"อันนี้น่ะเหรอ ใช้ถักเอาน่ะ" เซวียเสี่ยวหรั่นลูบบนเสื้อผ้าที่ขะมุกขะมอมไปแล้ว
"ถัก? คล้ายกับการทอหรือไม่" ซีมู่เซียงมองเส้นด้ายที่หยาบและโปร่งบางด้วยความสนใจเป็อย่างมาก
"อืม... ก็คล้ายกันอยู่ เพียงแต่ใช้มือถักโดยตรงไม่ต้องใช้เครื่องทอผ้าน่ะ" เซวียเสี่ยวหรั่นมองออกว่าคนที่นี่น่าจะใช้เข็มถักเสื้อผ้าไม่เป็
ซีมู่เซียงเบิกตากว้าง "ใช้มือถักโดยตรง? ถักอย่างไร ต้าเหนียงจื่อช่วยบอกข้าได้หรือไม่"
หน้าตาของนางไม่ค่อยเหมือนพี่ชายสองคนสักเท่าไร แม้ว่าจะตาชั้นเดียว แต่หางตาเฉียงขึ้นเล็กน้อย ให้ความรู้สึกคล้ายดวงตาหงส์ ยิ่งเบิกตากว้างอย่างตอนนี้ ยิ่งแลดูน่ารักมาก
"มู่เซียง ข้าให้เ้ามาช่วยต้าเหนียงจื่อตัดเสื้อผ้า"
ซีมู่เซิงเดินเข้ามาพลางขยิบตาให้น้องสาว วิธีการย้อมหรือทอผ้าของแต่ละท้องถิ่นบางครั้งก็เป็เคล็ดลับที่สืบทอดกันมา ไม่บอกให้คนนอกรู้ง่ายๆ ซีมู่เซียงถามตรงๆ แบบนี้ เป็การละลาบละล้วงเกินไป
ซีมู่เซียงนิ่งอึ้ง หน้าแดงซ่านในพริบตา นางแค่ชอบศึกษาเกี่ยวกับการเย็บปักถักร้อยของสตรี ไม่ได้คิดมากขนาดนั้น
"ไม่เป็ไรๆ นี่ก็ไม่ใช่ความลับอะไรหรอกนะ แต่ถ้าอยากเรียนรู้ก็อาจยุ่งยากหน่อย เพราะต้องใช้เส้นไหมหยาบและหนาเช่นพวกป่าน ใยกัญชง อ้อ พวกขนแกะก็ใช้ได้เหมือนกัน" เซวียเสี่ยวหรั่นยิ้มพลางยกมือขึ้นโบก แล้วชี้มาที่เสื้อผ้าของตนเอง
"เหมือนอย่างที่ข้าใส่อยู่ จะเส้นหยาบกว่าหรือละเอียดกว่านี้เล็กน้อยก็ได้ แต่ต้องนุ่มหน่อยจะได้ไม่ระคายผิวเวลาสวมใส่ น้องมู่เซียง ถ้าเ้ามีเส้นไหมเช่นนี้ ข้าสามารถสอนเ้าถักเสื้อไหมพรมได้"
วิธีการถักเสื้อไหมพรมแท้จริงแล้วง่ายมาก ดูแค่ไม่กี่ครั้งก็ทำเป็ คุณย่าของเธอไม่ได้สอนอะไรเป็พิเศษ เธอแค่ดูเอาก็เป็แล้ว
แน่นอนว่าวิธีการถักของเธออาจไม่หลากหลายมาก ประกอบกับไม่ได้ลงมือทำมานาน ที่เคยทำเป็ก็หลงลืมไปพอสมควร
ซีมู่เซียงดวงตาทอประกาย รีบผงกศีรษะอย่างรวดเร็ว "มีเ้าค่ะ มีเ้าค่ะ ท่านย่าของข้าทอผ้าได้ ใยป่านที่บ้านข้ามีอยู่"
"เ้าดูนะ ฟั่นเส้นใยให้หนาขนาดเท่านี้ หลังจากนั้นก็เอามาม้วนให้เป็กลุ่ม แล้วเอามาก็ใช้ได้แล้ว"
เซวียเสี่ยวหรั่นยิ้มพราย การนำเสื้อไหมพรมมาเผยแพร่ในยุคสมัยนี้ก่อนล่วงหน้าได้ ก็เป็เื่ที่น่าสนใจ
แต่ไม่ได้คิดจะหาเงินด้วยการถักเสื้อผ้าขาย การถักแบบนี้เหมาะกับเป็งานอดิเรกส่วนตัว แม้ว่าจะคล่องมือแล้ว แต่การถักเสื้อสักตัวก็ยังต้องใช้เวลาสองสามวัน
ไม่ต่างอะไรกับการซื้อผ้ามาตัดเสื้อผ้าเอง ขายเสื้อไหมพรมมีค่าเทียบเท่ากับขายเสื้อสำเร็จรูป ซึ่งตามท้องตลาดก็มีอยู่แล้ว
