เสียงหนึ่งมาจากอาจารย์ตั่ง อีกเสียงหนึ่งมาจากจางหลิง และอีกเสียงหนึ่งมาจากอวิ๋นโส่วกวง
อวิ๋นโส่วกวงกับอวิ๋นโส่วเย่า สองพี่น้องออกไปทำไร่แต่เช้า เมื่อเกิดเื่วุ่นวายที่บ้านของอวิ๋นโส่วจง อวิ๋นหลานเอ๋อร์ก็รีบวิ่งไปแจ้งข่าวที่ท้องไร่
เนื่องจากทั้งสองคนอยู่ในที่นาที่อยู่ไกลที่สุด ดังนั้นกว่าข่าวจะไปถึง คนงานที่บ้านของอวิ๋นโส่วจงจึงวิ่งมาถึงก่อน ส่วนสองพี่น้องมาถึงทีหลัง
เฉาซื่อกับจ้าวซื่อต่างก็ยุ่งอยู่กับงานในไร่ของตนเอง ตอนนี้ก็รีบตามมาเช่นกัน ยืนอยู่ข้างๆ ฟางซื่อกับอวิ๋นเจียว ทั้งร้อนใจทั้งเป็ห่วงจนทำอะไรไม่ถูก
อวิ๋นโส่วกวงพอจะฟังเื่ราวออกคร่าวๆ เมื่อเห็นว่าเ้าหน้าที่กำลังจะจับกุมน้องรองและครอบครัว เขาก็รีบร้อนขึ้นมา
ด้วยความร้อนใจ เขาจึงพลั้งปากพูดออกไปว่า “ข้าเป็คนฝังเอง! หากพวกท่านจะจับ ก็จับข้าไป!” คำพูดของเขาทำให้ทุกคนตกตะลึง
ผู้ดูแลจางกับหัวหน้าเ้าหน้าที่ก็โมโหทันที “หลบไปซะ จับได้คาหนังคาเขา เ้าจะมาสารภาพแทนไม่ได้ หากยังพูดจาเหลวไหลอีก ข้าจะจับเ้าไปด้วย!”
อวิ๋นโส่วกวงร้อนใจ รีบอธิบาย “ข้าเป็คนฝังจริงๆ ข้าไม่ได้พูดโกหก! จริงๆ นะขอรับ”
จ้าวซื่อน้ำตาไหลพราก แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติม ฉี่ชิ่งกับฉี่เสียงกำหมัดแน่น จ้องมองเ้าหน้าที่กับผู้ดูแลจางด้วยความโกรธ พวกเขาไม่ได้โต้แย้งคำพูดของบิดา เพราะรู้ว่าบิดา้าปกป้องอารอง
อารองและครอบครัวถูกใส่ร้าย วันนี้ถูกจับได้คาหนังคาเขา หากบิดาไม่ออกมายอมรับผิดแทน อารองและครอบครัวคงถูกจับตัวไปเป็แน่ พวกเขาทนเห็นบิดาต้องทนทุกข์ในคุกไม่ได้ แต่บิดาพูดออกไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นอารองและครอบครัวก็มีบุญคุณต่อพวกเขา...
บัดซบจริง เื่กำลังจะสำเร็จอยู่แล้ว ดันมีคนมาขัดขวาง ผู้ดูแลจางโกรธจนแทบกระอักเื เขามองอวิ๋นโส่วจู่ด้วยสายตาคุกคาม แววตาเต็มไปด้วยการข่มขู่
อวิ๋นโส่วจู่นึกถึงเงินเก้าสิบตำลึงเงินที่ยังไม่ได้ ก็ตื่นตระหนกขึ้นมาทันที ในใจเขาแอบด่าอวิ๋นโส่วกวงที่เข้ามายุ่งวุ่นวายโดยไม่จำเป็
เขารีบะโออกมาพูดว่า “พี่ใหญ่ ท่านก็มีครอบครัวนะ เหตุใดต้องปกป้องพี่รองจนไม่สนใจครอบครัวตัวเองด้วย? ท่านรู้หรือไม่ว่าพี่รองทำผิดร้ายแรงแค่ไหน? ในกล่องนั่นคือตราประทับส่วนตัวของท่านนายอำเภอ! นี่มันเป็ความผิดร้ายแรงนะ! ท่านจะรับผิดแทนอะไร? ทำตัวอวดเก่งไปเพื่ออะไร?”
