บทที่131
“อย่ามอง!” คานาโกะกดศีรษะอาโออิแนบไว้กับหน้าอกคัพ K ของเธอ
“แม่คะ! คลายกอดหน่อย! อาโออิจะถูกบี้ตายอยู่แล้ว! หายใจไม่ออก!”อาโออิคร่ำครวญ
เสิ่นิเหยียดตัวตรงและหันหน้าไปหาครูที่อยู่หน้าโพเดียมเขาไม่ยำเกรงใดๆ ถือวิสาสะเปิดโต๊ะข้างๆ มองหาอาวุธที่พอจะใช้งานได้“นักฆ่ามือสมัครเล่นช่างเชื่องเหมือนสุนัข พอเห็น ‘กระดูก’ ก็กระดิกหางเผยข้อบกพร่องของตนออกมาให้เห็น สมควรจบไม่สวย”
“ไอ้ฉิบหาย!” ฟุคาดะยันโพเดียมแล้วยืนขึ้น ดั้งจมูกเธอหักใบหน้าที่เปื้อนเืนั้นดูยับเยินมาก ฟุคาดะพ่นลมใส่ฝ่ามือฟันหน้าสามในสี่ซี่หลุดออกมา ไม่เหลือคราบความอ่อนเยาว์และงดงามอยู่อีกเลย
“ถอยไปหน่อย” เสิ่นิบอกคานาโกะ เขาไม่ได้ซ่อนมีดเอาไว้ในเป้ากางเกงดังนั้นจึงได้แต่ใช้ไม้บรรทัดฟุตเหล็กยาว 30 เิเจากโต๊ะของเด็กในชั้นชายหนุ่มถือมันไว้ด้วยมือซ้ายซึ่งสามารถใช้การได้เพียงข้างเดียวบอดี้การ์ดหนุ่มกำมันไว้แน่น
ลำดับต่อมาคานาโกะซึ่งล่าถอยออกไปแทบจะไม่เชื่อสายตาของตัวเองฟุคาดะควงดาบซามูไรที่ส่องประกายและฟาดฟันขึ้นลงกลางอากาศแม้แต่โต๊ะทำงานที่เป็โลหะซึ่งหนาเกือบ 5 เิเที่มุมโต๊ะก็ยังถูกตัดออกเป็สองท่อน ราวกับการหั่นแตงโมหรือผัก
เสิ่นิเหมือนเป็ครูสอนเต้นให้กับฟุคาดะเขาถือไม้ฟุตเหล็กเอาไว้ ฟาดฟันกับฟุคาดะ ฉวัดเฉวียนเป็แสงแลบแปลบปลาบไม่ว่าจะโต๊ะหรือเก้าอี้ที่อยู่รอบตัวต่างก็กระจุยกระจาย ไม่ต้องแตกตื่นไปเมื่อฟุคาดะเผยช่องโหว่ให้เห็น ระยะเพียงฟุตเดียวเท่านั้นเสิ่นิก็หาช่องจู่โจมได้ในทันที
เมื่อเสิ่นิถอยไปหาคานาโกะซึ่งอยู่ห่างไปไม่ถึง1เมตร ฟุคาดะที่เป็ฝ่ายรุกแต่กลับดูเหมือนฝ่ายแพ้มีรูมากกว่าหนึ่งโหลอยู่ที่กระโปรง มันถูกไม้ฟุตเหล็กตัดจนขาดความนองเืนี้ไม่เหมาะสำหรับเยาวชนจริงๆ
“ยอมแพ้เสียเถอะ ขนาดผมต่อให้คุณ โดยใช้แค่มือข้างเดียวคุณก็ยังเอาชนะผมไม่ได้ มือสังหารไม่มีประกันสุขภาพ เดี๋ยวผมจะจัดหนักแล้วนะ”เสิ่นิเตือนเป็ครั้งสุดท้าย
“คุณเป็ใคร?” ใน่ระยะเวลาสั้นๆในขณะที่ล่าถอยไปไม่ถึง 5 เมตรฟุคาดะกลับได้แผลมาแล้วไม่ต่ำกว่า 100 แผลในขณะที่เธอไม่อาจแตะต้องปลายผมของเสิ่นิได้ด้วยซ้ำ บอดี้การ์ดที่เธอเคยเจอมาไม่เคยเห็นใครคุ้มกันเช่นนี้ ราวกับอสุรกาย ทำให้ผวาได้ถึงขีดสุด!
