บทที่ 69 คัดเลือกศิลปิน
หมอที่อยู่ตรงหน้าดูเหมือนว่าจะเป็หมอผู้หญิงคนนั้นที่เขาเห็นตอนมาถึงโรงพยาบาล
พอได้ยินว่าอยากออกจากโรงพยาบาล คิ้วสวยของหวงเซิงเหม่ยก็ขมวดมุ่นพร้อมกับด่าด้วยความโมโหทันที
"เลอะเทอะ ที่ไหล่คุณเป็แผลจากการโดนยิง เพิ่งจะผ่าเอาลูกะุออกมา อยู่ดีๆคุณมาบอกว่าอยากออกจากโรงพยาบาลเนี่ยนะ?"
เย่จื่อเฉินเบ้ปากพูด "คุณหมอครับ ผมดีขึ้นแล้ว แล้วผมก็ไม่ชอบอยู่ในที่ที่เต็มไปด้วยกลิ่นยาแบบนี้ด้วย คุณหมอปล่อยผมไปเถอะครับ"
หวงเซิงเหม่ยส่ายหน้าพูด "ไม่ได้ค่ะ ในฐานะที่ฉันเป็แพทย์ประจำตัวของคุณ ก็ต้องรับผิดชอบต่อร่างกายของคุณ คุณเป็แบบนี้ยังไม่สามารถออกจากโรงพยาบาลได้ค่ะ"
เย่จื่อเฉินจนปัญญา มองดูเวลาก็เห็นว่าจะหกโมงเย็นแล้ว ถ้าเขายังมัวโอ้เอ้อยู่แบบนี้ต้องไปไม่ทันงานเลี้ยงแน่
"คุณหมอนี่ก็จริงๆ เลย...อาการของผมผมต้องรู้ดีที่สุดสิครับ ทำไมหมอถึงยังไม่ให้ผมออกจากโรงพยาบาลอีก? หมอใจดำแบบคุณอยากให้ผมอยู่โรงพยาบาลนานๆ จะได้จ่ายเงินเยอะๆ ใช่ไหม!"
"ไม่ว่ายังไงก็ตาม หมอบอกว่าออกไม่ได้ก็คือออกไม่ได้ นอนพักอยู่ที่นี่แหละ อีกหนึ่งชั่วโมงหลังจากนี้หมอจะมาอีก"
หวงเซิงเหม่ยเดินกระฟัดกระเฟียดออกไปจากห้องคนไข้ เย่จื่อเฉินมองตามหลังเธอแล้วกระตุกยิ้มมุมปาก ก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา
16.32 น.
เย่จื่อเฉินโยนโทรศัพท์ไว้ข้างตัวแล้วนั่งพิงหมอนหรี่ตาลง ครู่หนึ่งเขาก็ยิ้มขึ้นมา
"หลิวฉิง หลิวฉิง..."
สักพักหลิวฉิงก็ลอยออกมาจากเนตรั แล้วพูดขึ้น
"อะไร"
เย่จื่อเฉินบุ้ยปากไปทางประตูแล้วพูดขึ้น "เธอช่วยไปเฝ้าที่หน้าประตูให้ฉันหน่อย ถ้าแม่ฉันหรือว่าหมอหวงเซิงเหม่ยอะไรนั่นมาก็ะโเรียกฉัน"
หลิวฉิงพยักหน้าแล้วลอยไปทางประตู เย่จื่อเฉินพลิกตัวะโลงบนพื้น หยิบเสื้อผ้าในตู้มาสวมลงบนร่างกายอย่างลวกๆ
"เป็ไงบ้าง พวกเขาไม่ได้อยู่ข้างนอกใช่ไหม?"
เย่จื่อเฉินเดินย่องมาที่หน้าประตู หลิวฉิงผงะไปนิดเมื่อเห็นท่าทางที่เตรียมจะออกไปข้างนอกของเขา
"นี่นายจะไปไหน?"
"ดูไม่ออกหรือไง ฉันจะหนีออกจากโรงพยาบาลไงเล่า"
ชะโงกหน้าออกไปนอกห้องคนไข้เล็กน้อย มองดูซ้ายขวาหนึ่งรอบ หลังจากที่พบว่าไม่มีร่างของเย่หรงและหวงเซิงเหม่ยอยู่ เขาก็ยกขาวิ่งออกไปข้างนอกทันที
หวงเซิงเหม่ยที่ยืนอยู่ตรงหน้าต่างภายในห้องทำงาน กำลังมองลงไปข้างล่าง ทันใดนั้นร่างของเย่จื่อเฉินก็สะท้อนเข้าสู่ม่านตาของเธอ
พรึบ
ดันหน้าต่างให้เปิดออก หวงเซิงเหม่ยะโลงไปข้างล่าง
"เย่จื่อเฉิน!"
