ฉินเฟิงหลับดีมากเมื่อคืนตอนนี้เขาเพิ่งตื่นและอาบน้ำ เมื่อเขาลงมาข้างล่างเขาก็เห็นสวี่รั่วโหรวกำลังทำงานอย่างหนัก เขากำลังจะบอกเธอให้หยุดแต่เธอคือแม่บ้านที่จ้างมาของนายน้อยฉิน เขาไม่อยากเปิดเผยตัวจริงของเขาเขาจึงปล่อยให้สวี่รั่วโหรวทำต่อไป
เขานึกถึงตอนที่เขาสัญญาว่าจะซื้อถุงน่องคู่ใหม่ให้หลีอวี่เฉินและเนื่องจากมันยังไม่ถึงเวลาทานข้าวเขาจึงไปที่ห้องของหานอิ๋งอิ๋งและมาที่ระเบียงตรงชั้นสามมีถุงน่องมากมายแขวนไว้หลากสีสัน
แน่นอนว่ามันก็มีชุดชั้นในต่างๆด้วยเช่นกัน และพวกมันก็ดูบางจนแทบจะมองทะลุได้ฉินเฟิงมองหาตัวที่ดูดีและพยายามอดทนเพื่อไม่ให้ตัวเองหยิบมันใส่ในกระเป๋า
ตึกๆๆ!
เขาเลือกถุงน่องลายตาข่ายสีดำจากถุงน่องที่แขวนอยู่เมื่อเขาหันกลับมา เขาก็ได้ยินเสียงส้นสูงและกลิ่นหอมก็แพร่กระจายไปทั่ว
“ฉินเฟิง...คุณมาทำอะไรที่ห้องของดิฉันคะ?” หานอิ๋งอิ๋งที่กำลังเตรียมเอกสารเธอกำลังจะเลือกถุงน่องที่ใส่ไปทำงานแต่แล้วเธอก็เห็นฉินเฟิงกำลังยืนถือถุงน่องตัวโปรดของเธอที่เธอใส่แค่ตอนอยู่บ้าน
หานอิ๋งอิ๋งกะพริบตาด้วยความเพลิดเพลินและมีเสน่ห์ออกมา“ฉินเฟิงคะ ทำไมคุณถึงถือถุงน่องของดิฉันเหรอคะ? หากคุณชอบมันให้ดิฉันใส่เพื่อคุณได้นะ มันมีสไตล์หลากหลายไม่เหมือนกันดิฉันใส่เพื่อคุณได้ทุกคู่เลย”
ฉินเฟิงเหลือบตามองรูปร่างยั่วยวนของหานอิ๋งอิ๋งและสายตาของเขาก็หล่นไปที่ต้นขาขาวเนียนสวยงามเขาจินตนาการว่าจะเป็อย่างไรถ้าเธอใส่ถุงน่องและคิดว่ามันต้องเซ็กซี่มากแน่ๆ
แต่ฉินเฟิงรู้ว่าผู้หญิงคนนี้อันตรายแค่ไหนเขาจึงตอบอย่างเฉยเมย “อ้อ พอดีเมื่อคืนพ่อบ้านหวังไม่ได้ทำซุปปลาให้น่ะผมเลยกลัวว่าคืนนี้เขาจะลืมทำอีกรอบผมเลยจะมายืมถุงน่องของคุณไปที่บ่อในสวนเพื่อจับปลาสักหน่อย”
อารมณ์โรแมนติกที่หานอิ๋งอิ๋งสร้างมาสลายหายไปทันทีและสีหน้าของเธอก็แข็งทื่อเธอจ้องฉินเฟิงและกระทืบเท้าตึงตังลงบันได “ชิ ไม่รู้ด้วยแล้ว”
ฉินเฟิงมองหลังของหานอิ๋งอิ๋งและั์ตาก็ฉายแววความสนุกสนานเขาคิดกับตัวเองว่าช่างเสียดายที่พื้นเพของผู้หญิงคนนี้แข็งแกร่งเกินไปถ้าเขาเล่นกับความรู้สึกของเธอ เขาคงจะบรรลัยแน่นอน
ไม่นานหลังจากนั้นทั้งสี่คนก็เข้ามาในห้องอาหาร สวี่รั่วโหรวเพิ่งมาตำหนักฉินได้ไม่นานและยังไม่ชินกับการทานข้าวร่วมโต๊ะกับท่านประธานฉินและผู้ช่วยหาน
เธอใช้ความพยายามอย่างมากในการกลืนอาหารเช้าในแต่ละคำฉินหวงและหานอิ๋งอิ๋งออกไปก่อนด้วยรถเบนซ์ และฉินเฟิงก็พาสวี่รั่วโหรวขึ้นจักรยาน 28 นิ้ว ของเขา
ตอนนี้สวี่รั่วโหรวชินกับการนั่งบนจักรยาน28นิ้ว แล้วและกังวลน้อยลงเธอแม้แต่มีสีหน้ามีความสุขขณะที่ดื่มด่ำกับความรู้สึกของสายลมที่พัดผ่านหูของเธอ
“ฉินเฟิงคะ เมื่อคืนนายน้อยฉินได้พูดกับฉันด้วยค่ะเขาบอกว่าฉันควรจะไปไหนมาไหนกับคุณให้มากๆ และเรียนรู้จากคุณ”
“เอ่อ อืม นายน้อยฉินมีสายตากว้างไกล เธอควรจะฟังเขาไว้นะ”
