เนี่ยหลีถ่ายทอดเคล็ดวิชาร่างตรา์เทียนเหินท่อนแรกให้แก่เนี่ยอวี่ เมื่อนางจดจำได้แล้ว เนี่ยอวี่จึงหาที่ว่างแห่งหนึ่งและนั่งลงเริ่มโคจรลมปราณ
ดึกมากแล้ว นกที่ออกหากินในยามราตรีบินผ่านไปในผืนป่าตลอดเวลา
ทันใดนั้นเนี่ยหลีก็พลันตื่นตัว ทอดสายตามองไกลออกไป เห็นเงาไม้พลิ้วไหว ตรงหน้าผาแห่งหนึ่งห่างออกไปหลายพันหมี่ (เมตร) ดูเหมือนจะมีคนหลายคนเดินทางผ่านมา สองคิ้วของเขาขมวดมุ่นเล็กน้อย เขาสะบัดมือขวาเบาๆ เงาดำสายหนึ่งปรากฏขึ้นกลางอากาศ จากนั้นพุ่งเข้าป่าไปอย่างรวดเร็ว
เขาปลดปล่อยจิตอสูรออกไปโดยไม่หลอมรวมกับมัน จิตอสูรไม่สามารถต่อสู้ได้หากไม่หลอมรวมกับร่างของผู้ควบคุมจิตอสูร ทว่าผู้ควบคุมจิตอสูรสามารถััได้ถึงสิ่งที่จิตอสูรของตนเห็นและได้ยิน ในบางครั้งจึงมีประโยชน์อย่างยิ่ง
จิตอสูรทั่วไปเมื่อถูกปลดปล่อยออกไปจะถูกจับได้โดยง่ายจากกลิ่นไอของมัน ทว่าจิตอสูรปีศาจเงานี้สามารถปกปิดร่องรอยของตนได้ ดังนั้นจึงเหมาะกับการสอดแนมและสำรวจพื้นที่อย่างยิ่ง
ไม่นานจิตอสูรปีศาจเงาก็พบร่างเงาหลายร่างอยู่ไกลออกไป จากดวงตาของจิตอสูรปีศาจเงา เนี่ยหลีเห็นคนสวมชุดดำสามคนกำลังซ่อนตัวอยู่ในป่า
เนี่ยหลีควบคุมจิตอสูรปีศาจเงาเข้าไปซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้ต้นหนึ่งและยืนยันตำแหน่งของพวกมันทั้งสามคน
ขณะนี้คนทั้งสามกำลังสนทนากันอยู่
“ที่นี่คืออาณาเขตของตระกูลตรา์เทียนเหิน!”
“พวกเราต้องระวังตัวให้มาก ในตระกูลเทียนเหินยังมียอดฝีมือระดับทองอยู่หลายคน! หากถูกพวกมันพบเข้า พวกเราคงต้องตายแน่นอน!”
“เ้าแน่ใจหรือว่าเ้าเด็กเนี่ยหลีผู้นั้นอยู่ในบ้านเก่าๆ โทรมๆ หลังหนึ่งตรงเชิงเขานี้?”
“แน่นอน เมื่อตอนกลางวันพวกเราสืบมาแน่ชัดแล้ว! พ่อแม่ของเ้าเด็กคนนั้นไม่ใช่ผู้ฝึกยุทธ์ พวกเราสามารถฆ่ามันได้โดยไม่มีผู้ใดรู้เห็น!”
คนเหล่านี้กำลังคุยกันอยู่ ทุกอย่างได้ยินผ่านจิตอสูรปีศาจเงา เนี่ยหลีขมวดคิ้วมุ่นเล็กน้อย เป็พวกตระกูลเสินเซิ่งส่งคนมาหรือ? ดูเหมือนเ้าสามคนที่มาในครั้งนี้้ามาจัดการเขาอย่างแน่นอน! แต่ทั้งสามคนนี้น่าจะแค่ระดับเงินเพียงเท่านั้น!