เย่จื่อเฉินที่เพิ่งวิ่งไปถึงหน้าโรงพยาบาล พอได้ยินเสียงนี้ก็มองขึ้นมาข้างบนโดยอัตโนมัติ
นาทีนั้น ทั้งคู่ก็สบตากัน
โดนจับได้แล้ว
"เย่จื่อเฉิน กลับมาเดี๋ยวนี้นะ"
หวงเซิงเหม่ยยืนะโอยู่ตรงหน้าต่างภายในห้องทำงาน เย่จื่อเฉินยืนยิ้มโบกมือแลบลิ้นปลิ้นตาใส่เธออยู่กับที่
"หมอหวง"
"จับเขาไว้"
หวงเซิงเหม่ยะโบอกเ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยข้างล่าง เ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่อยู่รอบๆ ล้อมเข้ามาตามคำสั่ง พอเห็นพนักงานรักษาความปลอดภัยที่จ้องเขาด้วยหน้าตาถมึงทึงกลุ่มนี้ เย่จื่อเฉินก็หดหัวแล้วก็รีบวิ่งฝ่าออกไป
"เ้าเด็กนี่..."
ในขณะที่เย่จื่อเฉินใกล้จะมาถึงมหาวิทยาลัย งานเลี้ยงฉลองก็ได้เริ่มขึ้นแล้ว
คนที่ยืนอยู่บนเวทีตอนนี้คือฟู่เฉิงิ การแสดงของเขาคือร้องเพลง
หน้าตาตามแบบไอดอลที่จิ้มลิ้มสวยหวานรับกับเสียงที่ไม่ได้แย่ เมื่อการแสดงจบลง บรรยากาศด้านล่างเวทีก็เริ่มครึกครื้นขึ้นมา
เก้าอี้ตัวหนึ่งในหอประชุมชั้นสองหันหน้าเข้าหาราวบันไดของเวทีพอดี ผู้ชายใส่แว่นกันแดดนั่งอยู่บนเก้าอี้
"เหล่าหู เป็ไงบ้าง?"
คนที่เปิดปากพูดขึ้นคือสือรุ่ยผู้อำนวยการของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีปิงเฉิง ผู้ชายที่ใส่แว่นกันแดดเลิกคิ้วยิ้มบางๆ แล้วพูด
"ธรรมดา ดูไปก่อน"
เมื่อโค้งตัวทำความเคารพเรียบร้อยแล้ว ฟู่เฉิงิก็ลงจากเวทีไป
"ต่อไปก็ยังคงเป็การร้องเพลงเช่นเดิมนะครับ ขอเชิญนักศึกษาเย่จื่อเฉินของเรากับบทเพลง โฮ่วไหล!"
ฟู่เฉิงิยืนกระตุกยิ้มมุมปากเล็กน้อยอยู่ด้านล่างเวที ความจริงแล้วการแสดงของเย่จื่อเฉินอยู่หลังสุด
แต่ในฐานะที่เขาเป็รองประธานสภานักศึกษา อีกทั้งยังรับหน้าที่เป็พิธีกรของงานเลี้ยงในครั้งนี้ การที่จะสับเปลี่ยนลำดับการแสดงมันง่ายนิดเดียว
เขาได้รับข้อมูลงานนี้มานานแล้ว งานเลี้ยงฉลองของมหาวิทยาลัยในครั้งนี้ไม่เหมือนกับที่ผ่านมา ในครั้งนี้มีบริษัทจัดหาดาราศิลปินมาร่วมงานด้วย และจะคัดเลือกศิลปินผ่านทางการแสดงของนักศึกษา
สำหรับการแสดงของตัวเองนั้น เขามีความมั่นใจมาก บวกกับรูปร่างหน้าตาของเขาแล้ว ผ่านการคัดเลือกไปได้แบบสบายๆ
ส่วนที่จัดลำดับให้เย่จื่อเฉินต่อหลังเขา ก็เพราะว่าเขาแค่้าใช้เย่จื่อเฉินเป็หินปูทางให้ตัวเอง
ต้องมีคนให้เปรียบเทียบถึงจะบ่งบอกได้ว่าเขาสุดยอดกว่า
แถมยังสามารถใช้จุดนี้กำจัดความมุ่งมั่นของเย่จื่อเฉินได้อีกด้วย เื่สนุกแบบนี้ทำไมเขาถึงจะไม่ทำล่ะ
"เย่จื่อเฉิน"
"มาแล้วๆ"
เย่จื่อเฉินถือไมโครโฟนรีบวิ่งออกมาจากด้านหลังเวที แต่ท่าทางเซ่อซ่าของเขากลับดึงดูดให้ผู้อำนวยการมหาวิทยาลัยที่อยู่บนชั้นสองขมวดคิ้วมุ่น
"ทำไมถึงได้เซ่อซ่าขนาดนี้"
"วัยรุ่นก็แบบนี้แหละ เซ่อซ่าหน่อยมันก็เป็เื่ปกติ" ผู้ชายที่ใส่แว่นกันแดดหัวเราะ ผู้อำนวยการมหาวิทยาลัยจึงยิ้มตามแล้วไม่ได้พูดอะไรอีก
พรึบ
ไฟสปอตไลท์ส่องมาที่ใบหน้าของเย่จื่อเฉิน เขาก้มหน้ามองไปด้านล่างเวทีเล็กน้อย
พรึบ
"อาเสี่ย..."
