คำพูดของชิงหลุนทำให้ซูฉางอันรู้สึกใจสั่นขึ้นอย่างประหลาด ความรู้สึกที่อธิบายไม่ได้แต่กลับทำให้ความรู้สึกมึนหัวและตาลายะเิขึ้นกลางใจในพริบตา
และในตอนที่เขากำลังจะเก็บกลั้นความรู้สึกนั้นไม่อยู่ จู่ๆ ชิงหลุนก็กะพริบตาปริบๆแล้วประกายความรู้สึกสงสัยขึ้นทางสีหน้า
“เ้าเป็อะไรไปรึ? ” นางถามเบาๆ
คำพูดของชิงหลุนทำให้ซูฉางอันได้สติจากอาการประหลาดในที่สุดมันทำให้เขารู้สึกหวาดเสียวขึ้นในอก และก่นด่าตัวเองในใจที่มีความคิดประหลาดแบบนั้นกับอาจารย์อาอย่างอดไม่ได้
“เ้ายังไม่ได้บอกข้าเลย ว่าเ้ารู้สึกไม่ดีเพราะเื่อะไร?”ชิงหลุนถามขึ้นอีกครั้ง นางคิดว่าซูฉางอันในตอนนี้ช่างประหลาดเหลือเกินปานถูกใครดึงเอาิญญาไปแล้วเช่นนั้น ถามอะไรก็ไม่ยอมตอบ
ความเป็ห่วงเป็ใยจากชิงหลุน ทำให้ซูฉางอันรู้สึกละอายใจกับความคิดของตนเองเมื่อครู่ท่ามกลางความละอายใจและรู้สึกผิดเช่นนี้ เขาย่อมตอบคำถามอย่างไม่ปิดบังอยู่แล้ว
หลังครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งในที่สุดเขาก็เล่าเื่ที่เกิดขึ้นในงานเลี้ยงั้แ่เริ่มจนจบงานอย่างใจเย็น เขาเล่าอย่างละเอียดไม่ได้ละเลยต่อรายละเอียดใดใดแม้แต่น้อย เขาคิดว่าหากทำเช่นนั้นชิงหลุนอาจรับรู้ได้ถึงความรู้สึกของเขาได้มากขึ้น
เพราะชิงหลุนอยากทำให้เขารู้สึกดีขึ้นนั่นทำให้เขารู้สึกซึ้งใจเป็อย่างมาก จึงให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ เท่าที่ตนจะทำได้นั่นเอง
แต่หลังซูฉางอันเล่าเื่จนจบ ชิงหลุนกลับมองดูซูฉางอันด้วยสีหน้างุนงงดวงตาคู่สวยกะพริบปริบๆ ก่อนสาวงามจะถามขึ้นอย่างไม่สู้แน่ใจนัก “จบแล้วรึ?”
“หืม?จบแล้วล่ะ” ซูฉางอันบอก
ชิงหลุนชะงักไป นางพยายามทบทวนเื่ที่ซูฉางอันเล่าในหัวอย่างละเอียดอีกครั้งและถามขึ้นอย่างไม่มั่นใจ “ที่เ้าไม่สบายใจเพราะกู่เซี่ยนจวินกับเซี่ยโหวฟ่งอวี้รึ?”
