กูเฟยเยี่ยนไม่ค่อยรู้จักหอการค้าเสวียนคงมากนัก แต่จวินจิ่วเฉินรู้จักดี เพราะบัตรดำในมือของเขาออกโดยหอเสวียนซาง
เขาคือแขกคนสำคัญของหอเสวียนซาง ซึ่งในอีกแง่มุมหนึ่ง เขาก็เป็แขกคนสำคัญของหอการค้าเสวียนคงอีกด้วย
หลังจากที่กูเฟยเยี่ยนสอบถามถึงได้ทราบว่า กิจการที่เกี่ยวข้องกับหอการค้าเสวียนคงมีขอบเขตอิทธิพลกว้างขวางกว่าที่นางจินตนาการเอาไว้ หอการค้าเสวียนคงก่อตั้งโดยหัวหน้าสมาคมกับฟูเหรินของเขา โดยมีต้นกำเนิดกิจการมาจากสุรา ปัจจุบันนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับกิจการมากกว่าสิบแห่ง เช่น สมุนไพร เสบียงอาหาร เหมืองแร่ อาวุธยุทโธปกรณ์ ร้านอาหาร ธนาคาร สำนักคุ้มภัย ฯลฯ โดยทุกกิจการต่างก็ประสบผลสำเร็จอย่างยอดเยี่ยม แม้กระทั่งมีหลายกิจการที่มีการผูกขาดสมาชิกระดับสูง
ทว่ากลุ่มอำนาจแข็งแกร่งนี้ก่อตั้งมาไม่ถึงยี่สิบปี
หัวหน้าสมาคมหอการค้าเสวียนคงมีตัวตนที่ลึกลับมาก จนกระทั่งบัดนี้ก็ยังไม่มีผู้ใดรับรู้นามที่แท้จริงของเขา บุคคลภายในหอการค้าล้วนเรียกเขาว่า “หัวหน้าาุโ” ในขณะที่บุคคลภายนอกเรียกเขาว่า “เถ้าแก่เฉิง” มีข่าวลือกันว่าแม้แต่คนใกล้ชิดเขาที่สุดยังไม่รู้ที่มาของเขาเลย สำหรับฟูเหรินหัวหน้าสมาคมนั้นมีตัวตนที่ชัดเจนและภูมิหลังก็ไม่ธรรมดา ฟูเหรินหัวหน้าสมาคมมีนามว่าซ่างกวนเฉิงเอ๋อร์ ซึ่งก็คือบุตรสาวของตระกูลซ่างกวนที่เป็หนึ่งในสามอำนาจใหญ่ทางตอนใต้
กูเฟยเยี่ยนตั้งใจฟัง ทว่าเหมยกงกงอดที่จะพูดไม่ได้ “เตี้ยนเซี่ย เื้ัของหอการค้าเสวียนคงไม่ได้มีเพียงตระกูลซ่างกวนใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ? เหล่านู๋ได้ยินฝ่าากล่าวว่าการซื้อขายในครั้งนี้มีตระกูลหานแทรกเข้ามาด้วย ซูฟูเหรินกับเถ้าแก่เฉิงมีความสนิทสนมกัน กระทั่ง…กระทั่งมีข่าวลือว่าความสัมพันธ์ระหว่างซูฟูเหรินกับเถ้าแก่เฉิงมีความคลุมเครือ! ”
สำหรับเื่นี้ ถึงแม้ว่าจวินจิ่วเฉินจะมีข้อสงสัย แต่เื่ที่ยังไม่ได้ตรวจสอบชัดเจน เขาจะไม่แสดงความคิดเห็นออกมา
เหมยกงกงหัวเราะเสียงดังลั่น “ในวันข้างหน้าเมื่อคุณหนูสามตระกูลหานอภิเษกสมรสกับเตี้ยนเซี่ยแล้ว เช่นนั้น…เช่นนั้นก็จะเป็ครอบครัวเดียวกันแล้ว!”
