เซี่ยโม่ส่ายหน้า “ไม่นะคะ แต่ตอนเดินลงเขาฉันได้ยินเสียงหมาป่าร้อง หลังจากนั้นก็ไม่ได้ยินอีกเลย”
“เลี้ยงลูกหมาป่าตัวนี้ให้ดีก็แล้วกัน อย่าให้มันได้รับาเ็ แล้วก็อย่าให้คนในหมู่บ้านรู้” คุณปู่จ้าวกำชับ
เซี่ยโม่พยักหน้ารับด้วยสีหน้าที่ยังคงจับต้นชนปลายไม่ถูก
อู๋กวงเต๋อยังคงมึนงง เอ่ยถามอย่างร้อนใจว่า “พี่จ้าว พี่ช่วยอธิบายให้ผมฟังหน่อยว่ามันเกิดอะไรขึ้น”
เหล่าจ้าวส่งสายตาไปให้ พร้อมกับพูดด้วยเสียงไม่ดังนักว่า “พวกเราเข้าไปคุยกันในบ้าน”
ทุกคนเดินเข้าไปในบ้าน เซี่ยโม่อุ้มเสี่ยวเฮยเข้ามาในบ้านด้วยเช่นกัน
“ลูกหมาป่าตัวนี้คงเพิ่งเกิดได้ไม่นาน หลังออกลูกแม่หมาป่าน่าจะเจอกับศัตรู ก็เลยใช้ตัวเองล่อศัตรูให้ออกห่างจากลูกของมัน โม่โม่คงบังเอิญไปเจอมันเข้าก็เลยเก็บกลับมา” เหล่าจ้าวอธิบาย
อู๋กวงเต๋อถามต่ออย่างสงสัย “แล้วทำไมต้องดูแลมันให้ดีด้วย”
“แม่หมาป่าน่าจะสู้กับศัตรูจนได้รับาเ็ แต่หลังจากหายดีแล้ว ไม่ช้าหรือเร็วมันต้องออกตามหาลูกของมันแน่ และถ้ามันหาเจอ เห็นว่าลูกของมันตายหรือาเ็ มันต้องแก้แค้นแน่นอน แต่ถ้าลูกของมันปลอดภัย ได้รับการดูแลอย่างดี มันก็จะเห็นพวกเราเป็เพื่อนไม่ใช่ศัตรู”
ที่แท้ก็แบบนี้เอง
“พี่จ้าว พี่นี่รู้อะไรเยอะจริงๆ” คุณตาเอ่ยชม
“แค่ได้ยินเขาพูดต่อๆ กันมาน่ะ มีเื่แม่หมาป่าตอบแทนบุญคุณด้วยนะ แล้วก็เคยได้ยินว่ามีเื่ลูกหมาป่าช่วยเหลือคนที่เคยดูแลมันตอนยังเล็กด้วย ฉันก็เลยคิดว่าถ้าพวกเราดูแลมันอย่างดี ช่วยรักษาแผลให้ มันจะต้องตอบแทนเราอย่างแน่นอน”
คุณตาถอนหายใจก่อนจะเอ่ย “พวกเราไม่หวังให้มันมาตอบแทนบุญคุณหรอก แค่หวังว่าถ้าแม่มันหามันเจอแล้วพากลับไป ไม่สร้างความเดือดร้อนให้คนในหมู่บ้าน เท่านี้ก็พอแล้ว”
เซี่ยโม่คิดแบบนี้เช่นกัน โลกของหมาป่ากับโลกของมนุษย์แตกต่างกัน ลูกหมาป่ากลับไปอยู่กับแม่หมาป่าได้เร็วเท่าไรยิ่งดีกับตัวมันเอง
ทุกคนถอนหายใจ ก่อนจะหันไปมองเสี่ยวเฮยซึ่งตอนนี้ขดตัวหลับไปอีกครั้งแล้ว
จากนั้นคุณปู่จ้าวนึกถึงห่อกระดาษอีกห่อที่ยังไม่ได้เปิดขึ้นมาได้
เซี่ยโม่นำข้าวของทุกอย่างที่ได้มาจากบนเขาเข้ามาในบ้านแล้ว ชายชรารีบไปเปิดดู ก่อนที่สีหน้าจะเปลี่ยนเป็ตื่นตะลึง “เธอนี่โชคดีจริงๆ โสมป่านี้น่าจะมีอายุยี่สิบกว่าปี นับว่าเป็ของดี”
คุณตาฟังแล้วก็ใ เอานิ้วแคะหู จากนั้นถึงค่อยเอ่ยถามอีกครั้ง “พี่จ้าว เมื่อกี้พูดว่าอะไรนะ”
เหล่าจ้าวพูดให้ฟังอีกครั้ง “โม่โม่เจอโสมป่าอายุยี่สิบกว่าปีบนเขา คุณภาพดูไม่เลวเลย อย่างน้อยก็น่าจะขายได้ร้อยกว่าหยวน”
