พูดตามตรง หมี่หลันเยว่ยังไม่แน่ใจว่าป้าิ่เตรียมการอะไรไว้บ้างตอนอยู่ที่ต่างประเทศ หรือมีความสามารถในการนำแบรนด์ดีๆ กลับมาได้จริงหรือไม่ แต่สิ่งหนึ่งที่หมี่หลันเยว่มั่นใจคือ เธอมีสายตาแหลมคมต่อเทรนด์แฟชั่นในอนาคต และคุ้นเคยกับแบรนด์ดังที่จะได้รับความนิยมเป็อย่างดี
ถ้าหากป้าิ่สามารถเซ็นสัญญากับร้านค้าต่างประเทศเ้าใหญ่ได้จริง การเป็ตัวแทนจำหน่ายสินค้าต่างประเทศรายแรกในประเทศ ก็จะสร้างผลกำไรที่น่าพอใจอย่างมาก เพราะการเป็ตัวแทนจำหน่ายสินค้าประเภทนี้ คือการเข้าสู่ตลาดระดับสูงสุด ในชาติก่อนที่เธอไม่มีเงินซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย หมี่หลันเยว่ก็เคยศึกษาเื่นี้มาแล้ว การตั้งราคาขายปลีกให้สูงขึ้นหลายเท่าตัว เป็สิ่งที่ดึงดูดใจมาก
"หลันเยว่ เธอมีความคิดนี้ได้ยังไง รู้ไหมว่าในประเทศเรายังไม่เคยมีร้านค้าต่างประเทศมาก่อนเลยนะ การจะทำธุรกิจกับร้านพวกนี้ เธอต้องคำนึงถึงค่าใช้จ่ายต่างๆ ในการขนส่งข้ามน้ำข้ามทะเลมายังประเทศจีน รวมถึงขั้นตอนที่ยุ่งยากต่างๆ การลงทุนเหล่านี้ไม่ใช่จำนวนน้อย และเธอต้องคิดอย่างรอบคอบด้วย"
"อีกทั้ง เสื้อผ้าจากต่างประเทศจะเหมาะกับสภาพแวดล้อมในประเทศเราหรือไม่ จะถูกใจคนในชาติเราหรือเปล่า เื่เหล่านี้เธอเคยคิดถึงบ้างไหม หากประมาทเพียงเล็กน้อย อาจจะพังไม่เป็ท่าเลยก็ได้นะ"
เนื่องจากอยู่ในร้านอาหารตะวันตก ป้าิ่จึงลดเสียงลง แต่เพราะความเงียบ ทำให้ทุกคนได้ยินอย่างชัดเจน
เจิ้งซวี่เหยามองหน้าหมี่หลันเยว่อย่างจริงจัง เขาไม่รู้เลยว่าเด็กสาวคนนี้มีสายตาที่กว้างไกลแบบนี้ แม้เขาจะไม่ได้ทำธุรกิจเสื้อผ้า แต่ก็คิดที่จะนำกลไกบางอย่างจากต่างประเทศเข้ามาในประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับความคิดของเด็กสาวคนนี้อย่างน่าประหลาด
"คุณป้าิ่ ไม่ต้องกังวลเื่นั้นค่ะ ตอนนี้คุณป้ายังไม่ได้ออกเดินทางเลย หนูเองก็อยู่ใน่สำรวจและเตรียมการอยู่เหมือนกัน ยอดขายของสินค้าต่างประเทศในประเทศจะเป็ยังไง ก็ต้องพิสูจน์กันต่อไป ไม่มีใครบอกได้หรอกค่ะว่ามันจะดีหรือไม่ดี มันขึ้นอยู่กับฝีมือของนักการตลาดด้วย"
"ดังนั้น เื่นี้ขอแค่คุณป้าช่วยดูร้านต่างๆ ตอนอยู่ที่ต่างประเทศ ช่วยหาร้านที่คุณป้าติดต่อได้มาให้หนู แล้วหนูก็จะเลือกต่อเองค่ะ ป้าิ่วางใจได้เลยค่ะ ถ้าเื่นี้สำเร็จจริงๆ หนูจะไม่ให้คุณป้าต้องเสียเวลาเปล่าแน่นอน"