เสียงของคนหนึ่งในนั้นฟังดูคุ้นหูนัก เนี่ยหลีพลันนึกได้ หนึ่งในสามคนนี้ก็คือผู้ช่วยอวิ๋นฮว๋าจากสมาคมมืดนั่นเอง!
หลังจากที่เคยพบกันมาแล้วครั้งหนึ่งในเมืองกู่หลัน เนี่ยหลีก็จำเสียงของคนผู้นี้ได้ขึ้นใจ โชคดีที่มันเป็แค่ระดับเงิน! เมืองกวงฮุยมียอดฝีมือระดับทองหลายคน ทุกคนล้วนมีป้ายประจำตัว ดังนั้นจึงเป็การยากที่ยอดฝีมือระดับทองของสมาคมมืดจะเล็ดลอดเข้ามาในเมืองกวงฮุยได้ คนที่แข็งแกร่งที่สุดในหมู่พวกมันก็คือผู้ช่วยอวิ๋นฮว๋าและพวก
เนี่ยหลีใบหน้าบูดบึ้งเล็กน้อย ปลดปล่อยจิตััของจิตอสูรปีศาจเงาออกไปอย่างทรงอานุภาพ เนี่ยหลีจึงรับรู้ได้ถึงพลังของยอดฝีมือระดับเงินทั้งสามได้คร่าวๆ คนหนึ่งมีระดับเงินห้าดาว อีกสองคนเป็ระดับเงินสามดาว
“นี่ออกจะรับมือได้ยากสักหน่อย” เนี่ยหลีพึมพำ หากเป็ระดับเงินหนึ่งดาวหรือสองดาว เนี่ยหลีจะสามารถรับมือได้อย่างง่ายดาย ส่วนระดับเงินสามดาวนั้น เนี่ยหลีก็พอจะหาวิธีรับมือกับมันได้อยู่ อย่างไรก็ตาม พวกมันมียอดฝีมือระดับเงินห้าดาวอยู่ด้วย ซึ่งจะทำให้เกิดความยุ่งยากอยู่บ้าง
หากทั้งสามคนไปถึงบ้านของเนี่ยหลีได้สำเร็จ คงต้องมีปัญหายุ่งยากไม่น้อย
“เสี่ยวอวี่ รีบกลับไปแจ้งพวกผู้ใหญ่ บอกพวกเขาว่าพบคนจากสมาคมมืดหลายคนอยู่ในป่า!” เนี่ยหลีครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นจึงบอกเนี่ยอวี่
“คนจากสมาคมมืดรึ?” ดวงตาของเนี่ยอวี่ฉายแววหวาดกลัวขึ้นมาทันที ั้แ่เล็กนางก็ได้ยินความน่าสะพรึงกลัวของสมาคมมืดมาโดยตลอด “เช่นนั้นท่านจะทำเช่นไรรึ? พี่เนี่ยหลี ไปด้วยกันเถอะ!”
