“คุณชายพวกเ้าเป็กระไรหรือไม่?” หลินหวั่นชิวถาม เจียงหงหนิงเข้าใจเช่นนั้น ส่วนทังหยวน…เขารู้ว่านางเป็ห่วงสุขภาพคุณชายพวกเขา
ทังหยวนรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อย
คุณชายของพวกเขาไม่ได้เป็คนเสียเงินเปล่าอย่างเดียว แต่ยังถูกเป็ห่วงสุขภาพด้วย
“คุณชายไม่เป็กระไรขอรับ” เขาคืนหม้อเปล่าให้ยายสวีแล้ว ตอนนี้ทังหยวนยืนมือเปล่าอยู่หน้าหลินหวั่นชิว “คุณชายให้ข้าน้อยมาแจ้ง ว่าคนพวกนั้น…”
“เ้ายังไม่กินข้าวใช่หรือไม่ มา เข้ามากินที่เรือนข้างเสียก่อน” หลินหวั่นชิวรีบส่งสายตาเป็นัยให้ทังหยวน ทังหยวนเข้าใจความหมาย นางคงไม่อยากให้คนที่บ้านรู้
“เช่นนั้นข้าขอบคุณท่านมากขอรับ” ทังหยวนไหลตามน้ำ แต่เพราะเขาวิ่งวุ่นมาทั้งวัน เย็นนี้ยังไม่ได้กินข้าวเช่นกัน
“หงหนิง เ้ากินอิ่มแล้วตั้งไว้เป็พอ” หลินหวั่นชิวะโไปทางห้องโถง
“อื้ม ข้ารู้แล้ว พี่สะใภ้ไม่ต้องห่วงข้า!” หงหนิงขานตอบ
หลินหวั่นชิวให้ยายสวีช่วยเตรียมชามตะเกียบให้ นางยกถาดไปแบ่งอาหารส่วนหนึ่งจากห้องโถง ตักโจ๊กกับหมั่นโถวมาด้วยนิดหน่อย
อาหารวางบนโต๊ะ แค่มองก็ทำเอาทังหยวนอยากกินเสียแล้ว
ทังหยวนที่ตอนแรกวางแผนว่าจะสำรวมทนไม่ไหวอีกต่อไปเมื่อได้กลิ่น คีบเข้าปาก ไอ๊หยา อร่อยจนเขาเกือบกลืนลิ้นลงไปด้วย
หมูสามชั้นผัดหน่อกระเทียม เข้าปากแล้วอร่อยสุดๆ กลิ่นของเครื่องปรุงและน้ำมันแตกในปาก มีความสุขจนอยากร้องไห้
อืม
มันคือความรู้สึกนี่แหละ
“นี่คือเนื้อกระไรหรือ?” ทังหยวนกินได้สองคำก็รู้สึกว่าตัวเองมูมมามไปหน่อย รีบผ่อนความเร็วลงพร้อมกับถามหลินหวั่นชิว
หลินหวั่นชิวตอบ “หมูสามชั้นกลับกระทะ”
นางชี้กับข้าวจานอื่น “นี่คืออิงเถาโร่ว[1] นี่คือไส้ผัดแห้ง นี่คือผักกวางตุ้งผัดกระเทียม นี่คือเนื้อตากผัดผัก”
ทังหยวนลองชิมทุกจาน แม่เ้า แม่ครัวบ้านนี้กำลังขุนหมูชัดๆ!
แบบนี้สิถึงเรียกว่าอาหาร!
ทังหยวนควบคุมตัวเองไม่อยู่ กินจนพุงกลมป่องและเรอ จานถูกเขาใช้หมั่นโถวปาดกินจนเกลี้ยง
“เออะ…” เรออีกครั้ง ทังหยวนมองหลินหวั่นชิวอย่างอายๆ เขารู้ว่าภาพลักษณ์เวลากินของตัวเองน่าอายเพียงใด
หลินหวั่นชิวถามด้วยรอยยิ้ม “คุณชายพวกเ้าให้เ้ามาบอกกระไรข้า?”
ทังหยวนรีบบอกคำสารภาพที่เขาได้รับมาจากที่ว่าการอำเภอให้หลินหวั่นชิวฟัง
“ไม่กี่วันก่อน ในอำเภอมีคนตายไปหกคน ศาลว่าการปิดสรุปคดีไปแล้ว คนที่มาวันนี้เป็พรรคพวกของพวกเขา ที่แท้หกคนนั้นก็จะมาปล้นอันอี้จวี แต่ไม่รู้ว่าเหตุใดอันอี้จวีจึงไม่เป็กระไร กลายเป็หกคนนั้นที่ตายแทน พวกเขาจึงคิดว่าเป็ฝีมือของอันอี้จวี อยากจับท่านไปแก้แค้นให้พรรคพวกและรีดเงิน…พวกเขายังมีพรรคพวกคนอื่นๆ อีก แต่ทนการทรมานไม่ไหวเลยสารภาพออกมาหมดแล้ว คุณชายให้ข้ามาแจ้งท่านว่าไม่ต้องกังวล ทางศาลว่าการจะจัดการเื่นี้อย่างเด็ดขาดเป็แน่ หนึ่งเพราะนายอำเภออยากเอาหัวคนพวกนี้ไปสร้างผลงานกับเบื้องบน สองคือ คนพวกนี้กำเริบเสิบสานเกินไป ครั้งก่อนบุกเข้าไปถึงที่ว่าการอำเภอ คดีก่อนหน้านี้ปิดไปแล้วย่อมไม่เอามาสอบใหม่ เพราะถ้าสอบใหม่จะหมายความว่านายอำเภอตัดสินคดีผิด ดังนั้นท่านไม่ต้องกังวลว่าจะโยงมาถึงอันอี้จวี”
ฟังทังหยวนพูดจบ หลินหวั่นชิวอดนึกกลัวไม่ได้
หากไม่มีตู้ซิวจู๋ นางคงถูกคนพวกนั้นจับตัวไปเป็แน่ จับไปแก้แค้น…ดีไม่ดีหากได้เงินได้แล้วอาจฆ่าปิดปาก หรืออาจทำเื่ที่ร้ายแรงกว่านั้น
ต้องเรียกว่ากระไร?
