ชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่ตรงกลางมองคนที่นั่งข้างกายแวบหนึ่งพร้อมพูดว่า “ดูเหมือนชายหนุ่มพวกนี้ด้อยกว่าเราในตอนนั้นเยอะเลย พวกเ้าลองดูสภาพที่น่าอนาถของพวกเขาสิ”
“นั่นสิ พวกเขานึกว่าการเข้าตระกูลอู่ตี้มันง่ายมากหรืออย่างไร นึกถึงทรัพยากรที่ได้จากตระกูล นอกจากพวกเขาเป็ผู้มีพร์จริงๆ! มิเช่นนั้นก็อย่าฝันจะเข้ามา” ขณะที่พูด พวกเขาสองคนก็มองคนที่ออกจากปากถ้ำ
ลั่วซางยืนอยู่ข้างชายวัยกลางคน เขาขมวดคิ้วแล้วพูดกับชายหนุ่มข้างกาย “เ้าไปเอาพิษเถามารให้คนที่ออกมาพวกนั้นกินหน่อย”
พิษเถามารเป็พิษที่รุนแรงมาก เมื่อกินพิษชนิดนี้ลงไป จึงเป็การใช้พิษทำลายพิษ ขับพิษในร่างกายของคนที่รอดชีวิตออกมาได้
ชายหนุ่มพยักหน้าแล้วเดินตรงไปยังคนที่าเ็
ลั่วซางโค้งตัวลง พูดกับชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างๆ “หากคำนวณตามคะแนนแล้ว ห้าสิบคนที่เข้าไป ไม่รวมแปดคนที่ถูกช่วยออกมา เป็ไปได้สูงว่าคนที่เหลือรอดไม่ถึงยี่สิบห้าคน ตายไปสิบกว่าคนหรือ? พละกำลังของคนในปีนี้เทียบกับปีที่แล้วไม่ติดเลย”
“เสี่ยวซาง ปีที่แล้วเราใช้เหล็กสร้างหุ่นเชิดไม่ใช่หรือ ปีนี้เราใช้ศพเชียวนะ เกรงว่าหากเ้าเข้าไปเอง ออกมาก็คงาเ็เหมือนกันกระมัง”
ชายวัยกลางคนชื่อซือถูหม่า หลังจากพูดจบ เขาก็หันไปมองลั่วซาง
“ได้ยินมาว่าเ้ามีน้องชายแท้ๆ เขาเข้ารับการทดสอบด้วยมิใช่หรือ? น้องชายเ้ามีพร์เหมือนกันนะ ทว่า… เหตุใดยังไม่ออกมาอีก? หรือเขาจะถูกโจมตีด้านใน หนีออกมาไม่ได้หรือ?”
ลั่วซางกำหมัดแน่น “ไม่มีทาง ข้ารู้ระดับพลังของน้องข้าดี เขาต้องออกมาอย่างปลอดภัยแน่” ขณะที่พูด ร่างที่คุ้นเคยก็ปรากฏตรงหน้าทุกคน
ในที่สุดลั่วเฉิงก็ออกมาแล้ว เขาเห็นแสงอาทิตย์อีกครั้ง สีหน้าแสดงออกถึงความปลื้มปีติ เมื่อเห็นพี่ชายตนเอง เขาก็ดีใจจนน้ำตาไหลออกมา
เขาขาอ่อนล้มลงกับพื้น ในมือชูถุงผ้าเฉียนคุนสูง คาดว่าคงได้หัวใจศพมารมาไม่น้อย
“ลั่วเฉิง!” ลั่วซางะโเสียงดัง เขาโล่งใจ รู้สึกพอใจกับความสามารถของน้องชายจริงๆ
คนที่ออกมาตามหลังเป็โอวหยางโพ่จิน เขากรีดร้องดังลั่น เมื่อทุกคนเห็นการปรากฏตัวของเขา มือทั้งสองข้างยกขึ้นมากอดหน้าอกด้วยสัญชาตญาณแล้ว เพราะท่าทางของเขาดูดุร้ายยิ่งนัก
ชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่แถวหน้าลุกขึ้นพรวด ต่างก็พูดด้วยความใ “เขาเป็อะไรไป?”
