“เป็ภัย? มีท่านอยู่ยังเป็ภัยอีกหรือ”
เฝิงเทียนทำท่าทางเย่อหยิ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนเห็นเฝิงเป่าเป่าโค้งกายคารวะเด็กเ่าั้ เขาเกลียดคนที่ทำให้ตระกูลเฝิงของเขาต้องเสียหน้ายิ่งนัก
“ข้าเอาชนะเขาไม่ได้ในสิบกระบวนท่า และคนเ่าั้ที่เหลืออยู่ เพียงพอที่จะเอาชีวิตคุณชายด้วย”
“อะไรนะ ที่เหลือ...”
“ท่านหมายถึงเด็กกลุ่มนั้นหรือ”
อู๋ิกล่าวเช่นนั้นออกมาทำให้เฝิงเทียนรู้สึกไม่ปลอดภัย นึกย้อนไปถึงพลังน่ากลัวของเริ่นเสี้ยวเทียนก่อนหน้านี้ยิ่งทำให้เขารู้สึกเย็นวาบขึ้นมา เขามีพลังยุทธ์ขั้นราชันระดับสูงแล้ว หรือว่าเด็กคนนั้นก็มีพลังยุทธ์ขั้นราชัน
“แม้แต่เด็กผู้หญิงคนนั้นก็มีพลังยุทธ์ขั้นราชันเช่นกัน”
คำของอู๋ิทำให้เฝิงเทียนนิ่งไป ผ่านไปครู่ใหญ่กว่าจะตั้งสติได้ จึงกล่าว “ในเมื่อเป็อย่างนี้ก็ต้องฆ่าทิ้งให้หมด”
คำกล่าวโเี้เปี่ยมไปด้วยเจตจำนงสังหาร
ในขณะเดียวกับที่เสิ่นเสวียนหายตัวไป ความจริงเขาออกมาจากโรงเตี๊ยมแล้ว
เขาใช้พลังมิติของผังเมืองซานเหอเคลื่อนที่ในระยะสั้นๆ ไม่ใช่เื่ยาก
เนื่องจากที่นี่เป็เมืองที่รุ่งเรือง ให้คนรู้ถึงร่องรอยของเขาน้อยสักหน่อยเป็เื่ที่ดี
พลังมิติของผังเมืองซานเหอทำให้เขาหายตัวได้ เมื่อปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งก็อยู่ทางใต้ของเมืองชางฉงแล้ว
เขตทางใต้เป็สถานที่ที่ผู้ค้ารายย่อยในเมืองชางฉงมารวมตัวกัน จึงมีจำนวนคนมากกว่าก่อนหน้านี้
เสิ่นเสวียนยืนอยู่ที่มุมหนึ่งของสี่แยก มองถนนที่ผู้คนสัญจรไปมาด้วยความรู้สึกหลากหลาย
นี่คือเมืองใหญ่ แม้เป็เพียงอาณาเขตทางใต้ กลับรุ่งเรืองยิ่งกว่าเมืองเสียเยว่หลายเท่า เทียบกันแล้วเมืองเสียเยว่เหมือนหมู่บ้านจริงๆ
ทางแยกสองทางเบื้องหน้าของเขามีซุ้มประตูโบราณตั้งตระหง่านอยู่ และ้านั้นเขียนว่า ‘ตลาด’
หากมองผ่านซุ้มประตูเข้าไปจะมีแผงขายของเรียงรายยาวไปไม่มีที่สิ้นสุด เรียกได้ว่าเป็ถนนศูนย์รวมการค้า
เสิ่นเสวียนมองตลาดสองแห่งนี้พลางยิ้มน้อยๆ จากนั้นก็เดินเข้าไปในถนนสายหนึ่ง
ตอนนี้เขายังขาดของบางอย่าง ในตลาดมีของแปลกๆ และหายากอยู่เต็มไปหมด จะได้หาซื้อสิ่งของไว้ใช้ต่อไป
เมื่อเข้าไปในตลาด ถนนที่กว้างขวางกลับเล็กลงเนื่องจากผู้คนแออัด
ถัดไปเล็กน้อยคือร้านค้า ซึ่งมีทั้งร้านยาสมุนไพร ร้านศาสตราวิเศษ ร้านอาหาร ร้านเสื้อผ้า และของใช้อย่างอื่น
ทว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่จุดขายของตลาด จุดขายที่โดดเด่นที่สุดคือลานกว้างหน้าร้านเ่าั้ ซึ่งตอนนี้มีแผงขายของอยู่เต็มไปหมด บางส่วนตั้งแผงขายของเล็กๆ อยู่ตรงนั้น เบื้องหน้าวางขวดโหลอยู่หลายใบ หรือกระทั่งมีกรงวางอยู่ และภายในกรงมีตัวอ่อนสัตว์วิเศษถูกขังไว้