เด็กสาวพูดอย่างสบายๆ แต่กัวหรูิ่กลับรู้สึกถึงความมุ่งมั่นที่แท้จริงในน้ำเสียงของเธอ นั่นหมายความว่า ต่อให้วันนี้ไม่ได้เจอกับเธอ เด็กสาวคนนี้ก็คงมีแผนการในเื่นี้อยู่แล้ว สู้เธอเข้ามาขายขนมจีบก่อนเสียเลยดีกว่า
ไม่ต้องพูดถึงผลประโยชน์ที่เด็กสาวสัญญาไว้ เพียงแค่ความทะเยอทะยานและความกล้าหาญที่เด็กสาวคนนี้แสดงออกมาั้แ่อายุยังน้อย ความสำเร็จในอนาคตของเธอจะต้องไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน ใครจะรู้ว่าในอนาคตเธออาจจะมีปัญหาที่ต้องขอความช่วยเหลือจากคนอื่นก็ได้ การเผื่อทางหนีทีไล่ไว้บ้าง ก็ถือเป็การป้องกันตัว
"พูดอะไรอย่างนั้นล่ะ หลันเยว่ แค่เื่เล็กน้อยเอง ทำไมต้องพูดจาให้ห่างเหินขนาดนั้นด้วย แต่เื่นี้ก็ต้องใจเย็นๆ หน่อยนะ ป้าไปถึงต่างประเทศก็ต้องเตรียมตัวให้พร้อม เพราะไม่คุ้นเคยกับสถานที่ จะประมาทไม่ได้ ป้าต้องเลือกสินค้าที่ทำได้ในระยะยาว"
"ส่วนเื่แบรนด์ที่จะแนะนำให้เธอ ป้าจะช่วยดูให้ระหว่างที่เลือกร้านของตัวเอง ถ้ามีร้านไหนสนใจที่จะร่วมมือกับในประเทศ ป้าจะจดความ้า เงื่อนไข และช่องทางการติดต่อของพวกเขาไว้ให้ ส่วนจะร่วมมือกันได้สำเร็จหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับเธอแล้วละ"
หมี่หลันเยว่ไม่คาดคิดว่าป้าิ่จะตอบตกลงเื่นี้อย่างง่ายดาย เพราะวันนี้เป็ครั้งแรกที่ทุกคนได้เจอกัน ต่างฝ่ายต่างไม่รู้จักกัน แถมก่อนหน้านี้เธอยังถือโอกาสต่อราคาอีกฝ่ายไปเสียด้วยซ้ำ ดังนั้นหมี่หลันเยว่จึงแค่พูดไปอย่างนั้นเอง ไม่ได้คาดหวังอะไรมากนัก แต่ไม่นึกเลยว่าอีกฝ่ายจะตอบรับอย่างง่ายดายแบบนี้
"อย่างนั้นต้องขอบคุณป้าิ่จริงๆ ค่ะ เื่นี้ไม่รีบร้อนค่ะ คุณป้าไปถึงต่างประเทศก็จัดการเื่ของคุณป้าก่อนเลยค่ะ ถ้าสะดวกเมื่อไหร่ค่อยช่วยหนูดู ถ้ารีบร้อนจนเสียงานของคุณป้า หนูจะรู้สึกผิดมากๆ เลยค่ะ"
เมื่อหมี่หลันเยว่ได้ยินอีกฝ่ายสัญญาว่าจะช่วยเหลือ ใบหน้าเล็กๆ ของเธอก็ยิ่งเปล่งประกายไปด้วยรอยยิ้ม
"ป้าบอกแล้วไงว่าเธอเกรงใจเกินไป ป้าบอกแล้วนี่นาว่าแค่เื่เล็กน้อย ตอนที่ป้าเลือกร้านเอง ก็ต้องไปดูหลายที่อยู่แล้ว ถือว่าช่วยเธอไปด้วยก็แล้วกัน เธอไม่ต้องพูดขอบคุณอะไรทั้งนั้นหรอก รอให้เธอประสบความสำเร็จก่อนค่อยพูดก็แล้วกัน"
กัวหรูิ่ยกแก้วไวน์แดงขึ้นจิบเล็กน้อย