“ข้าไม่เป็ไร ข้าไม่สู้กับพวกมันซึ่งๆ หน้าหรอก ข้าจะเฝ้าจับตาดูมันอยู่ที่นี่ เ้ารีบไปบอกพวกผู้ใหญ่เร็วเข้า ในกลุ่มคนเหล่านี้ มียอดฝีมือระดับเงินห้าดาวอยู่คนหนึ่ง ต้องเรียกยอดฝีมือระดับทองของพวกเรามาให้ได้!” เนี่ยหลีพูด เพื่อที่จะป้องกันการโจมตีจากพวกสัตว์อสูร ทุกวันในอาณาเขตหมู่บ้านของตระกูลเทียนเหินจะต้องมีผู้าุโระดับทองคนหนึ่งรับผิดชอบการลาดตระเวน ที่นางต้องทำก็คือการเรียกผู้าุโที่กำลังลาดตระเวนอยู่มาให้ได้
“เสี่ยวอวี่ เร็วเข้า ชักช้าไม่ได้แล้ว!” เนี่ยหลีเร่งเร้าอย่างกังวลใจ
เนี่ยอวี่ชำเลืองมองเนี่ยหลีด้วยความเป็ห่วง ในที่สุดจึงพยักหน้า ร่างเล็กๆ ก็รีบวิ่งจากไป
เห็นเนี่ยอวี่วิ่งจากไปแล้ว เนี่ยหลีจึงค่อยโล่งอก มีเหตุผลสองอย่างที่เนี่ยหลีอยากให้เนี่ยอวี่จากไป หนึ่งคือไปขอความช่วยเหลือ อีกประการหนึ่งก็เพื่อส่งนางจากไปให้ไกล เช่นนี้แล้วเขาจึงจะสามารถจดจ่อกับการรับมือกับสถานการณ์ในเวลานี้ได้อย่างเต็มที่
เนี่ยหลีซ่อนกายของตนไว้อย่างระมัดระวัง ค่อยๆ แฝงตัวใกล้เข้าไปยังตำแหน่งของทั้งสามคนนั้น
แม้กำลังศัตรูจะแข็งแกร่ง ทว่าศัตรูอยู่ในที่แจ้ง ส่วนเขาอยู่ในที่มืด ดังนั้นจึงมิใช่จะเป็ไปไม่ได้เลยที่จะต่อสู้
ผู้ช่วยอวิ๋นฮว๋านำนักสู้ระดับเงินสามดาวมาด้วยสองคนและค่อยๆ รุกคืบหน้าเข้าไปในป่า
“เกิดอะไรขึ้น?” จู่ๆ ผู้ช่วยอวิ๋นฮว๋าพลันรู้สึกแปลกๆ ราวกับมีบางอย่างประหลาดกำลังแอบดูเขาอยู่ที่มุมหนึ่ง ทว่าความรู้สึกนี้บางเบายิ่งนัก บางเบาจนเขาไม่อาจหาตำแหน่งได้เลย
“มีอะไรหรือท่านผู้ช่วย?” นักสู้ระดับเงินสองคนข้างกายเอ่ยถามขึ้น
“หรือสังหรณ์ของข้าจะผิดพลาด?” ผู้ช่วยอวิ๋นฮว๋าหน้าบูดบึ้งขมวดคิ้วมุ่น เขาทำเสียงฮึขึ้นจมูก อสูรพยัคฆ์สีดำร่างใหญ่โตตนหนึ่งพลันปรากฏตัวขึ้นกลางอากาศ สายตาเย็นะเืกวาดมองไปรอบป่ามืด
ผู้ควบคุมจิตอสูรระดับเงินห้าดาว อสูรพยัคฆ์ดำเทียนซิง!
นี่เกินกว่าที่จะรับมือได้แล้ว! เนี่ยหลีขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาซ่อนตัวอยู่ในเงามืดยามราตรี กลั้นลมหายใจ และจิตอสูรปีศาจเงาก็ยังซ่อนตัวอยู่หลังต้นไม้ไม่ขยับเขยื้อน
ระยะห่างระหว่างเนี่ยหลีกับผู้ช่วยอวิ๋นฮว๋าอยู่ในรัศมีราวห้าสิบหกสิบหมี่ อสูรพยัคฆ์ดำเทียนซิงนี้เป็เพียงระดับเงิน จึงเป็ไปไม่ได้ที่จะตรวจพบเขาได้จากระยะไกลเช่นนี้ ส่วนจิตอสูรปีศาจเงานั้น มันซ่อนตัวอยู่ห่างจากผู้ช่วยอวิ๋นฮว๋าราวห้าหมี่ ร่างของมันโปร่งใสไร้ตัวตนไม่สามารถมองเห็นได้