เสิ่นเสวียนเดินไปบนถนน ใช้พลังจิติญญาััแผงขายของเ่าั้ไปเรื่อยๆ ดูว่ามีของอะไรที่ใช้ได้บ้าง ส่วนร้านค้าไม่ค่อยมีประโยชน์สักเท่าไร นอกเสียจากว่ามีสิ่งของจำเป็ต้องใช้ ไม่อย่างนั้นก็ไม่มีความจำเป็ต้องเข้าไป เพราะในนั้นเต็มไปด้วยคนมีความรู้ โอกาสแลกเปลี่ยนของล้ำค่าต่ำกว่าภายนอกมาก
แผงขายของด้านนอกนี้ต่างหากที่จะหาของล้ำค่าได้ง่ายกว่า
อย่างเช่น เสิ่นเสวียนที่หยุดเดินแล้วในตอนนี้
เขาหันกลับไปมอง ชายชราสวมเสื้อผ้าขาดๆ คนหนึ่งกำลังะโเรียกลูกค้าอยู่ทางซ้าย
“เร่เข้ามา เร่เข้ามา สินค้าอย่างดีไม่มีหลอกลวง ราคาคุยกันได้”
“ซื้อไปไม่เสียเปล่าแน่นอน หากไม่ซื้อไปอาจเสียใจได้ เร่เข้ามา เร่เข้ามา”
ชายชราชุดขาดผู้นั้นมีวาจาลื่นไหล ตาเฉี่ยวราวกับงู ขณะที่เรียกลูกค้าก็เห็นเสิ่นเสวียนเดินเข้ามา จึงมองเสิ่นเสวียนตาไม่กะพริบ
“หนุ่มน้อย เข้ามาดูก่อนสิ ของดีทั้งนั้น”
“รับรองว่าต้องทำกำไรให้เ้าอย่างแน่นอน ไม่มีทางเสียหายเด็ดขาด”
เสิ่นเสวียนเดินเข้าไปและหยุดยืนอยู่ด้านหน้าแผงขายของของชายชราชุดขาดผู้นั้น พลางกล่าวด้วยท่าทางสนใจ “ทำให้ข้าได้กำไร แล้วเหตุใดถึงไม่ทำกำไรให้ตนเอง”
“ข้า... ข้าอายุมากแล้ว ไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับเื่เหล่านี้ ให้โอกาสคนหนุ่มสาวอย่างพวกเ้าดีกว่า”
อย่าได้ดูถูกชายชราชุดขาดเด็ดขาด พลังยุทธ์ของเขาไม่ได้ต่ำต้อย มีพลังสูงถึงขั้นบรรพบุรุษระดับสูงสุดแล้ว อยู่ในขั้นเดียวกับเสิ่นล่าง หากว่าเสิ่นล่างออกจากเมืองอวี่ฮว่ามาที่นี่ อาจต้องตกอยู่ในสภาพเดียวกับชายชราชุดขาดผู้นี้
บนแผงขายของของเขามีขวดวางอยู่สิบกว่าใบ และยังมีร่องรอยดินเปื้อนอยู่ด้วย ไม่น่าดึงดูดใจเลยแม้แต่น้อย
“ของเหล่านี้ล้วนเป็ของล้ำค่าใต้ดิน เ้ารู้ใช่ไหม” ชายชรากะพริบตาปริบๆ ให้เสิ่นเสวียน
“อืม มาจากใต้ดินจริงๆ เหตุใดท่านถึงไม่ทำความสะอาดสักหน่อย ทำให้น่าดึงดูดสักหน่อยคงขายได้บ้างแล้ว ไม่ต้องรอจนถึงตอนนี้หรอก” เสิ่นเสวียนหยิบขวดทรงสูงขึ้นมา เขาพิจารณาอย่างละเอียดพลางกล่าว
นี่คือขวดใส่สุราใบหนึ่ง อาจใส่สุราต่างกันไปในแต่ละยุค ยังมีพลังหลงเหลืออยู่ภายในขวดบ้าง มองทีแรกจะเหมือนว่าเป็พลังจากขวดราวกับของล้ำค่า
“เ้าช่างไม่รู้อะไร ของจากใต้ดินยิ่งเก่ายิ่งมีค่า เห็นหรือเปล่า กระถางสามขาใบนี้สมบูรณ์แบบไร้ที่ติ มีอายุมากกว่าห้าร้อยปีแล้ว ข้าขายราคาเพียงห้าหมื่นเหรียญทองเท่านั้น”
“ห้าหมื่นเหรียญทอง?”
เสิ่นเสวียนเกือบหัวเราะออกมาแล้ว กระถางสามขาใบนั้นเป็เพียงศาสตราวิเศษขั้นอเวจี เทียบระดับกันแล้วมีราคาเพียงสองพันเหรียญทองเท่านั้น หากว่าห้าหมื่นเหรียญทองไม่สู้ปล้นเลยดีกว่า
“สิ่งนี้ท่านเก็บเอาไว้เถอะ คนชัดเจนจะไม่กล่าวคลุมเครือ บอกราคาพวกนี้ให้ข้าดีกว่า”
เสิ่นเสวียนกวาดตามองขวดเ่าั้พลางกล่าว
“เอ๋?”
