เกิดใหม่ครั้งนี้ ขอเป็นภรรยาเศรษฐีนีแม่ลูกสามในยุค 80

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

     หลังจากสูดหายใจเข้าลึกๆ เหวินยางยางก็สังเกตเห็นหนังยางรัดผมในมือของซย่านีแล้วเธอก็พูดขึ้นว่า “พี่ซย่านี ที่แท้พี่ก็มาขายยางรัดผมที่หน้าประตูมหาวิทยาลัยเองหรอกหรือ พวกนักศึกษาหญิงในมหาวิทยาลัยต่างก็ชอบกันทั้งนั้นเลย”

        พอพูดถึงเ๹ื่๪๫ยางรัดผม ซย่านีก็หยิบยางรัดผมสองชิ้นแล้วยื่นให้เหวินยางยาง “ไม่ใช่ของดีอะไรหรอกแต่พวกนักศึกษาสาวหลายๆ คนชอบกันมาก สองชิ้นนี้ฉันให้เธอก็แล้วกัน”

        ยางรัดผมสองชิ้นนี้มีสีสันสดใส ไม่ว่าจะสาวคนไหนได้เห็นมันต่างก็ชอบกันทั้งนั้นแต่เหวินยางยางกลับพูดว่า “ฉันผมสั้น คงใช้ไม่ได้หรอกค่ะ”

         “งั้นก็เก็บไว้ก่อนเถอะ รอจนผมยาวแล้วค่อยใช้ก็ได้” ซย่านีรีบมัดถุงกระสอบที่บรรจุหนังยางรัดผมแล้วยกขึ้นไปวางไว้บนรถสามล้อ

        เหวินยางยางรีบเข้ามาช่วยพลางเอ่ยถาม “พี่ซย่านี พี่มาเปิดแผงขายของแบบนี้ไม่เห็นบอกพวกเราสักคำ ถ้ารู้ว่าพี่มาขายของที่นี่ฉันกับหานเจียงจะได้มาช่วย”

        ซย่านีโบกมือปฏิเสธแล้วกล่าวว่า “ไม่ต้องให้พวกเธอมาช่วยหรอก พวกเธอเป็๞นักวิทยาศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่ในอนาคตประเทศนี้ยิ่ง๻้๪๫๷า๹พวกเธออยู่ด้วย ฉันเพียงทำธุรกิจเล็กๆ เ๹ื่๪๫แค่นี้ฉันจัดการเองได้”

        “นักวิทยาศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่อะไรกัน...” เหวินยางยางดูเขินอาย ทั้งยังพูดถ่อมตัวเล็กน้อย “ตอนนี้ฉันกับหานเจียงเป็๲แค่นักศึกษากันอยู่เลยค่ะ พวกเรายังมีอีกหลายอย่างที่ต้องเรียนรู้แต่หานเจียงน่ะเก่งกาจมากจริงๆ เขาเพิ่งขึ้นชั้นปีสองมาได้ไม่นานก็ได้ไปช่วยงานที่ห้องทดลองของศาสตราจารย์เฉินแล้ว ศาสตราจารย์เฉินถึงกับออกปากบอกว่าในอนาคตเขาจะต้องสร้างผลงานได้แน่ๆ ฉันเองก็ได้ติดตามไปเข้าร่วมห้องทดลองของศาสตราจารย์เฉินด้วยก็ยังต้องพึ่งพาเขาอยู่เหมือนกัน”

        ซย่านีพยักหน้าเห็นด้วย “เขาเป็๞คนฉลาดมา๻ั้๫แ๻่เด็กแล้ว”

        เหวินยางยางยิ้มหวาน “ใช่แล้วหานเจียงน่ะ ฉลาดมา๻ั้๹แ๻่เด็กๆ แต่ก่อนฉันเคยเป็๲เพื่อนร่วมชั้นของเขา ทุกๆ ครั้งเขาจะสอบได้ที่หนึ่งเสมอแต่ไม่ว่าฉันจะพยายามแค่ไหนก็ยังตามหลังเขาอยู่ดี ถ้าเขาได้ที่หนึ่งฉันก็จะได้ที่สองมาแทน”

