“อย่ากินข้านะ อย่ากินข้าเลย! เนื้อข้าไม่อร่อยหรอก! ข้ามีประโยชน์ มีประโยชน์มากๆ ด้วย!!” เ้าเด็กอ้วนร้องไห้งอแง
เมื่อได้ยินเขางอแง ชิงอีก็รู้สึกรำคาญเล็กน้อย เ้าเด็กอ้วนนี่ ร้องไห้เสียงดังกว่านางได้อย่างไรกัน?
“หุบปาก ถ้ายังไม่หยุดอีก เ้าได้ลงไปอยู่ในโถมูลแน่!”
เ้าเด็กอ้วนเชื่อฟังในทันที เขามองนางด้วยแววตาน่าสงสาร “พี่สาวชิงอี เรามาคุยกันดีกว่า อย่าใช้ความรุนแรงกันเลย ดีไหม?”
“ในเมื่อเ้าเป็อาวุธเทพที่สร้างโดยจื่อเซียว เ้าเองก็อยู่เคียงข้างเขามานานขนาดนั้นแล้ว ไม่เคยได้ยินชื่อข้าเลยงั้นหรือ?”
เ้าเด็กอ้วนส่ายหน้า และถามด้วยความสงสัย “ท่านชื่ออะไรหรือ?”
ริมฝีปากแดงของชิงอีพูดว่า “ไม่เห็นจะสมเหตุสมผลเลย”
เ้าเด็กอ้วนน้ำตาคลอเบ้า
“ข้ามีประโยชน์จริงๆ! ท่านเป็อันธพาลแห่งโลกภูตผี...ไม่สิ ท่านเป็เ้าแห่งปรโลกไม่ใช่หรือไง หากท่านไม่ได้รับความชุ่มชื้นจากพลังหยิน ผิวบอบบางเช่นนี้ คงจะมีรอยย่นใช่ไหมล่ะ? ในวังหลวงแห่งนี้มีหลังหยางรุนแรงยิ่งนัก ตอนนี้ข้ากำลังปกป้องท่านไม่ให้ลำบากอยู่นะ! มีข้าอยู่ ข้าสามารถดูดพลังหยินในรัศมีสิบลี้ทั้งหมดมาให้ท่านได้ แล้วก็จะให้ยาชูกำลังทุกวันด้วย!”
“ไม่เพียงพลังหยิน แต่ยังมีพลังิญญาฟ้าดิน พลังชั่วร้าย พลังปีศาจ ตราบใดที่ท่าน้า ไม่มีอะไรที่ข้าหามาให้ท่านไม่ได้!”
เมื่อชิงอีได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกกระเหี้ยนกระหือรือขึ้นมาเล็กน้อย
นางเองก็เป็ผีที่ชอบอะไรที่ได้มาง่ายๆ ไม่ต้องลงแรงเองอยู่แล้ว
จริงๆ แล้วนางก็ไม่ชอบวังหลวงแห่งนี้สักเท่าไร ตอนแรกที่ตำหนักเชียนชิวเป็ที่เงียบสงัด มีลมเย็นๆ พัดบ้างเป็ครั้งคราว ทว่า หลังจากที่นางได้กลายเป็ผู้ที่มีอำนาจในวังแห่งนี้ ก็ผู้คนก็ไปมาที่นี่เสมอ
โดยเฉพาะเด็กน้อยฉู่จื่ออวี้นั่น
เมื่อมีคนมากขึ้น พลังหยางก็มากขึ้น หัวใจและอารมณ์ของนางจึงพร้อมะเิเสมอ
แม้ว่าในใจจะคิดเช่นนั้น ทว่า กลับไม่ได้เผยสีหน้าออกไปให้แม้แต่น้อย และยังรู้สึกรังเกียจเล็กน้อย
เ้าเด็กอ้วนรู้สึกน้อยใจ ก็เขายังเป็แค่เด็กน้อยอยู่นี่น่า
“นอกจากนั้นล่ะ เ้าไม่มีอะไรที่เป็ประโยชน์อย่างอื่นแล้วหรือ?”