ชิงหลุนมีวิธีคิดที่เรียบง่ายมาก นางคิดว่าเซี่ยโหวฟ่งอวี้กับกู่เซี่ยนจวินโกหกซูฉางอันและการโกหกย่อมเป็เื่ไม่ดีอยู่แล้ว เหตุนี้ซูฉางอันที่ไปเจอเื่ไม่ดีมาจึงรู้สึกไม่ดี นับเป็เื่ปกติและสมเหตุสมผลมาก
ส่วนเื่ของหรูเยี่ยน ชิงหลุนข้ามเื่ของนางไปทันที นางไม่คิดว่าซูฉางอันเกี่ยวข้องกับหรูเยี่ยนแต่อย่างใดและในเมื่อไม่เกี่ยวข้องกัน ไม่เห็นต้องรู้สึกเสียใจเพราะเื่ของนางเลย
“มันก็ไม่ใช่ทั้งหมดหรอก... ยังเป็เพราะ...” ซูฉางอันอยากพูดเสริมแต่ก็รู้สึกว่าการกระทำนั้นแลดูอ่อนแอและอ่อนไหวเกินไป และสัญชาตญาณทำให้เขาไม่อยากแสดงด้านที่ไม่ดีของตัวเองต่อหน้าชิงหลุนดังนั้นซูฉางอันจึงหยุดคำพูดที่กำลังจะเอ่ยเอาไว้แล้วพยักหน้าหงึกหงักเป็การยอมรับต่อการคาดเดาของชิงหลุน
หลังได้รับการยืนยันจากซูฉางอัน ชิงหลุนก็ขมวดคิ้ว แล้วเริ่มครุ่นคิดขึ้นในใจ
เซี่ยโหวฟ่งอวี้และกู่เซี่ยนจวินล้วนเป็สตรีรูปโฉมงดงามทั้งยังสนิทสนมกับซูฉางอันเป็อย่างมาก แต่เพราะพวกนางโกหกซูฉางอันจึงต้องเสียหญิงงามไปถึงสองคน
นางหวนนึกถึงคำพูดที่ฝานหรูเยว่บอกกับนางเมื่อ่เช้าอีกครั้ง
เมื่อเด็กไม่มีลูกกวาด ต้องให้ลูกกวาดกับเด็ก
เมื่อลูกศิษย์ถูกต่อว่า ต้องให้คำชื่นชมกับเขา
ในเมื่อซูฉางอันเสียโฉมงามสองคน หากอยากให้เขารู้สึกดีขึ้น ย่อมต้องหาหญิงสาวที่งดงามพอๆกันมาทดแทน
แต่นางจะไปหาหญิงสาวที่สวยพอๆ กับสองนางนั้นมาจากที่ไหนละ? ชิงหลุนเริ่มกลุ้มใจขึ้นในที่สุด อีกอย่าง ต่อให้จะหาเจอ แต่หากนางไปจับผู้หญิงพวกนั้นมาให้ซูฉางอันเท่ากับว่านางผูกบ่วงแห่งเหตุและผลขึ้นใหม่กับหญิงสองนางนั้นแบบนี้ก็ได้ไม่คุ้มเสียน่ะสิ
ครุ่นคิดไปพลาง ชิงหลุนก็ขมวดคิ้วมุ่นมากขึ้นเรื่อยๆ มีเพียงน้อยครั้งเท่านั้นที่นางเจอปัญหายากเย็นเช่นนี้ทำให้นางเคร่งเครียดขึ้นทันที
ทางด้านซูฉางอัน เมื่อเห็นชิงหลุนมีสีหน้าเคร่งเครียด ท้งนึกสงสัยขึ้นในใจและเอ่ยถามออกไป “ชิงหลุน เ้าเป็อะไรไปรึ? ”
คำถามของซูฉางอันทำให้ชิงหลุนได้สติกลับมาอีกครั้ง นางคิดว่าไม่ว่าอย่างไรก็ควรจะถามซูฉางอันเสียหน่อยอย่างน้อยก็ควรจะหาหญิงสาวรูปโฉมงดงามพวกนั้นให้เจอก่อน ส่วนเื่หลังจากนั้นค่อยว่ากันอีกทีก็ไม่เสียหายชิงหลุนคิดขึ้นในใจ
“เ้ารู้หรือเปล่าว่าจะหาผู้หญิงที่สวยเหมือนกับเซี่ยโหวฟ่งอวี้กับกู่เซี่ยนจวินได้จากที่ไหน?” นางถามซูฉางอัน
ซูฉางอันอึ้งไปทันที เขาไม่รู้ว่าทำไมชิงหลุนถึงถามคำถามแบบนี้ออกมากะทันหันแต่ถึงกระนั้น ซูฉางอันก็ยังช่วยคิดอย่างจริงจัง
แต่ในเมืองฉางอันแห่งนี้ เขารู้จักคนเพียงไม่มากและกู่เซี่ยนจวินกับเซี่ยโหวฟ่งอวี้เป็สตรีที่งดงามมากจริงๆ ดังนั้น แม้จะคิดอยู่นานแต่เขาก็ยังหาคำตอบไม่ได้เสียทีจึงเงยหน้าขึ้นอย่างเสียดาย เพื่อเตรียมจะบอกคำตอบที่ได้ออกไป
แต่วินาทีที่ได้เห็นหน้าชิงหลุน เขาก็อยากจะตบหน้าตัวเองแรงๆ สักฉาด