ประกอบกับการถักเสื้อผ้ายังต้องมีเื่แบบและลวดลายเข้ามาเกี่ยวข้อง เซวียเสี่ยวหรั่นคร้านจะยุ่งยาก ไม่สู้ขายไหมพรมอย่างเดียวจะดีกว่า
พอคิดมาถึงตรงนี้ ก็นึกใจเต้นขึ้นมาจริงๆ
อย่างในหมู่บ้าน มีปัจจัยที่ตนเองสามารถเอามาทำเป็เส้นไหมแบบม้วน แต่ในเขตเมืองไม่มีปัจจัยแบบนี้
การค้าขายเส้นไหมชนิดต่างๆ ก็น่าจะทำกำไรได้ดี
แต่น่าเสียดาย ตอนนี้เธอยังมืดแปดด้านเกี่ยวกับสถานการณ์ของโลกใบนี้ คิดจะทำการค้าดูเหมือนจะมีอุปสรรคอยู่ วันหน้ามีโอกาสค่อยว่ากันดีกว่า
สีหน้าของซีมู่เซิงซึ่งอยู่ข้างๆ ดูเหมือนจะหนักใจ
"ต้าเหนียงจื่อ ต้องให้มู่เซียงมาคารวะฝากตัวเป็ศิษย์หรือไม่"
เช่นนี้เท่ากับรับปากว่าจะถ่ายทอดวิชาให้แล้ว หากให้เป็ทางการก็ต้องมีพิธีคารวะอาจารย์ผู้ถ่ายทอดวิชา
หา? แค่ถักไหมพรมต้องโขกศีรษะคารวะอาจารย์เลยหรือ เซวียเสี่ยวหรั่นรีบส่ายหน้า
"ไม่ต้องๆ"
ซีมู่เซิงกับซีมู่เซียงต่างสบตากัน
"น้องมู่เซียง เ้าวัดตัวก่อนเถอะ"
พูดมาเป็ก่ายกอง เดี๋ยวโจ๊กของเธอจะไหม้เสียก่อน
ซีมู่เซียงหยิบเชือกเส้นหนึ่งออกมาจากแขนเสื้อมากางออกแล้วเริ่มงานของตนเองทันที
เซวียเสี่ยวหรั่นเห็นแล้วก็รู้สึกประหลาดใจ ใช้เชือกเพียงเส้นเดียวมาวัดขนาดตัว ไม่มีเครื่องหมายอะไรทั้งนั้น แล้วพวกเขาจะจำขนาดได้อย่างไร
"มู่เซียงเ้าอยู่กับต้าเหนียงจื่อไปก่อนนะ ข้าจะกลับไปทำงานก่อน เที่ยงวันก็กลับไปกินข้าวที่บ้านล่ะ" ซีมู่เซิงเห็นว่าไม่มีอะไรแล้ว คิดจะกลับไปก่อน
"น้องมู่เซียงกินมื้อเที่ยงที่บ้านข้าก็ได้ ไม่ต้องไปๆ มาๆ" เซวียเสี่ยวหรั่นรีบเอ่ยขึ้นมา
"ไม่ต้องหรอกเ้าค่ะ ต้าเหนียงจื่อ ที่บ้านหุงข้าวไว้แล้ว ข้าต้องกลับไปกิน" ซีมู่เซียงส่ายหน้า นางยังต้องกลับไปบอกให้ท่านย่าช่วยฟั่นใยป่านให้อีกนะ
เอาเถอะ อย่างไรก็เป็การรู้จักกันครั้งแรก เซวียเสี่ยวหรั่นก็ไม่ฝืนคะยั้นคะยอ
เธอเดินไปส่งซีมู่เซิงที่นอกเรือน
"จริงสิขอรับ ต้าเหนียงจื่อ ท่านลุงอูบอกว่าไม้เท้าที่ท่านสั่งทำไว้เสร็จเรียบร้อยแล้ว"
"เร็วขนาดนี้เชียว?" เซวียเสี่ยวหรั่นดวงตาทอประกาย
"บ้านของท่านลุงอูมีไม้ที่ทำสำเร็จพร้อมใช้ พอรู้ว่าท่าน้าใช้เร่งด่วน เขาก็ทำทั้งคืนเลยขอรับ"
"เช่นนั้นก็ดีเลย ซีมู่เซิงรบกวนฝากเ้าไปบอกท่านลุงอูว่าให้นำมาได้เลย จะได้เก็บเงินค่าเครื่องเรือนไปพร้อมกันด้วย" เซวียเสี่ยวหรั่นยิ้มหน้าบาน
ซีมู่เซิงรับคำแล้วก็จากไป
เซวียเสี่ยวหรั่นยกน้ำร้อนเข้าไปให้เหลียนเซวียน
"ล้างหน้าก่อน อีกครู่หนึ่งน้องสาวของซีมู่เซิงจะมาวัดตัวให้ท่าน"