ซือถูหม่าพูดขึ้น “ข้ารู้สึกคุ้นหน้าเขานะ ดูเหมือนปีนี้จะเป็การเข้ารับการทดสอบครั้งที่สามแล้ว เห็นแก่ความพยายามของเขา เ้าไปช่วยชีวิตเขาเถอะ”
โอวหยางโพ่จินถูกพิษศพมารทำร้าย เวลานี้ พิษแทรกซึมเข้าไปในอวัยวะภายในแล้ว ลั่วซางหยิบผลเพลิงิญญาออกมาแล้วยัดเข้าปากเขา ทันทีที่ยาละลายกลายเป็ไออุ่นจางๆ ไหลเข้าไป พิษในตัวก็ถูกผลเพลิงิญญาทำลายอย่างรวดเร็ว
ผลเพลิงิญญาคือผลไม้ชนิดหนึ่ง มันเป็ผลิญญาระดับมายา และนี่ก็ทำให้ทุกคนตกตะลึง เพราะตระกูลอู่ตี้ช่วยเหลือโอวหยางโพ่จินด้วยผลที่มีค่าสูงมากขนาดนี้
เกรงว่าหากเป็ผู้อื่น ในเมืองอู่ตี้คงไม่มีทางนำผลิญญาระดับมายาที่มีมูลค่าสูงมาช่วยชีวิตคนอื่นแน่ คนจำนวนมากมองโอวหยางโพ่จินด้วยความอิจฉา
โอวหยางโพ่จินคุกเข่าคำนับซือถูหม่าและลั่วซาง เขาตื้นตันมาก น้ำตาไหลอย่างหยุดไม่ได้ หัวใจเบ่งบานอย่างมีความสุข
เขากวาดตามองรอบๆ ในบรรดาคนที่ออกมานั้น ไม่มีแม้แต่เงาของหลงเหยียน จึงอดรู้สึกผิดหวังไม่ได้
“เ้าเด็กบ้านั่น มีพละกำลังไม่พออย่างที่คิดไว้จริงๆ มาทิ้งชีวิตไว้ที่นี่เสียเปล่า ตายไปแล้วก็ช่างเถอะ ถึงอย่างไรข้ายังไม่คิดจะปล่อยเขาไปหรอกนะ ตอนนั้นเขารับปากจะมอบเหรียญเงินสองพันตำลึงให้ข้า สุดท้ายกลับขโมยกลับไป!”
ความเหนื่อยของลั่วเฉิงจางลงเล็กน้อย ส่วนอาการาเ็บนตัวถูกรักษาด้วยสมุนไพรแล้ว
“พี่ชาย นึกไม่ถึงว่าเ้าหมอนั่นจะมาตายในนี้ ดูเหมือนพวกเราประเมินเขาสูงเกินไปแล้ว นึกว่าเขารับวิชาเก้าิญญาข้าได้ คงหนีออกจากถ้ำแห่งนี้ได้เสียอีก”
ลั่วซางตบไหล่ลั่วเฉิงเบาๆ “น้องชายเอ๋ย ไม่ใช่ทุกคนที่จะเหมือนเ้าหรอกนะ เ้ามีทรัพยากรมากมายให้ใช้ เขามาจากสถานที่เล็กๆ เทียบไม่ได้กับเนินดาราของเราด้วยซ้ำ สถานที่เล็กๆ เช่นนั้น เ้าคิดหรือว่าเขาจะมีทรัพยากรหนุน ช่วยให้กลายเป็ยอดฝีมือได้ คิดว่าสถานที่ที่พวกเขาอยู่คงนึกว่าชีพัขั้นที่เก้าเป็ขั้นสูงสุดของโลกใบนี้กระมัง”
ลั่วเฉิงพยักหน้าแล้วพูดด้วยความเกลียดชัง “ฮึ ตอนแรกข้านึกว่าเขาจะออกมาได้ น่าเสียดายที่ข้าไม่ได้ฆ่าเขาด้วยตัวเอง!”