อวิ๋นโส่วกวงยังคงพูดด้วยน้ำเสียงดื้อรั้น “กล่องใบนี้ข้าเป็คนฝังเอง!”
อวิ๋นโส่วเย่าถลึงตาใส่อวิ๋นโส่วจู่ ด่าว่า “เ้าสี่! เ้าคงอยากเห็นครอบครัวพี่รองล่มจมสินะ เื่นี้เ้าเป็คนทำเองหรือเปล่า?”
แม้ว่าทุกคนจะสงสัย แต่ไม่มีใครกล้าถามออกมาตรงๆ แต่ตอนนี้พี่ชายแท้ๆ ของอวิ๋นโส่วจู่กลับถามออกมาแล้ว
อวิ๋นโส่วจู่ “พี่สาม ท่านเป็พี่ชายแท้ๆ ของข้า พูดแบบนี้ได้ยังไง? ใครบอกว่าข้าอยากเห็นเขาเกิดเื่ร้าย? เห็นได้ชัดว่าเขากระทำผิดใหญ่หลวงเอง!”
เถาซื่อก็ไม่ยอม นางรีบะโออกมาด่าว่า “เ้าสาม เ้ามันไอ้ลูกอกตัญญูเข้าข้างแต่คนอื่น เ้าออกมาจากท้องข้าแท้ๆ เหตุใดกลับเข้าข้างเ้ารองคนใจดำนั่น? เ้าสี่เป็น้องชายแท้ๆ ของเ้า เ้ามันสมองเสื่อมแล้วสินะ แยกแยะไม่ออกแล้วหรือไงว่าใครเป็ญาติ?”
อวิ๋นโส่วเย่าหัวเราะเยาะ “พี่รองก็เป็ลูกของท่านพ่อเช่นกัน! ข้าย่อมต้องช่วยเหลือคนถูกและคนในครอบครัว!”
เถาซื่อโกรธจนหน้ามืด จากนั้นนางก็หันไปพูดกับหัวหน้าเ้าหน้าที่ “ท่านเ้าหน้าที่ เื่นี้ไม่มีทางที่พี่รองของข้าจะเป็คนทำ เขาต้องถูกใส่ร้ายแน่ๆ หากพวกท่านจะจับใคร ก็ไปจับอวิ๋นโส่วจู่สิ! เมื่อไม่กี่วันก่อน อวิ๋นโส่วจู่เพิ่งมาคืนวัวไถนาที่บ้านของพี่รอง! ข้าแปลกใจมาตลอด คนี้เีอย่างเขาเหตุใดถึงยอมมาคืนวัวไถนากับท่านพ่อ!”
พอได้ยินดังนั้น สีหน้าของหัวหน้าเ้าหน้าที่ก็มืดคล้ำลงทันที ภารกิจครั้งนี้ควรจะราบรื่นแท้ๆ แต่กลับมีคนมายอมรับผิดแทน และยังมีคนมาชี้ตัวอีก ท่านนายอำเภอกำชับเขาเป็อย่างดีว่า ต้องจัดการเื่นี้ให้เรียบร้อย อย่าให้มีปัญหาอะไรตามมา ผลสุดท้าย เื่กลับยุ่งเหยิงไปหมด
หึ! มีคนชี้ตัว มีคนรับผิดแทน งั้นก็จับไปให้หมด! พอไปถึงศาลาว่าการ ก็ไม่มีชาวบ้านคอยจับตามองเหมือนตอนนี้แล้ว...