“ผมคือผู้ที่มาล้างแค้นจากเมืองจีน ซากุระร่วงโรยจะต้องตกอยู่ในกำมือของผม”เสิ่นิเอ่ยเบาๆ
“ฮ่าๆๆ! ช่างน่าหัวเราะ!ชายชาวจีนตัวน้อยผยองคิดว่าตัวเองจะโค่นซากุระร่วงโรยได้อย่างนั้นหรือ? ให้ฉันช่วยทำให้คุณตาสว่างดีกว่า!” ขณะที่ฟุคาดะหัวเราะอย่างบ้าคลั่งเธอก็ล้วงมือเข้าไปในกระโปรงอีกครั้งดาบซามูไรอีกเล่มที่มีความยาวเท่ากันถูกดึงออกมาจากส่วนซ่อนเร้น
“คุณเป็นักมายากลหรือมือสังหารกันแน่? อาจารย์คุณชื่อDavid Copperfield เหรอ?” เสิ่นิกล่าวอย่างถ่อมตน
“Copperfieldอะไร ฉันไม่เข้าใจ ถ้าแกได้เจอมีดบินคู่อันยิ่งใหญ่ของญี่ปุ่นแกได้ตายทันทีแน่!” ฟุคาดะคำรามลั่น!
10 วินาทีหลังจากนั้นก็มีเสียงโครมดังขึ้น ฟุคาดะซึ่งสูง 1.55 เมตรถูกเตะออกมาจากประตูหลังห้องเรียนฉากกั้นประตูและกระจกถูกพังออกเป็เสี่ยงๆ
ฟุคาดะที่เือาบทั้งร่างทรุดตัวลงนั่งพิงกับผนังทางเดินเศษชิ้นส่วนประตูไม้กระจัดกระจายไปทั่ว พร้อมทั้งดาบซามูไรที่หักอีกสองเล่ม
เห็นได้ชัดว่าเสิ่นิได้ทราบถึงศักดาของมีดบินคู่ญี่ปุ่นแล้วแต่มันก็ไม่เด็ดจริงอย่างที่เธอว่า
“ไปกันเถอะ” เสิ่นิเดินไปตามทางเดิน เขายังคงถือไม้บรรทัดเหล็กที่เปื้อนเืเอาไว้ในมือ
“แล้วเธอล่ะ?” คานาโกะปิดตาอาโออิไว้ด้วยผ้าเช็ดหน้าหญิงสาวกลัวจนตัวสั่นอยู่บ้าง แต่อาโออิกลับทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นราวกับว่าไม่มีเื่ใดน่ากลัวตราบเท่าที่อยู่ในอ้อมอกของผู้เป็แม่
“เธอยังไม่ตาย เดี๋ยวก็มีคนมาเก็บกวาดเธอเองทางที่ดีเราไม่ควรรอเจอคนที่จะมาเก็บกวาดเธอจะดีกว่า” เสิ่นิภาวนา
แต่เมื่อลงไปถึงชั้นสามเขาก็เข้าใจได้ในทันทีว่าสุริยเทพีแห่งญี่ปุ่นไม่ได้ล้อเขาเล่น มือสังหาร4 ถึง 5 คนในสูทสีดำขวางทางบันไดไว้พร้อมกับมีดสั้นในมือ
คิดๆแล้วมือสังหารสมัครเล่นนี้ก็น่าสังเวช เพื่อประหยัดค่าใช้จ่ายแม้แต่ปืนพกเก็บเสียงก็ยังไม่มีปัญญาซื้อ ได้แต่อาศัยยุทธวิธีหมาหมู่แผนสังหารในระยะประชิดไม่ได้ใกล้เคียงกับในภาพยนตร์เลยสักนิดเมื่อเทียบกับคุณครูฟุคาดะที่เพิ่งล้มคว่ำไปพวกที่เข้ามาขวางทางอยู่นั้นอ่อนเสียยิ่งกว่าเธออย่างเห็นได้ชัด DPS1น่าจะกากมาก
