8:20น. หน้าบริษัท
ลินล์เดินไปที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์แล้วถามพนักงาน
“ขอโทษค่ะ มารายงานตัวเข้าทำงานคะไม่ทราบว่าต้องติดต่อที่ฝ่ายบุคคลเลยไหมคะ” ลินล์ถามด้วยท่าทางนอบน้อมเจียมตัว
“ขึ้นลิฟต์ไปชั้นที่ 10 เลยค่ะ เป็ชั้นของฝ่ายบุคคล” พนักงานตอบทันที
“ขอบคุณค่ะ” ลินล์ขอบคุณแล้วรีบตรงไปที่ลิฟต์
“รอด้วยค่ะ” ลิฟต์กำลังจะปิดพอดี ลินล์ะโบอกเสียงดัง ทำให้ทุกคนหันมามองที่ลินล์เป็ตาเดียว พลางคิดว่ายัยป้านี่จะไปไหนของเขานะ
“ชั้น 10 ค่ะ” ลินล์
พอออกจากลิฟต์แล้วร่างบางเดินเข้าไปที่ฝ่ายบุคคล แล้วรีบไปรายงานตัวทันที พี่ ๆ ฝ่ายบุคคลก็เป็กันเองมาก ช่วยแนะนำสิ่งต่าง ๆ ให้กับลินล์
หัวหน้าฝ่ายบุคคลพาลินล์ขึ้นไปพบกับที่ปรึกษาของท่านประธาน ซึ่งลินล์ก็เดินตามไปอย่างว่าง่าย
ชั้น 39 ห้องที่ปรึกษาประธานบริษัท
ก๊อก ก๊อก ก๊อก….
“ขออนุญาตค่ะ” หัวหน้าฝ่ายบุคคล
“เชิญเข้ามาได้” เสียงอนุญาตดังมาจากห้องทำงาน
“สวัสดีคะท่าน นี่คุณลินล์ที่จะมาทำงานในตำแหน่งเลขาของท่านประธานคะ” หัวหน้าฝ่ายบุคคลแนะนำลินล์ให้กับท่านที่ปรึกษารู้จัก
“ดิฉันขอตัวก่อนนะคะ พอดีมีงานที่ยังค้างอยู่คะ” หัวหน้าฝ่ายบุคคลรีบบอกและขอตัวกลับไปทำงานทันที
“สวัสดีค่ะ” ลินล์พนมมือไหว้อย่างสวยงาม
“สวัสดีค่ะ เชิญนั่งก่อน” คุณหญิงผกาพูดแล้วเดินไปนั่งที่โซฟาที่ตรงมุมห้อง
ลินล์กวาดสายตามองไปรอบ ๆ ห้อง ห้องนี้ตกแต่งห้องด้วยโทนน้ำตาลขาวดูสบายตา ฟอร์นิเจอร์เรียบ ๆ ดูเข้ากันกับห้อง เรียบหรูดูดีโดยที่ของตกแต่งไม่ได้เยอะอะไรเลย ลินล์มองอย่างชื่นชม
“หนูชื่อลินล์ ใช่ไหมค่ะ” คุณหญิง
“ค่ะ” ลินล์
“ดูจากประวัติและนามสกุลของหนูแล้ว ป้าว่าหนูไม่น่าจะมาทำงานเลขาได้นะ” คุณหญิงผกาถามอย่างสงสัย
“หนูก็แค่คนธรรมดาคนหนึ่งค่ะ” ลินล์ตอบคำถามอย่างฉะฉาน
“ทำไมวันนี้หนูใส่แว่นละ วันนั้นที่มาสัมภาษณ์งานหนูไม่ใส่แว่นนะป้าจำได้ แล้วดูการแต่งตัววันนี้สิ” คุณหญิงกล่าวอย่างตำหนินิด ๆ
“คือว่าหนูรีบไปหน่อยคะ เลยลืมใส่คอนแทคเลนส์” ลินล์ตอบแบบอาย ๆ
“งั้นเดี๋ยวค่อยคุยกันเื่การแต่งกาย” ร่างบางฟังแล้วก้มมองตัวเอง
“คะ” ลินล์
“โอเค งั้นวันนี้เริ่มงานเลยนะ เดี๋ยวพาไปส่งห้องประธาน” คุณหญิง
“ค่ะ” ลินล์
“งั้น ตามป้ามา”
ลินล์เดินตามหลังคุณหญิงผกาไปขึ้นลิฟต์ยังห้องประธานที่อยู่บนชั้นสูงที่สุดในบริษัทนี้ หน้าห้องมีโต๊ะทำงานขนาดกลางวางอยู่ พร้อมคอมพิวเตอร์หนึ่งเครื่อง และแฟ้มเอกสารงานกองอยู่เต็มโต๊ะ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก …
“เชิญครับ” เสียงอนุญาติดังมาจากในห้องประธาน
แอ๊ด ปัง เสียง เปิดปิดประตู
“สวัสดีครับคุณแม่ มีอะไรหรือเปล่าครับ” เซทท์
“แม่มีคนมาแนะนำให้รู้จัก มานี่สิ หนูลินล์ คนที่จะมาเป็เลขาให้แก” คุณหญิงผการีบบอกลูกชายของตน
“ทำไมเฉิ่มแบบนี้อะแม่ การแต่งตัวคือไม่ได้เลยนะ” เซทท์ขยับเข้ามากระซิบกับแม่ของตน
“แม่ว่าดีเสียอีก พวกแต่งตัวแบบวับ ๆ แวม ๆ แม่ไม่ชอบ แต่แม่บอกน้องแล้วว่าให้แต่งหน้าทำผมให้ดีกว่านี้” คุณหญิงผกา กระซิบคุยกับลูกชาย