ชายชราชุดขาดเงยหน้ามองเสิ่นเสวียน นี่เขาเจอกับคนตาบอดหรือไร ของผุพังไม่กลัว ตราบใดที่มีคนเห็นค่ามันก็คือของล้ำค่า แต่เขาเองก็ครุ่นคิด ครุ่นคิดว่าสิ่งที่เสิ่นเสวียนเห็นค่าคือสิ่งไหน เพื่อให้แน่ใจว่าเมื่อบอกราคาไปแล้วจะไม่ใหนีไปเสียก่อน
“เ้าบอกมาเลยว่าอยากได้อันไหน ข้าจะลดราคาให้เ้าอีก”
“ท่านค่อนข้างอัจฉริยะเลยทีเดียว!”
เสิ่นเสวียนยิ้มออกมา แล้วชี้ไปยังสิงโตหินตัวหนึ่งพลางกล่าว “ข้า้าตัวนี้”
สิงโตหินถูกแกะสลักได้อย่างงดงาม แต่อาจเป็เพราะกาลเวลาผ่านไปทำให้หูหักไปหนึ่งข้าง และมีร่องรอยความเสียหายเต็มไปหมด ดูเหมือนของวางข้างสุสานธรรมดาๆ
“อันนี้หรือ”
ชายชราชุดขาดมองพิจารณาเสิ่นเสวียน เด็กคนนี้ดูมีอายุเพียงสิบกว่าปี ทว่ากลับให้ความรู้สึกเหมือนผู้ใหญ่คนหนึ่ง สิ่งที่เข้าตาเขาต้องมีมูลค่าสูงอย่างแน่นอน
เขากัดฟันแล้วกล่าวจำนวนเงินออกไป
“หนึ่งแสนเหรียญทอง แล้วเอาไปได้เลย”
“ลาก่อน”
เสิ่นเสวียนได้ยินราคาแล้วมุมปากกระตุกเล็กน้อย จากนั้นจึงหันหลังเตรียมเดินจากไป
ตาแก่นี่ร้ายกาจยิ่งนัก!
ขายของไม่ได้มาสิบปี พอจะขายกะมีเงินใช้ไปสิบปีเลย!
“เฮ้! เ้าหนุ่มอย่าเพิ่งไป! คุยกันได้ๆ ราคาคุยกันได้น่า”
พอเห็นเสิ่นเสวียนเดินไปเลยโดยไม่ลังเล ทำให้เขาเข้าใจแล้วว่าตนเองเปิดราคาสูงเกินไป
“ท่านไม่ซื่อสัตย์เลย”
เสิ่นเสวียนส่ายหัวแล้วเตรียมเดินออกไป
ทั้งตัวเขามีเงินอยู่เพียงสี่หมื่นเหรียญทอง ย้อนกลับไปตอนที่ยังเป็ผู้นำตระกูลในเมืองอวี่ฮว่า เงินเท่านี้เรียกว่ามหาศาลแล้วสำหรับเมืองอวี่ฮว่า แต่ที่นี่กลับไม่พอใช้เสียอย่างนั้น ตอนนี้เขานึกถึงเงินที่เฝิงเป่าเป่าให้เขามาก่อนหน้านี้ หากรู้อย่างนี้เขาคงแบ่งส่วนหนึ่งไว้กับตัว คงไม่ต้องใเพราะราคาแสนเดียวแค่นี้หรอก
“เ้าหนุ่ม เ้าค่อนข้างมีรสนิยมที่ดี หากข้าลดราคาเ้าอาจต้องเสียหน้าใช่ไหมล่ะ เอาแบบนี้ไหม ข้าลดให้เลยครึ่งหนึ่ง ห้าหมื่นเหรียญทองเท่านั้นสำหรับเ้า ราคาครึ่งต่อครึ่งเลยนะ เ้าว่าอย่างไร”
“รับไว้ไม่ได้หรอก ไม่ซื่อสัตย์”
เสิ่นเสวียนกลอกตามองอีกฝ่าย ในเมื่อเงินไม่พอเขาคงต้องเดินจากไป
ของไม่ธรรมดาเลยทีเดียว ภายในสิงโตหินตัวนั้นมีของบางอย่างอยู่ แต่คืออะไรเขายังไม่รู้
“ช้าก่อนเ้าหนุ่ม เ้าบอกราคามาได้เลย ถ้าข้ารับไหวข้าให้เ้า” ชายชราปรายตามองพลางกล่าว
“หนึ่งพันเหรียญทอง ถ้าขายให้ข้าก็เอาไปเลย”
เสิ่นเสวียนเสนอราคาไป