"มาสิ หนู มาดื่มให้กับการร่วมมือของเรา แก้วนี้หนูใช้กาแฟก็แล้วกัน"
หมี่หลันเยว่ยกแก้วกาแฟขึ้น แล้วชนแก้วกับป้าิ่เบาๆ เสียงดังกังวานเล็กน้อยนั้น ก่อให้เกิดระลอกคลื่นในใจของคนทั้งสอง
บางทีความร่วมมือครั้งนี้อาจจะไม่น่าเชื่อถือมากนัก แต่อย่างน้อยก็มีการเริ่มต้นที่ดี ใครจะรู้ว่าเมื่อไหร่เส้นทางของคนทั้งสองจะมากันอีกครั้ง การผจญภัยในชีวิต มักจะเกิดขึ้นในเวลาที่คุณคาดไม่ถึงเสมอ เหมือนกับ่เวลานี้ คนแปลกหน้าสองคนกลับให้คำมั่นสัญญาที่ยาวนานและสวยงาม
หมี่หลันเยว่มีความรู้สึกว่าเื่นี้อาจจะต้องพึ่งพาป้าิ่จริงๆ ไม่ใช่เพราะอะไร แค่เป็สัญชาตญาณเท่านั้น และไม่ว่าสัญชาตญาณนั้นจะถูกหรือไม่ก็ตาม แผนการของหมี่หลันเยว่นี้ แม้ว่าก่อนหน้านี้จะเคยคิดไว้บ้างแล้ว แต่ให้พูดออกมาตามตรง ตอนนี้ก็เป็แค่ความคิดชั่ววูบเท่านั้นเอง
การสนทนาระหว่างหมี่หลันเยว่และกัวหรูิ่ ไม่ได้มีใครเสนอแนะอะไร ทุกคนเพียงแค่ตั้งใจฟัง แล้วก็มีความคิดเห็นที่แตกต่างกันไป เพราะเื่นี้ยังอีกยาวไกล ใครจะรู้ว่าสุดท้ายแล้วมันจะเป็จริงได้หรือไม่
"หลันเยว่ ป้าิ่จะคืนห้องสิ้นเดือนนี้แล้ว แล้วเธอมีแผนอะไรไหม?"
แม่เจิ้งนึกขึ้นได้กะทันหัน ตอนนี้เหลือเวลาอีกไม่นานก็จะสิ้นเดือนแล้ว พื้นที่ร้านขนาดใหญ่ขนาดนั้น ถ้าปล่อยทิ้งไว้เฉยๆ ก็น่าเสียดายจริงๆ ไม่รู้ว่าเด็กสาวคนนี้มีแผนอะไรในใจ
ถึงจะมีป้าิ่อยู่ด้วย แต่เมื่อได้ยินบทสนทนาของคนทั้งสองเมื่อครู่ แม่เจิ้งก็ไม่ได้ระแวดระวังอะไรเธอ เพราะเธอเป็คนที่กำลังจะไปต่างประเทศ แถมยังแสดงความปรารถนาดีต่อหลันเยว่ อยากจะช่วยเหลือ ด้วยความเฉลียวฉลาดของแม่เจิ้ง เธอจึงมองออกได้อย่างง่ายดายว่าป้าิ่หวังว่าในอนาคตหลันเยว่จะสามารถช่วยเหลือเธอได้
ในเมื่อเธอมีความคิดแบบนี้ เธอก็คงจะไม่เป็ภัยคุกคามต่อหลันเยว่ ถ้าเป็ไปได้ คนทั้งสองก็คงจะเป็ได้แค่พันธมิตรกันเท่านั้น ดังนั้นแม่เจิ้งจึงถามออกไปตรงๆ โดยไม่ได้รอให้กลับไปปรึกษากับหมี่หลันเยว่ที่บ้านก่อน
"อ้อ หนูจะให้ทางโรงงานเร่งผลิตใน่นี้ แล้วส่งเสื้อผ้ามาที่ปักกิ่งบ้าง จะปล่อยให้ร้านว่างเปล่าไม่ได้หรอกค่ะ นั่นมันเงินทั้งนั้นเลยนะคะ"
หมี่หลันเยว่แสดงสีหน้าเหมือนคนขี้เหนียวออกมา
"เหลือเวลาอีกแค่สิบกว่าวันเองนะ ทางนั้นเพิ่งจะผลิต แล้วยังต้องส่งของมาที่ปักกิ่งอีก จะไม่ทันเอาน่ะสิ?"