“เอ่อ...” เ้าเด็กอ้วนลังเล “อันที่จริงท่านก็รู้อยู่แล้ว ว่าข้าสามารถกลืนกินพลังได้ แล้วก็...สามารถตอบแทนบุญคุณให้ท่านได้”
อือฮึ?
“ตรรกะนี้ของเ้ามันไม่ถูกนะ” ชิงอีเลิกคิ้วขึ้น “เ้าสามารถกลืนกินพลังผู้อื่นมาให้ข้าได้ แล้วเหตุใดพลังของข้าที่ถูกกลืนกินไป เ้าถึงคืนให้ข้าไม่ได้ล่ะ?”
อา ทำไมปัญหามันถึงย้อนกลับมาอีกแล้วนะ
ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความวิตกกังวลของเ้าเด็กอ้วนแดงก่ำ “ข้ายังพูดไม่จบสักหน่อย! เซียวเจวี๋ย เขาไม่ชอบท่าน ดังนั้นแหวนจื่อจินเลยไม่ชอบท่านเช่นกัน! แต่ข้าแตกต่างออกไป ข้าสามารถเป็สุนัขรับใช้ที่ซื่อสัตย์ของท่านได้นะ”
“พูดอีกอย่างก็คือ เ้าเป็หนูตัวใหญ่ในถังข้าวสารที่สามารถหาผลประโยชน์มาให้ข้าได้สินะ?”
เ้าเด็กอ้วนรีบพยักหน้า ถือเสียว่าขายผ้าเอาหน้ารอดไปก่อนแล้วกัน
ลืมท่านลุงเป่ยอินไปก่อน เอาชีวิตตนเองให้รอดในตอนนี้เป็สิ่งสำคัญกว่า
“เห็นว่าเ้าพอจะมีประโยชน์อยู่บ้างหรอกนะ ข้าจะปล่อยเ้าไปสักครั้งก็แล้วกัน กลับไปซะ” ทันทีที่ชิงอีปล่อยมือ เ้าเด็กอ้วนก็รีบกลับเข้าไปในแหวนจื่อจินทันที
“เ้าทาส! อย่ามาแกล้งตาย เอาพลังหยินมาให้ข้าก่อน ข้าหงุดหงิดจะตายอยู่แล้ว”
แหวนจื่อจินสั่นหนึ่งครั้ง ทันใดนั้น พลังหยินก็เริ่มมารวมตัวกันที่ตำหนักเชียนชิว
ด้านนอกห้อง เถาเซียงและต้านเสวี่ยที่กำลังปัดฝุ่น ก็สั่นเทาไปทั้งตัว
ทำไมจู่ๆ ถึงได้หนาวเช่นนี้ล่ะ?
ชิงอีนั่งลงบนตั่ง และสวมแหวนจื่อจินกลับไปบนนิ้วหัวแม่มือ
เ้าแมวอ้วนที่กำลังเพลิดเพลินกับการบำรุงจากพลังหยิน หาววอดออกมาอย่างสบาย คิดอยากจะเอาปลาแห้งออกมาแทะ ทว่า ชิงอียังอยู่ตรงนี้ แล้วมันก็ไม่ได้กล้าหาญขนาดนั้น
“ท่านเชื่อคำพูดของเ้าเด็กอ้วนนั่นจริงๆ หรือ?”
ชิงอีกัดริมฝีปากและมองมาที่มัน
เชื่อกะผีน่ะสิ เ้าเด็กอ้วนคนนี้เต็มไปด้วยช่องโหว่มากมายมานานแล้ว ฟังไม่ออกเลยหรือไร?
แหวนจื่อจินไม่ชอบนางบ้างล่ะ เ้าของที่ไม่ใช่เ้าของบ้างล่ะ เห็นได้ชัดว่าเซียวเจวี๋ยนั่นแหละที่มีปัญหา
นางได้ทำการสืบมาหลายครั้ง ทั้งภายในและภายนอก หนุ่มน้อยผู้นั้นเป็เพียงแค่มนุษย์ปุถุชนเท่านั้น เว้นเสียแต่จะเป็ระดับเทพเซียนถึงจะสามารถซ่อนความจริงจากสายตานางได้
มีเทพเซียนเพียงไม่กี่องค์บน์ และจื่อเซียวก็เป็หนึ่งในนั้น
เป็ไปได้ไหมว่า เซียวเจวี๋ยจะเป็ลูกนอกสมรสของชายชราผู้นั้น?
