จางเหล่าซานเป็บุรุษหยาบกระด้าง จะมีผ้าเช็ดหน้าได้อย่างไรดังนั้นจึงหันมองไปสตรีไม่กี่คนของสกุลอวี๋ที่อยู่ภายในห้องถึงแม้สตรีแซ่อวี๋โจวจะไม่ยินดี แต่นางก็รู้ว่าไม่อาจยั่วโมโหจางเหล่าซานฉะนั้นถึงยอมส่งผ้าเช็ดหน้าของตนอย่างเก้ๆ กังๆ
จางเหล่าซานรับผ้าเช็ดหน้ามา ไม่ปล่อยให้ถึงมือผู้อื่นส่งผ้าเช็ดหน้าไปข้างปากบุตรชายด้วยตนเองเพื่อให้คายเสมหะออกมา
หลังจากคายเสมหะออกมา สตรีแซ่อวี๋โจวและสตรีแซ่จ้าวรีบหันหน้าหนีภายในแววตาเปี่ยมด้วยความรังเกียจ
อวี๋เจียวเอื้อมมือไปรับผ้าเช็ดหน้ามา ตั้งใจมองเสมหะที่เด็กชายคายออกมาอย่างละเอียดเป็เวลาครู่หนึ่งจากนั้นวางผ้าเช็ดหน้าสกปรกลงบนโต๊ะอย่างไม่เรียบร้อย
อวี๋เจียวใช้นิ้วกดลงบนซี่โครงด้านข้างของเด็กชาย“ตรงนี้มักรู้สึกเจ็บอยู่บ่อยครั้งใช่หรือไม่?”
เด็กชายลูบจุดนั้นที่อวี๋เจียวกดแล้วพยักหน้า
อวี๋เจียวหันไปทางจางเหล่าซาน “เขามักไม่อยากอาหาร มือเท้าชาท้องผูก พูดติดอ่างใช่หรือไม่? ถึงขั้นวิงเวียนศีรษะ ใจร้อนอยู่ไม่เป็สุขจนโมโหง่าย?”
จางเหล่าซานพยักหน้าระรัว ท่าทีเปลี่ยนไปไม่น้อยเขาคิดไม่ถึงว่าแม่นางน้อยที่ไม่น่าเชื่อถือตรงหน้าจะมีความสามารถจริงๆอาการป่วยที่กล่าวมาล้วนถูกต้องถึงเก้าในสิบส่วน
“บุตรชายของข้ามีอาการป่วยเช่นที่เ้ากล่าวมาก่อนหน้าทั้งหมดแต่เขานิสัยว่านอนสอนง่ายและรู้ความ ไม่เคยใจร้อนจนโมโหง่ายสักครั้ง”จางเหล่าซานเอ่ย
อวี๋เจียวหัวเราะเยาะเสียงเบา “ไม่เคยมีสักครั้ง? ผู้ที่เป็บิดาเช่นเ้าคงจะไม่รู้จักบุตรชายของตนเกินไปเสียแล้ว”
จางเหล่าซานถูกต่อว่าจนไร้วาจาจะเอ่ย ใบหน้ายังฉายแววประหลาดใจฝืนเอ่ยแก้ต่างว่า “บุตรชายของข้านิสัยว่านอนสอนง่าย น้อยครั้งนักจะโมโห”
บุรุษร่างกำยำที่ยืนอยู่ด้านหลังของจางเหล่าซานเกาหัวเอ่ยอ้ำอึ้งว่า “ท่านผู้ดูแล ฉีเกอเอ๋อร์เล่นกับเด็กในหมู่บ้านไม่ได้สักคนขอรับมักจะลงไม้ลงมือกันตลอด พี่สะใภ้คอยปกป้องอย่างเข้มงวดไม่กล้าบอกท่านมาโดยตลอดขอรับ”
จางเหล่าซานยังคงอธิบายเพื่อปกป้องบุตรของตน “นั่นเป็กลุ่มเด็กซุกซนเพราะฉีเกอเอ๋อร์ของข้าเป็โรคลมชักจึงมักยั่วแหย่เขาจะมาโทษฉีเกอเอ๋อร์ของข้าได้อย่างไร!”