แม่เจิ้งรู้ที่อยู่ของบ้านเกิดของหลันเยว่แล้ว และรู้ว่าระยะทางค่อนข้างไกล การขนส่งระยะไกลในตอนนี้ ต้องใช้บริการขนส่งทางรถไฟ ซึ่งใช้เวลานานมาก
"ไม่เป็ไรค่ะ พอป้าิ่ย้ายออกไปแล้ว ทางนี้ก็ต้องตกแต่งร้านใหม่ด้วยค่ะ แต่คุณป้าคะ เื่ตกแต่งร้าน หนูรบกวนคุณป้าด้วยนะคะ เพราะหนูไม่ค่อยคุ้นเคยกับปักกิ่ง คุณป้าพอจะหาช่างก่อสร้างให้หนูได้ไหมคะ แบบก็มีอยู่แล้ว แค่ตกแต่งตามแบบที่หนูออกแบบไว้ก็พอค่ะ"
ในเื่ของค่าแรง หมี่หลันเยว่รู้สึกว่าเป็เื่ที่ยากจริงๆ ตอนที่อยู่ที่ซวงเฉิง เื่พวกนี้เฉียนหย่งจิ้นเป็คนติดต่อทั้งหมด ตอนนี้มาถึงปักกิ่ง เขายังไม่คุ้นเคยเท่าเธอเลย คงช่วยอะไรไม่ได้ ก็คงต้องพึ่งพาครอบครัวเจิ้งอีกแล้ว เดิมทีคิดว่าจะเว้นระยะห่างจากครอบครัวเจิ้ง การติดต่อที่ไม่จำเป็ก็จะพยายามให้น้อยที่สุด แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือความสัมพันธ์กลับยิ่งซับซ้อนมากขึ้น
"ไม่มีปัญหา เื่เล็กน้อยแค่นี้ เธอวางใจได้เลย หลันเยว่ ป้าจัดการให้เธอเรียบร้อยแน่นอน ไม่ต้องให้เธอต้องกังวลใจอะไรทั้งนั้น"
แม่เจิ้งโบกมืออย่างมีน้ำใจ
"ถ้าอย่างนั้นก็รบกวนคุณป้าด้วยนะคะ พอหาช่างก่อสร้างได้แล้ว ก็ส่งต่อให้พี่หย่งจิ้นได้เลยค่ะ ส่วนเื่ค่าตอบแทน ปล่อยให้พี่เผิงเฟยเป็คนจัดการ หนูแค่ติดต่อโรงงานอย่างเดียว จะได้ไม่เสียเวลาในการทำงานของหนูค่ะ"
เพียงไม่กี่คำ หมี่หลันเยว่ก็แจกจ่ายงานออกไป
หมี่หลันหยางและคนอื่นๆ ไม่ได้มีปฏิกิริยาอะไร เพราะพวกเขาคุ้นเคยกับขั้นตอนการทำงานของหมี่หลันเยว่เป็อย่างดี แต่แม่เจิ้ง เจิ้งซวี่เหยา และกัวหรูิ่กลับรู้สึกตกตะลึงเล็กน้อย ไม่คิดว่าเด็กสาวคนนี้จะสามารถจัดการเื่ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วขนาดนี้ แถมพวกเขายังไม่คิดว่า คนที่อยู่ข้างๆ เธอแต่ละคนก็มีพลังล้นเหลือเหมือนกัน
ทำไมถึงโชคดีขนาดนี้ คนเก่งๆ ถึงอยู่รอบตัวเธอ แถมเด็กหนุ่มเหล่านี้ดูเหมือนว่าอายุยังไม่มาก น่าจะยังไม่ถึงยี่สิบปี ความสามารถในการทำงานน่าจะเป็ที่น่ากังวล แต่เมื่อมองดูท่าทางของพวกเขาที่ได้ยินการจัดแจงของหมี่หลันเยว่แล้ว ไม่มีท่าทีขัดแย้งเลยแม้แต่น้อย นั่นก็แสดงว่าพวกเขาคงจะทำจนชินแล้ว
"หลันเยว่ เธอมีโรงงานเองเหรอ? ทำเสื้อผ้า?"
