“นี่ เฮยจี ออกมานะ ...”
ถูกกันให้อยู่นอกห้อง มันทำให้ิอวี่อารมณ์ไม่ดีหนักกว่าเดิม เขาเคาะประตูอย่างต่อเนื่อง แต่เฮยจีกลับไม่ได้ตอบรับอะไรกลับมาอีกเลย
“ข้ารู้สึกว่า ‘เจอคนที่ชอบแล้วลืมเพื่อน’ คงไม่ได้หมายถึงผู้ชายอย่างเดียว เอามาใช้กับเ้านี่เหมาะมากทีเดียว” ิอวี่พูดแบบนี้ขึ้นมาที่หน้าประตูห้อง
จากนั้น เมื่อเห็นว่าเฮยจีไม่ได้ตอบอะไรกลับมา ยืนอยู่หน้าห้องแบบนี้ไปก็เปล่าประโยชน์ ิอวี่ถึงได้กลับไปด้วยความหงุดหงิด
พูดตามตรงเลย ิอวี่คิดไม่ถึงว่าเฮยจีจะเล่นไม้นี้ ก่อนหน้านี้ตอนที่นางอยู่ในหยกโบราณนั้นดูนิ่งมาก มีออกมาะโโลดเต้นบ้างเป็บางครั้งเพราะอยู่ข้างในแล้วอึดอัดเท่านั้น แต่ตอนนี้นางกลับออกมาเพื่อไปสร้างสัมพันธ์กับผู้ชายคนอื่น เห็นสีหน้าของนางดูหลงจนยากจะถอนตัวได้เลย
เป็แค่ิญญาแทๆ ยังเล่นใหญ่แบบนี้อีก เพราะิญญาเองก็มีความรู้สึกแล้วก็มีความรักด้วยอย่างนั้นหรือ?
หรือว่า เ้าฉินฟ่านนั้นมันหล่อจริงๆ ?
ิอวี่ไม่ได้คิดแบบนั้น ั้แ่รู้จักเฮยจีมาก่อนนานขนาดนี้แล้ว ก็เหมือนไม่เคยได้ยินนางชมว่าเขาหล่อมาก่อนเลย ...
ิอวี่รู้สึกหงุดหงิดมาก เขาอยู่ในห้องคนเดียวเดินไปเดินไม่รู้ว่าควรทำอย่างไร ในเวลานี้ก็ไม่อยากฝึกวิชา เขาเห็นเฮยจีกำลังแต่งหน้าทาปากผ่านััแห่งิญญา เหมือนว่าคืนนี้นางจะดีใจมากเลยที่จะได้ออกไปตามนัด
“ไม่เห็นก็สบาย ข้าคงเก็บกดมากไป ต้องออกไปสูดอากาศบ้าง”
หลังจากที่ิอวี่ตัดสินใจแบบนี้ เขาก็เดินออกจากโรงเตี๊ยมไปเดินเล่นในตลาดที่คึกคัก หาอาหารกลางวันกิน ่บ่ายก็เดินไปเรื่อยๆ ดูเสื้อผ้า ของหายาก แล้วก็ยังไปดูศาตราวุธ ของล้ำค่า สมุนไพรด้วย หลังจากซื้ออะไรที่อยากได้เรียบร้อยแล้ว ่กลางวันก็ถือว่าผ่านไป
พระอาทิตย์ใกล้จะตกดินแล้ว ค่ำคืนของวันใหม่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น
เขาไปนั่งพักที่ร้านเหล้าแห่งหนึ่ง สั่งอาหารมาสองสามอย่างแล้วก็ดื่มเหล้ามีชื่ออีกนิดหน่อย ตอนนี้ฟ้าเริ่มมืดลงแล้ว
บนถนน แสงไฟเริ่มส่องสว่างขึ้น หลายคนเริ่มใช้ชีวิตที่ยามค่ำคืนกันแล้ว
ิอวี่เดินอยู่บนถนนสายยาวคนเดียว ผู้คนที่ผ่านไปมาทำให้เขาจมหายไป
เขาเห็นผู้คนมากมายเดินผ่านหน้าไป หลายคนเป็เศรษฐีวัยกลางคนยังหนุ่มยังแน่น มีสาวๆ หน้าตาดีหลายคนล้อมรอบ เพื่อนสนิทเดินพูดคุยกัน แบ่งปันเื่ราวที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน ยิ้มหัวเราะพูดคุยกันผ่านหน้าไป ยังมีคู่รักจับมือหวานซึ้ง ยิ้มแย้มมีความสุขด้วย ...