อย่างไรก็ดีสองหมัดก็ยากที่จะเอาชนะสี่มือ ยิ่งไปกว่านั้นเสิ่นิใช้มือซ้ายได้เพียงข้างเดียวหนำซ้ำยังต้องคอยระวังคุ้มกันคานาโกะและอาโออิอีกด้วยเมื่อเผชิญหน้ากับนักฆ่าที่ถือมีดวิ่งขึ้นมา เขาสอยได้ทีละคนเหล่ามือสังหารถูกตัดเอ็นข้อมือและข้อเท้าด้วยความเร็วสูง เืทะลักอาบทางเดินแม้ว่าพวกเขาจะเป็นักฆ่า ทั้งยังมีประสบการณ์ในการอดทนต่อความเ็ปขั้นพื้นฐานแต่วิธีการตัดของเสิ่นินั้น เขาใช้ไม้บรรทัดเหล็กแทนใบมีดซึ่งมันไม่ได้คมแต่อาศัยพละกำลังดึงไปดึงมาเหมือนเลื่อย และนั่นทำให้เหล่านักเลงคร่ำครวญด้วยความเ็ป
จากชั้นสามลงมาถึงชั้นหนึ่งเสิ่นิใช้เวลาไป 5 นาทีร่างกายของเขาเปื้อนเืของนักฆ่าเ่าั้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ทั้ง 5คนกลับทำร้ายเขาไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
คานาโกะใกลัวถ้าอดีตสามีผู้โง่เขลาของเธอมีพลังต่อสู้เท่ากับ 10 เสิ่นิที่อยู่ตรงหน้าเธอตอนนี้ก็นับว่ามีพลังเท่ากับ10 ยกกำลัง N!
“ไปกันเถอะ” เสิ่นิยืนอยู่ที่โถงชั้นหนึ่งและหันกลับมายิ้มให้กับคานาโกะเขาโยนไม้ฟุตเหล็กที่บิดเบี้ยวในมือทิ้งในขณะที่มีคราบเืติดอยู่บนใบหน้า
“ไปไหน?” คานาโกะยังคงสับสนอาจเป็เพราะเืบนฝ่าเท้าที่ทำให้เธอเสียศูนย์
“ไปทานข้าวสิ คุณไม่หิวหรือไง?” เสิ่นิมีท่าทางที่เป็ปกติมากราวกับเพิ่งตบแมลงวันไปไม่กี่ตัว
“แม่คะ ไปกันได้หรือยัง? อาโออิอยากกินซูชิแล้ว!”อาโออิที่อยู่ในอ้อมกอดแม่ส่งเสียงดัง อาจเป็เพราะเธอมองไม่เห็นอะไรเลยอาโออิจึงไม่กลัว
“แล้วจะเอาอย่างไรกับพวกเขา?” คานาโกะหมายถึงเหล่ามือสังหารที่อยู่ด้านหลัง
“เดี๋ยวก็มีคนมาเก็บกวาดพวกมันเอง ถึงฝีมือของพวกมันจะห่วยแต่อย่างไรเสียก็อยู่ด้วยกันเป็ฝูง” เสิ่นิพาคานาโกะะกลับไปยังรถ SMARTเช่นเดียวกับผู้ปกครองทั่วไปที่มารับนักเรียนพวกเขาเคลื่อนรถออกไปตามปกติ
เมื่อเพื่อนร่วมแก๊งของนักฆ่าชั้นต้นมาถึงพวกเขาก็เห็นว่าเพื่อนร่วมงานนอนจมกองเือยู่ตรงทางเดินและยังมีฟุคาดะที่ได้ชื่อว่าเป็นักดาบฝีมือดีหมดสติอยู่
“นี่สมควรเป็ภารกิจที่มอบหมายให้กับนักฆ่าชั้นต้นจริงๆ หรือ?” ความสงสัยดังกล่าวเกิดขึ้นในใจของทุกคน
