หลังจากเที่ยงคืนสามหนุ่มก็เริ่มเมามาย จื่อต้าหลงดื่มสุราดอกไม้ไปเป็จำนวนมาก ใน่แรกเด็กหนุ่มแค่นั่งจิบๆทีละอึก ทีละอึก มิทราบว่าเปลี่ยนมาเป็ซดคำโตั้แ่เมื่อใด?
ข้างกายจื่อต้าหลงมีกัวรุ่ยหานคอยรินสุราให้ นับว่าสบายใจยิ่งนัก กลิ่นกายของนางหอมดั่งดอกไม้์ ความงามของนางในค่ำคืนนี้ช่างมากล้น อิีกทั้งหญิงสาวยังชวนเขาพูดคุยและเอาใจเก่งอีกด้วย นี่นับว่าเป็ยอดสตรีโดยแท้!
“คุณชายจื่อตั้งใจจะมาเที่ยวที่เมืองเราสักกี่วันหรือเ้าคะ?” กัวรุ่ยหานถาม
จื่อต้าหลงวางจอกสุราลงอย่างนุ่มนวลพลางกล่าวว่า “ข้าเองก็ยังไม่แน่ใจ…. คิดว่าคงจะอยู่ไปเรื่อยๆสักพักแหละ ถามทำไมรึ?”
“คือข้าอยากจะชวนท่านไปชมดอกไม้ด้วยกันน่ะเ้าค่ะ” กัวรุ่ยหานกล่าว ใบหน้าหญิงสาวแดงขึ้นเล็กน้อย
“ฮ่าๆๆๆ ย่อมได้ไม่มีปัญหา ข้าเองก็หวังจะชมดอกไม้ให้มากกว่านี้อยู่แล้ว ถ้างั้นพรุ่งนี้ ข้าจะมาเจอเ้าที่นี่ยามเที่ยง ตกลงหรือไม่?” จื่อต้าหลงกล่าว
“ตกลงเ้าค่ะ….”
กัวรุ่ยหานตอบด้วยความเขินอาย นางอายุ 16 ปีแล้วยังไม่เคยใกล้ชิดชายใดมากขนาดนี้มาก่อน แต่ภาพที่จื่อต้าหลงเข้ามาช่วยนางนั้นยังตราตรึงอยู่ในใจ… เหมือนได้พบเทพบุตรในฝันขี่ม้าขาวมาช่วยนางไว้ นี่นับเป็ครั้งแรกที่นางชวนบุรุษไปชื่นชมดอกไม้ด้วยกัน ปกตินางมักไปแต่กับสามสาวกระกูลกัว ทว่าครั้งนี้จะได้ไปเที่ยวสองต่อสองกับบุรุษจึงอดเขินอายไม่ได้
งานเลี้ยงตอนนี้ใกล้จะเลิกแล้ว แขกผู้มาเยือนมากมายเริ่มทยอยกันกลับ พวกจื่อต้าหลงเองก็เตรียมพร้อมกลับแล้วเหมือนกัน
“เอาล่ะ วันนี้ดึกมากแล้วข้าขอกลับก่อน พรุ่งนี้ยามเที่ยงข้าจะมาหาเ้านะ” จื่อต้าหลงบอกกล่าวแก่กัวรุ่ยหาน
“เ้าค่ะ….” กัวรุ่ยหานตอบรับด้วยรอยยิ้มหวานชื่น
“เอาล่ะ…พี่ไฉเซียว ลวี่เหริน กลับกันเถอะ!” หลังจากชวนสหายกลับพวกเขาก็ร่ำลาสาวๆแล้วกลับโรงเตี๊ยมที่ได้เช่าเอาไว้ ระหว่างทางจื่อต้าหลงก็ได้พูดขึ้นมาว่า พรุ่งนี้ยามเที่ยงข้ามีนัดกับกัวรุ่ยหานนะ พวกเ้าจะไปไหนก็ไม่ต้องรอข้าไปก่อนได้เลย
“ฮ่าๆๆๆ ไอ้หนู ข้าเองก็มีนัดกับแม่นางกัวลู่เหมยและกัวลี่ลี่เช่นกัน” เฉิงไฉเซียวกล่าว
“ฮ่าๆๆ พี่ไฉเซียวท่านนี่ไม่ทำให้ข้าผิดหวังเลยนะ” สองหนุ่มสบตากันอย่างรู้ใจ หลังจากนั้นพวกเขาก็ขำกันสองคน
จื่อต้าหลงแสยะรอยยิ้มชั่วร้าย หันมาถามลวี่เหริน “แล้วเ้าล่ะลวี่เหริน?” เหมือนจะประมาณว่า เ้ามีหรือไม่? สตรีน่ะ?