แม้ว่าจะประเมินความสามารถของหมี่หลันเยว่ไว้สูงแล้ว แต่กัวหรูิ่ก็ยังไม่คิดว่าด้วยอายุของหมี่หลันเยว่ เธอจะมีโรงงานเสื้อผ้าอยู่ในมือ แม้แต่เธอก็ยังไม่กล้าทำโรงงาน เพราะมันไม่ได้้าแค่พลังและความพยายามธรรมดาๆ
"อ้อ ที่บ้านเกิดมีโรงงานค่ะ ทำเสื้อผ้าวัยรุ่นค่ะ"
หมี่หลันเยว่ไม่ได้ปิดบังอะไร เพราะเสื้อผ้าจากโรงงานของเธอกำลังจะเข้ามาอยู่ในเมืองใหญ่แห่งนี้ เธอแค่กลัวว่าจะมีอิทธิพลน้อย ไม่ได้กลัวว่าจะมีอิทธิพลมากเกินไป
"ทำมานานแค่ไหนแล้ว?"
กัวหรูิ่เห็นได้ชัดว่าสนใจความสามารถของหมี่หลันเยว่มากขึ้น
"ก็ไม่กี่ปีค่ะ ประมาณห้าปีได้แล้วมั้งคะ"
คราวนี้ไม่ใช่แค่กัวหรูิ่แล้ว แม้แต่แม่เจิ้งและเจิ้งซวี่เหยาก็ตกตะลึงอีกครั้ง พวกเขารู้ว่าหมี่หลันเยว่ทำโรงงาน แต่ไม่คิดว่าเธอจะทำมาห้าปีแล้ว นั่นหมายความว่าเธอเริ่มทำั้แ่อายุเท่าไหร่ สิบขวบหรือสิบเอ็ดขวบ เหลือเชื่อเกินไปแล้ว
"นั่นก็หมายความว่า ตอนนี้มีขนาดใหญ่แล้วสิ โรงงานใหญ่แค่ไหน?"
ความอยากรู้อยากเห็นก็เหมือนเขื่อนที่เปิดออก มีความอยากรู้มากมายที่้าปลดปล่อย
"ไม่ได้ใหญ่โตอะไรค่ะ ตอนนี้มีคนงานประมาณร้อยคน ที่นั่นความ้าไม่ได้มากมายขนาดนั้น หนูไม่อยากขยายโรงงานที่บ้านเกิดแล้วค่ะ เลยทำแค่ขนาดนี้ก็พอ"
"โรงงานที่มีคนงานร้อยคน ต้องส่งสินค้าให้ร้านค้ามากแค่ไหน?"
กัวหรูิ่คิดว่าเป็การทำเองขายเอง ในใจของกัวหรูิ่คิดว่าแม้จะเป็โรงงานก็คงจะมีคนงานแค่สิบกว่าคน ไม่นึกเลยว่าจะเป็โรงงานขนาดใหญ่ที่มีคนงานเป็ร้อย
"ก็พอใช้ได้ค่ะ ตอนนี้ทำแค่ทั้งเมือง ยังไม่ได้ขยายไปที่อื่น นี่ไงคะ หนูเลยมาที่ปักกิ่งแล้ว"
หมี่หลันเยว่พูดอย่างใจเย็น แต่คนที่ได้ยินกลับไม่ใจเย็น โดยเฉพาะกัวหรูิ่ เธอตัดสินใจแล้วว่าคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้เมื่อครู่ เธอจะทำให้สำเร็จอย่างแน่นอน