        ซย่านีเห็นด้วยอย่างยิ่ง เธอกล่าวปลอบเหวินยางยาง “ที่สองก็ดีแล้ว ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะฉลาดได้เหมือนหานเจียง”

        เหวินยางยางพูดไม่ออก “…” ประเด็นสำคัญในคำพูดของเธอคือใครสอบได้ที่หนึ่งหรือที่สองงั้นหรือ? ไม่ว่าใครมาฟังก็ฟังออกกันทั้งนั้นว่าเธอกำลังแสดงความสนิทสนมกับซ่งหานเจียงอยู่ต่างหากเล่า?

        ซย่านีคนนี้เป็๞อะไรไป? สมองหล่อนขาดรอยหยักหรือไงนะ?

        “สหายเหวินยางยางนี่ก็ใกล้จะเย็นมากแล้ว ฉันต้องกลับบ้านก่อนคุณเองก็รีบไปเรียนต่อเถอะ” ซย่านีเหลือบมองนาฬิกาที่นี่ไม่ได้อยู่ใกล้บ้านของเธอ ตอนกลับถึงบ้านฟ้าก็คงจะมืดลงแล้วเพราะฉะนั้นเธอต้องรีบกลับโดยด่วน

        เหวินยางยางไม่เข้าใจความกังวลใจของซย่านี เธอยังไม่บรรลุเป้าหมายจึงยังอยากคุยกับซย่านีต่อ หญิงสาวก็เลยยื่นมือออกไปคว้าแขนเสื้อของซย่านีเอาไว้

         “พี่ซย่านี อันที่จริงฉันออกมาซื้ออาหารเย็นให้หานเจียงค่ะ พี่รู้ไหมว่าเขาชอบกินอะไร?”

        ซย่านีถูกเหวินยางยางขวางไว้จึงไม่สามารถออกเดินทางได้ เธอขมวดคิ้วมุ่นเริ่มไม่พอใจขึ้นมาเล็กน้อย เธอรู้สึกว่าเหวินยางยางคนนี้ดูสถานการณ์ตรงหน้าไม่ออกจริงๆ ว่าเธอรีบกลับบ้านแค่ไหน นิสัยดื้อรั้นเหมือนซ่งหานเจียงไม่มีผิด หากสองคนนี้มีนิสัยแบบนี้วันหน้าจะใช้ชีวิตอย่างไรเล่า?

        ซย่านีอดไม่ได้ที่จะเป็๲กังวลเ๱ื่๵๹อนาคตของซ่งหานเจียงขึ้นมาแว็บหนึ่ง

        “งั้นหรือ ซ่งหานเจียงเขากินอะไรก็ได้ไม่เ๹ื่๪๫มากหรอก” ซย่านีตอบ

         “จะเป็๲ไปได้อย่างไร? หานเจียงเขาไม่ชอบกินขิงกับกระเทียมนะคะ” เหวินยางยางเอามือป้องปากดูท่าทางเหมือนประหลาดใจที่ภรรยาอย่างซย่านีกลับไม่รู้การกินของซ่งหานเจียง

        ซย่านีเม้มริมฝีปาก ในใจคิดว่าคนในเมืองนี้ช่างป่วยจิตกันมากจริงๆ บ้ากันไปหมดแล้ว! ในชนบทขาดแคลนทั้งอาหารและเสื้อผ้า ทุกคนต่างก็กินเท่าที่กินได้ หากท้องไม่หิวก็ต้องขอบคุณ๱๭๹๹๳์แล้ว แต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยได้ยินใครเลือกกินเช่นนี้มาก่อน ซ่งหานเจียงอาจแค่เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตามจึงไม่กล้าเอาโรคคุณชายมาใช้ที่นั่นดังนั้นซย่านีจึงไม่รู้เกี่ยวกับเ๹ื่๪๫นี้จริงๆ

        “ในเมื่อเธอรู้รสนิยมการกินของเขา เธอก็ไปคิดเอาเองสิว่าจะซื้ออะไรให้เขากินยังจะมาถามฉันทำไมกัน?” ซย่านีเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าแล้วหันไปบอกอีกฝ่ายอย่างชัดเจน “ฉันต้องไปแล้วจริงๆ ตอนนี้ฉันถือเงินในมือไม่น้อยเลย หากฟ้ามืดเดี๋ยวจะไม่ปลอดภัย ถ้าเกิดเจอพวกอันธพาลขึ้นมาเธอจะรับผิดชอบได้ไหมฮะ?”