ฮ่าๆ ความลึกลับในตัวเ้าหนุ่มน้อยผู้นั้น ช่างเป็อะไรที่น่าสงสัยซ้ำแล้วซ้ำเล่าเสียจริง อย่างไรก็ตาม ความทรงจำหรือความรู้สึกทางจิติญญาของเขายังคงถูกผนึกไว้ ไม่เช่นนั้น เขาจะเต็มใจมอบสมบัติอย่างแหวนจื่อจินให้ตกไปอยู่ในมือผู้อื่นได้อย่างไร?
ชิงอียกแหวนจื่อจินขึ้น และสวมไว้บนนิ้วหัวแม่มือขวา ทันใดนั้นก็ถึงตกตะลึงไปครู่หนึ่ง นางขมวดคิ้วและมองไปยังฝ่ามือของตนเอง รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างผิดปกติ ฝ่ามือขวาของนางเรียบเนียน ไม่มีาแหรือเืออกเลย
คิดแล้วก็ไม่เข้าใจ ทว่า ต้องโยนเื่นี้ออกไปจากสมองก่อน
“ไม่ต้องไปสนใจอะไรหรอก อย่างไรก็เป็แค่สัตว์เลี้ยงตัวหนึ่งอยู่ดี แล้วบัญชีเกิดตายของมนุษย์ล่ะ ได้มาหรือไม่?”
“ท่านไม่เห็นหรือไรว่าสั่งให้ใครไปทำ” เ้าแมวอ้วนเงยหน้าขึ้นอย่างหยิ่งยโส จากนั้นก็หยิบป้ายไม้ออกมาจากที่ไหนสักแห่ง แล้วโยนมันลงในมือของนาง
ทันทีที่ป้ายไม้มาอยู่ในมือของชิงอี มันก็เปลี่ยนเป็หนังสือที่ดำสนิทเล่มหนึ่ง จากนั้นจึงเปิดพลิกไปทีละหน้า เพื่อดูรายชื่อผู้คนทีละบรรทัด รวมไปถึงชีวิตและประสบการณ์ของบุคคลนั้น
“รายชื่อหญิงสาวที่เสียชีวิตในวัง ในวันที่อากาศหนาวเย็น ่ปียี่สิบสามของแคว้นเฟิ่งเทียน”
บัญชีเกิดตายของมนุษย์พลิกกลับไป และหยุดลงอย่างกะทันหัน จากนั้นรายชื่อก็ลอยขึ้นไปแสดงกลางอากาศทีละชื่อ
ชิงอีมองไปที่มันครู่หนึ่ง และขมวดคิ้ว
“เหตุใดวันนั้นคนในวังถึงตายได้มากมายขนาดนี้?” เ้าแมวอ้วนพูดออกมาด้วยความประหลาดใจ เมื่อนับๆ ไปแล้ว มันมีมากกว่ายี่สิบคนเลยทีเดียว
“จดรายชื่อพวกนี้ลงไป” ชิงอีกออกคำสั่ง ดูเหมือนว่ามันไม่ง่ายเลยที่จะหาสืบความจริงอย่างรวดเร็ว
ขณะเดียวกัน ก็มีเสียงเคาะประตูดังขึ้นจากด้านนอก
“องค์หญิง กระหม่อมเองพ่ะย่ะค่ะ”
“เข้ามา”
ชิวอวี่เปิดประตูเข้ามา และยืนรออยู่นอกฉากกั้น
ทันทีที่ชิงอีเก็บบัญชีเกิดตายของมนุษย์ นางก็โยนป้ายไม้ให้เ้าแมวอ้วน จากนั้นเท้าขาวจึงค่อยๆ ย่างกรายออกไป
“มีอะไร?”
“ทูลองค์หญิง หวังฮู่และพวกถูกนำมารอเป็ที่เรียบร้อยแล้วพ่ะย่ะค่ะ รอเพียงองค์หญิงมีรับสั่งว่าจะลงโทษเช่นไรพ่ะย่ะค่ะ”
ชิงอีส่งเสียงอืมเบาๆ “เลือกเวลาแล้วส่งพวกเขาออกเดินทางไปด้วยกัน”
ชิวอวี่มองนางด้วยความประหลาดใจ
ท่านจะฆ่าหวังฮู่และคนของเขาจริงๆ หรือ?