สีหน้าของจวินจิ่วเฉินเมินเฉยนัก และถึงแม้ว่าเขาจะเห็นกูเฟยเยี่ยนมองมา เขาก็ยังคงทำตัวเฉยเมยพลางตอบด้วยความเ็า “อืม”
กูเฟยเยี่ยนละสายตาอย่างรวดเร็วโดยไม่แสดงสีหน้าใดๆ ทว่าภายในใจกลับรู้สึกปลง ผู้ที่อยู่เื้ัของหานอวี๋เอ๋อร์แข็งแกร่งจริงๆ ! มิน่าล่ะ เซี่ยเสี่ยวหม่านที่มีวิสัยทัศน์สูงถึงได้ให้ความสำคัญหานอวี๋เอ๋อร์ นางคิดว่าตนเองต้องหาโอกาสพูดคุยกับถังจิ้ง เพื่อไม่ให้ถังจิ้งก้าวไปแตะต้องหอการค้าเสวียนคง
กูเฟยเยี่ยนไม่ชอบการพูดคุยเกี่ยวกับตระกูลหานเลยแม้แต่น้อย นางจึงเปลี่ยนหัวข้อพูดคุย “เตี้ยนเซี่ย กรรมการบริหารหอการค้าเสวียนคงอยู่ภายใต้การควบคุมของเถ้าแก่เฉิงหรือเถ้าแก่เนี้ย [1] เพคะ? อำนาจของกรรมการบริหารมีมากเพียงใด? ”
แทนที่จะสนใจประวัติศาสตร์ของหอการค้าเสวียนคง กูเฟยเยี่ยนมีความสนใจสถานภาพสมาชิกระดับสูงของหอการค้าเสวียนคงมากกว่า ตัวอย่างเช่น ผู้ดูแลหอการค้ามีใครบ้าง ภูมิหลังความสัมพันธ์ของผู้ดูแลเหล่านี้เป็อย่างไรบ้าง เนื่องจากจุดประสงค์ของการเดินทางในครั้งนี้ไม่ใช่การเจรจาซื้อขายจริงๆ แต่เป็การร้องเรียน
การร้องเรียนนั้น ถ้าบอกว่าง่ายก็ง่าย ถ้าบอกว่ายากก็ยาก ถ้าตามหาถูกคนก็จะลงแรงเพียงแค่ประโยคสองประโยค แต่ถ้าตามหาผิดคน แม้แต่ถูกสังหารอย่างไรก็หาทราบได้!
ถึงเเม้ว่าพวกเขาจะ้าตามหาเถ้าแก่เฉิงตัวจริง ทว่าก็ต้องระมัดระวังตัวจากคนอื่นเช่นกัน!
จวินจิ่วเฉินอธิบาย กูเฟยเยี่ยนถึงได้รู้ว่าทุกกิจการที่หอการค้ามีส่วนเกี่ยวข้องล้วนมีกรรมการบริหารหนึ่งคนคอยควบคุมดูแล ผู้ที่อยู่เหนือกรรมการบริหารยังมีหัวหน้าผู้ดูแลที่คอยจัดการทั้งหมด และผู้ที่อยู่เหนือหัวหน้าผู้ดูแลคือเถ้าแก่เฉิงกับเถ้าแก่เนี้ย สองปีมานี้เถ้าแก่เนี้ยคือผู้ที่ควบคุมงานในหอการค้าซะส่วนใหญ่ ถ้าไม่ใช่การซื้อขายจำนวนมากหรือความร่วมมือระยะยาว เถ้าแก่เฉิงจะไม่ปรากฏตัวให้เห็น
ดวงตาของกูเฟยเยี่ยนทอประกายถึงความซับซ้อนพลางครุ่นคิดด้วยความจริงจัง
เหมยกงกงเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เมื่อชายแดนตะวันออกส่งข่าวมา เหล่านู๋จะไปส่งจดหมายเยี่ยมเยียนด้วยตนเอง เตี้ยนเซี่ยเสด็จมาเยี่ยมเยียนถึงที่ เถ้าแก่เฉิงจะไม่ให้เกียรติได้หรือ? ”
จวินจิ่วเฉินยังไม่ทันได้เอ่ย กูเฟยเยี่ยนก็ห้ามไว้ทันที “ไม่ได้เด็ดขาด! ”
ถึงแม้ว่ากูเฟยเยี่ยนกล่าวกับเทียนอู่ฮ่องเต้เอาไว้ว่านางจะมาซื้อซานชีในฐานะของศาสตราจารย์แพทย์แห่งห้องยาสำนักหมอหลวง ทว่าจะซื้ออย่างไรนั้นเป็เื่ที่ทำสำคัญมาก
ซื้ออย่างเปิดเผยก็คือซื้อ ซื้ออย่างลับๆ ก็คือซื้อ ซื้อด้วยตัวคนเดียวก็คือซื้อ รวมกลุ่มกันซื้อก็คือซื้อ ซื้อก่อนค่อยเปิดเผยตัวตนก็คือซื้อ เปิดเผยตัวตนก่อนค่อยซื้อก็คือซื้อ! และควรที่จะเปิดเผยตัวตนอย่างไรก็ต้องพิจารณาให้ดี!