“ก็ได้ครับ หวังว่าคงจะทำงานกับผมได้นะ” เซทท์
“เดี๋ยวแม่ให้เลขาของแม่มาสอนงานให้ สัก 1 สัปดาห์” คุณหญิง
“ครับ” เซทท์ตอบแบบจำยอม
“หนูลินล์ นี่ตาเซทท์ ลูกชายป้าเอง เป็เ้านายของหนูนะ เดี๋ยวป้าจะให้เลขาของป้ามาสอนงานให้”
“สวัสดีค่ะ ท่านประธาน” ลินล์พนมไหว้อย่างสวยงาม เมื่อเงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าของเซทท์ ตอนแรกว่าชื่อคล้ายกัน แต่นี่คนเดียวกันนี่น่า แล้วเขาจะจำเราได้ไหมนะลินล์คิดพลางทำคิ้วขมวด
“มีอะไรหรือเปล่าครับ” เซทท์ถามเมื่อเห็นว่าลินล์จ้องหน้าของตนนานเกินไป
“เปล่าค่ะ” ลินล์
“งั้นเชิญคุณไปที่โต๊ะทำงานของคุณได้เลยครับ เดี๋ยวมีอะไรผมจะเรียก” เซทท์
“คะ”
ลินล์เดินออกมานั่งที่โต๊ะหน้าห้องท่านประธาน มองสำรวจบนโต๊ะที่มีเอกสารเต็มไปหมด แล้วค่อยเริ่มเปิดคอมพิวเตอร์ดูข้อมูลต่าง ๆ ในเครื่องส่วนมากจะเป็ไฟล์เอกสารงาน
ลินล์นั่งไปสักพักก็มีเลขาของคุณหญิงผกามาสอนงานให้ผ่านไปไม่กี่วันลินล์ก็เริ่มทำงานได้คล่องขึ้น การทำงานประสานงานต่าง ๆ ทำได้ดีมากขึ้น คุณหญิงผกาพอใจเป็อย่างมากเนื่องจากลินล์เป็คนที่มีพร์ เรียนรู้งานได้เร็ว
ในห้องประธาน
“แม่ครับ ทำไมไม่ปรึกษาผมก่อนครับ” เซทท์ถามอย่างหัวเสียหน่อย ๆ เมื่อคิดถึงคนที่แม่พามาแนะนำเมื่อกี้ การแต่งตัวคือไม่โอเคเลยสำหรับเขา
ทั้ง ๆ ที่เขาก็ไม่ได้มองคนที่รูปลักษ์ภายนอกขนาดนั้น แต่มองยังไงก็ไม่เหมาะกับงานเลขาท่านประธานอย่างเขาสักนิด
“ปรึกษาแกทำไม? แม่จัดการเองดีกว่า”คุณหญิงผกาเถียงลูกชายกลับไปทันที
“แล้วยังไงครับ ดูท่าไม่รู้ว่าจะทำงานได้สักกี่วัน” เซทท์พูดสบประมาทขึ้นมา
“เอาน่าเชื่อแม่ ดูจากประวัติแล้วน่าจะทำงานได้แหละ เดี๋ยวค่อย ๆ สอนไป” คนเป็แม่ค่อย ๆ ว่านล้อมลูกชายของตน
“ผมให้เวลาคนของแม่ 1 เดือนนะครับ ถ้าไม่โอเคตามที่แม่บอก ผมเปลี่ยนคนใหม่นะครับ” เซทท์ตอบอย่างจำยอม เขาคิดว่าไม่น่าจะมาทำงานเกิน 1 สัปดาห์ ด้วยซ้ำ
“ได้ แล้วเรามาดูกัน” หลังจากที่พูดคุยกันเื่เลขาเสร็จแล้ว คุณหญิงผกาก็กลับไปห้องทำงานของตัวเองทันที
จากที่เซทท์เฝ้ามองเลขาที่คุณแม่หามาให้ทุกวัน ได้เห็นการทำงานรวมถึงพัฒนาการด้านการแต่งกายแล้วถือว่าโอเคกว่าวันแรกที่เจอกัน ถึงจะไม่เปลี่ยนไปทั้งหมดแต่ว่าโดยรวมแล้วดูดีกว่าวันแรกมากนัก
สงสัยต้องให้ลองทำงานกับลูกค้าได้แล้ว เซทท์คิดแล้วก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดโทรหาเลขาสาว
Tr…………
เรียกสายไม่นาน ปลายสายก็กดรับสาย เซทท์รีบพูดธุระของตนทันที
“คุณลินล์ครับ วันนี้ออกไปทานข้าวกับลูกค้าแทนผมด้วยนะครับ เดี๋ยวผมส่งโลเคชั่นไปให้ หวังว่าคุณจะไม่ไปสาย” พูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบและกดดันไปในตัว
“ค่ะ” รับคำแล้วหันไปมองนาฬิกา เป็เวลา 11โมงกว่า ๆ ยังดีที่มีเวลาให้เตรียมตัวก่อน
“เห้ออ” ร่างบางแอบถอนหายใจเล็กน้อย แล้วค่อย ๆ เตรียมเอกสารเพื่อไปพบลูกค้าในเวลาบ่ายโมงของวันนี้
...............................................