เซวียเสี่ยวหรั่นมองผมยุ่งเหยิงของเขา ่นี้ขาหักสองสามวันนี้เลยไม่มีเวลาสระผม เส้นผมจึงเริ่มมัน ดังนั้นเธอจึงไปรื้อหวีไม้กับสายรัดผมที่ซื้อมาใหม่ออกมาให้
"ท่านเกล้าผมเองได้หรือไม่ ข้าทำไม่เป็"
เซวียเสี่ยวหรั่นส่งหวีให้เหลียนเซวียน บุรุษที่เป็ผู้ใหญ่ของที่นี่ล้วนเกล้าผมสูงกันหมดทุกคน หากเป็ชายหนุ่มอายุน้อยบ้างก็ไว้หน้าม้า บ้างก็รวบขึ้นเพียงครึ่งศีรษะ
เซวียเสี่ยวหรั่นเองทำเป็แต่รวบมัดหางม้าธรรมดา ไหนเลยจะรู้ว่าวิธีเกล้าผมทำอย่างไร
เหลียนเซวียนรับหวีมา แล้วค่อยๆ สางผม ท่วงท่างามสง่าแลดูชำนาญ
"สายรัดอยู่บนโต๊ะ ข้าจะไปยกอาหารเช้าเข้ามา"
เห็นเขาสามารถจัดการเองได้ เซวียเสี่ยวหรั่นก็ทอยิ้มยกน้ำล้างหน้าออกไป
ตอนที่เธอเข้ามาอีกครั้ง ผมยาวดกดำของเหลียนเซวียนก็เกล้าขึ้นเป็มวยสูงเสร็จเรียบร้อย ไม่มียุ่งแม้แต่เส้นเดียว
"โอ้โห หวีเป็ระเบียบเรียบร้อยมาก ทำให้ดูสดใสมีชีวิตชีวาขึ้นตั้งเยอะแน่ะ" เซวียเสี่ยวหรั่นวางชามโจ๊กบนโต๊ะ แล้วเดินเข้ามาจ้องมองเขาทั้งซ้ายและขวา
แม้ว่าจะยังคงเห็นแผลเป็บนใบหน้าอยู่ แต่เทียบกับเมื่อก่อนก็นับว่าจางลงมากแล้ว อย่างน้อยเห็นแล้วก็ไม่รู้สึกว่าน่ากลัว บางครั้งเซวียเสี่ยวหรั่นกลับรู้สึกชินตามากกว่าด้วยซ้ำ
เป็สตรีมาจดจ้องผู้อื่นอย่างใกล้ชิดเช่นนี้ใช้ได้ที่ไหน เหลียนเซวียนรู้สึกว่านิสัยเสียที่ต้องแก้ไขของนางช่างมีมากมายนัก
"ท่านจะโกนหนวดเคราด้วยหรือไม่"
หลังจากเกล้ามวยผมขึ้น หนวดเครารุงรังบนใบหน้ากลับสะดุดตายิ่งกว่าเดิม เซวียเสี่ยวหรั่นจ้องปริบๆ พลางเอ่ยถาม
เหลียนเซวียนส่ายหน้าปฏิเสธ
"ไม่โกนเหรอ เสียดายจัง" เซวียเสี่ยวหรั่นงึมงำออกมาหนึ่งประโยค เธออยากเห็นหน้าตาของเขายามไม่มีหนวดเคราว่าจะเป็อย่างไร
แต่คนในยุทธภพส่วนมากก็ชอบทำตัวสบายๆ ใช้ชีวิตอย่างมีอิสรเสรี ไม่ชอบการถูกผูกมัดหรือควบคุม
ผู้อื่นอยากจะไว้หนวดเคราก็ไม่แปลก
เหลียนเซวียนจับน้ำเสียงผิดหวังของนางได้ คิ้วหนาเลิกขึ้น ริมฝีปากบางหยักโค้งน้อยๆ อยากเห็นรูปโฉมที่แท้จริงของเขา วันหน้าต้องมีโอกาสแน่นอน
กินมื้อเช้าแล้ว เซวียเสี่ยวหรั่นเก็บชามและตะเกียบไปล้าง
บัดนี้ซีมู่เซียงตัดผ้าออกมาแล้ว
ผ้าฝ้ายเนื้อละเอียดสีแดงสดกางอยู่บนโต๊ะ
เห็นผ้าสีแดงสดสะดุดตาแบบนี้ หนังตาของเซวียเสี่ยวหรั่นพลันกระตุก
เธอบอกไปอย่างชัดเจนว่า้าสีแดงอ่อน ไม่รู้ใครเป็คนซื้อ ถึงเลือกสีฉูดฉาดกลับมา ชุดสีแดงสดขนาดนี้จะให้ใส่ไปร้องงิ้วแสดงละครหรืออย่างไร
การขอให้ผู้ชายช่วยซื้อผ้ามาให้ เป็การตัดสินใจที่ผิดพลาดจริงๆ