คิดได้ดังนั้น หัวหน้าเ้าหน้าที่จึงโบกมือแล้วเอ่ยขึ้นว่า “จับพวกมันไปให้หมด! ไปสอบสวนให้ละเอียดที่ศาลาว่าการ! หากเป็ผู้ร้ายตัวจริง ก็ลงโทษตามกฎหมาย หากไม่ใช่ก็ปล่อยตัว!”
“ขอรับ!” เ้าหน้าที่รับคำสั่ง แล้วพุ่งเข้าไปจับกุมอวิ๋นโส่วกวง อวิ๋นโส่วจู่ และอวิ๋นโส่วเย่า
ดูเหมือนว่าพวกเขาตั้งใจจะกวาดล้างให้หมด ผู้เฒ่าอวิ๋นเกือบจะเป็ลมไปเสียตรงนั้น บุตรชายห้าคนของเขา ตอนนี้กำลังจะถูกจับไปสี่คน!
อวิ๋นโส่วจู่ร้องโวยวายทันที “ไม่ใช่ข้า ทำไมต้องจับข้าด้วย? ข้าไม่ไปศาลาว่าการ! ผู้ดูแลจาง ข้าไม่ไปศาลาว่าการ! ท่าน...”
ปัดโธ่เอ้ย ไอ้โง่นี่! ผู้ดูแลจางรีบตวาด “หุบปาก เ้าเป็คนทำหรือไม่ พอไปถึงศาลาว่าการก็รู้เอง!”
เขาเน้นคำว่า ‘รู้เอง’ เป็พิเศษ พร้อมกับส่งสายตาให้อีกฝ่ายตลอดเวลา ไอ้โง่นี่ หรืออยากจะเปิดเผยความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาต่อหน้าธารกำนัลหรืออย่างไร? บัดซบจริงๆ เื่นี้จบเมื่อไหร่ เขาต้องจัดการไอ้โง่นี่ทันที ปล่อยเอาไว้มีแต่จะเป็ภัย
ผู้เฒ่าอวิ๋นมองบุตรชายแต่ละคนของตนด้วยความหนักใจ จากนั้นจึงเดินโซเซไปหาหัวหน้าหัวหน้าเ้าหน้าที่ โค้งคำนับแล้วเอ่ยว่า “ท่านเ้าหน้าที่ คนผิดย่อมต้องถูกลงโทษ ของสิ่งนี้พบที่บ้านเ้ารอง ผู้ดูแลท่านนั้นก็บอกว่าเป็อวิ๋นฉี่เยว่กับอวิ๋นเจียวที่ขโมยไป ไม่เกี่ยวกับบุตรชายของข้า เหตุใดท่านถึงจับคนอื่นไปด้วยเล่า?”
กล่าวจบเขาก็หันไปตำหนิอวิ๋นโส่วกวงกับอวิ๋นโส่วเย่า “พวกเ้าสองคนนี่มันเลอะเลือนจริงๆ เื่แบบนี้พวกเ้าจะไปยุ่งเกี่ยวด้วยได้ยังไง? รู้หรือไม่ว่าเป็ความผิดร้ายแรงแค่ไหน? ไสหัวกลับบ้านไปให้หมด!”
เถาซื่อพูดถูก ั้แ่เ้ารองกลับมา ตระกูลอวิ๋นก็ไม่เคยสงบสุขเลย เขากลับมาเพื่อทวงหนี้! เขานำพาแต่เื่วุ่นวายมาให้!
เ้าสี่ก็เป็คนเหลวไหล หากจะบอกว่าความผิดร้ายแรงเช่นนี้เป็ฝีมือของเ้าสี่ เขาไม่เชื่อเด็ดขาด! ในสายตาของเขา คนที่ก่อเื่นี้ก็คืออวิ๋นเจียว ส่วนอวิ๋นฉี่เยว่ก็แค่พลอยซวยไปด้วย!