ดวงตาของอสูรพยัคฆ์ดำเทียนซิงเป็สีเหลืองทองอร่าม มันกวาดมองโดยรอบ ทว่าก็ไม่อาจตรวจพบสิ่งใด อวิ๋นฮว๋าค่อยรู้สึกโล่งใจและพูดว่า “บางทีข้าคงคิดมากเกินไป”
ผู้ช่วยอวิ๋นฮว๋าเรียกอสูรพยัคฆ์ดำเทียนซิงกลับเข้าร่าง การปลดปล่อยจิตอสูรของตนออกมา สามารถทำให้กลิ่นไอของมันถูกผู้ควบคุมจิตอสูรคนอื่นๆ ตรวจพบได้ง่าย ดังนั้นเขาจึงต้องระมัดระวังให้มาก
“พวกเราสองคนจะรออยู่ที่นี่ หลิ่วชิง เ้าออกไปสำรวจดูว่ามีใครกำลังเดินลาดตระเวนอยู่ในตระกูลเทียนเหินหรือไม่ และส่งสัญญาณบอกพวกเรา” ผู้ช่วยอวิ๋นฮว๋าพูดเบาๆ เื่เช่นนี้มีอันตรายนัก ดังนั้นเขาจึงไม่อยากพาตัวเองเข้าไปเสี่ยง
หลิ่วชิงรู้สึกหดหู่เล็กน้อย คิดในใจ ‘เหตุใดข้าต้องเป็คนไป?’ อย่างไรก็ตาม เขาไม่กล้าปฏิเสธผู้ช่วยอวิ๋นฮว๋า จึงได้แต่พยักหน้า จากนั้นจึงพุ่งตัวลงเขาไป
ผู้ช่วยอวิ๋นฮว๋าและพวกอีกคนที่ชื่อหลิ่วเหยียนค่อยชะลอฝีเท้าลง
เห็นหลิ่วชิงแยกตัวจากผู้ช่วยอวิ๋นฮว๋า สองคิ้วของเนี่ยหลีขมวดมุ่นเล็กน้อย ‘นี่เป็โอกาสอันดี!’
หากจะรับมือกับคนทั้งสามพร้อมๆ กัน ยังนับว่าเป็เื่ยากเกินไปสำหรับพลังที่เนี่ยหลีมีอยู่ในขณะนี้ ทว่ากับนักสู้ระดับเงินสามดาวคนเดียวแล้วล่ะก็ ย่อมไม่ต้องกังวล แม้พลังยุทธ์ของหลิ่วชิงจะสูงกว่าเขาสองขั้น ทว่าเขาเป็เพียงนักสู้ ส่วนเนี่ยหลีเป็ผู้ควบคุมจิตอสูรคนหนึ่ง
จิตอสูรที่เนี่ยหลีใช้คือจิตอสูรปีศาจเงาที่ไม่เคยมีผู้ใดพบเห็นมาก่อน คนทั่วไปย่อมไม่รู้ถึงความสามารถพิเศษของจิตอสูรปีศาจเงา
ภายใต้การควบคุมของเนี่ยหลี จิตอสูรปีศาจเงากลายเป็แสงสีดำสายหนึ่ง ลอยกลับมาและหลอมรวมเข้ากับเนี่ยหลีอย่างรวดเร็ว ทำให้ร่างกายของเขาเปลี่ยนไปทันที
เนี่ยหลีจ้องมองหลิ่วชิงที่อยู่ห่างออกไปไม่ไกลนัก มุมปากของเขายกสูง เพียงคิดคราหนึ่ง ร่างกายของเขาก็หายวับไป ค่อยๆ ขยับเข้าใกล้หลิ่วชิง
“เกิดอะไรขึ้น?” หลังจากที่หลิ่วชิงวิ่งมาได้ราวร้อยหมี่ เขาพลันได้กลิ่นประหลาดอย่างหนึ่ง เขายืนนิ่งและจ้องมองไปรอบๆ ด้วยสีหน้าสับสน
กลางราตรีที่เงียบสงบ นอกจากเสียงต้นไม้เสียดสีกันดังกรอบแกรบจากสายลมที่พัดผ่าน ก็ไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ อีก
‘ข้าคงคิดมากเกินไปแล้ว’ หลิ่วชิงหัวเราะกับตนเองและเดินหน้าต่อไป เขาชะลอฝีเท้าลง ในใจคิดว่าตนแค่ทำตามคำสั่งของผู้ช่วยอวิ๋นฮว๋าอย่างลวกๆ ก็พอแล้ว ไม่จำเป็ต้องเปลืองตัวเสี่ยงอันตรายเกินไป
เนี่ยหลีกลั้นหายใจ เข้าใกล้หลิ่วชิงเงียบๆ ด้วยความสามารถในการพรางตัวของจิตอสูรปีศาจเงา ยากที่คนทั่วไปจะสามารถตรวจพบกลิ่นไอของเขาได้
ห้าหมี่ สามหมี่ สองหมี่...