สำหรับเมืองัที่เล็กเช่นนั้น ต่อให้อากาศจะมีธาตุพลังก็ยังเทียบไม่ได้กับธาตุพลังในตระกูลอู่ตี้หรือเมืองหยุนจง ความแตกต่างมากราวฟ้ากับดิน เด็กทารกในเมืองหยุนจง เพิ่งเกิดก็มีพลังอยู่ระดับชีพัขั้นที่สามแล้ว นี่เป็ความแตกต่างของธาตุพลัง ความแตกต่างของความกว้างขวาง
ลั่วเฉิงผิดหวังเล็กน้อย เขากวาดตามองโอวหยางโพ่จินแล้วนึกในใจ ‘พละกำลังของเ้าหมอนี่ไม่เลวเลย ออกมาช้ากว่าข้านิดหน่อย คาดว่าหัวใจมารก็คงมากเหมือนกันกระมัง’
โอวหยางโพ่จินมองสีหน้าของคนรอบตัว ด้วยประสบการณ์ชีวิตและประสบการณ์การเข้าแข่งขันในปีก่อน ทำให้ปีนี้เขาได้หัวใจศพมารมากถึงห้าสิบดวง เชื่อว่าคะแนนที่ได้ในครั้งนี้ต้องทำให้เขาผ่านเข้าไปในด่านทดสอบที่สองแน่
ความปลื้มปีติบนใบหน้าเขาแสดงออกมาให้เห็นอย่างชัดเจน เมื่อนึกถึงหลงเหยียน รอยยิ้มที่มีความสุขพลันเปลี่ยนเป็โทสะ สองพันตำลึงที่น่าเสียดาย! ทั้งเมื่อครู่เขาแทบเอาชีวิตรอดจากถ้ำไม่ได้ แม้กระทั่งตอนนี้ความรู้สึกนั้นยังตราตรึงในใจ
พลังปราณของเขาลดลงมากจึงทำให้เขากังวลกับด่านทดสอบที่สอง ตนควรรับมือกับคนอื่นอย่างไร ทว่าเมื่อกวาดตามองคนที่อยู่รอบข้างแล้ว สภาพของเขายังดูดีกว่าคนอื่นนัก
เมื่อเห็นเช่นนั้น เขาจึงรู้สึกวางใจลง!
เวลานี้เอง ซือถูหม่าลุกขึ้นยืนพร้ะโกนด้วยเสียงที่น่าเกรงขาม
“ใกล้ถึงเวลาแล้ว ปิดประตู พวกเราไปกันเถิด เด็กอัจฉริยะในปีนี้ คนที่ยังฝืนลุกขึ้นยืนได้มีไม่มาก ถึงอย่างไรข้าก็เชื่อว่าด่านที่สอง พวกเ้าจะแสดงความสามารถออกมาได้เต็มที่ ทำให้เราได้เห็นว่าคนมีพร์ที่แท้จริงนั้นเป็อย่างไร”
ขณะที่ประตูกำลังจะปิด ทันใดนั้น ลำแสงสีแดงคล้ายเงาโลหิตกะพริบ พุ่งออกมาจากด้านในประตูเหล็ก ความเร็วของเขาทำให้ทุกคนตกตะลึง อีกทั้งบนตัวยังเปื้อนไปด้วยโลหิต เมื่อมองไปแล้วสภาพของเขาดูน่ากลัวมาก
เงาโลหิตนั้นะโม้วนตัวกลางอากาศแล้วโรยตัวลงมายืนบนพื้นอย่างมั่นคง ก่อนใช้พลังปราณขับโลหิตที่เปื้อนตัวออกไป ทุกคนเห็นใบหน้าของชายหนุ่มอย่างชัดเจน
ไม่มีใครนึกว่าจะมีคนออกมาจากถ้ำในวินาทีสุดท้าย เขาคือหลงเหยียน ผู้ฝึกวิทยายุทธ์อสูรที่ลั่วซางเกือบตัดสิทธิ์ไม่ให้เข้าคัดเลือกนั่นเอง
--------------------