อวี๋เจียวไม่สนใจคำกล่าวของจางเหล่าซาน เอ่ยถามผู้เฒ่าอวี๋ว่า“ห้องสมุนไพรในเรือนมีอ้ายจิ่ว [1] หรือไม่เ้าคะ?”
ผู้เฒ่าอวี๋รีบพยักหน้า “มี ข้าจะไปเอาเดี๋ยวนี้”
จางเหล่าซานมองอวี๋เจียว น้ำเสียงอ่อนโยนลงไม่น้อย “แม่นางโรคลมชักของบุตรชายข้า เ้าสามารถรักษาหรือไม่?”
อวี๋เจียวพยักหน้า“เขามีอาการเสมหะอุดตันช่องทวารหัวใจจนเกิดโรคลมชักเพราะใจสั่น รักษาได้”
ในยามที่อวี๋เจียวเอ่ยประโยคนี้ออกมาดวงตาเลือนรางของเด็กชายผู้นั่งเงียบเชียบพลันทอประกายพลางจดจ้องอวี๋เจียวไม่วางตา
จางเหล่าซานดีใจจนถูมือไปมา ปรีดาจนไม่รู้ว่าควรจะเอ่ยสิ่งใด
ผู้เฒ่าอวี๋นำอ้ายจิ่วกลับมาจากห้องสมุนไพรอวี๋เจียวหยิบอ้ายจิ่วขึ้นมา ขณะมองเด็กชายทันใดนั้นนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้คือรัชศกไท่เยี่ยนไม่ใช่การรักษาโรคโดยไร้การแบ่งเพศเหมือนชาติก่อนเเละเป็เพียงโลกที่มีแค่ความสัมพันธ์ระหว่างแพทย์และคนไข้เท่านั้น
อวี๋เจียวรู้สึกปวดหัวอย่างไม่อาจเลี่ยงหัวคิ้วขมวดเข้าหากันเล็กน้อย
จางเหล่าซานพลันหวั่นใจเมื่อเห็นสีหน้าเช่นนี้ของนางเอ่ยด้วยความตื่นตระหนกว่า “แม่...แม่นาง...เกิดอะไรขึ้นอีกหรือ?”
อวี๋เจียวส่ายหน้า “ไม่มีอะไร”
อวี๋เจียวเอ่ยกับอวี๋หรูไห่ “ข้าไม่สะดวกลงมือท่านพาเขาไปที่ห้องสมุนไพร ใช้อ้ายจิ่วรมควันจุดสองหยิน [2] เป็เวลาหนึ่งชั่วยามเ้าค่ะ”
ผู้เฒ่าอวี๋เข้าใจทันใด รับอ้ายจิ่วมาจากมือของอวี๋เจียวใบหน้าค่อนข้างประหลาดใจภายในใจใคร่รู้ยิ่งนักว่าอาจารย์ของอวี๋เจียวสอนวิชาหมอพิสดารอะไรให้นางบ้างนึกไม่ถึงว่าการรักษาโรคลมชักยังต้องใช้อ้ายจิ่วรมควันบริเวณสองหยินนั้น
จางเหล่าซานไม่รู้ว่าจุดสองหยินคืออะไรจึงเอ่ยด้วยความไม่วางใจนัก“แม่นางเมิ่ง ท่านหมออวี๋อายุมากแล้ว จะไหวหรือ? มิสู้ท่านลงมือรักษาบุตรชายของข้าด้วยตนเอง ข้าจะได้วางใจสักหน่อย”
สีหน้าของอวี๋หรูไห่ไม่น่ามอง คิดไม่ถึงว่าจะถูกผู้อื่นดูถูกจนถึงขั้นนี้ไม่อาจอดกลั้นสีหน้าอย่างยิ่ง
“แน่นอนว่าไหว ถึงอย่างนั้น นายท่านสกุลพวกเราก็เป็ท่านหมอเื่นี้ท่านไม่จำเป็ต้องกังวล”อวี๋เจียวไม่อาจปล่อยให้อวี๋หรูไห่ตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบากเกินไปจึงเอ่ยออกไปอย่างราบเรียบ
ผ่านไปหนึ่งก้านธูป อวี๋หรูไห่พาจางฉีออกมาจากห้องฝั่งตะวันตกจางเหล่าซานมองบุตรชายของตนด้วยสีหน้าตื่นเต้น “ฉีเกอเอ๋อร์ เป็อย่างไรบ้าง?”