เซี่ยโม่ฟังพร้อมกับคำนวณในใจ หากเอาเงินที่ขายเห็ดหลินจือกับโสมป่ามารวมกัน ก็น่าจะเพียงพอให้ซื้อจักรยานสักคัน
“อาจารย์คะ เห็ดหลินจือกับโสมป่า ขายแบบสดหรือเอาไปแปรรูปก่อนแล้วถึงค่อยขาย แบบไหนได้เงินมากกว่ากันคะ”
“แบบสดสิขายได้เงินมากกว่า คนมีเงินมักจะชอบซื้อแบบสด เอาไปทำอาหารกินบำรุงร่างกาย”
“อาจารย์คะ ถ้าอย่างนั้นพรุ่งนี้ฉันจะเอาเห็ดหลินจือกับโสมป่าเข้าไปขายในอำเภอค่ะ” เธอตัดสินใจได้ในทันที
เด็กสาวยื่นเห็ดหลินจือสองดอกไปตรงหน้า “ส่วนสองดอกนี้อาจารย์เก็บเอาไว้นะคะ เผื่อเอาไว้ใช้เป็ยา”
“โม่โม่ สมุนไพรอะไรที่ฉันเอามา เธอจดเอาไว้นะ แล้วฉันค่อยหาเงินมาคืน” คุณปู่จ้าวพูดด้วยสีหน้าซาบซึ้งตื้นตัน
เธอทราบดีว่าอาจารย์เพิ่งจะออกรักษาคนไข้ ต้องรอให้คนไข้หายดีก่อนถึงจะได้เงิน
เธอยิ้มพลางกล่าว “อาจารย์ เื่นี้ไม่รีบค่ะ รอให้อาจารย์มีเงินในกระเป๋าเยอะๆ ก่อนแล้วพวกเราค่อยมาคำนวณกัน ตอนนี้ยังไม่ต้องรีบคืนหรอกค่ะ”
“โม่โม่ พรุ่งนี้หลานจะเอาสมุนไพรแพงๆ แบบนี้ไปขายที่อำเภอคนเดียวได้ยังไง ถ้าเกิดทำหายระหว่างทางจะทำยังไง เอาแบบนี้ดีกว่า พรุ่งนี้เดี๋ยวตาไปเป็เพื่อน” คุณตาเสนออย่างเป็ห่วง
เหล่าจ้าวกลับเอ่ยว่า “น้องอู๋ เดี๋ยวฉันไปเป็เพื่อนโม่โม่เองดีกว่า ฉันคุ้นกับสมุนไพรพวกนี้ดี เอาไปขายไม่มีทางถูกหลอกแน่นอน อีกอย่างฉันพอมีคนรู้จักที่ร้านยาในอำเภอ ฉันจะได้ไปซื้อสมุนไพรกลับมาให้คนไข้ของฉันด้วย”
“ได้ งั้นก็เอาตามนี้ พรุ่งนี้ตอนไปต้อนวัวเดี๋ยวผมพาเฉินเฟิงไปด้วย”
ทุกคนตกลงกันได้เรียบร้อย
เซี่ยโม่อยากเข้าไปในอำเภอนานแล้ว นึกไม่ถึงเลยว่าพรุ่งนี้เธอจะได้ไปอย่างที่หวัง เื่นี้ทำให้เธอเบิกบานใจอย่างมาก
พอคุณยายเห็นว่าได้ข้อสรุปแล้วจึงค่อยเอ่ยขึ้น “เลิกคุยได้แล้ว โม่โม่เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว ไปกินข้าวกันเถอะ ฉันทำอาหารเอาไว้รอแล้ว”
กินอาหารมันๆ เลี่ยนๆ มาหลายวันติดต่อกัน วันนี้คุณยายเลยทำโจ๊กไว้ให้
เซี่ยโม่นึกขึ้นได้ว่าในโกดังสินค้ามีไข่เค็มเก็บเอาไว้ แต่น่าเสียดายที่หาเหตุผลเอามันออกมาไม่ได้ โจ๊กกินคู่กับไข่เค็ม อร่อยอย่าบอกใคร เธอได้แต่ถอนหายใจ วันหลังค่อยลองหาโอกาสดู
กับข้าววันนี้คือหมูผัดแตงหนาม ใส่ต้นหอม แตงกวา และผักอื่นๆ อีกมากมาย กับข้าวอีกอย่างคือไข่ผัดเห็ดหอม
ทุกคนกินอย่างเอร็ดอร่อย เหล่าจ้าวอดที่จะพูดชมไม่ได้ “ไข่ผัดเห็ดหอมนี่อร่อยจริงๆ รสชาติแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร”
“เห็ดหอมมีประโยชน์มาก เข้าหน้าฝนเห็ดหอมก็จะยิ่งเยอะ พอถึงตอนนั้นหนูจะเก็บกลับมาเยอะๆ เอามาตากแห้ง จะได้เก็บไว้กินตอนหน้าหนาว” เซี่ยโม่ว่า
