แคว้นเว่ยนี่ช่างเหลือเชื่อ!
ผู้ที่เปิดโลงศพของผู้าุโครอบครัวคนอื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตไม่ถูกสงสัย แต่พอสอบถามสถานะของอีกฝ่ายกลับเป็นางที่บังอาจล่วงเกิน?
เฉิงชิงไม่รู้ว่าตนเองควรทำสีหน้าอย่างไรไปชั่วขณะ
เมื่อเ้าขี้โรคผมดกดำดั่งนกกา ผิวขาวซีดดุจหิมะยกมือขึ้น หญิงรับใช้ตรงประตูทางเข้าก็สงบเสงี่ยมทันที
“ไม่เป็ไร ข้าก็ไม่ได้ตั้งจะทำตัวลับล่อั้แ่แรกอยู่แล้ว หากเขาสามารถสอบเข้ารับราชการเป็ขุนนางได้ ช้าเร็วอย่างไรก็ต้องรู้สถานะของข้าอยู่ดี เฉิงชิง เื่นี้เ้าควรจะขอบคุณเมิ่งไหวจิ่น หากเขาไม่รับรองเ้าซ้ำไปซ้ำมา ข้าไม่มีทางยินยอมที่จะพบเ้า คดีของบิดาเ้าให้ตระกูลเฉิงแห่งหนานอี๋ออกหน้าจัดการไปก็ไร้ประโยชน์ มีเพียงข้าเท่านั้นจึงจะสามารถคืนความบริสุทธิ์ให้แก่บิดาของเ้าได้”
ท่าทางของเ้าขี้โรคไม่นับว่าโอ้อวด ถ้อยคำเหล่านี้พอถูกเขาเอ่ยออกมากก็คล้ายว่าจะเป็เช่นนั้นแน่นอน เฉิงชิงอดทนไม่โต้ตอบกลับไป แต่เขาก็ยังไล่ตามไม่ปล่อย
“ดังนั้น ท่านผู้สูงศักดิ์… คือข้าหลวงใหญ่ที่ราชสำนักส่งมาใหม่หรือขอรับ?”
อ่อนวัยไปแล้ว!
คนอายุเท่านี้สามารถเป็ข้าหลวงใหญ่ได้ สถานะจะสูงส่งขนาดไหนกัน
เ้าขี้โรคส่ายศีรษะเบาๆ
“ข้าหาใช่ข้าหลวงใหญ่ไม่ เ้าเองก็ปรักปรำใต้เท้าข้าหลวงใหญ่จางที่ราชสำนักส่งไปตรวจสอบคดีแล้ว แม้ใต้เท้าจางจะไม่ใช่คนดีอะไรนัก แต่ก็ไม่นับว่าเป็คนที่ทำเื่ชั่วร้ายเลวทราม บิดาเ้ากลายเป็แพะรับบาปอย่างคลุมเครือ หากพวกเ้าทั้งครอบครัวยังอยู่ขวางทางที่อำเภอเจียงหนิง มือมืดที่อยู่เื้ัย่อมไม่ถือที่จะกำจัดพวกเ้าไปพร้อมกัน ที่ใต้เท้าจางให้พวกเ้ากลับบ้านเกิดก็คือการช่วยชีวิตพวกเ้า”
ในเมื่อคดีของเฉิงจือหย่วน ข้าหลวงใหญ่จางไม่เหมือนจะมองไม่กระจ่างชัด พลานุภาพของ์ยากคาดเดา ข้าหลวงใหญ่จางไม่ใช่ผู้ที่มีอำนาจในการปิดคดีนี้
เฉิงชิงพลันนึกถึงบทสนทนากับนายท่านห้าในครั้งนั้น
นายท่านห้าถามนางว่า หากคดีนี้เกี่ยวข้องกับผู้ที่โอรส์เกรงกลัวจนต้องเตะถ่วง นางเตรียมจะทำอย่างไร
เฉิงชิงกล่าวว่าเพียงสามารถพลิกคดีได้ นางไม่ถือที่จะเป็ดาบในมือของโอรส์ในการขจัดอุปสรรคกีดขวาง... ถูกใช้ประโยชน์ไม่ใช่เื่น่าหัวเราะ เกรงว่าแม้แต่คุณค่าที่คู่ควรในการถูกใช้ก็ล้วนไม่มี ยามนั้นนายท่านห้าก็กล่าวแล้ว เมื่อไม่ได้ยืนอยู่ในท้องพระโรงนางก็ไม่มีคุณสมบัตินั้น
ที่แท้นายท่านห้าก็เห็นด้วยกับการคาดเดาของนางอย่างเงียบเชียบ คดียักยอกเงินผู้ประสบภัยพิบัติเกี่ยวข้องกับบุคคลที่โอรส์เกรงกลัว!