“สถานที่ก็เลือกเป็ประตูฉงก็แล้วกัน ที่แห่งนั้นมีคนผ่านไปผ่านมาจำนวนมาก สามารถเห็นพวกเขาได้” ชิงอียกยิ้มมุมปาก “จะเชือดไก่เชือดลิง ก็ต้องเชือดให้ทุกคนดู จะได้รู้ว่าหากทำให้ข้าขุ่นเคืองจะเกิดอะไรขึ้น”
“องค์หญิง...”
ชิวิวี่กำลังจะพูด เ้าแมวอ้วนก็เดินออกมา แล้วะโไปอยู่บนไหล่ของเขา จากนั้นก็เอียงศีรษะและพูดข้างหูว่า “สั่งให้เ้าไปเ้าก็ไป อย่ามัวแต่พูดไร้สาระ”
ชิวอวี่กัดฟันและทำได้แค่เพียงถอยหนี
จากนั้นจึงเรียกจิ๋วกุ่ย จางจื่อและคนอื่นๆ มาคุ้มกันหวังฮู่และคนของเขา เพื่อออกเดินทางไปยังยังประตูฉงด้วยกัน
ด้วยจำนวนคนที่มีมากกว่าสิบคนจะไม่ให้ดึงดูดคนให้หันมามองได้อย่างไรกัน
เมื่อเหล่าข้าหลวงได้ยินว่าองค์หญิงสั่งให้ปะาชีวิตที่ประตูฉง พวกเขาก็รีบตามไปในทันที
หวังฮู่มองไปที่ภรรยาและลูกๆ ของตนเองที่ถูกผ้าสีดำคลุมศีรษะเอาไว้ พี่น้องที่อยู่ข้างๆ เขาต่างน้ำตาไหลพราก
“หัวหน้า องค์หญิงทรงจะฆ่าพวกเขาจริงๆ หรือ?”
จิ๋วกุ่ยและคนอื่นๆ รู้สึกทนไม่ได้และผิดหวังเล็กน้อย พวกเขาเคยคิดว่าชิงอีแตกต่างจากผู้มีอำนาจคนอื่นๆ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่า...
ชิวอวี่เม้มริมฝีปากไม่พูดอะไร เขารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
เ้าแมวอ้วนตัวนี้ตามมาด้วยทำไมกันนะ? มารอเก็บิญญาของพวกเขางั้นหรือ?
คิดแล้วก็ไม่เข้าใจ ชิวอวี่จึงถอนหายใจและเดินไปหาหวังฮู่ “เ้าอยากจะพูดสั่งลาอะไรหรือไม่?”
หวังฮู่กระตุกมุมปากและยิ้มอย่างเย็นะเื “ข้าทำให้ครอบครัวพี่น้องเดือดร้อน เื่ก็มาถึงตรงนี้แล้ว ข้าจะไปพูดอะไรได้ แค่หลังจากตายไป ขอหลุมศพฝังลูกเมียของข้า อย่าปล่อยให้ศพพวกเขาตายในถิ่นทุรกันดาร และถูกหมาป่ากินเป็อาหารก็พอ”
ชิวอวี่ก้มศีรษะลง “ข้าจะทำให้ดีที่สุด”
“ขอบใจ”
เมื่อลงกระบี่ เืก็กระเซ็นออกมา
เมื่อชีวิตแต่ละชีวิตสิ้นลง ผู้คนที่อยู่บริเวณรอบๆ ต่างส่งเสียงกรีดร้องขึ้นมา
ชิวอวี่หลับตาแน่น หายใจหอบเล็กน้อย ทันใดนั้น รอบตัวก็แปรเปลี่ยนกลายเป็ความเงียบ เขาลืมตาขึ้นด้วยความสงสัย พร้อมทั้งหน้าผากก็มีกรงเล็บกดลงมา
“เ้าโง่ ยังไม่รีบพาคนออกไปอีก! ในวังหลวง ภาพลวงตาของข้าอยู่ได้ไม่นานหรอกนะ!”
