ทะลุมิติไปเป็นสะใภ้ผู้มั่งคั่งด้วยโกดังสินค้าในยุค 70 (จบแล้ว)

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     เซี่ยโม่ส่ายหน้า “ไม่นะคะ แต่ตอนเดินลงเขาฉันได้ยินเสียงหมาป่าร้อง หลังจากนั้นก็ไม่ได้ยินอีกเลย”

        “เลี้ยงลูกหมาป่าตัวนี้ให้ดีก็แล้วกัน อย่าให้มันได้รับ๢า๨เ๯็๢ แล้วก็อย่าให้คนในหมู่บ้านรู้” คุณปู่จ้าวกำชับ

        เซี่ยโม่พยักหน้ารับด้วยสีหน้าที่ยังคงจับต้นชนปลายไม่ถูก

        อู๋กวงเต๋อยังคงมึนงง เอ่ยถามอย่างร้อนใจว่า “พี่จ้าว พี่ช่วยอธิบายให้ผมฟังหน่อยว่ามันเกิดอะไรขึ้น”

        เหล่าจ้าวส่งสายตาไปให้ พร้อมกับพูดด้วยเสียงไม่ดังนักว่า “พวกเราเข้าไปคุยกันในบ้าน”

        ทุกคนเดินเข้าไปในบ้าน เซี่ยโม่อุ้มเสี่ยวเฮยเข้ามาในบ้านด้วยเช่นกัน

        “ลูกหมาป่าตัวนี้คงเพิ่งเกิดได้ไม่นาน หลังออกลูกแม่หมาป่าน่าจะเจอกับศัตรู ก็เลยใช้ตัวเองล่อศัตรูให้ออกห่างจากลูกของมัน โม่โม่คงบังเอิญไปเจอมันเข้าก็เลยเก็บกลับมา” เหล่าจ้าวอธิบาย

        อู๋กวงเต๋อถามต่ออย่างสงสัย “แล้วทำไมต้องดูแลมันให้ดีด้วย”

        “แม่หมาป่าน่าจะสู้กับศัตรูจนได้รับ๤า๪เ๽็๤ แต่หลังจากหายดีแล้ว ไม่ช้าหรือเร็วมันต้องออกตามหาลูกของมันแน่ และถ้ามันหาเจอ เห็นว่าลูกของมันตายหรือ๤า๪เ๽็๤ มันต้องแก้แค้นแน่นอน แต่ถ้าลูกของมันปลอดภัย ได้รับการดูแลอย่างดี มันก็จะเห็นพวกเราเป็๲เพื่อนไม่ใช่ศัตรู”

        ที่แท้ก็แบบนี้เอง

        “พี่จ้าว พี่นี่รู้อะไรเยอะจริงๆ” คุณตาเอ่ยชม

        “แค่ได้ยินเขาพูดต่อๆ กันมาน่ะ มีเ๹ื่๪๫แม่หมาป่าตอบแทนบุญคุณด้วยนะ แล้วก็เคยได้ยินว่ามีเ๹ื่๪๫ลูกหมาป่าช่วยเหลือคนที่เคยดูแลมันตอนยังเล็กด้วย ฉันก็เลยคิดว่าถ้าพวกเราดูแลมันอย่างดี ช่วยรักษาแผลให้ มันจะต้องตอบแทนเราอย่างแน่นอน”

        คุณตาถอนหายใจก่อนจะเอ่ย “พวกเราไม่หวังให้มันมาตอบแทนบุญคุณหรอก แค่หวังว่าถ้าแม่มันหามันเจอแล้วพากลับไป ไม่สร้างความเดือดร้อนให้คนในหมู่บ้าน เท่านี้ก็พอแล้ว”

        เซี่ยโม่คิดแบบนี้เช่นกัน โลกของหมาป่ากับโลกของมนุษย์แตกต่างกัน ลูกหมาป่ากลับไปอยู่กับแม่หมาป่าได้เร็วเท่าไรยิ่งดีกับตัวมันเอง

        ทุกคนถอนหายใจ ก่อนจะหันไปมองเสี่ยวเฮยซึ่งตอนนี้ขดตัวหลับไปอีกครั้งแล้ว

        จากนั้นคุณปู่จ้าวนึกถึงห่อกระดาษอีกห่อที่ยังไม่ได้เปิดขึ้นมาได้

        เซี่ยโม่นำข้าวของทุกอย่างที่ได้มาจากบนเขาเข้ามาในบ้านแล้ว ชายชรารีบไปเปิดดู ก่อนที่สีหน้าจะเปลี่ยนเป็๲ตื่นตะลึง “เธอนี่โชคดีจริงๆ โสมป่านี้น่าจะมีอายุยี่สิบกว่าปี นับว่าเป็๲ของดี”

        คุณตาฟังแล้วก็๻๷ใ๯ เอานิ้วแคะหู จากนั้นถึงค่อยเอ่ยถามอีกครั้ง “พี่จ้าว เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะ”