“ได้ ถ้าตาไปต้อนวัว่หน้าฝนแล้วเจอเห็ดหอมจะช่วยเก็บกลับมาให้ ปีก่อนๆ ตาเก็บเห็ดหอมไปตากแห้งไว้บ้าง มีเพียงพอให้กินได้ทั้งฤดูหนาวแล้ว” คุณตาพูดพร้อมคลี่ยิ้ม
เซี่ยโม่ฟังแล้วก็รู้สึกแสบร้อนที่กระบอกตา ชาติที่แล้วหลังจากน้องชายหายตัวไป ไม่นานคุณตาคุณยายก็เสีย ส่วนเธอก็เป็ผักกาดขาวที่ไม่รู้เื่อะไรเลย
เธอดึงความคิดกลับ ก้มหน้าก้มตากินข้าว
เซี่ยโม่กินเข้าไปถึงสองถ้วยด้วยกัน “ข้าวที่บ้านนี่แหละอร่อยและมีประโยชน์ที่สุด”
“โม่โม่ พรุ่งนี้ฉันต้องไปฝังเข็มให้คนไข้ก่อนถึงจะเข้าไปในอำเภอได้ เธอก็ไปกับฉันด้วยนะ”
การรักษาที่เธอรู้สึกนับถือที่สุดก็คือการรักษาแบบฝังเข็ม ซึ่งเธอจดจำจุดต่างๆ บนร่างกายได้ทั้งหมดแล้ว
เธอกลอกตาคิดอยู่ครู่ก่อนจะเอ่ยคำ “อาจารย์คะ ถ้าพรุ่งนี้จะไปฝังเข็มให้คนไข้ ไปเช้าเกินไปก็ไม่ดีนะคะ ถ้าไปถึงเช้าเกิน เกิดคนไข้ยังไม่ตื่น แบบนั้นคงจะกระอักกระอ่วนแย่”
เหล่าจ้าวมีหรือจะรู้ไม่ทันความคิดของเด็กสาว “ก็ได้ รอเธอเก็บหญ้าแห้วหมูกับกินข้าวเช้าเสร็จก่อนแล้วค่อยไป”
“อาจารย์รู้ได้ยังไงคะว่าฉันกำลังคิดอะไรอยู่”
“เื่แค่นี้ทำไมฉันจะไม่รู้”
เซี่ยโม่ยิ้มแหยเพราะโดนรู้ทัน
หลังจากรับประทานอาหารเสร็จ เหล่าจ้าวถือเห็ดหลินจือสองดอกกลับไป
ด้วยความที่สภาพอากาศ่นี้ค่อนข้างร้อน เธอเลยนำโสมป่าและเห็ดหลินจืออีกสี่ดอกเข้าไปเก็บไว้ในห้องใต้ดิน จากนั้นเอาเห็ดหูหนูดำและเห็ดหอมไปวางตากไว้
หนึ่งคืนผ่านไป วันต่อมาเซี่ยโม่ตื่นแต่เช้าขึ้นเขาไปเก็บหญ้าแห้วหมู ฟ้ายังไม่ทันสว่างก็เก็บเสร็จและกลับมาถึงบ้านแล้ว
หลังจากกินข้าวเช้าเสร็จ เธอหิ้วกล่องยาเดินตามอาจารย์ไปฝังเข็มให้คนไข้
ตอนออกจากบ้าน เด็กหวางก็เพิ่งกลับมาจากการไปเก็บหญ้าแห้วหมูเช่นกัน แต่เธอเมินแล้วเดินต่อไป
“เพ้ย คิดว่าตัวเองเก่งนักเหรอ…” อีกฝ่ายด่าทอเธอขณะเดินผ่าน
เดิมทีเซี่ยโม่ไม่คิดจะสนใจ แต่พอได้ยินอีกฝ่ายด่าเธอ จึงต้องหันไปโต้กลับ “คนบางคนพอไม่ได้กินองุ่นก็พูดว่าองุ่นมันเปรี้ยว คนแบบนี้เรียกว่าคนสติไม่ค่อยดี”
เด็กหวางโกรธจนควันออกหู
คนแบบนี้ต่อให้ผ่านไปกี่ปีก็เป็ได้แค่กบในกะลาเท่านั้นแหละ
เธอคร้านจะสนใจอีกฝ่าย รีบเดินตามอาจารย์ไปให้ทัน
เหล่าจ้าวได้ยินบทสนทนาของเด็กสาวทั้งสอง นึกสงสัยอยู่ในใจ ไม่รู้ว่านิสัยไม่ยอมคนของลูกศิษย์ตัวเองนั้นได้มาจากใคร แต่เป็แบบนี้ก็ดีเหมือนกัน ไม่ถูกใครรังแกแน่นอน
ไม่นานลูกศิษย์กับอาจารย์ก็เดินมาถึงบ้านคุณอาจ้าว
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้