ระหว่างทางไปร้านซูชิใจของคานาโกะยังว้าวุ่นไม่หยุดเธอใช้ผ้าเช็ดหน้าที่ใช้ปิดตาอาโออิเช็ดคราบเืบนใบหน้าของเสิ่นิเธอไม่อยากให้คนอื่นเห็นเสิ่นิในลักษณะเช่นนี้และเป็กังวลแต่ตัวเธอเองกลับอดหวนกลับไปนึกถึงเื่ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเมื่อครู่นี้ไม่ได้
“คุณลุงคะ คุณครูฟุคาดะเป็คนไม่ดีหรือคะ?” อาโออิถามประเด็นสำคัญแทน
“เธอเป็นักฆ่าที่้าทำร้ายแม่ของหนู แม่ของหนูไปทำให้คนเลวไม่พอใจพวกมันก็เลยออกคำสั่งล่าตัวแม่” เสิ่นิไม่ได้ปิดบังนอกจากนี้ยังเป็การบอกกล่าวคุราชินะไปในตัวด้วย
“คุณลุง แล้วคุณลุงเป็ใครคะ?” อาโออิสามารถจับประเด็นของเื่ราวได้อย่างง่ายดาย
“คนดี บอดี้การ์ดสุดยอดฝีมือจากเมืองจีน ลุงอยู่ที่นี่แล้วแม่ของหนูและอาโออิจะไม่เป็ไร ไม่มีใครทำร้ายพวกเธอได้” เสิ่นิให้สัญญา
“แล้วถ้าเป็สัตว์ประหลาดล่ะ ถ้าสัตว์ประหลาดมา คุณลุงจะกลัวไหม?” อาโออิกล่าวตามประสาเด็กน้อย
“ไม่กลัว ลุงจะบอกความลับให้ ลุงมีไม้กายสิทธิ์ลุงจะแปลงร่างเมื่อเจอสัตว์ประหลาด” เสิ่นิยิ้ม
“หนูรู้ ไม้กายาสิทธิ์เหมือนของ ‘เทพบุตรหลุดโลก’ ! แต่ไม้ของคุณลุงดูตุงๆนะคะ!” อาโออิกล่าวด้วยความตื่นเต้น
“เอ่อ? หนูไปดูการ์ตูนอะไรมา...” เสิ่นิขมวดคิ้ว
เมื่อรถแล่นไปถึงหน้าร้านซูชิคานาโกะไม่ได้พูดอะไรมาก เสิ่นิก็ไม่ได้รบกวนเธอเขารู้ว่าเธอกำลังปรับความคิดของตัวเองเพื่อที่จะยอมรับกับเื่ทั้งหมด
นับั้แ่ที่เธอเลือกการรณรงค์ต่อต้านมาเฟียเป็สโลแกนในการเลือกตั้งคานาโกะก็เตรียมใจที่จะเผชิญหน้ากับความอันตรายเอาไว้แล้วเธอไม่คาดคิดเลยว่าอันตรายจะลามไปถึงลูกสาว นี่คือสิ่งสุดท้ายที่เธออยากเห็น
“ผมอยู่นี่แล้ว คุณไม่ต้องกังวลไปหรอก” เสิ่นิลงจากรถพลางกล่าวปลอบใจซึ่งให้ผลดีกว่าคำของนักจิตวิทยาเสียอีก
“อื้อ” คานาโกะสงบลงได้ในที่สุด เธอกลับมาสุขุมและเดินเข้าไปในร้านซูชิ
ในห้องส่วนตัวสี่คนที่มาถึงก่อนได้สั่งอาหารและเครื่องดื่มเอาไว้แล้วพวกเขายินดีต้อนรับกับการมาถึงของทั้งสามคน อาคิตะและลีอาห์เมาแล้วคนอ้วนทั้งสองกอดคอกันร้องคาราโอเกะดูเหมือนกับลูกบอลสองลูกที่กลิ้งเกลือกอยู่ด้วยกัน