เ้าขี้โรคกล่าวว่ามีเพียงเขาเท่านั้นที่จะสามารถคืนความบริสุทธิ์ให้กับเฉิงจือหย่วนได้ สถานะของอีกฝ่าย้าอะไรก็ได้ตามนั้น
โอรส์องค์ปัจจุบันครองราชย์มาหลายปีแล้ว เ้าขี้โรคไม่มีทางเป็ฮ่องเต้ได้
เช่นนั้นเขาอาจจะเป็ผู้ที่เกี่ยวข้องกับคดีที่ทำให้โอรส์เกรงกลัวผู้นั้นหรือ?
อายุเท่านี้ เป็ไปได้หรือไม่ที่จะเป็องค์ชาย——
ความมั่นใจของเฉิงชิงไม่พอถึงขนาดนั้นแล้ว
ครอบครัวของนางก่อนหน้าที่จะทะลุมิติร่ำรวยมาก ทั้งนางเองก็ได้ผ่านการต่อสู้อันโหดร้ายจนกลายเป็ผู้สืบทอดแล้ว
แต่ก็เหมือนเ้าอ้วนชุยผู้เป็สหายร่วมเรียนที่ร่ำรวย เรียกนางว่า ‘บุตรีของพ่อค้า’ ก็ไม่ผิดอะไร
สามารถไม่เห็นบุตรของครอบครัวผู้นำเมืองปกติอยู่ในสายตาได้ บุตรชายของนายกเทศมนตรีก็คงไม่สามารถทำตามอำเภอใจเช่นนางได้ แต่เมื่อมองถึงระดับประเทศแล้ว… บุตรของครอบครัวผู้นำเองก็คงไม่จงใจจะข้องเกี่ยวกับนางด้วย!
หากตรงหน้าเป็องค์ชายพระองค์หนึ่งจริงๆ เฉิงชิงก็ยากที่จะรักษาสภาพจิตใจในยามปกติได้ มิน่าล่ะ การป้องกันของเรือลำนี้จึงเข้มงวด หญิงรับใช้จึงตำหนินางว่าบังอาจล่วงเกิน
หากเป็องค์ชาย สถานะของทั้งสองฝ่ายก็ไม่เท่าเทียมกันเกินไปแล้ว
เ้าขี้โรคไอสองที ค่อยๆ ดื่มชาครึ่งถ้วยเพื่อปรับลมหายใจให้มั่นคง มองสีหน้าของเฉิงชิงก็รู้ว่าเฉิงชิงคงเดาอะไรได้บ้าง
เมิ่งไหวจิ่นกล่าวมิผิด เฉิงชิงฉลาดเฉลียวอยู่หลายส่วนจริงๆ
“เ้าไม่ต้องเดาส่งเดชแล้ว ในเมื่อข้าเลือกที่จะบอกสถานะแก่เ้าก็ไม่คิดจะปิดบังอำพราง ที่ฮ่องเต้เตะถ่วงคดีนี้ก็เป็เพราะเมื่อตรวจสอบคดีนี้แล้วเกี่ยวพันไปถึงเยี่ยอ๋อง”
เยี่ยอ๋อง?!
เฉิงชิงใ
ขนาดคนที่ข่าวสารปิดกั้นเช่นนางยังเคยได้ยินชื่อเสียงของเยี่ยอ๋อง
บรรดาศักดิ์ที่สืบสายชั่วนิรันดร์ของอาณาจักรเว่ย สถานะสูงส่งกว่าชินอ๋อง[1]มีที่ดินบรรดาศักดิ์และมีอำนาจในกองทัพ พิทักษ์อาณาจักรเว่ยจากคนเถื่อนทางเหนือมาหลายรุ่น ก่อตั้งมาจากผลงานการรบที่โดดเด่น ชาวบ้านทั่วไปล้วนรู้จักตำแหน่ง ‘เยี่ยอ๋อง’ เวลาผู้คนจะกล่าวว่าแม่ทัพผู้หนึ่งกล้าหาญก็มักจะยกเยี่ยอ๋องมาเปรียบเทียบ
ตำแหน่ง ‘เยี่ยอ๋อง’ นี้ก็คือผู้สมควรเป็เทพาในใจของราษฎรแคว้นเว่ย เพียงยังมีเยี่ยอ๋องพิทักษ์ทางเหนือ คนเถื่อนทางเหนือก็เลิกคิดจะลงใต้ปล้นสะดมไปได้เลย
เฉิงชิงรู้สึกว่าตนคิดมากเกินไปหน่อย
แต่ชื่อเสียงของเยี่ยอ๋องสูงส่งมาก นางอดไม่ได้ที่จะนึกถึงคำว่า ‘ยิ่งสูงยิ่งหนาว’ คำนี้
แคว้นเว่ยเป็ของโอรส์ มีผู้ที่ชื่อเสียงขจรไกลกว่าโอรส์ ทั้งยังคิดจะเป็ท่านอ๋องที่สืบสายชั่วนิรันดร์อย่างมั่นคง เกรงว่านี่จะไม่ใช่เื่ตลกแล้ว
ยิ่งชื่อเสียงของเยี่ยอ๋องขจรไปไกลมากเท่าไร ยิ่งแย่เร็วขึ้นเท่านั้น นี่สิถึงจะเป็ผู้ที่ทำให้โอรส์เกรงกลัว… โอรส์หาได้โปรดปรานมากจึงไม่คิดจะตรวจสอบ แต่เป็เพราะเกรงกลัวอำนาจทางทหารในมือของเยี่ยอ๋องต่างหาก!