        เหวินยางยางสำลักไปหนึ่งที เธอปล่อยแขนเสื้อของซย่านีอย่างกระดากอาย

        แต่เมื่อซย่านีนั่งลงบนเบาะนั่งของรถสามล้อ เหวินยางยางก็ยังเอามือจับพวงมาลัยรถไว้ไม่ยอมปล่อย “พี่ซย่านีฉันคิดดูแล้ว พี่กลับคนเดียวไม่ปลอดภัยจริงๆ ด้วย พี่รอก่อนดีไหมคะ เดี๋ยวฉันไปเรียกหานเจียงให้ไปส่งพี่ดีไหม?”

        ซย่านีอดกลั้นความไม่พอใจเอาไว้แล้วเอ่ยตอบ “ไม่ต้องๆ ฉันกลับเองได้” เธอไม่กล้าไปรบกวนเวลาทำงานการทดลองของซ่งหานเจียงหรอก

        เหวินยางยางยังคงพูดอย่างกระตือรือร้น “แบบนั้นไม่ได้หรอกนะ หากเจออันตรายเข้าจะทำอย่างไร? พี่ซย่านี...” เหวินยางยางคาดเดาอย่างระมัดระวัง “หรือพี่กลัวว่า หากหานเจียงรู้ว่าพี่มาตั้งแผงลอยขายของแบบนี้แล้วจะไม่พอใจงั้นหรือ? พี่วางใจเถอะ ฉันจะคุยกับหานเจียงให้เอง เขาไม่มีทางโกรธพี่หรอก...อาชีพไม่แบ่งสูงต่ำ อีกอย่างตอนนี้ประเทศก็ให้การสนับสนุนด้วยนะ ฉันเข้าใจคนที่ตั้งแผงลอยขายของริมถนนน่ะหาเงินกันอย่างยากลำบากจริงๆ พี่ไม่มีสมุดธัญพืชของเมืองปักกิ่งแบบนี้การหาเลี้ยงชีพในเมืองใหญ่ไม่ง่ายเลย”

        ซย่านีไร้คำจะกล่าว “…”

        ตอนนี้ซย่านีอยากจะเอาหนังยางรัดผมสองชิ้นนั้นของเธอกลับคืนมาให้รู้แล้วรู้รอดไปซะ

        เธอไม่เคยเห็นผู้หญิงที่น่ารำคาญขนาดนี้มาก่อน!

        “ได้ งั้นเธอไปเถอะ เดี๋ยวฉันจะรออยู่ที่นี่เนี่ยแหละ”

        เหวินยางยางยังคงกล่าวต่อ “หากหานเจียงโกรธขึ้นมาจริงๆ ก็ไม่เป็๞ไรนะคะเดี๋ยวฉันจะช่วยเกลี้ยกล่อมเขาเอง เขาเป็๞คนที่ค่อนข้างดื้อรั้นคนปกติน่ะคุมอารมณ์เขาไม่ไหวหรอกค่ะ...เดี๋ยวนะ พี่ซย่านี เมื่อกี้พี่พูดว่าอะไรนะ??”

        ซย่านีรักษารอยยิ้มไว้เล็กน้อย “ฉันรับปากแล้วไง”

        เหวินยางยางเผยสีหน้าออกมา “เช่นนั้นก็ดีเลย! พี่...พี่...พี่อยากเข้าไปในมหาวิทยาลัยกับฉันไหมคะ ไปหาหานเจียงด้วยกัน? พี่ซย่านี พี่ยังไม่เคยมาเยี่ยมชมวิทยาเขตของพวกเราล่ะสิ มหาวิทยาลัยปักกิ่งของพวกเราน่ะสวยมากๆ เลยนะ”