หลิ่วชิงไม่รู้ตัวเลยแม้แต่น้อย ขณะนี้เนี่ยหลีมาอยู่ข้างหลังของเขาแล้ว
ทันใดนั้น หลิ่วชิงรู้สึกได้ถึงรังสีสังหารที่บีบรัดเขามา สังหรณ์ถึงอันตรายแล่นวาบขึ้นในหัวใจ เขาตะลึงงันและพลันหมุนตัว ยกเท้าเตะออกไป
อย่างไรก็ตาม ลูกเตะนี้ไม่กระทบถูกสิ่งใด ไม่มีอะไรอยู่ข้างหลังของเขา!
“เกิดบ้าอะไรกันแน่?” หลิ่วชิงหนาวะเืขึ้นมาจับขั้วหัวใจ เขารู้สึกถึงรังสีสังหารชัดๆ ทว่าเมื่อหันกลับไป กลับไม่พบสิ่งใด
ชั่วขณะที่หลิ่วชิงกำลังงุนงง เงาร่างหนึ่งพลันปรากฏขึ้นข้างๆ เขา ได้ยินเสียง “ฉัวะ” คราหนึ่ง แสงเย็นะเืสายหนึ่งพุ่งผ่านความมืดและปาดผ่านลำคอของหลิ่วชิงไป
ลำคอของหลิ่วชิงราวกับถูกวาดด้วยสีแดงของเืรอยหนึ่ง เืกลุ่มหนึ่งไหลทะลักออกมา ปากของเขาอ้ากว้าง กระนั้นไม่อาจพูดอะไรออกมาได้ ดวงตาของเขาค่อยๆ เลือนราง ผลุบ ศีรษะของเขาหล่นลงไปที่พื้น
หลิ่วชิงแม้กระทั่งการตายของตนก็ไม่เข้าใจ เขาถูกอะไรบางอย่างโจมตี ั้แ่ฝึกยุทธ์มา แม้ต่อสู้กับศัตรูมาไม่ถึงพันคนก็ถึงหลายร้อยคนแล้ว ทว่าไม่เคยประสบกับการโจมตีเช่นนี้มาก่อน
อย่างไรก็ตาม เขาไม่มีโอกาสได้รู้อีกต่อไปแล้ว
หลังจากประสบความสำเร็จกับการลงมือจู่โจมออกไปหนึ่งกระบวนท่า ร่างของเนี่ยหลีก็ค่อยๆ จางลงอีกครั้ง และหายวับไป
เขาซ่อนศพของหลิ่วชิง ตระเตรียมลงมือครั้งต่อไป
สำหรับการลงมือลอบโจมตีครั้งแรกนี้ เนี่ยหลีไม่ค่อยพอใจนัก ก่อนการโจมตี รังสีสังหารของเขากลับถูกหลิ่วชิงตรวจพบได้ แม้เขาประสบความสำเร็จในการโจมตีได้ในท้ายที่สุด ทว่าสำหรับเนี่ยหลีแล้ว นี่ยังนับว่าเป็ความล้มเหลว
นักฆ่าที่แท้จริงย่อมลงมือสังหารศัตรูได้โดยที่พวกมันไม่ทันรู้ตัว
เพราะเนี่ยหลีเพิ่งหลอมรวมกับจิตอสูรปีศาจเงา การควบคุมความสามารถของจิตอสูรปีศาจเงายังไม่ชำนาญพอ ความล้มเหลวจึงถือเป็เื่ปกติ ครั้งแรกก็สามารถทำได้ถึงเพียงนี้ หากเป็ผู้อื่น พวกเขาคงพอใจอย่างยิ่งกับผลลัพธ์ที่ได้แล้ว ทว่าเนี่ยหลีกลับเข้มงวดกับตนเองอย่างยิ่ง ้าความสมบูรณ์แบบที่สุด
เนี่ยหลีซ่อนตัวอยู่ในเงามืดเงียบๆ รอคอยอย่างอดทน
กลิ่นคาวเืลอยไปในอากาศกลางป่า
“เกิดอะไรขึ้น?” สองคิ้วของผู้ช่วยอวิ๋นฮว๋าขมวดมุ่นเล็กน้อย เขาเอาแต่รู้สึกว่ามีบางอย่างที่แปลกประหลาดไป จึงกระโจนตัวออกไป หลิ่วเหยียนตามหลังไปติดๆ