โอบาตะทาเคชินั่งอยู่ข้างเซี่ยวอี๋ เขาดื่มจนใบหน้าแดงขึ้นเล็กน้อยคอยคีบกับข้าวจากจานที่อยู่ใกล้ๆ ให้กับเซี่ยวอี๋ตลอดความรักที่มอบให้หญิงสาวได้ถูกสลักไว้บนใบหน้าของเขามาั้แ่ไหนแต่ไรแล้วอย่างไรก็ตาม โอบาตะ ทาเคชิไม่กล้าเผยความในใจ เขาแทบจะไม่ได้คุยกับเซี่ยวอี๋เลยด้วยซ้ำ
ทั้งโต๊ะผู้ที่พูดภาษาจีนได้เหมือนกันมีเพียงแค่โอบาตะทาเคชิและเสิ่นิ เสิ่นิเพิ่งจะาเ็จึง้าเพิ่มสารอาหารในร่างกายเขาทานเหมือนกับผีที่หิวโหยซึ่งเพิ่งกลับชาติมาเกิดเซี่ยวอี๋จึงได้แต่คุยกับโอบาตะ ทาเคชิ
อย่ามองว่าเ้าสี่ตานี่เป็พวกมือสมัครเล่นเขาได้เกียรตินิยมอันดับหนึ่ง จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงแถมยังเคยเป็ประธานประชาสัมพันธ์ของสหพันธ์นักศึกษา แต่เมื่อออกไปสมัครงานเขามักจะพบกับอุปสรรคอยู่เสมอ เสียเวลาไปจนกระทั่งอายุ 26 ปีแล้วก็ยังทำอะไรไม่สำเร็จสักเื่
คานาโกะกำลังมองหาที่ปรึกษาการจัดแคมเปญอยู่พอดีเขาจึงได้ร่วมทีมคานาโกะด้วยประการฉะนี้ พร้อมเดินหน้าเข้าสู่วงการการเมือง โอบาตะทาเคชิสนใจในวัฒนธรรมจีนเป็อย่างมาก เขาสนใจในตัวของเซี่ยวอี๋หญิงสาวผู้ทรงพลังจากเมืองจีน บางทีอาจเป็เพราะนิสัยที่ชอบเป็ผู้ถูกกระทำของเขา
บางครั้งเซี่ยวอี๋ก็พูดจากระโชกโฮกฮากไม่ได้ให้เกียรติโอบาตะ ทาเคชิซึ่งถือเป็รุ่นพี่เลยท่าทางอวดเบ่งวางก้างราวกับราชินี
บรรยากาศบนโต๊ะมีสีสันเป็พิเศษโดยเฉพาะเมื่อแพนด้าบินเข้ามาในห้องส่วนตัวและรับประทานปลาแซลมอนซึ่งเสิร์ฟมาบนเรือใหญ่ อาโออิจ้องดวงตาของนกตัวโตและ“ผูกจิต” กับมัน เด็กน้อยกอดจูบมันตลอดและเมื่อเธอรู้ว่ามันคือสัตว์เลี้ยงของเสิ่นิ เธอก็รบเร้าอยู่นานสองนาน “ขออาโออิได้ไหมคะอาโออิอยากเลี้ยงมันจริงๆ”
“อาโออิคนดี ลุงไม่ได้หวง แต่เ้านกตัวนี้กินจุมากมันกินแต่ปลาแซลมอนอย่างเดียวเท่านั้น ด้วยปริมาณอาหารที่มันกินหนูคงเก็บเงินไถ่บ้านหลังใหญ่ให้ครอบครัวของหนูไม่ได้แน่” เสิ่นิปลอบ
“โอเค! อย่างนั้นถ้าแพนด้าตายแล้ว!คุณลุงก็อย่าลืมสตาฟมันและส่งมาให้อาโออิเป็ของขวัญนะคะ! อาโออิชอบนก!”อาโออิไซร้คอแพนด้าในขณะที่กล่าว
“เอ่อ ลุงว่าจะเอามันมาย่างกิน แต่ก็ได้ ลุงสัญญา”เสิ่นิเกี่ยวก้อยกับอาโออิ
*********************
1 DPS ย่อมาจาก Damageper Second หรือ ดาเมจต่อวินาที ซึ่งหมายถึง พวกที่ทำดาเมจแต่ละครั้งเบามาก