มันทำให้ิอวี่รู้สึกว่าตนเองนั้นโดดเดี่ยว
ก่อนหน้านี้ เขาเอาแต่ฝึกวิชาอย่างหนักเพื่อหวังจะได้ปกป้องคนรอบกาย แต่สุดท้ายแล้ว คนที่รู้ใจเขาจริงๆ นั้นกลับมีน้อยมาก
ในเวลานี้ แม้แต่ผู้หญิงที่ซ่อนอยู่ในหยกโบราณ คนที่ผ่านร้อนผ่านหนาวผ่านความเป็ความตายมากมากมายกับเขาก็ยังมาจากเขาไปอีก
ในใจมันว่างเปล่าแบบนั้นเลยหรือ?
... อาจเป็เพราะจู่ๆ ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้าอกหายไป เลยรู้สึกไม่ชินล่ะมั้ง
ิอวี่ปลอบใจตัวเอง แต่ปากของเขากลับยิ้มอย่างขมขื่น เขาออกมาเดินเล่นั้แ่บ่าย ก็เพื่อให้หลุดพ้นจากความหงุดหงิดใจ แต่สุดท้ายเขาก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงนางขึ้นมาอีก ภาพในตอนเช้าวันนี้ผุดขึ้นมาอีกครั้ง มันทำให้เขาไม่อาจสงบใจได้เลย
“ ... ”
ิอวี่สะบัดหัว ในเวลานี้เขาไม่สามารถควบคุมอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองได้เลย
เพราะเฮยจีเป็เพื่อนของเขา เขาจะเป็ห่วงเฮยจีมันก็เป็เื่ปกติ หากศิษย์พี่ฉินฟ่านนิสัยไม่ได้ดีเหมือนอย่างภายนอก แล้วทำอะไรไม่ดีกับนาง ในเวลาสำคัญเขาก็ควรจะช่วยเหลือไม่ใช่หรือ?
อือ ต้องเป็อย่างนั้นแน่นอน!
หลังจากิอวี่กล่อมตัวเองได้แล้วก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้น เขาเลยตั้งสติแล้วใช้หยกโบราณ หาตำแหน่งที่อยู่ของเฮยจี เมื่อเขาหาที่อยู่ของนางเจอก็รีบวิ่งไปยังจุดที่เฮยจีอยู่ทันที
แต่ว่าผ่านไปแค่ประมาณสองนาที เขาก็เจอเฮยจีที่อยู่ท่ามกลางผู้คนจำนวนมาก
มันเป็หนึ่งลานที่ใหญ่และหรูหรามากที่สุดของเมืองสุขาวดี ลานหย่งหวั่ง
ถนนบนลานกว้างห้าสิบเมตร ยาวกว่าพันเมตร มันเป็เส้นทางตรง
สองข้างทางของถนนมีร้านค้าและร้านเหล้าที่มีชื่อเสียง บ่อนการพนันกับร้านขายของล้ำค่าหายาก ผู้คนที่มาที่นี่ส่วนมากก็จะมายังร้านเหล่านี้ แต่ก็มีคนอีกจำนวนหนึ่งที่เข้าร้านอย่างอื่น และก็เดินเล่นไปด้วย
ิอวี่กับเฮยจีอยู่ห่างกันประมาณหนึ่งพันเมตร
เขาตั้งใจปกปิดลมปราณ เพราะสายตาของเขาดีมากจึงมองทะลุผ่านผู้คนเข้าไปแล้วเห็นเฮยจีที่สวมชุดในวันนี้
นางไม่ได้สวมชุดสีดำแล้ว แต่เปลี่ยนเป็ชุดกระโปรงสีเหลือง เปิดไหล่เปิดเอว ทำให้เอวและหัวไหล่เผยออกมาให้เห็น ดูยั่วยวนน่าหลงใหลอย่างไม่ได้ตั้งใจ นางม้วนผมสีดำและปักผมสีเขียวขจี ดูมีชีวิตชีวาอย่างมาก
ตอนที่เฮยจีหันข้าง ิอวี่ก็เห็นใบหน้าด้านข้างของนาง
ถึงแม้เฮยจีจะแต่งหน้าอ่อนๆ ไม่ได้ดูเผ็ดเปรี้ยว แต่กลับงดงามอย่างละเอียดอ่อน ไม่ว่าจะเป็สายตา แก้ม หรือว่าปากสีอ่อนๆ ล้วนพอดีไม่มีที่ติเลย
เมื่อรวมกับหน้าตาของเฮยจีที่งดงาม นางดูเหมือนเทพธิดาที่จุติลงมาจากบนฟ้า ทำให้ผู้คนไม่อาจละสายตาไปจากนางได้เลย
ข้างกายของเฮยจี ฉินฟ่านสวมชุดสีดำ ร่างกายของเขาสูงใหญ่ ดวงตาลึกซึ้ง ใบหน้าสุขุม ส่วนเว้าโค้งตรงปากที่มีเคราทำให้ดูดีมีรสนิยมจนสาวๆ ส่งเสียงกรีดร้อง
ทั้งสองคนเดินเคียงกันบนถนน ช่างเป็ชายหนุ่มหญิงสาวที่เหมาะกันมาก ใครที่ได้เห็นก็อดชื่นชมไม่ได้
