหญ่กลางห้องเหลือไว้แค่ไฟหัวเตียง เพราะเวราั้แ่เกิดเื่ เธอไม่เคยนอนปิดไฟหัวเตียงอีกเลย เธอถอดเสื้อคุมออกแล้วเปิดผ้าห่มเข้าไปนอนบนเตียงกับอนันทิตาที่หันหน้ามาทางเธอแต่ยังคงหลับสนิทเพราะเหนื่อย เวราเห็นแบบนั้นก็ยิ้มอย่างอ่อนโยน และเอามือข้างหนึ่งสอดเข้าไปที่ใต้คอเรียวงามอย่างเบามือเพื่อไม่ให้อีกคนตื่นขึ้นมา เพราะเธอรู้ดีว่าพี่สาวคนสวยของเธอเหนื่อยมาก เธอจึงอยากให้นอนพัก เวราถึงเลือกที่จะออกไปนั่งดูงานข้างนอก อนันทิตาจะได้ไม่ต้องกังวลและนอนหลับอย่างสบายใจได้ว่าเธอจะไม่โดนเวรารังแกอีก
เวรากอดอนันทิตาไว้ อนันทิตาก็เอาหน้าของเธอมาซุกกับหน้าอกของเวรา อย่างรู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย ทำให้คนที่โดนซุกถึงกับรู้สึกแปลกๆ เพราะเธอไม่ได้ใส่เสื้อผ้า แถมอนันทิตาก็เอาหน้าเข้ามาซุกตรงร่องระหว่างหน้าอกเธออีก มันเป็ความรู้สึกที่ทำให้ใจเธอเต้นเร็วไม่เป็จังหวะ ซึ่งมันเสียงดังมากพอสมควร สำหรับห้องที่เงียบสนิทขนาดนั้น
มันทำให้อนันทิตา ลืมตาตื่นขึ้นมาก็ต้องเห็นหน้าของตัวเองซุกอยู่ตรงหน้าอกที่ขาวเนียนและใหญ่โตของน้องสาวตัวแสบ แถมเธอยังโดนกอดชนิดกระดุกกระดิกไม่ได้เลย ความรู้สึกของทั้งสองคนตอนนี้คือ ไม่อยากทำให้อีกฝ่ายรู้สึกตัวว่า ตัวเองกำลังมีความรู้สึกแปลกๆ กับร่างกาย อนันทิตาเลือกที่จะนิ่งไว้ให้ได้มากที่สุดเพราะเธอไม่อยากตกเป็เมียน้องสาวตัวเอง
ทางด้านเวราก็ไม่อยากให้พี่สาวคนสวยของเธอต้องตื่นขึ้นมากลางดึกแบบนี้เพราะเธอ เวรา้าให้อนันทิตาหลับจนสว่างจากใจจริงของเธอ เธอเลยพูดขึ้นมาเบาๆ ว่า
“ใจเย็นสิ เวราเอ๋ย ปล่อยให้พี่ทิตานอนไป อย่าเต้นดังนักสิ เมื่อคืนเราก็กวนจนเธอต้องหนีเรามานอนที่นี่แล้ว นอนให้หลับซะ พรุ่งนี้จะได้ช่วยเธอทำงาน นี่มันก็บริษัทของคุณพ่อตัวเองเหมือนกันนะ หยุดคิดฟุ้งซ่านสักที นี้พี่สาวแกนะ ไม่ใช่เมียแกในตอนนี้”
คำพูดของเวราทำให้อนันทิตา ทั้งโล่งใจและใจหายในเวลาเดียวกันก็คือ คืนนี้เธอรอดแน่นอน แต่ไอคำว่า ไม่ใช่เมียในตอนนี้สิ นั่นมันหมายความว่า ครั้งต่อไปเราอาจจะไม่รอดสินะ นี่น้องสาวเรามันคิดจะเอาเราเป็เมียจริงหรือนี่ อนันทิตาถึงกับคิดหาทางออกไม่ถูก ไม่รู้จะแก้ไขยังไงกับเหตุการณ์เหล่านี้ พรุ่งนี้คงได้แต่ต้องคุยกันให้รู้เื่ ก่อนที่เธอจะเสียหายไปมากกว่านี้ .........................
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้