“พรุ่งนี้ข้าจะไปป่าสวนไม้ตะวันตกกับกัวเจิ้นหยาง” ลวี่เหรินกล่าวพร้อมกับยกน้ำเต้าสุราขึ้นมาดิื่ม ดูเหมือนเขาจะติดนิสัยของจื่อต้าหลงไปแล้ว ยามไปไหนจึงชอบพกน้ำเต้าสุราไปด้วย
“อะไรนะ? เ้าเองก็เอาด้วยก็ด้วยรึ ฮ่าๆๆ ข้านึกว่าหน้าสวยๆอย่างเ้ากลายเป็ชมชอบบุรุษไปเสียแล้ว” จื่อต้าหลงกล่าวอย่างกวนบาทา
ลวี่เหรินหางคิ้วกระตุกเขากล่าวเสียงเย็นว่า “หุบปาก…!”
“ในเมื่อพวกเราทั้งสามคนต่างก็มีนัดงั้นพรุ่งนี้แยกกันไปละกัน ค่อยกลับมาเจอกันที่โรงเตี๊ยม” เฉิงไฉเซียวกล่าวขึ้นมา
หลังจากตกลงกันได้เรียบร้อยพวกเขาก็เดินกลับที่พักแบบเรื่อยๆอย่างไม่เร่งรีบ ชมสิ่งปลูกสร้าง ตึกรามบ้านช่องอาคารต้นไม้มากมาย ช่างทำให้บรรยากาศตอนขากลับดียิ่งนัก จื่อต้าหลงถึงกับต้องหยิบน้ำเต้าสุราขึ้นมาดื่มซ้ำอีกรอบ…..
เช้าวันถัดมา
จื่อต้าหลงตื่นขึ้นมาพร้อมกับความง่วง เขาจึงเดินลมปราณขับอาการคลายง่วง จากนั้นจึงรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย หลังจากนั้นเขาก็อาบน้ำแต่งองค์ทรงเครื่อง เขาใส่อาภรณ์สีม่วงแสนหรูหรา ผมมัดหางม้าไว้พร้อมปักปิ่นลายัลงไปที่มวยผม ใบหน้าเด็กหนุ่มยังคงหล่อเหลา คมคาย เช่นทุกวัน หลังจากทุกอย่างเสร็จสรรพ เขาก็ไปสั่งอาหารกินเพื่อรอที่จะได้ไปพบ กัวรุ่ยหานในตอนเที่ยง
หลังจากนั้นจื่อต้าหลงก็ออกเดินทางไปยังจวนตระกูลกัว เมื่อมาถึงเขาก็พบเข้ากับยามเฝ้าประตู เด็กหนุ่มบอกไปว่ามาหา กัวรุ่ยหาน ยามเฝ้าประตูได้ยินดังนั้นจึงไปตามกัวรุ่ยหานมาให้ จื่อต้าหลงยืนรอนางอยู่ที่หน้าประตูบ้านสักพักนางจึงออกมา
ในวันนี้นางแต่งตัวด้วยอาภรณ์สีขาวบริสุทธิ์ ดวงตากลมโต คิ้วเรียงไว้อย่างสวยงาม ท่วงท่าการเดินราวกับนาง์ นางเดินออกมาพร้อมกลิ่นหอมจรรโลงใจ จื่อต้าหลงเผลอจ้องมองใบหน้านางอย่างลืมตัว
“ข้ามาช้าหรือไม่….?”กัวรุ่ยหานถามอย่างเกรงใจ
“ไม่เลย ไม่เลย” จื่อต้าหลงตอบพลางสั่นหัวไปมา
“วันนี้เราจะไปที่ไหนกันก่อนดีล่ะ?” กัวรุ่ยหานถามด้วยน้ำเสียงไพเราะ
“วันนี้ข้าให้เ้าเลือกเลย ข้าเป็นักท่องเที่ยว ย่อมต้องเชื่อฟังเ้าบ้าน” จื่อต้าหลงกล่าว
“งั้นดีเลยเดี๋ยวข้าจะพาท่านไปชมเมืองดอกไม้เอง อันดับแรกไปที่สวนต้นไม้สีชมพูกันก่อนเลย”
หลังจากพูดจบกัวรุ่ยหานก็เดินนำทางให้แก่จื่อต้าหลง ทั้งสองคนเดินคู่กันมาเรื่อยๆ จนถึงสวนต้นไม้สีชมพู ที่นี่ยังคงประกอบไปด้วย ต้นไม้ ที่มีใบเป็สีชมพู สองข้างทางเต็มไปด้วยต้นไม้สีชมพู ให้บรรยากาศหวานซึ้งปนสงบ ยามนี้ มีผู้คนมากมายมานั่งจับคู่กัน กัวรุ่ยหานพาจื่อต้าหลงเดินชมสวน หลังจากหาที่นั่งได้นางก็ชวนจื่อต้าหลงนั่งที่พื้นโดยไม่ห่วงว่าเสื้อผ้าจะเลอะ จื่อต้าหลงเองเห็นนางนั่งลงไป เขาจึงนั่งลงไปด้วย
“ที่นี่ยังคงงดงามเช่นเคย” จื่อต้าหลงกล่าว
“คุณชายจื่อ ข้าขอถามท่านเื่นึงได้้มั้ยเ้าคะ?”