ทั้งคู่คนหนึ่งสวมชุดสีเหลืองอีกคนสวมชุดสีดำ สุขุมและมีชีวิตชีวา ดูเหมาะสมกันดี
พอเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น มุมปากของิอวี่ก็กระตุก เขาไม่ได้หยุด แต่เดินตามดูพวกเขาสองคนอยู่ด้านหลังท่ามกลางผู้คน
สำรวจอยู่ประมาณครึ่งชั่วยาม ิอวี่ก็พบว่าเฮยจีกับฉินฟ่านพูดคุยหัวเราะยิ้มแย้มกันตลอดทาง ไม่ว่าฉินฟ่านจะพูดอะไรก็ทำให้นางหัวเราะได้ตลอด นางยิ้มหัวเราะอย่างมีความสุข
จากนั้นฉินฟ่านก็เข้าไปในร้านค้าแห่งหนึ่ง แล้วซื้อกำไลข้อมือสีเขียวหยกที่สวยงามมากชิ้นหนึ่งให้กับเฮยจี จากนั้นก็สวมใส่ไปที่มือขาวๆ ของนางด้วยตนเอง เฮยจีกระดกข้อมือให้ฉินฟ่านดู ดวงตาของนางมีรอยยิ้มเป็จันทร์เสี้ยว ดูมีความสุขสุดๆ
ิอวี่กำหมัดแน่น หน้าของเขานิ่งลง ก่อนจะเดินตามต่อไป
เวลาผ่านไปครู่ใหญ่ ฉินฟ่านกลัวว่าเฮยจีจะถูกคนอื่นเดินมาชนจึงดึงมือนางเพื่อหลบออกมา จากนั้นเขาก็ทำหน้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น หน้าด้านจับมือเฮยจีเอาไว้ไม่ยอมปล่อยเลย!
เฮยจีเองก็เหมือนไม่ได้ปฏิเสธ ยอมให้เขาจูงมือแล้วเดินเล่นกับฉินฟ่านไปเรื่อยๆ
ิอวี่ยังคงเดินตามไปอีก พูดตามตรงว่าเขานั้นคิดอยากจะกลับโรงเตี๊ยมแล้ว
ในเวลานี้เอง ฉินฟ่านเองก็ชี้ไปยังอาคารที่อยู่ด้านหน้าหลังหนึ่ง แล้วพูดอะไรบางอย่างกับเฮยจี เฮยจีพยักหน้า จากนั้นฉินฟ่านก็จูงมือนางเดินเข้าอาคารไป
“ที่นั่นมันอะไรกัน?”
ิอวี่กลัวว่ามันจะเป็สถานที่ไม่ดีเลยรีบตามไป ตอนที่เขามาถึงด้านหน้าอาคารก็เห็นมันเขียนเอาไว้ว่า “บ่อนจื่อจุน”
“ที่แท้ก็บ่อนนี่เอง”
ิอวี่โล่งใจขึ้นมาหน่อย แต่ก็ไม่รู้ว่าบ่อนในเมืองสุขาวดีนั้นมันมีอะไรอยู่บ้าง เกิดฉินฟ่านเล่นตุกติกอะไรกับเฮยจี ิอวี่ไม่มีทางให้อภัยแน่ ตอนนี้เขาเองก็ไม่รู้จะไปไหนทำอะไร ถ้าอย่างนั้นก็เข้าไปในบ่อนนี่สักหน่อยแล้วกัน
พอคิดได้แบบนี้ เขาก็เดินเข้าบ่อนไปเลยในทันที
เมื่อเข้ามาในบ่อน หลังผ่านประตูใหญ่เข้ามา ิอวี่ก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวานะเืหูไปหมด
มันเป็ห้องโถงขนาดใหญ่ มีการประดับตกแต่งไว้อย่างหรูหรา มีโต๊ะพนันวางอยู่กว่าร้อยโต๊ะ แต่ละโต๊ะมีผู้คนล้อมรอบอยู่เป็จำนวนมาก พวกเขาลุ้นกันหน้าดำหน้าแดงไปหมด แหกปากะโกันจนเสียงแหบแห้ง เวลานี้ แต่ละคนไม่รับรู้เื่ราวภายนอกเลย ในใจมีแต่การพนันแพ้ชนะอย่างเดียว
ฉินฟ่านกับเฮยจีเดินไปเล่นที่โต๊ะพนันทางด้านขวาที่อยู่ไม่ไกลมาก
ิอวี่อยากจะเดินไปหามุมเหมาะๆ ทางด้านซ้ายแล้วแอบดูทั้งสองคน
แต่ใครจะคิดว่าเขาเพิ่งจะเดินไปได้แค่สองก้าว ชายรูปร่างกำยำคนหนึ่งก็มาขวางเขาเอาไว้
ชายคนนี้เป็ผู้กล้าขอบเขตอมฤตขั้นที่สาม สายตาของเขาดุมาก เขาพูดกับิอวี่ว่า “สวัสดีครับ จะเข้าบ่อนจื่อจุนของเราต้องซื้อทุนเล่นเริ่มต้นอย่างน้อยเป็ยาจูหยวนตันจำนวนสามสิบเม็ดถึงจะเข้าไปด้านในได้นะขอรับ”
“เหมือนค่าผ่านประตูอย่างนั้นหรือ?”