ใบหน้าขาวซีดก่อนหน้านี้ของจางฉีเปลี่ยนเป็เผยรอยยิ้มผ่อนคลายยืดแขนขาทั้งสี่ออกมา “ท่านพ่อ สบายเหลือเกินขอรับ ข้ารู้สึกผ่อนคลายไปทั้งตัว”
นี่คือประโยคแรกที่เด็กชายปริปากเอ่ยั้แ่มาถึงจวนสกุลอวี๋จางเหล่าซานรู้สึกตื่นเต้น เอ่ยด้วยความยินดีว่า “แม่นางเมิ่ง...ท่านหมอเมิ่งโรคลมชักของบุตรชายข้ารักษาหายแล้วหรือ?”
“มีหรือจะง่ายดายถึงเพียงนี้?” อวี๋เจียวเอ่ย “อาการเสมหะปิดทวารหัวใจของเขาจำต้องค่อยๆ รักษาข้าจะเขียนเทียบยา คนไข้ต้องกินยาให้ตรงเวลา ใช้อ้ายจิ่วทุกสองวันหากเสมหะปิดทวารหัวใจหายไปภายในหนึ่งเดือนสามารถหยุดยาแต่ยังต้องใช้อ้ายจิ่วต่อไป”
จางเหล่าซานพยักหน้าระรัว ท่าทางทั้งถ่อมตนและนอบน้อม“ล้วนแต่ฟังท่าน ขอเพียงรักษาบุตรชายของข้าให้หายดี ท่านกล่าวเช่นใดล้วนแต่เป็เช่นนั้น”
อวี๋หรูไห่หยิบพู่กันขึ้นมาเตรียมจะเขียนเทียบยาอวี๋เจียวเอ่ยขึ้นว่า “ไม่ต้องเขียนเทียบยาแล้วเ้าค่ะ”
นางมองไปทางจางเหล่าซานแล้วเอ่ย “ท่านจำเทียบยาเอาไว้”
จางเหล่าซานรีบพยักหน้า เอ่ยกับบุรุษไม่กี่คนที่อยู่ข้างหลังว่า“ทุกคนตั้งใจจำ”
อวี๋เจียวเอ่ยอย่างเอ้อระเหย “กานซุ่ย [3] สองสลึง บดให้ละเอียดเป็ผง เอาใส่ในหัวใจหมู มัดให้แน่นใช้ไฟอ่อนตุ๋นจนได้น้ำยาออกมา ใส่เฉินซา [4] ไม่ถึงหนึ่งสลึง แยกออกเป็สี่ส่วน ทุกวันดื่มหนึ่งส่วนใช้ยาที่ได้จากหัวใจหมูมาต้มผสมครึ่งหนึ่ง”
จางเหล่าซานเอ่ยทวนหนึ่งรอบ “แม่นางเมิ่ง ข้าจำได้หมดแล้ว”
อวี๋เจียวกำชับหนึ่งประโยค “จำต้องใช้หัวใจหมูที่สดใหม่”
อวี๋หรูไห่เอากานซุ่ยและเฉินซามาให้จางเหล่าซานด้วยนิสัยใจคอของจางเหล่าซานจึงโก่งราคาสูง เรียกค่ารักษาจำนวนหนึ่งตำลึงเงิน
ความยินดีปรีดาเหลือล้นของจางเหล่าซานในเมื่อครู่เลือนหายไปหลังได้ยินจำนวนเงินค่ารักษาตลอดหลายปีมานี้เขาพาบุตรชายตระเวนหาหมอรักษาโรคไม่น้อยครั้งจ่ายเงินอย่างเสียเปรียบไปจำนวนมาก ทั้งยังถูกหมอใจดำหลอกเอาเงินไปก็ไม่น้อย