หลังจากวิ่งไปได้ไม่กี่หมี่ข้างหน้า พวกเขาพลันเห็นศพของหลิ่วชิงบนพื้น
“มีใครบางคนอยู่ที่นี่!” ผู้ช่วยอวิ๋นฮว๋าอ้าปากค้างและพลันตื่นตัว ศัตรูสามารถฆ่านักสู้ระดับเงินสามดาวคนหนึ่งซึ่งอยู่ห่างจากพวกเขาไม่ไกลได้โดยไม่มีผู้ใดรู้ตัว หรือว่าศัตรูจะเป็ระดับทอง?
หลิ่วเหยียนที่อยู่ด้านข้างรู้สึกหนาวะเืขึ้นมาทันทีเมื่อเห็นภาพฉากนี้ หลิ่วชิงเพิ่งวิ่งออกไปไม่ไกลกลับถูกฆ่าตายแล้ว ไร้ซุ่มไร้เสียง อีกฝ่ายทำได้อย่างไรกัน?
ทั้งสองค่อยๆ ล่าถอยไปด้วยกัน และหันหลังชนกันและเฝ้ามองป่ารอบด้านอย่างระแวดระวัง
กลางราตรีมืดมิด ได้ยินเสียงนกร้องขึ้นมาท่ามกลางป่าอันเงียบสงัดตลอดเวลา ไม่มีสิ่งใดปรากฏสู่สายตา ทว่ากลับบังเกิดความรู้สึกน่าสะพรึงกลัวอย่างหนึ่งของการถูกจับตามองอยู่ ทำให้ขนลุกขนชันไปทั่วตัว
เห็นผู้ช่วยอวิ๋นฮว๋าและหลิ่วเหยียนไม่มีปฏิกิริยาอื่นๆ เนี่ยหลีก็ไม่เคลื่อนไหว เพียงรอคอยอยู่อย่างเงียบๆ
ไม่ว่าอย่างไร นี่กลับเป็ประโยชน์สำหรับเขาที่จะประวิงเวลาออกไป เนี่ยอวี่คงเรียกผู้าุโของครอบครัวมาได้ในอีกไม่ช้า
เวลาผ่านไป
หลังจากที่รู้สึกว่ามีบางอย่างประหลาดไป ผู้ช่วยอวิ๋นฮว๋าสองคิ้วขมวดมุ่นและพูดว่า “ไปกันเถอะ!” เขาเป็คนระมัดระวังตัว ในเมื่อครั้งนี้พบกับความล้มเหลวอย่างคิดไม่ถึง เขาก็ตัดสินใจจะล่าถอยกลับไปก่อน ไม่จำเป็ต้องเอาชีวิตไปเสี่ยง
หลิ่วเหยียนรอที่จะได้ออกไปจากที่นี่แทบไม่ไหวแล้ว รีบพยักหน้าหงึกๆ
ผู้ช่วยอวิ๋นฮว๋าทะยานตัวออกไป เตรียมพร้อมที่จะล่าถอย หลิ่วเหยียนที่อยู่ด้านข้างก็เตรียมพร้อมที่จะติดตามเขาไปแล้ว
“คิดจะไปหรือ ไม่ง่ายปานนั้นหรอก!” ดวงตาของเนี่ยหลีทอประกายเย็นเยียบวูบหนึ่ง ปรากฏตัวขึ้นทันใด สะบัดเคียวออกไป เหวี่ยงใส่หลิ่วเหยียน
หลังจากแปรสภาพหายตัว เนี่ยหลีก็ซุ่มเข้าใกล้หลิ่วเหยียนอยู่นานแล้ว เขาอยู่ห่างจากหลิ่วเอี๋ยนเพียงห้าหกหมี่เท่านั้น พอปรากฏกายออกมา ความเร็วก็รวดเร็วยิ่ง
ชั่วขณะที่เนี่ยหลีปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหัน หลิ่วเหยียนและผู้ช่วยอวิ๋นฮว๋าเกร็งตัวแน่น
“เ้าเป็ใคร!”