ต้องทราบเอาไว้ว่าพวกเขาต้องเผชิญหน้ากับเถ้าแก่เฉิง! ไม่ว่าเถ้าแก่เฉิงจะมีภูมิหลังเช่นไรและมีอุปนิสัยอย่างไร การที่เขาสามารถทำให้หอการค้าเสวียนคงดำเนินการมาถึงระดับในปัจจุบันนี้ได้โดยใช้ระยะเวลาเพียงแค่สิบปี อย่างน้อยเขาก็ไม่ใช่ผู้ที่สามารถตบตาได้อย่างง่ายดาย
ถ้าเถ้าแก่เฉิงทราบว่าพวกเขาส่งเสริมให้ใต้เท้าหนานกงซื้อซานชีเ่าั้แล้วค่อยมาร้องเรียนทีหลัง อาจจะเกิดการขโมยไก่ไม่ได้ ยังเสียข้าวสารอีกกำมือ [2] !
กูเฟยเยี่ยนกระซิบแ่เบาด้วยความจริงจัง “เตี้ยนเซี่ย เล่นละครต้องเล่นให้ครบชุด! ทางด้านของชายแดนตะวันออกยังไม่ส่งข่าวมา พวกเรายังมีเวลา เื่นี้จำเป็ต้องวางแผนระยะยาว! ”
จวินจิ่วเฉินยอมรับในความรอบคอบของกูเฟยเยี่ยน เขาพยักหน้าก่อนจะกล่าวว่า “เถ้าแก่เฉิงคือผู้ที่ติดสุรา ถ้าต้องพบเขาอาจไม่ต้องรายงานตัวตนก่อน”
“ติดสุรา? ”
กูเฟยเยี่ยนรู้สึกประหลาดใจเหลือเกิน หลังจากที่พิจารณาแล้ว ดวงตาสดใสแวววาวก็ค่อยๆ ปรากฏถึงรอยยิ้มของความเ้าเล่ห์ “เตี้ยนเซี่ย หม่อมฉันมีแผนการอันยอดเยี่ยมเพคะ! ”
กูเฟยเยี่ยนรีบกระซิบแผนการของตนเองออกมา จวินจิ่วเฉินพยักหน้าเห็นด้วยครั้งแล้วครั้งเล่า เหมยกงกงพยักหน้าเหมือนโขลกกระเทียม [3] พลางมองท่าทางเ้าเล่ห์ของกูเฟยเยี่ยนด้วยความรู้สึกปลงในใจ นังหนูคนนี้อายุไม่มาก ทว่าเหตุใดจึงเฉลียวฉลาดถึงเพียงนี้? การที่ฝ่าารับสั่งให้จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยเสด็จมากับนางเป็เื่ที่เฉียบแหลมจริงดังคาดจริงๆ ! ถ้าไม่ใช่จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ย เกรงว่าจะไม่มีใครในเทียนเหยียนที่สามารถโค่นล้มนังหนูคนนี้ได้อีก
หลังจากที่ปรึกษากลยุทธ์เรียบร้อย พวกเขาจึงพักอาศัยอยู่ในโรงเตี้ยมเพื่อรอข่าวจากชายแดนตะวันออก
หลังจากที่ฝ่าามีรับสั่งให้ฉีอวี้ยุติา สถานการณ์ชายแดนตะวันออกค่อนข้างที่จะคงที่ อาณาจักรว่านจิ้นไม่ได้ส่งทหารมาทำา แต่ทำาน้ำลายกับเทียนเหยียน
ฮ่องเต้แห่งอาณาจักรว่านจิ้นนำเื่ของทหารที่เสียชีวิตกับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากามาขอความเห็นใจจากผู้อื่นไม่ขาดสาย อีกทั้งยังเขียนจดหมายวิงวอนให้หัวหน้าาุโแห่งหุบเขาเสินหนงตัดสินความเป็ธรรมแก่ว่านจิ้น! เทียนอู่ฮ่องเต้ยืนหยัดไม่เชื่อว่าไป๋หลี่ิชวนถูกลดขั้น ประณามว่านจิ้นว่าซ่อนตัวไป๋หลี่ิชวน และหลอกลวงหุบเขาเสินหนง
หากปราศจากาก็ไม่จำเป็ต้องจัดหายาจินชวงอย่างเร่งด่วนแล้ว!