คนที่สวยเหมือนกับกู่เซี่ยนจวินและเซี่ยโหวฟ่งอวี้ อยู่ตรงหน้าแล้วไม่ใช่หรือ?เขาคิดแบบนั้น
ดังนั้น คำตอบของเขาก็คือ “เ้าอย่างไรละ ผู้หญิงที่สวยเหมือนกับพวกนาง”
ชิงหลุนอึ้งไปไม่ต่างกัน นางไม่ได้สนใจเื่รูปโฉมของตัวเองแต่นั่นไม่สำคัญอะไรเลย เพราะแค่ซูฉางอันคิดว่านางสวยพอๆกับกู่เซี่ยนจวินและเซี่ยโหวฟ่งอวี้ แค่นั้นก็พอแล้ว อีกอย่างนางไม่อาจติดบ่วงแห่งเหตุและผลกับตัวเองได้เสียหน่อย
ซูฉางอันหาทางออกให้นางได้แล้ว ในที่สุดความกลัดกลุ้มบนดวงหน้างามก็สลายไปก่อนริมฝีปากจะถูกยกขึ้นกลายเป็รอยยิ้ม
นางคิดว่าแค่ตัวเองทำกับซูฉางอันอย่างที่กู่เซี่ยนจวินและเซี่ยโหวฟ่งอวี้เคยทำซูฉางอันต้องรู้สึกดีขึ้นแน่ๆ
เหตุนี้ นางจึงย้อนคิดกลับไปอย่างจริงจังว่าพวกนางทำอย่างไรเวลาอยู่กับซูฉางอัน
หลังผ่านไปหลายอึดใจ ในที่สุดดวงตาคู่สวยก็เป็ประกายขึ้นชิงหลุนมองไปทางซูฉางอันด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะกางแขนออก แล้วกอดเขาเอาไว้เบาๆ
“ให้ข้าเป็ผู้หญิงของเ้าเถอะ” ชิงหลุนพูดข้างหูซูฉางอันเบาๆ
ซูฉางอันไม่คิดไม่ฝันเลยว่าชิงหลุนจะทำเช่นนี้ จึงเตรียมจะดันร่างของนางออกไปตามคำสั่งของสัญชาตญาณ
แต่กลิ่นหอมจากร่างของชิงหลุน เส้นผมตรงหน้าผากต้องสายลมพัดปลิวไสวรวมไปถึงเสียงที่ดังขึ้นข้างหู ทั้งหมดนั้นล้วนทำให้เขาใจสั่นได้ทั้งสิ้นเขาหัวใจเต้นแรงอย่างที่ไม่เคยเป็มาก่อน แรงมากจนเขาสามารถได้ยินเสียงหัวใจของตัวเองอย่างชัดเจนและเสียงนั้นก็ทำให้เขาแทบจะหยุดหายใจไปเลยทีเดียว
มือที่อยากจะผลักร่างบางออกไปถูกยกขึ้น แต่ก็ถูกวางลงในเวลาต่อมาหลังลังเลอยู่นาน ในที่สุดเขาก็ยอมรับอ้อมกอดนั้นแต่โดยดี
“แบบนี้ เ้ารู้สึกอารมณ์ดีขึ้นบ้างไหม? ” เสียงที่แสนอ่อนโยนของชิงหลุนดังขึ้นข้างหูของซูฉางอัน
“อืม” ซูฉางอันตอบกลับไปเบาๆ
เมื่อได้ยินดังนั้น ชิงหลุนยิ้มกว้างมากขึ้นกว่าเดิมทันที นางคิดว่าวิธีที่ฝานหรูเยว่บอกมาช่างได้ผลดีจริงๆ
“นี่...ข้าจะบอกอะไรเ้าอีกอย่าง ดีไหม?” ชิงหลุนถามขึ้นอีกครั้ง
“อืม” ซูฉางอันที่ดื่มด่ำอยู่กับััอันแสนงดงามจากชิงหลุนสูญเสียสติและความคิดความอ่านไปสิ้นจึงตอบออกไปโดยไม่ทันคิดอะไร
“ข้าชอบเ้า”
เสียงของชิงหลุนดังก้องอยู่ข้างหูของซูฉางอันอย่างต่อเนื่องราวกับเสียงกระดิ่งของอูฐในทะเลทราย และคล้ายกับเสียงของนกนางนวลข้างแม่น้ำ
การชอบใครคนหนึ่งเป็เื่ดี นี่เป็สิ่งที่ฝานหรูเยว่บอกกับนาง
การได้รู้เื่ดีๆ ย่อมทำให้รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นอยู่แล้วนี่เป็ความคิดของนาง
แต่คิดไม่ถึงเลยว่า เมื่อพูดคำนั้นออกไป หัวใจที่ไม่มีคลื่นแห่งความรู้สึกปรากฏขึ้นนานเกือบสามร้อยปีของนางกลับสั่นไหวขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้