เดี๋ยวนะ เยี่ยอ๋อง อำนาจกองทัพ ป้องกันคนเถื่อนทางเหนือ สมุดบัญชีภาษีที่นาที่ติดลบสูงถึงสองแสนหกหมื่นตำลึงเงิน
ทันใดนั้นเหงื่อเย็นก็ไหลทั่วกายเฉิงชิง เยี่ยอ๋องจะหาเื่ซวยให้นางเมื่อไร นางไม่แน่ใจ แต่นางสามารถร้องซวยแล้วได้ในตอนนี้
“ท่านผู้สูงศักดิ์คือ——”
กล่าวตั้งนานก็มิอาจกล่าวจนจบได้ เ้าขี้โรคหัวเราะใส่นาง ในเสี้ยววินาทีนั้นในท้องเรือราวกับฤดูใบไม้ผลิคืนกลับสู่ผืนดิน ดอกไม้นับร้อยเบ่งบาน
นี่คือโฉมสะคราญที่แท้จริง!
ถ้อยคำที่พ่นออกมาจากริมฝีปากที่ไร้สีเืแม้แต่น้อยนั้นทุบทำลายความโชคดีของเฉิงชิงจนเป็ผุยผง
“เ้ากับข้ายังมีจุดที่เหมือนกัน เ้า้าพลิกคดีให้บิดา ตัวข้าผู้เป็ซื่อจื่อเองก็ไม่ยินยอมให้เื่นี้ถูกกดไว้อย่างคลุมเครือ แม้จวนเยี่ยอ๋องจะไม่นับว่าร่ำรวยนัก แต่ก็ไม่ถึงกับต้องยักยอกเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติของเมืองเหอไถ เฉิงชิง เ้าช่วยข้าชำระรายการบัญชีก็ถือเป็การออกแรงเพื่อคดีของบิดาเ้า”
ซื่อจื่อ[2]แห่งจวนอ๋อง!
ภูมิหลังของเ้าขี้โรคยิ่งใหญ่ดังคาด
ซื่อจื่อคือผู้ที่จะได้รับสืบทอดบรรดาศักดิ์ต่อ หลังจากเยี่ยอ๋องคนปัจจุบันอีกร้อยปี เ้าขี้โรคที่อยู่ตรงหน้าเฉิงชิงนี้ก็จะได้สืบทอดบรรดาศักดิ์อ๋อง เป็ ‘เยี่ยอ๋อง’ รุ่นต่อไป
แม้ไม่ได้สืบทอดบรรดาศักดิ์อ๋องต่อ เยี่ยอ๋องซื่อจื่อก็เป็คนใหญ่คนโตที่เฉิงชิงเอื้อมไม่ถึงอยู่ดี
กระทั่งบัณฑิตซิ่วไฉนางก็ยังสอบไม่ผ่านเลยนะ
ระยะห่างระหว่างเยี่ยอ๋องซื่อจื่อกับนาง น่าจะห่างกันประมาณเมิ่งไหวจิ่นสิบคนกระมัง
“คารวะซื่อจื่อ”
เฉิงชิงไม่อาจเรียกอีกฝ่ายว่าเ้าขี้โรคอีกแล้ว หากเรียกภายในใจจนเคยชิน หลุดปากเรียกโดยไม่รู้ตัว ถึงนางจะร้องว่า ‘ซวยแล้ว’ ก็ไม่ทันแล้ว
ซื่อจื่อััได้ถึงท่าทีที่ดูเหมือนกับแสดงความเคารพของเฉิงชิงแล้ว แท้ที่จริงแล้วมิได้กลัวเขาเลย… เขาไม่ได้อับอายจนโกรธเกรี้ยว ถึงขนาดรู้สึกแปลกใจอยู่บ้าง ลูกวัวแรกเกิดไม่กลัวเสือ[3] เฉิงชิงคงยังไม่รู้ถึงความแตกต่างระหว่างสถานะของทั้งสองคน