“อวิ๋นเจียว เื่ราวเป็แบบนี้แล้ว เ้ายังไม่ยอมรับผิดอีกหรือ! เ้าอยากจะลากพ่อกับพี่ชายของเ้าไปติดคุกด้วยจริงๆ หรือ?”
ทันทีที่ผู้เฒ่าอวิ๋นพูดจบ อวิ๋นเจียวก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงแ่เบา “กล่องใบนี้ข้าเป็คนฝังเอง ไม่เกี่ยวกับท่านลุงใหญ่ ท่านพ่อ และพี่ชายเ้าค่ะ”
“เจียวเอ๋อร์! เ้าพูดจาเหลวไหลอันใด! ลุงใหญ่เป็คนฝังเอง!”
อวิ๋นโส่วกวงร้อนใจจนแทบเป็บ้า เขาหันไปมองผู้เฒ่าอวิ๋นด้วยสายตาอ้อนวอน หวังว่าเขาจะพูดอะไรบางอย่าง เพื่อแก้ไขคำพูดของตนเมื่อครู่
ในสายตาของเขา หากไม่ใช่เพราะคำพูดของผู้เฒ่าอวิ๋นเมื่อครู่ อวิ๋นเจียวจะยอมรับได้อย่างไร? เด็กสาวที่ถูกเลี้ยงดูมาอย่างทะนุถนอม จะไปฝังของไว้ที่คอกวัวได้อย่างไรกัน
แต่ผู้ดูแลจางกับหัวหน้าเ้าหน้าที่ต่างก็รอคอยคำพูดนี้จากปากอวิ๋นเจียว พวกเขาจะปล่อยนางไปได้อย่างไร?
ทั้งสองคนสบตากัน หัวหน้าเ้าหน้าที่ก็เอ่ยขึ้นเสียงดัง “จับได้คาหนังคาเขา ตัวอวิ๋นเจียวเองก็ยอมรับแล้วว่านางเป็คนฝังของ ลูกทำผิด ย่อมเป็ความผิดของพ่อแม่!”
“ยิ่งไปกว่านั้น บ้านตระกูลอวิ๋นโส่วจงยังปกปิดของกลาง และมีความผิดฐานให้ที่พักพิงแก่คนร้าย ปล่อยตัวคนอื่นไป จับคนของตระกูลอวิ๋นโส่วจงไปให้หมด! รอให้นายอำเภอตัดสินความผิดและลงโทษ!”
“ส่วนทรัพย์สินของตระกูลอวิ๋นโส่วจง ให้ยึดไว้ก่อนทั้งหมด จะจัดการอย่างไรก็รอท่านนายอำเภอตัดสินความผิดแล้วค่อยว่ากัน!” กล่าวจบเ้าหน้าที่ก็ถือโซ่ตรวน เตรียมที่จะจับกุมคนบ้านตระกูลอวิ๋น
แต่ตอนนี้เอง อวิ๋นโส่วจู่กลับโวยวายขึ้นมาอีก “เฮ้ย! พวกท่านจับคนและยึดของกลางก็พอแล้ว ทำไมต้องยึดทรัพย์สินด้วย? อวิ๋นโส่วจงเป็ลูกชายของท่านพ่อข้า เขาทำผิด ทรัพย์สินของเขาก็เป็ของท่านพ่อข้า! พวกท่านไม่มีสิทธิ์ยึด!”
เขาใส่ร้ายอวิ๋นโส่วจงทำไมเล่า ก็เพื่อทรัพย์สินของอวิ๋นโส่วจงมิใช่หรือ? หากศาลาว่าการยึดทรัพย์สินของบ้านพวกเขาไปแล้ว เช่นนั้นเขาก็ไม่ได้อะไรเลยน่ะสิ อวิ๋นโส่วจู่ร้อนรนขึ้นมาทันที