“ข้าสามารถจ่ายเงินค่าหมอจำนวนหนึ่งตำลึงแต่หากนับจากนี้ไปสามเดือนโรคลมชักของบุตรชายข้าไม่หายดีข้าจะกลับมาเอาเงินค่าหมอนี้” จางเหล่าซานหรี่ตามองอวี๋หรูไห่เอ่ยพลางแสร้งแย้มยิ้ม
อวี๋หรูไห่ใจฝ่อทันใด เพียงแต่ยังคงฝืนปั้นหน้าแย้มยิ้มจอมปลอมหลังจากส่งพวกจางเหล่าซานจนพ้นประตูอวี๋หรูไห่ปิดประตูจวนแล้วถ่มน้ำลายลงพื้นอย่างแรงขบเขี้ยวเคี้ยวฟันบริภาษอยู่หลายประโยค
ครั้นกลับเข้ามาในโถง อวี๋หรูไห่เอ่ยถามอวี๋เจียวอย่างไม่วางใจนัก“โรคลมชักของบุตรชายจางเหล่าซานสามารถรักษาได้จริงๆ หรือ?”
อวี๋เจียวปรายตามองเขาชั่วครู่แล้วพยักหน้า
อวี๋หรูไห่ถึงเบาใจลงเล็กน้อยเงินหนึ่งตำลึงในอ้อมกอดยังไม่ทันอุ่น เขาไม่อยากเอาคืนให้ผู้อื่น
หลังจากอวี๋หรูไห่เก็บเงินเรียบร้อย ภายในใจเกิดความคิดบางประการหากเมิ่งอวี๋เจียวสามารถรักษากระทั่งโรคลมชัก เช่นนั้นนางก็คงสามารถรักษาร่างกายเ้าห้าใช่หรือไม่?
เมื่อเกิดความคิดนี้ขึ้นมา อวี๋หรูไห่รีบกลับเข้ามาในห้องโถงใบหน้าเปี่ยมด้วยความหวังแรงกล้า “แม่หนูเมิ่ง เ้าเคยจับชีพจรให้เ้าห้าหรือไม่? มีหนทางรักษาร่างกายของเขาหรือไม่?”
อวี๋เจียวใคร่ครวญครู่หนึ่งก่อนจะส่ายหน้า“ถึงแม้ข้าจะไม่เคยจับชีพจรให้พี่ห้า แต่พอรู้ถึงสภาพร่างกายของเขาบ้างเ้าค่ะเดิมทีร่างกายของพี่ห้าทรุดโทรมอย่างมาก ยากจะบำรุงรักษา”
อวี๋ฉี่เจ๋อจะอายุสั้น คำกล่าวของท่านหมอเ่าั้ไม่ใช่เื่เท็จ
ภายในใจอวี๋หรูไห่รู้สึกผิดหวังอย่างไม่อาจเลี่ยงเมื่อได้ยินคำกล่าวเพียงแต่อวี๋เจียวไม่ได้เอ่ยอย่างเด็ดขาดจึงซักไซ้ต่อไปว่า“เหตุใดถึงบอกว่ายากบำรุงรักษา ยังพอมีวิธีบำรุงรักษาอย่างนั้นหรือ?”
……………………
เชิงอรรถ
[1] อ้ายจิ่ว 艾灸 คือการรักษาโดยการรมควันด้วยสมุนไพรจีนที่รู้จักกันในนามโกฐจุฬาลัมพา
[2] จุดสองหยินคืออวัยวะสืบพันธุ์ภายนอกและทวารหนัก
[3] กานซุ่ย มีรสขม ฤทธิ์เย็น ใช้รักษาอาการบวมน้ำ โรคท้องมาน หอบหืดโรคลมชัก อุจจาระและปัสสาวะไม่สะดวก
[4] เฉินซาคือเกล็ดหินแดง