"อาเสี่ย..."
"อาเสี่ย..."
นักศึกษาด้านล่างร้องะโขึ้นอย่างบ้าคลั่ง เย่จื่อเฉินหัวเราะเบาๆ แล้วเอานิ้วแตะที่ปาก
"ชู่..."
ทั้งหอประชุมเงียบกริบ
"ไม่เลวนี่"
จู่ๆ ผู้ชายที่ใส่แว่นกันแดดบนชั้นสองก็พูดออกมาหนึ่งคำ ผู้อำนวยการสือรุ่ยอึ้งไปนิด ยังไม่ได้ร้องเลยก็บอกว่าไม่เลวแล้ว
"เหล่าสือ นายบริหารงานมหาลัยได้ดีมาก แต่การมองหาศิลปินของนายยังแย่มากนะ เด็กคนนี้ดังมากในมหาลัยของนาย ความสามารถในการคุมสถานการณ์ก็ไม่ได้ด้อยไม่ด้อยไปกว่ากัน ปั้นเป็นักร้องได้สบาย"
แปะ
เย่จื่อเฉินดีดนิ้ว แล้วเสียงดนตรีก็ดังตามมา
ไม่ผิดจากที่คาดไว้ แน่นอนว่าเพลงของเย่จื่อเฉินมีเวทมนตร์ในการดึงดูดผู้คนทั้งหอประชุม จนเมื่อเขาโค้งตัวทำความเคารพต่อนักศึกษาที่อยู่ด้านล่างเวที ภายในหอประชุมถึงได้มีเสียงปรบมือเกรียวกราวขึ้นราวกับฟ้าผ่า
"เย่จื่อเฉิน!"
"เย่จื่อเฉิน!"
"เย่จื่อเฉิน!"
ทั้งหอประชุมะโเรียกชื่อของเย่จื่อเฉินดังสนั่น ทำเอาฟู่เฉิงิที่ยืนอยู่ด้านล่างเวทีกำหมัดทั้งสองข้างแน่น เขาไม่คิดเลยว่าเพลงของเย่จื่อเฉินมันจะออกมาดีขนาดนี้
ยิ่งได้ยินเสียงร้องะโภายในหอประชุม ใบหน้าของฟู่เฉิงิก็บึ้งตึงจนน้ำตาแทบไหลออกมา
หินปูทางเหรอ
ใครกันแน่ที่เป็หินปูทาง!
"เด็กคนนี้ไม่เลวเลย" ผู้ชายใส่แว่นกันแดดอดกล่าวชมอีกครั้งไม่ได้
เย่จื่อเฉินถอยหลังกลับไปยังหลังเวที ท่ามกลางเสียงปรบมือด้วยความยินดี
อันที่จริงเมื่อครู่นี้ตอนอยู่บนเวที เนื่องจากมีความตื่นเต้นอยู่เล็กน้อย เย่จื่อเฉินจึงไม่ได้ปลดปล่อยอารมณ์ออกมาทั้งหมด
เมื่อกลับมายังเก้าอี้ตรงโซนที่พักด้วยอาการที่ยังไม่คลายกังวล เขากลับเห็นซุนอี้เกอกำลังยืนทำอะไรไม่ถูกอยู่กับที่ ใบหน้าเล็กจิ้มลิ้มขมวดมุ่นเข้าหากัน
"หัวหน้า"
ยกมือขึ้นตบเล็กน้อย ซุนอี้เกอเงยหน้าขึ้น ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยดวงตาที่เจือรอยยิ้มอยู่จางๆ
"นายมาแล้วเหรอ"
"ฉันร้องเพลงจนจบแล้ว จะมาบอกว่ามาแล้วอะไรล่ะ" เย่จื่อเฉินทำหน้าระอาใจ
"ร้องจบแล้วเหรอ ไม่น่าใช่นะการแสดงของนายต่อท้ายฉันนี่"
ซุนอี้เกอเลิกคิ้วด้วยความประหลาดใจ เย่จื่อเฉินอึ้งไปนิดหลังจากที่ได้ยิน แต่ครู่เดียวเขาก็ได้สติกลับมา
ต้องเป็เ้าฟู่เฉิงินั่นแน่ๆ
เ้าหมอนี่ไม่กล้าเล่นงานซึ่งๆ หน้า ดีแต่แอบเล่นสกปรกแบบนี้นั่นแหละ
เย่จื่อเฉินด่าอยู่ในใจและไม่ได้คิดใส่ใจกับปัญหานั้น เมื่อนึกถึงความกังวลบนใบหน้าของซุนอี้เกอเมื่อครู่นี้ก็อดถามไม่ได้
"เธอมีปัญหาอะไรหรือเปล่า?"
ใบหน้าเล็กของซุนอี้เกอขมวดมุ่นทันที ก่อนจะพึมพำออกมา
"คือ...คนที่ร้องเพลงคู่กับฉัน...มาไม่ได้แล้ว"
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้