เกิดใหม่ไปเป็นฮูหยินแพทย์ ของท่านขุนนางทรยศ

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
ลด
เพิ่ม
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

        จางเหล่าซานเป็๲บุรุษหยาบกระด้าง จะมีผ้าเช็ดหน้าได้อย่างไรดังนั้นจึงหันมองไปสตรีไม่กี่คนของสกุลอวี๋ที่อยู่ภายในห้องถึงแม้สตรีแซ่อวี๋โจวจะไม่ยินดี แต่นางก็รู้ว่าไม่อาจยั่วโมโหจางเหล่าซานฉะนั้นถึงยอมส่งผ้าเช็ดหน้าของตนอย่างเก้ๆ กังๆ

        จางเหล่าซานรับผ้าเช็ดหน้ามา ไม่ปล่อยให้ถึงมือผู้อื่นส่งผ้าเช็ดหน้าไปข้างปากบุตรชายด้วยตนเองเพื่อให้คายเสมหะออกมา

        หลังจากคายเสมหะออกมา สตรีแซ่อวี๋โจวและสตรีแซ่จ้าวรีบหันหน้าหนีภายในแววตาเปี่ยมด้วยความรังเกียจ

        อวี๋เจียวเอื้อมมือไปรับผ้าเช็ดหน้ามา ตั้งใจมองเสมหะที่เด็กชายคายออกมาอย่างละเอียดเป็๞เวลาครู่หนึ่งจากนั้นวางผ้าเช็ดหน้าสกปรกลงบนโต๊ะอย่างไม่เรียบร้อย

        อวี๋เจียวใช้นิ้วกดลงบนซี่โครงด้านข้างของเด็กชาย“ตรงนี้มักรู้สึกเจ็บอยู่บ่อยครั้งใช่หรือไม่?”

        เด็กชายลูบจุดนั้นที่อวี๋เจียวกดแล้วพยักหน้า

        อวี๋เจียวหันไปทางจางเหล่าซาน “เขามักไม่อยากอาหาร มือเท้าชาท้องผูก พูดติดอ่างใช่หรือไม่? ถึงขั้นวิงเวียนศีรษะ ใจร้อนอยู่ไม่เป็๲สุขจนโมโหง่าย?”

        จางเหล่าซานพยักหน้าระรัว ท่าทีเปลี่ยนไปไม่น้อยเขาคิดไม่ถึงว่าแม่นางน้อยที่ไม่น่าเชื่อถือตรงหน้าจะมีความสามารถจริงๆอาการป่วยที่กล่าวมาล้วนถูกต้องถึงเก้าในสิบส่วน

        “บุตรชายของข้ามีอาการป่วยเช่นที่เ๽้ากล่าวมาก่อนหน้าทั้งหมดแต่เขานิสัยว่านอนสอนง่ายและรู้ความ ไม่เคยใจร้อนจนโมโหง่ายสักครั้ง”จางเหล่าซานเอ่ย

        อวี๋เจียวหัวเราะเยาะเสียงเบา “ไม่เคยมีสักครั้ง? ผู้ที่เป็๞บิดาเช่นเ๯้าคงจะไม่รู้จักบุตรชายของตนเกินไปเสียแล้ว”

        จางเหล่าซานถูกต่อว่าจนไร้วาจาจะเอ่ย ใบหน้ายังฉายแววประหลาดใจฝืนเอ่ยแก้ต่างว่า “บุตรชายของข้านิสัยว่านอนสอนง่าย น้อยครั้งนักจะโมโห”

        บุรุษร่างกำยำที่ยืนอยู่ด้านหลังของจางเหล่าซานเกาหัวเอ่ยอ้ำอึ้งว่า “ท่านผู้ดูแล ฉีเกอเอ๋อร์เล่นกับเด็กในหมู่บ้านไม่ได้สักคนขอรับมักจะลงไม้ลงมือกันตลอด พี่สะใภ้คอยปกป้องอย่างเข้มงวดไม่กล้าบอกท่านมาโดยตลอดขอรับ”

        จางเหล่าซานยังคงอธิบายเพื่อปกป้องบุตรของตน “นั่นเป็๲กลุ่มเด็กซุกซนเพราะฉีเกอเอ๋อร์ของข้าเป็๲โรคลมชักจึงมักยั่วแหย่เขาจะมาโทษฉีเกอเอ๋อร์ของข้าได้อย่างไร!”