“เอาสิถามมาได้เลย”
“ทำไมท่านถึงได้ออกท่องยุทธภพ?” กัวรุ่ยหานถาม
“เพราะข้าได้พบว่าบนโลกใบนี้ยังมีอะไรที่ข้าไม่เคยรู้ไม่เคยเห็นอีกมากมาย ข้าอยากจะท่องไปให้ทั่วหล้า พบเจอสถานที่ใหม่ๆเสมอ ข้าอยากแข็งแกร่งจนถึงขั้นไร้เทียมทาน เป็หนึ่งในยุทธภพ ฮ่าๆๆ ฟังดูไร้สาระหรือไม่?” จื่อต้าหลงกล่าวยิ้มๆ
“ไม่เลยเ้าค่ะ บุรุษเพศมักจะเป็เช่นนี้ ้าความแข็งแกร่งขั้นสุดยอด ้าชีวิตอิสระ” นางกล่าวอย่างเข้าใจ
“แล้วเ้าล่ะมุ่งหวังสิ่งใด?” จื่อต้าหลงถามกลับ
“ข้า…อยากเป็ภรรยาที่ดีเ้าค่ะ” กัวรุ่ยหานกล่าวด้วยใบหน้าแดงเรื่อ
“ภรรยาที่ดีงั้นรึ ฮ่าๆๆ งั้นเ้าสนใจมาเป็ภรรยาให้ข้ามั้ย?” จื่อต้าหลงกล่าวหยอกล้อ
“ทะ..ท่าน!!” กัวรุ่ยหานยกมือไปต่อยที่แขนของจื่อต้าหลงข้อหากล่าววาจาแกล้งนาง
จื่อต้าหลงแกล้งร้อง “โอ้ย! เจ็บ!!” ทำให้กัวรุ่ยหานที่กำลังเขินอยู่นั้นหยุดตีเขา
‘เฮ้อออ แม่นางกัวช่างมือไวดีแท้ ต่อไปนี้ข้าคงต้องระวังคำพูดหน่อยแล้ว ไม่งั้นเดี๋ยวจะเจอหมัดของนางอีก’ จื่อต้าหลงคิดในใจ
“คนผีทะเลอย่างท่านเจ็บเป็ด้วยหรือ!” กัวรุ่ยหานกล่าวพลางทำหน้ามุ่ย
“ฮ่าๆๆ ข้าเองก็เป็คนเหมือนกันนะ ใยจึงจะไม่รู้สึกเจ็บกันเล่า?” จื่อต้าหลงตอบ
“ข้าจะฟ้องท่านปู่ว่าท่านแกล้งข้า!” กัวรุ่ยหานกล่าวทีเล่นทีจริง
“ข้าขอโทษข้าไม่ได้ตั้งใจจริงๆนะ” จื่อต้าหลงทำหน้าตาน่ารักใสซื่อ
เห็นดังนั้นภายในใจของกัวรุ่ยหานถึงกับเต้นกระตุก! เผลอคิดไปว่าน่ารักจริงๆ!
พวกเขานั่งหยอกล้อกันไปเรื่อยเปื่อยเผลอแปบเดียวก็มาถึงตอนเย็น จื่อต้าหลงจึงชวนนางไปกินข้าว “รุ่ยหาน เ้าช่วยพาข้าไปหาอะไรใส่ท้องทีเหอะข้าหิวจะตายอยู่แล้ว” จื่อต้าหลงกล่าวด้วยน้ำเสียงออดอ้อน
“ได้เลยเ้าค่ะ ข้าจะพาท่านไปร้านขึ้นชื่อของเมืองเราเอง รับรองว่าท่านต้องติดใจแน่นอน ฮิฮิ” กัวรุ่ยหานกล่าวพลางยกมือขึ้นมาปิดปากหัวเราะ
หลังจากนั้นทั้งสองก็ลุกขึ้นไปหาร้านอาหารกินกัน ร้านที่กัวรุ่ยหานพาจื่อต้าหลงไป เป็โรงเตี๊ยมเล็กๆในซอยลึก กว่าจะเข้ามาถึงโรงเตี๊ยมนี้ได้เขาต้องแวะหลายซอยผ่านถนนหลายเส้น ทั้งซ้าย ทั้งขวา เลี้ยวไปเลี้ยวมา ภายในใจจื่อต้าหลงคิดว่า ‘ร้านอะไรมันช่างลึกลับขนาดนี้วะ! หรือนางจะล่อล่วงข้าไปทำมิดีมิร้าย! ว้าย! ไม่ได้นะข้ายังไม่ทันได้เตรียมใจเลย!’