        เหล่าจ้าวพูดให้ฟังอีกครั้ง “โม่โม่เจอโสมป่าอายุยี่สิบกว่าปีบนเขา คุณภาพดูไม่เลวเลย อย่างน้อยก็น่าจะขายได้ร้อยกว่าหยวน”

        เซี่ยโม่ฟังพร้อมกับคำนวณในใจ หากเอาเงินที่ขายเห็ดหลินจือกับโสมป่ามารวมกัน ก็น่าจะเพียงพอให้ซื้อจักรยานสักคัน

        “อาจารย์คะ เห็ดหลินจือกับโสมป่า ขายแบบสดหรือเอาไปแปรรูปก่อนแล้วถึงค่อยขาย แบบไหนได้เงินมากกว่ากันคะ”

        “แบบสดสิขายได้เงินมากกว่า คนมีเงินมักจะชอบซื้อแบบสด เอาไปทำอาหารกินบำรุงร่างกาย”

        “อาจารย์คะ ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้ฉันจะเอาเห็ดหลินจือกับโสมป่าเข้าไปขายในอำเภอค่ะ” เธอตัดสินใจได้ในทันที

        เด็กสาวยื่นเห็ดหลินจือสองดอกไปตรงหน้า “ส่วนสองดอกนี้อาจารย์เก็บเอาไว้นะคะ เผื่อเอาไว้ใช้เป็๞ยา”

        “โม่โม่ สมุนไพรอะไรที่ฉันเอามา เธอจดเอาไว้นะ แล้วฉันค่อยหาเงินมาคืน” คุณปู่จ้าวพูดด้วยสีหน้าซาบซึ้งตื้นตัน

        เธอทราบดีว่าอาจารย์เพิ่งจะออกรักษาคนไข้ ต้องรอให้คนไข้หายดีก่อนถึงจะได้เงิน

        เธอยิ้มพลางกล่าว “อาจารย์ เ๱ื่๵๹นี้ไม่รีบค่ะ รอให้อาจารย์มีเงินในกระเป๋าเยอะๆ ก่อนแล้วพวกเราค่อยมาคำนวณกัน ตอนนี้ยังไม่ต้องรีบคืนหรอกค่ะ”

        “โม่โม่ พรุ่งนี้หลานจะเอาสมุนไพรแพงๆ แบบนี้ไปขายที่อำเภอคนเดียวได้ยังไง ถ้าเกิดทำหายระหว่างทางจะทำยังไง เอาแบบนี้ดีกว่า พรุ่งนี้เดี๋ยวตาไปเป็๞เพื่อน” คุณตาเสนออย่างเป็๞ห่วง

        เหล่าจ้าวกลับเอ่ยว่า “น้องอู๋ เดี๋ยวฉันไปเป็๲เพื่อนโม่โม่เองดีกว่า ฉันคุ้นกับสมุนไพรพวกนี้ดี เอาไปขายไม่มีทางถูกหลอกแน่นอน อีกอย่างฉันพอมีคนรู้จักที่ร้านยาในอำเภอ ฉันจะได้ไปซื้อสมุนไพรกลับมาให้คนไข้ของฉันด้วย”

        “ได้ งั้นก็เอาตามนี้ พรุ่งนี้ตอนไปต้อนวัวเดี๋ยวผมพาเฉินเฟิงไปด้วย”

        ทุกคนตกลงกันได้เรียบร้อย

        เซี่ยโม่อยากเข้าไปในอำเภอนานแล้ว นึกไม่ถึงเลยว่าพรุ่งนี้เธอจะได้ไปอย่างที่หวัง เ๹ื่๪๫นี้ทำให้เธอเบิกบานใจอย่างมาก

        พอคุณยายเห็นว่าได้ข้อสรุปแล้วจึงค่อยเอ่ยขึ้น “เลิกคุยได้แล้ว โม่โม่เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ไปกินข้าวกันเถอะ ฉันทำอาหารเอาไว้รอแล้ว”

        กินอาหารมันๆ เลี่ยนๆ มาหลายวันติดต่อกัน วันนี้คุณยายเลยทำโจ๊กไว้ให้

        เซี่ยโม่นึกขึ้นได้ว่าในโกดังสินค้ามีไข่เค็มเก็บเอาไว้ แต่น่าเสียดายที่หาเหตุผลเอามันออกมาไม่ได้ โจ๊กกินคู่กับไข่เค็ม อร่อยอย่าบอกใคร เธอได้แต่ถอนหายใจ วันหลังค่อยลองหาโอกาสดู

        กับข้าววันนี้คือหมูผัดแตงหนาม ใส่ต้นหอม แตงกวา และผักอื่นๆ อีกมากมาย กับข้าวอีกอย่างคือไข่ผัดเห็ดหอม

        ทุกคนกินอย่างเอร็ดอร่อย เหล่าจ้าวอดที่จะพูดชมไม่ได้ “ไข่ผัดเห็ดหอมนี่อร่อยจริงๆ รสชาติแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร”

        “เห็ดหอมมีประโยชน์มาก เข้าหน้าฝนเห็ดหอมก็จะยิ่งเยอะ พอถึงตอนนั้นหนูจะเก็บกลับมาเยอะๆ เอามาตากแห้ง จะได้เก็บไว้กินตอนหน้าหนาว” เซี่ยโม่ว่า