ใครบางคนซุ่มตัวอยู่ใกล้พวกเขาถึงเพียงนี้ กระนั้นพวกเขากลับไม่รู้สึกตัวเลยแม้แต่น้อย!
“ฆ่า!” ดวงตาของเนี่ยหลีหรี่แคบลง ปลดปล่อยรังสีสังหารเย็นะเื พุ่งเข้าหาหลิ่วเหยียนอย่างรวดเร็วราวฟ้าแลบ
หลิ่วเหยียนร้องเสียงเ็า บนร่างพลันะเิแสงสว่างจ้าออกมา บนตัวเขามีสนับแขนระดับเงินอยู่สองชิ้น เขายกแขนขึ้นป้องกัน คิดจะสกัดกั้นการโจมตีของเนี่ยหลี ในเวลาเดียวกัน เขาก็เตะใส่เนี่ยหลี
หลิ่วเหยียนเป็นักสู้ระดับเงินสามดาวผู้หนึ่ง ผ่านการต่อสู้มานับร้อยๆ ครั้ง มีประสบการณ์การต่อสู้ไม่น้อย ภายใต้สถานการณ์คับขันเช่นนี้ ปฏิกิริยาของเขานับว่ารวดเร็วไม่น้อย
น่าสงสาร ผู้โจมตีมิใช่คนธรรมดา ทว่าเป็เนี่ยหลีที่หลอมรวมกับปีศาจเงา!
เนี่ยหลีเผชิญหน้ากับหลิ่วเหยียนและพลันเกร็งท่อนแขน เงี่ยงบนกระดูกเคียวพลันตวัดใส่หลังหัวของหลิ่วเหยียน เขาเพียงเกี่ยวเบาๆ “ฝุบ” เงี่ยงก็ทะลุใส่หลังหัวของหลิ่วเหยียนแล้ว
ั์ตาของหลิ่วเหยียนหรี่สลัวลงในทันที แม้กระทั่งกายตายเขาก็ยังไม่เข้าใจ เหตุใดแขนของเ้าคนผู้นี้จึงยาวนัก สามารถอ้อมมาหลังศีรษะของเขาและโจมตีได้
เพียงพริบตาเดียว เนี่ยหลีก็ฆ่าได้อีกคนหนึ่ง
หากพิจารณาด้านพละกำลังเพียงอย่างเดียว หลิ่วเหยียนแข็งแกร่งกว่าเนี่ยหลีเล็กน้อย ทว่าเนี่ยหลีไม่ได้ปะทะกับหลิ่วเหยียนซึ่งๆ หน้า ตรงกันข้าม เขาลงมือจู่โจมฉับพลัน ในขณะเดียวกัน การโจมตีนี้เป็สิ่งที่หลิ่วเอี๋ยนคิดไม่ถึง ในเวลาสั้นๆ ย่อมไม่มีทางที่หลิ่วเหยียนจะสามารถตอบโต้ได้ ดังนั้นจึงปล่อยให้เนี่ยหลีลอบโจมตีได้สำเร็จ กลายเป็การสังหารในกระบวนท่าเดียว!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้