หากรู้แล้วแต่ยังคงไม่หวาดกลัว นั่นก็ยิ่งน่าสนใจขึ้นแล้ว
เขาไม่สนใจว่าเฉิงชิงจะแสดงความเคารพมาจากใจหรือไม่ เมื่อเทียบกับพวกโง่ไร้หัวคิดที่ได้แต่ก้มหัวคำนับติดต่อกัน คนอย่างเฉิงชิงทำให้รู้สึกสบายใจกว่ากันนัก
“ยามนี้เ้าก็ได้ล่วงรู้ถึงสถานะของข้าแล้ว อีกทั้งเ้ายังได้ชำระรายการบัญชีแทนข้า ได้ะโขึ้นเรือของจวนเยี่ยอ๋องแล้ว เฉิงชิง เ้ากลัวหรือไม่?
เฉิงชิงเอ่ยถามเขาอย่างกระตือรือร้น
“หากข้าเอ่ยว่ากลัว ยังจะสามารถลงจากเรือได้อยู่หรือไม่ขอรับ?”
ซื่อจื่อถูกนางหยอกล้อจนหัวเราะ กลืนเสียงไอลงไป ตั้งใจจะขู่ขวัญนาง “มีเพียงคนสองประเภทที่สามารถลงจากเรือตามใจชอบได้ ประเภทแรกคือคนของจวนเยี่ยอ๋อง ประเภทที่สองคือคนตาย”
เฉิงชิงคิดแล้วก็ให้คำตอบแบบที่สาม
“ข้าคือราษฎรธรรมดาของแคว้นเว่ย จวนเยี่ยอ๋องมีคนเยอะกิจธุระมากมาก ไหนเลยจะมาใช้คนตัวเล็กตัวน้อยอย่างข้าได้? แต่เป็เพราะวาสนาจึงมีโอกาสได้มามีส่วนร่วมกับซื่อจื่อ บัดนี้ข้าคิดเพียงขจัดมลทินให้บิดาที่ล่วงลับและเปิดโปงตัวฆาตกร เป้าหมายในเื่นี้ของข้าและซื่อจื่อเป็เช่นเดียวกัน เฉิงชิงยินดีที่จะเป็บริวารรับใช้ให้ซื่อจื่อใช้งาน!”
เรือลำใหญ่ลำนี้ของจวนเยี่ยหวังมองแล้วโดดเด่นนัก แต่เฉิงชิงไม่สนใจ
จะเล่าเรียนเก่งกาจด้านบุ๋นหรือบู๊ สุดท้ายแล้วก็ต้องเสียสละออกแรงเพื่อราชวงศ์ ผู้ใดเป็เชื้อพระวงศ์สายตรง เฉิงชิงก็จะไปพึ่งพิงผู้นั้น นางยืนตรงไม่สนว่าลมจะพัดไปทางไหนก็ช่าง—— คำตอบของเฉิงชิงสรุปได้ว่ายามนี้ร่วมมือเป็การชั่วคราวก็ได้อยู่ หากจะให้นางรับใช้จวนเยี่ยอ๋องในระยะยาวก็ไม่ต้องกล่าวแล้ว!
[1] ชินอ๋อง คือตำแหน่งเชื้อพระวงศ์ชายลำดับที่ 1 และเป็ตำแหน่งสูงสุดที่จะมีได้รองจากรัชทายาท โดยมากผู้ที่ได้รับตำแหน่งนี้จะเป็บุตรชาย พี่ชาย หรือน้องชายของฮ่องเต้
[2] ซื่อจื่อ คือตำแหน่งผู้สืบทอดบรรดาศักดิ์ ส่วนใหญ่มักจะแต่งตั้งให้บุตรชายคนโตที่เกิดจากภรรยาเอก
[3] ลูกวัวแรกเกิดไม่กลัวเสือ หมายถึงผู้ที่อายุน้อยมักไม่มีความกลัวและมีความกล้ามากกว่าผู้ที่อายุมากกว่าและเคยผ่านประสบการณ์มามากแล้ว