        ซย่านีรีบพูดกับอีกฝ่าย “ไม่ต้องๆ ฉันจะรออยู่ที่นี่ก็แล้วกัน” ซย่านียิ้มเบาๆ ดูท่าทางไม่สะดวกใจเล็กน้อย “มหาวิทยาลัยของพวกเธอมีแต่เหล่าปัญญาชน ฉันเป็๲แค่คนบ้านนอกคนนหนึ่งไม่เข้าไปดีกว่า”

        เหวินยางยางคิดว่าซย่านีน้อยเนื้อต่ำใจ ในใจยังคงรู้จักเจี้ยมตัวอยู่บ้าง เธอจึงกล่าวต่อว่า “เช่นนั้นก็ได้ พี่ซย่านี พี่รออยู่ที่นี่ก่อนนะคะ เดี๋ยวฉันจะเข้าไปเรียกหานเจียงให้”

        ซย่านีรีบพยักหน้าทันที

        หลังจากที่ร่างของเหวินยางยางหายลับไปจากประตูมหาวิทยาลัย ซย่านีก็รีบใช้เท้าเหยียบลงบนคันเหยียบแล้วขี่หนีเหวินยางยางไปทันที

        ส่วนเ๱ื่๵๹ที่ว่าซ่งหานเจียงจะออกมาแล้วเจอเธอหรือไม่นั้นจะเป็๲อย่างไรก็ช่างและซย่านีเองไม่ได้สนใจด้วย เพราะเธอไม่ใช่เป็๲คนเชิญเขาออกมาหาเสียหน่อย

        เหวินยางยางรักษาคำพูดของเธอ เมื่อมาถึงห้องทดลองแล้วสิ่งแรกที่เธอทำก็คือบอกซ่งหานเจียงเ๹ื่๪๫ซย่านีมาที่มหาวิทยาลัย

        ทว่าซ่งหานเจียงกำลังมุ่งความสนใจไปที่การคิดคำนวณข้อมูลอยู่จึงไม่ได้ฟังเหวินยางยาง

        “หานเจียง หานเจียง?” เหวินยางยางขยับเข้าไปใกล้แล้วเปล่งเสียงดังขึ้น

        จู่ๆ ซ่งหานเจียงก็ถูกขัดจังหวะ จึงขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ พอเห็นว่าเป็๲เหวินยางยางเขาก็ถามขึ้นทันที “วิเคราะห์ข้อมูลเสร็จแล้วหรือ? เป็๲อย่างไรบ้าง? การคำนวณครั้งก่อนของพวกเราถูกต้องไหม?”

        เหวินยางยางหัวเราะแห้งๆ แล้วตอบชายหนุ่มไปว่า “…ยังเลย” แล้วเธอก็รีบเปลี่ยนเ๹ื่๪๫ทันที “หานเจียง เมื่อกี้ ฉันเจอพี่ซย่านีที่ประตูมหาวิทยาลัยด้วยนะ”

        “ซย่านีงั้นหรือ?” ซ่งหานเจียงไม่สนใจการวิเคราะห์ข้อมูลการทดลองอีกต่อไป เขารีบลุกขึ้นทันทีด้วยสีหน้าเป็๲กังวล “เธอมามหาวิทยาลัยเพื่อตามหาผมงั้นหรือ? มีเ๱ื่๵๹อะไรเกิดขึ้นที่บ้านหรือเปล่า?”

        “ไม่ๆ ไม่ใช่แบบนั้น” เหวินยางยางโบกมือปฏิเสธ “เธอมาตั้งแผงขายของที่ประตูทางเข้ามหาวิทยาลัยของพวกเราน่ะ ฉันเห็นว่ามันเริ่มจะเย็นแล้ว เธอกลับบ้านคนเดียวคงไม่ปลอดภัยเพราะงั้นเลยมาถามนายดูว่าจะไปส่งเธอหน่อยไหม?” เหวินยางยางเงียบไปชั่วขณะก่อนจะเอ่ยต่อ “หานเจียง นายวิเคราะห์ข้อมูลเสร็จแล้วหรือยัง ถ้ายังไม่เสร็จเดี๋ยวฉันไปส่งพี่ซย่านีเองก็ได้นะ”

 

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้