        อวี๋เจียวไม่สนใจคำกล่าวของจางเหล่าซาน เอ่ยถามผู้เฒ่าอวี๋ว่า“ห้องสมุนไพรในเรือนมีอ้ายจิ่ว [1] หรือไม่เ๯้าคะ?”

        ผู้เฒ่าอวี๋รีบพยักหน้า “มี ข้าจะไปเอาเดี๋ยวนี้”

        จางเหล่าซานมองอวี๋เจียว น้ำเสียงอ่อนโยนลงไม่น้อย “แม่นางโรคลมชักของบุตรชายข้า เ๯้าสามารถรักษาหรือไม่?”

        อวี๋เจียวพยักหน้า“เขามีอาการเสมหะอุดตันช่องทวารหัวใจจนเกิดโรคลมชักเพราะใจสั่น รักษาได้”

        ในยามที่อวี๋เจียวเอ่ยประโยคนี้ออกมาดวงตาเลือนรางของเด็กชายผู้นั่งเงียบเชียบพลันทอประกายพลางจดจ้องอวี๋เจียวไม่วางตา

        จางเหล่าซานดีใจจนถูมือไปมา ปรีดาจนไม่รู้ว่าควรจะเอ่ยสิ่งใด

        ผู้เฒ่าอวี๋นำอ้ายจิ่วกลับมาจากห้องสมุนไพรอวี๋เจียวหยิบอ้ายจิ่วขึ้นมา ขณะมองเด็กชายทันใดนั้นนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้คือรัชศกไท่เยี่ยนไม่ใช่การรักษาโรคโดยไร้การแบ่งเพศเหมือนชาติก่อนเเละเป็๞เพียงโลกที่มีแค่ความสัมพันธ์ระหว่างแพทย์และคนไข้เท่านั้น

        อวี๋เจียวรู้สึกปวดหัวอย่างไม่อาจเลี่ยงหัวคิ้วขมวดเข้าหากันเล็กน้อย

        จางเหล่าซานพลันหวั่นใจเมื่อเห็นสีหน้าเช่นนี้ของนางเอ่ยด้วยความตื่นตระหนกว่า “แม่...แม่นาง...เกิดอะไรขึ้นอีกหรือ?”

        อวี๋เจียวส่ายหน้า “ไม่มีอะไร”

        อวี๋เจียวเอ่ยกับอวี๋หรูไห่ “ข้าไม่สะดวกลงมือท่านพาเขาไปที่ห้องสมุนไพร ใช้อ้ายจิ่วรมควันจุดสองหยิน [2] เป็๞เวลาหนึ่งชั่วยามเ๯้าค่ะ”

        ผู้เฒ่าอวี๋เข้าใจทันใด รับอ้ายจิ่วมาจากมือของอวี๋เจียวใบหน้าค่อนข้างประหลาดใจภายในใจใคร่รู้ยิ่งนักว่าอาจารย์ของอวี๋เจียวสอนวิชาหมอพิสดารอะไรให้นางบ้างนึกไม่ถึงว่าการรักษาโรคลมชักยังต้องใช้อ้ายจิ่วรมควันบริเวณสองหยินนั้น

        จางเหล่าซานไม่รู้ว่าจุดสองหยินคืออะไรจึงเอ่ยด้วยความไม่วางใจนัก“แม่นางเมิ่ง ท่านหมออวี๋อายุมากแล้ว จะไหวหรือ? มิสู้ท่านลงมือรักษาบุตรชายของข้าด้วยตนเอง ข้าจะได้วางใจสักหน่อย”

        สีหน้าของอวี๋หรูไห่ไม่น่ามอง คิดไม่ถึงว่าจะถูกผู้อื่นดูถูกจนถึงขั้นนี้ไม่อาจอดกลั้นสีหน้าอย่างยิ่ง

        “แน่นอนว่าไหว ถึงอย่างนั้น นายท่านสกุลพวกเราก็เป็๞ท่านหมอเ๹ื่๪๫นี้ท่านไม่จำเป็๞ต้องกังวล”อวี๋เจียวไม่อาจปล่อยให้อวี๋หรูไห่ตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากเกินไปจึงเอ่ยออกไปอย่างราบเรียบ

        ผ่านไปหนึ่งก้านธูป อวี๋หรูไห่พาจางฉีออกมาจากห้องฝั่งตะวันตกจางเหล่าซานมองบุตรชายของตนด้วยสีหน้าตื่นเต้น “ฉีเกอเอ๋อร์ เป็๲อย่างไรบ้าง?”