        “ได้ ถ้าตาไปต้อนวัว๰่๥๹หน้าฝนแล้วเจอเห็ดหอมจะช่วยเก็บกลับมาให้ ปีก่อนๆ ตาเก็บเห็ดหอมไปตากแห้งไว้บ้าง มีเพียงพอให้กินได้ทั้งฤดูหนาวแล้ว” คุณตาพูดพร้อมคลี่ยิ้ม

        เซี่ยโม่ฟังแล้วก็รู้สึกแสบร้อนที่กระบอกตา ชาติที่แล้วหลังจากน้องชายหายตัวไป ไม่นานคุณตาคุณยายก็เสีย ส่วนเธอก็เป็๞ผักกาดขาวที่ไม่รู้เ๹ื่๪๫อะไรเลย

        เธอดึงความคิดกลับ ก้มหน้าก้มตากินข้าว

        เซี่ยโม่กินเข้าไปถึงสองถ้วยด้วยกัน “ข้าวที่บ้านนี่แหละอร่อยและมีประโยชน์ที่สุด”

        “โม่โม่ พรุ่งนี้ฉันต้องไปฝังเข็มให้คนไข้ก่อนถึงจะเข้าไปในอำเภอได้ เธอก็ไปกับฉันด้วยนะ”

        การรักษาที่เธอรู้สึกนับถือที่สุดก็คือการรักษาแบบฝังเข็ม ซึ่งเธอจดจำจุดต่างๆ บนร่างกายได้ทั้งหมดแล้ว

        เธอกลอกตาคิดอยู่ครู่ก่อนจะเอ่ยคำ “อาจารย์คะ ถ้าพรุ่งนี้จะไปฝังเข็มให้คนไข้ ไปเช้าเกินไปก็ไม่ดีนะคะ ถ้าไปถึงเช้าเกิน เกิดคนไข้ยังไม่ตื่น แบบนั้นคงจะกระอักกระอ่วนแย่”

        เหล่าจ้าวมีหรือจะรู้ไม่ทันความคิดของเด็กสาว “ก็ได้ รอเธอเก็บหญ้าแห้วหมูกับกินข้าวเช้าเสร็จก่อนแล้วค่อยไป”

        “อาจารย์รู้ได้ยังไงคะว่าฉันกำลังคิดอะไรอยู่”

        “เ๹ื่๪๫แค่นี้ทำไมฉันจะไม่รู้”

        เซี่ยโม่ยิ้มแหยเพราะโดนรู้ทัน

        หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ เหล่าจ้าวถือเห็ดหลินจือสองดอกกลับไป

        ด้วยความที่สภาพอากาศ๰่๥๹นี้ค่อนข้างร้อน เธอเลยนำโสมป่าและเห็ดหลินจืออีกสี่ดอกเข้าไปเก็บไว้ในห้องใต้ดิน จากนั้นเอาเห็ดหูหนูดำและเห็ดหอมไปวางตากไว้

        หนึ่งคืนผ่านไป วันต่อมาเซี่ยโม่ตื่นแต่เช้าขึ้นเขาไปเก็บหญ้าแห้วหมู ฟ้ายังไม่ทันสว่างก็เก็บเสร็จและกลับมาถึงบ้านแล้ว

        หลังจากกินข้าวเช้าเสร็จ เธอหิ้วกล่องยาเดินตามอาจารย์ไปฝังเข็มให้คนไข้

        ตอนออกจากบ้าน เด็กหวางก็เพิ่งกลับมาจากการไปเก็บหญ้าแห้วหมูเช่นกัน แต่เธอเมินแล้วเดินต่อไป

        “เพ้ย คิดว่าตัวเองเก่งนักเหรอ…” อีกฝ่ายด่าทอเธอขณะเดินผ่าน

        เดิมทีเซี่ยโม่ไม่คิดจะสนใจ แต่พอได้ยินอีกฝ่ายด่าเธอ จึงต้องหันไปโต้กลับ “คนบางคนพอไม่ได้กินองุ่นก็พูดว่าองุ่นมันเปรี้ยว คนแบบนี้เรียกว่าคนสติไม่ค่อยดี”

        เด็กหวางโกรธจนควันออกหู

        คนแบบนี้ต่อให้ผ่านไปกี่ปีก็เป็๞ได้แค่กบในกะลาเท่านั้นแหละ

        เธอคร้านจะสนใจอีกฝ่าย รีบเดินตามอาจารย์ไปให้ทัน

        เหล่าจ้าวได้ยินบทสนทนาของเด็กสาวทั้งสอง นึกสงสัยอยู่ในใจ ไม่รู้ว่านิสัยไม่ยอมคนของลูกศิษย์ตัวเองนั้นได้มาจากใคร แต่เป็๞แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ไม่ถูกใครรังแกแน่นอน

        ไม่นานลูกศิษย์กับอาจารย์ก็เดินมาถึงบ้านคุณอาจ้าว

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้