นั่งอยู่ในบ้าน จู่ๆ หายนะก็ตกใส่หัว!
“อืม ข้ารู้แล้ว รบกวนเ้าแล้วทังหยวน หากไม่ใช่เพราะเ้าไปทางที่ว่าการอำเภอทันเวลา คนพวกนี้คงไม่ถูกจับง่ายๆ”
ทังหยวนเกาหัว “เื่เล็กน้อย…ฮะฮะ” คุณชายพาเถ้าแก่หลินวิ่งหนี คนของเขาเข้าจับคนพวกนั้น ขืนรอมือปราบจากที่ว่าการอำเภอ…เหอะๆ ไม่แน่ว่าคนพวกนี้กลับบ้านไปคลอดลูกแล้วก็ยังจับไม่ได้ด้วยซ้ำ
“เอ่อคือ ข้ามาแจ้งเพียงเท่านี้ ขอบคุณสำหรับอาหาร เช่นนั้นข้าน้อยขอตัวก่อนขอรับ”
หลินหวั่นชิวเดินไปส่งทังหยวนที่ประตู นางกลับไปกินข้าวที่ห้องครัว
ล้างหน้าบ้วนปากเสร็จก็ขึ้นเตียง แต่พลิกตัวไปมาอย่างไรก็นอนไม่หลับ
ทั้งเพราะนึกกลัว
ทั้งเพราะรู้สึกผิด
ตอนเจียงหงหย่วนกลับมา เขาเห็นตะเกียงในห้องภรรยาตัวน้อยยังสว่างอยู่
เขาไปตักน้ำล้างตัวจากห้องครัว เปลี่ยนมาสวมเสื้อผ้าสะอาดและไปเคาะห้องหลินหวั่นชิว
พบว่าประตูไม่ได้ลงกลอน
เจียงหงหย่วนผลักประตูเข้าไป เห็นภรรยาตัวน้อยนั่งกอดเข่าอยู่บนเตียง เกยคางไว้บนหัวเข่า สีหน้าดูกลัดกลุ้ม
ในห้องยังไม่จุดถ่าน
เย็นยะเยียบ
เจียงหงหย่วนขมวดคิ้ว “เหตุใดเ้ายังไม่นอนอีก? ถ่านก็ไม่จุด?”
หลินหวั่นชิวเงยหน้ามองเจียงหงหย่วน นางครุ่นคิดสักพัก ในที่สุดก็กางแขนให้เขาตามที่ใจปรารถนา
นางคิดถึงอ้อมแขนของชายฉกรรจ์ยิ่งนัก
โดยเฉพาะเวลากลัว
อ้อมแขนของเขากว้างมาก ทำให้นางรู้สึกปลอดภัย
เจียงหงหย่วนเจอเช่นนี้ก็พูดกระไรไม่ออกอีก เขาถอนหายใจ เดินเข้าไปหา ขึ้นเตียงกอดหลินหวั่นชิวแน่น
“เป็กระไรไป? ผู้ใดรังแกเ้า?” เสียงของชายฉกรรจ์อ่อนโยนแบบที่ไม่เคยเป็มาก่อน เขาเคยจินตนาการถึงภาพที่ภรรยาตัวน้อยเป็ฝ่ายพุ่งเข้าอ้อมกอดว่าจะเป็อย่างโน้นอย่างนี้ แต่พอถึงคราวที่นางทำขึ้นมาจริงๆ ในใจเขากลับไม่มีความคิดสกปรกใดๆ มีเพียงความเอ็นดูเท่านั้น
ยังไม่เข้านอน นั่งรอเขาบนเตียง…ดูท่าทางเหมือนโดนรังแกมา
หลินหวั่นชิวพิงอกเขา ฟังเสียงหัวใจเต้นแรงอย่างมีพลัง แค่ได้ัักับอุณหภูมิอุ่นร้อนจากร่างเขา นางก็เบาใจ
“วันนี้ข้าไปสั่งเครื่องเรือนมา” นางพูดขึ้นช้าๆ เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อตอนบ่ายให้เจียงหงหย่วนฟัง
“ออกมาแล้วถูกคนสะกดรอยตาม มากันสี่คน พกมีดกันหมด พวกเขาคิดจะจับข้า…”
“อย่างไรกัน? เช่นนั้นเ้าาเ็ที่ใดหรือไม่?” เจียงหงหย่วนร้อนใจทันที เขาปล่อยหลินหวั่นชิว สำรวจรอบตัวนาง ความร้อนใจและความเป็ห่วงเอ่อล้นออกมาจากสายตา
“ข้าไม่เป็กระไร ตู้ซิวจู๋ช่วยข้าเอาไว้” หลินหวั่นชิวส่ายหน้า
เจียงหงหย่วนโล่งใจ แต่แค่พริบตาก็ต้องขมวดคิ้วแน่นกว่าเดิม
เชิงอรรถ
[1] อิงเถาโร่ว(樱桃肉) หมูสามชั้นที่มีเนื้อสีแดงก่ำคล้ายอิงเถา(เชอรี่) ชิ้นกลมเล็ก หนังนุ่ม รสชาติออกหวานๆ เค็มๆ