        ใบหน้าขาวซีดก่อนหน้านี้ของจางฉีเปลี่ยนเป็๞เผยรอยยิ้มผ่อนคลายยืดแขนขาทั้งสี่ออกมา “ท่านพ่อ สบายเหลือเกินขอรับ ข้ารู้สึกผ่อนคลายไปทั้งตัว”

        นี่คือประโยคแรกที่เด็กชายปริปากเอ่ย๻ั้๹แ๻่มาถึงจวนสกุลอวี๋จางเหล่าซานรู้สึกตื่นเต้น เอ่ยด้วยความยินดีว่า “แม่นางเมิ่ง...ท่านหมอเมิ่งโรคลมชักของบุตรชายข้ารักษาหายแล้วหรือ?”

        “มีหรือจะง่ายดายถึงเพียงนี้?” อวี๋เจียวเอ่ย “อาการเสมหะปิดทวารหัวใจของเขาจำต้องค่อยๆ รักษาข้าจะเขียนเทียบยา คนไข้ต้องกินยาให้ตรงเวลา ใช้อ้ายจิ่วทุกสองวันหากเสมหะปิดทวารหัวใจหายไปภายในหนึ่งเดือนสามารถหยุดยาแต่ยังต้องใช้อ้ายจิ่วต่อไป”

        จางเหล่าซานพยักหน้าระรัว ท่าทางทั้งถ่อมตนและนอบน้อม“ล้วนแต่ฟังท่าน ขอเพียงรักษาบุตรชายของข้าให้หายดี ท่านกล่าวเช่นใดล้วนแต่เป็๲เช่นนั้น”

        อวี๋หรูไห่หยิบพู่กันขึ้นมาเตรียมจะเขียนเทียบยาอวี๋เจียวเอ่ยขึ้นว่า “ไม่ต้องเขียนเทียบยาแล้วเ๯้าค่ะ”

        นางมองไปทางจางเหล่าซานแล้วเอ่ย “ท่านจำเทียบยาเอาไว้”

        จางเหล่าซานรีบพยักหน้า เอ่ยกับบุรุษไม่กี่คนที่อยู่ข้างหลังว่า“ทุกคนตั้งใจจำ”

        อวี๋เจียวเอ่ยอย่างเอ้อระเหย “กานซุ่ย [3] สองสลึง บดให้ละเอียดเป็๲ผง เอาใส่ในหัวใจหมู มัดให้แน่นใช้ไฟอ่อนตุ๋นจนได้น้ำยาออกมา ใส่เฉินซา [4] ไม่ถึงหนึ่งสลึง แยกออกเป็๲สี่ส่วน ทุกวันดื่มหนึ่งส่วนใช้ยาที่ได้จากหัวใจหมูมาต้มผสมครึ่งหนึ่ง”

        จางเหล่าซานเอ่ยทวนหนึ่งรอบ “แม่นางเมิ่ง ข้าจำได้หมดแล้ว”

        อวี๋เจียวกำชับหนึ่งประโยค “จำต้องใช้หัวใจหมูที่สดใหม่”

        อวี๋หรูไห่เอากานซุ่ยและเฉินซามาให้จางเหล่าซานด้วยนิสัยใจคอของจางเหล่าซานจึงโก่งราคาสูง เรียกค่ารักษาจำนวนหนึ่งตำลึงเงิน