หลายวันต่อมา กูเฟยเยี่ยนได้รับข่าวจากแพทย์ทหารชายแดนตะวันออกว่าหอการค้าเสวียนคงส่งมอบซานชีมาให้ครบหมดแล้ว กูเฟยเยี่ยนอดทนรอต่อไป รอจนผ่านไปหลายวันเพื่อให้แน่ใจว่าซานชีเ่าั้ถูกทำเป็ยาจินชวงแล้ว ไม่ว่าอย่างไรเวินจื่อเจี๋ยก็ไม่สามารถขอคืนได้แล้ว นางจึงตัดสินใจเริ่มปฏิบัติการ
เช้าตรู่วันนี้กูเฟยเยี่ยนปลอมแปลงเป็บุรุษก่อนออกจากห้อง หญิงสาวเหมือนกับถังจิ้งตรงที่ถึงแม้ว่านางจะสวมใส่อาภรณ์ของบุรุษแล้ว ทว่าก็ไม่มีส่วนที่คล้ายคลึงบุรุษเลยแม้แต่น้อย บัดนี้นางดูเหมือนหญิงสาวที่มีบุคลิกผึ่งผายและความองอาจ
จวินจิ่วเฉินเห็นนางแล้ว ถึงแม้ว่าเขาจะจำนางได้ในชั่วพริบตา ทว่าก็ยังมองด้วยความตกตะลึงเล็กน้อย กูเฟยเยี่ยนหมุนกายไปรอบๆ โดยที่ไม่ได้สังเกตเห็นถึงความผิดปกติของเขา
“เตี้ยนเซี่ย เป็อย่างไรบ้าง? ”
จวินจิ่วเฉินได้สติกลับมาครู่หนึ่งแล้ว เขากำลังจะตอบแต่ก็หยุดทันทีที่เห็นเหมยกงกงเดินเข้ามา เหมยกงกงกล่าวชมกูเฟยเยี่ยน หญิงสาวจึงหมุนกายรอบๆ อีกครั้งด้วยความสุข
พวกเขาเริ่มออกเดินทางจากเมืองกู่เยวี่ย โดยมุ่งหน้าลงใต้จนข้ามผ่านชายแดนใต้ไป หลังจากที่เดินทางมาหนึ่งชั่วยาม พวกเขาก็มาถึงเมืองที่เจริญรุ่งเรืองที่สุดทางตอนใต้ของอาณาจักรเสวียนคงอย่างเมืองลั่วเสีย
กิจการใหญ่ของหอการค้าเสวียนคงตั้งอยู่ในเมืองลั่วเสีย…
———————
เชิงอรรถ
[1] เถ้าแก่เนี้ย หมายถึง ภรรยาของเถ้าแก่ (เหลาป่านเหนียง)
[2] ขโมยไก่ไม่ได้ ยังเสียข้าวสารอีกกำมือ หมายถึง ้าฉวยโอกาสเอารัดเอาเปรียบผู้อื่นแต่กลับกลายเป็เสียเปรียบแทน
[3] พยักหน้าเหมือนโขลกกระเทียม หมายถึง พยักหน้ารัวๆ เร็วๆ เพื่อแสดงออกถึงความเห็นด้วย