ิอวี่ขมวดคิ้ว ถ้าเป็ไปอย่างที่ว่า คนที่มาที่นี่ทุกคนจะมาดูอย่างเดียวไม่ได้สินะ ในเมื่อก็มาแล้วก็ต้องเล่น
“ท่านจะคิดแบบนี้ก็ได้ขอรับ” ผู้ชายคนนั้นพูดด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
ิอวี่ยักไหล่ อยู่ในเมืองสุขาวดีทำตามกฎของพวกเขาไปจะดีกว่า เขาเลยแลกเหรียญวงกลมสีทองอร่ามมาสามสิบเม็ด จากนั้นพนักงานก็ถอดเอาเกราะแขนเฮยจินออกแล้วฝากเอาไว้ในช่องนิรภัยตามที่เ้าหน้าที่บอก
เพราะที่นี่คือบ่อนพนัน หากมีคนเก็บไพ่หรือเล่นตุกติก มันก็ง่ายจนเกินไป
ไม่นานนัก ิอวี่ก็หาโต๊ะที่มีคนว่างโต๊ะหนึ่งทางด้านขวา แล้วใช้ปลายตาสำรวจฉินฟ่านกับเฮยจี
ในระหว่างนั้น ิอวี่เองก็ยังสำรวจพวกนักพนันฝั่งนี้อยู่ด้วย
เขาแอบเปิดััแห่งดวงตาเอาไว้ ไม่นานก็พบว่า คนพวกนี้ถึงแม้จะไม่ได้มีถุงเก็บของ แต่ในชายเสื้อแอบซ่อนไพ่อะไรเอาไว้อยู่ ทุกครั้งที่ออกไพ่มือไม้ก็จะเร็วมาก สามารถเปลี่ยนไพ่ได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งแน่นอนว่า นักพนันพวกนี้ล้วนแต่เป็ผู้ฝึกยุทธ์ทั้งนั้น หัวก็ไวมาก หากไม่ระวังอาจโดนจับได้แล้วก็จะถูกลงโทษอย่างรุนแรง
ดังนั้นคนที่ไม่ได้มีฝีมือมากพอก็จะไม่ค่อยกล้าลงมือเท่าไร
จากการสำรวจของิอวี่ เขาพบว่ามันมีการพนันอยู่อย่างหนึ่งเท่านั้นที่เล่นตุกติกไม่ค่อยได้ นั่นก็คือการทอยลูกเต๋า ทอยลูกเต๋าจะใช้กล่องลูกเต๋าเฉพาะ ถูกครั้งที่ปิดกล่องจะมีลายเส้นอักขระคุมอีกที เพื่อป้องกันการเปลี่ยนลูกเต๋า
ตัวลูกเต๋าเองก็สั่งทำพิเศษมา ไม่สามารถใช้จิตสำนึกทำให้มันเคลื่อนไหวได้เลย หลังจากที่เขย่ากล่องเต๋าเสร็จแล้ว พื้นด้านล่างก็จะมีพลังแม่เหล็กดูด ล็อกตัวเต๋าเอาไว้แน่น พลังจากภายนอกทำอะไรมันไม่ได้เลย
ิอวี่ลองดูแล้ว ถึงแม้เขาจะเปิดััแห่งิญญาและสามารถมองเห็นจำนวนที่อยู่ภายในชัดเจน แต่เขาไม่สามารถควบคุมลูกเต๋าที่อยู่ภายในได้เลย
ดูท่าผู้กล้าทั้งหลายคงยากมากที่จะโกงกับการเล่นประเภทนี้ มิน่าพวกนักพนันส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีใครไปเล่นเลย เพราะมันขึ้นอยู่กับดวงล้วนๆ