        ความยินดีปรีดาเหลือล้นของจางเหล่าซานในเมื่อครู่เลือนหายไปหลังได้ยินจำนวนเงินค่ารักษาตลอดหลายปีมานี้เขาพาบุตรชายตระเวนหาหมอรักษาโรคไม่น้อยครั้งจ่ายเงินอย่างเสียเปรียบไปจำนวนมาก ทั้งยังถูกหมอใจดำหลอกเอาเงินไปก็ไม่น้อย

        “ข้าสามารถจ่ายเงินค่าหมอจำนวนหนึ่งตำลึงแต่หากนับจากนี้ไปสามเดือนโรคลมชักของบุตรชายข้าไม่หายดีข้าจะกลับมาเอาเงินค่าหมอนี้” จางเหล่าซานหรี่ตามองอวี๋หรูไห่เอ่ยพลางแสร้งแย้มยิ้ม

        อวี๋หรูไห่ใจฝ่อทันใด เพียงแต่ยังคงฝืนปั้นหน้าแย้มยิ้มจอมปลอมหลังจากส่งพวกจางเหล่าซานจนพ้นประตูอวี๋หรูไห่ปิดประตูจวนแล้วถ่มน้ำลายลงพื้นอย่างแรงขบเขี้ยวเคี้ยวฟันบริภาษอยู่หลายประโยค

        ครั้นกลับเข้ามาในโถง อวี๋หรูไห่เอ่ยถามอวี๋เจียวอย่างไม่วางใจนัก“โรคลมชักของบุตรชายจางเหล่าซานสามารถรักษาได้จริงๆ หรือ?”

        อวี๋เจียวปรายตามองเขาชั่วครู่แล้วพยักหน้า

        อวี๋หรูไห่ถึงเบาใจลงเล็กน้อยเงินหนึ่งตำลึงในอ้อมกอดยังไม่ทันอุ่น เขาไม่อยากเอาคืนให้ผู้อื่น

        หลังจากอวี๋หรูไห่เก็บเงินเรียบร้อย ภายในใจเกิดความคิดบางประการหากเมิ่งอวี๋เจียวสามารถรักษากระทั่งโรคลมชัก เช่นนั้นนางก็คงสามารถรักษาร่างกายเ๽้าห้าใช่หรือไม่?

        เมื่อเกิดความคิดนี้ขึ้นมา อวี๋หรูไห่รีบกลับเข้ามาในห้องโถงใบหน้าเปี่ยมด้วยความหวังแรงกล้า “แม่หนูเมิ่ง เ๯้าเคยจับชีพจรให้เ๯้าห้าหรือไม่? มีหนทางรักษาร่างกายของเขาหรือไม่?”

        อวี๋เจียวใคร่ครวญครู่หนึ่งก่อนจะส่ายหน้า“ถึงแม้ข้าจะไม่เคยจับชีพจรให้พี่ห้า แต่พอรู้ถึงสภาพร่างกายของเขาบ้างเ๽้าค่ะเดิมทีร่างกายของพี่ห้าทรุดโทรมอย่างมาก ยากจะบำรุงรักษา”

        อวี๋ฉี่เจ๋อจะอายุสั้น คำกล่าวของท่านหมอเ๮๧่า๞ั้๞ไม่ใช่เ๹ื่๪๫เท็จ

        ภายในใจอวี๋หรูไห่รู้สึกผิดหวังอย่างไม่อาจเลี่ยงเมื่อได้ยินคำกล่าวเพียงแต่อวี๋เจียวไม่ได้เอ่ยอย่างเด็ดขาดจึงซักไซ้ต่อไปว่า“เหตุใดถึงบอกว่ายากบำรุงรักษา ยังพอมีวิธีบำรุงรักษาอย่างนั้นหรือ?”

 

 

 

        ……………………

        เชิงอรรถ

        [1] อ้ายจิ่ว 艾灸 คือการรักษาโดยการรมควันด้วยสมุนไพรจีนที่รู้จักกันในนามโกฐจุฬาลัมพา

        [2] จุดสองหยินคืออวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกและทวารหนัก

        [3] กานซุ่ย มีรสขม ฤทธิ์เย็น ใช้รักษาอาการบวมน้ำ โรคท้องมาน หอบหืดโรคลมชัก อุจจาระและปัสสาวะไม่สะดวก

        [4] เฉินซาคือเกล็ดหินแดง

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้