“ฉันทราบค่ะ!” สวี่รั่วโหรวพยักหน้าอย่างอายๆเธอรู้สึกถึงแขนของฉินเฟิงที่กำลังโอบเอวของเธออยู่ แต่เธอก็ไม่ขัดขืน
แม้ฉินเฟิงจะออกมาทีหลังแต่เขาก็มาถึงก่อนฉินหวงและหานอิ๋งอิ๋ง เขาจอดจักรยานในที่จอดรถ VIP แล้วหลังจากนั้น สองคนที่นั่งในเมอร์เซเดส-เบนซ์สีดำก็ได้มาถึง
ฉินหวงและหานอิ๋งอิ๋งค่อยๆยอมรับเหตุการณ์แปลกประหลาดนี้อย่างช้าๆ
ทั้งสี่คนเดินไปที่ลิฟต์ด้วยกันฉินหวงและหานอิ๋งอิ๋งขึ้นลิฟต์ที่เฉพาะประธานเท่านั้น หลังจากรอสักพักฉินเฟิงและสวี่รั่วโหรวก็ใช้ลิฟต์พนักงานเพื่อขึ้นไปยังล็อบบี้ของแผนกการขายบนชั้น8
ด้วยการลงไม้ลงมือของฉินเฟิงเสี่ยวหม่าและเสี่ยวชิวโดนส่งเข้าโรงพยาบาล หมอแนะนำให้พวกเขาพักอย่างน้อย 3 วันก่อนจะกลับไปทำงานเมื่อหวังเชาเห็นฉินเฟิงกำลังคุยกับสวี่รั่วโหรวด้วยรอยยิ้ม สีหน้าของเขาก็มืดมน
อย่างไรก็ตามเขาไม่สามารถทำอะไรฉินเฟิงได้เพราะไม่มีลูกน้องทั้ง 2 คน เขาบอกเสี่ยวหม่าและเสี่ยวชิวให้จัดการฉินเฟิง แต่ทั้งคู่ก็หายไป 2วัน
เวลาทำงานผ่านไปขณะที่ฉินเฟิงใช้เวลาดื่มด่ำกับขาอ่อนของสวี่รั่วโหรวเมื่อเห็นสีหน้าไร้อารมณ์ของเธอฉินเฟิงจึงรู้ว่า่เวลาสำหรับขาอ่อนในวันนี้พอแล้ว
เขาเป็คนขยันเป็คนยุติธรรมและไม่เห็นแก่ตัว ดังนั้นเมื่อเวลานวดขาอ่อนของสวี่รั่วโหรวจบลงเขาก็คิดถึงหลี่อวี่เฉินในออฟฟิศหัวหน้างานทันที
ในฐานะหัวหน้างานของแผนกการขายเธอต้องมีความกดดันจากงานมากแน่ๆฉินเฟิงคิดว่าเขาควรจะไปนวดเธอเพื่อให้เธอผ่อนคลาย
ฉินเฟิงคิดทันทีว่าถ้าเขาเป็ประธานบริษัทเขาจะใส่ใจพนักงานของเขาเยอะๆ โดยเฉพาะพนักงานหญิงสวยๆ
“เข้ามา!” ฉินเฟิงเคาะประตูออฟฟิศและน้ำเสียงเข้มงวดก็ดังออกมา
เขาเปิดประตูเข้าไป
เมื่อเข้ามาแล้วสายตาของฉินเฟิงก็จับจ้องอยู่ที่ขาสวยๆ ของหลี่อวี่เฉินเธอไม่ได้ใส่ถุงน่องมาในวันนี้ และต้นขาของเธอก็ขาวเนียนเปล่งประกายต้นขาที่าเ็ก็มองไม่เห็นร่องรอยาแอีกต่อไป
ดูเหมือนว่ายาสมานทองขั้นต้นจะมหัศจรรย์จริงๆฉินเฟิงวางแผนในใจว่าวันไหนที่เขามีเวลาเขาจะเปิดบริษัทยาเขาจะขายยาสมานทองรักษาและมันจะต้องขายดิบขายดีแน่นอน
สายตาของฉินเฟิงดูทะลึ่งตึงตังแม้ว่าเขาจะแกล้งทำเป็เกียจคร้านแต่หลี่อวี่เฉินก็เห็นความชั่วร้ายในดวงตาของเขาอยู่ดี
“้าอะไร?” เธอมองฉินเฟิงอย่างเ็าและหดขาที่ยืดออกไปใต้โต๊ะเข้ามา
“ก็ไม่สลักสำคัญอะไร ตอนว่างๆ หัวหน้าหลี่ดูเคร่งเครียดผมไม่แน่ใจว่าคุณอยากจะให้ผมช่วยนวดขาให้หรือเปล่า?” ฉินเฟิงกล่าวอย่างจริงจัง
หลี่อวี่เฉินโกรธจนหัวขาวโพลนเธอไม่เข้าใจว่าฉินเฟิงไปได้ความกล้าหน้าด้านมาจากไหนถึงพูดอะไรแบบนี้
“ถ้าไม่มีอะไรก็ออกไปได้แล้ว!”ความเ็าของหลี่อวี่เฉินทำให้ดูเหมือนร่างกายของเธอมีชั้นน้ำแข็งปกคลุมจนถึงวันนี้ เมื่อเธอเห็นฉินเฟิง เธอก็มักจะปวดหัว
“หัวหน้าหลี่ จริงๆ แล้วผมมาที่นี่เพื่อถามว่าแผลที่ขาของคุณดีขึ้นหรือยังถ้ายังรักษาไม่หาย ผมจะได้ให้ยาคุณไปทา”
เมื่อเธอได้ยินเขาพูดเื่แผลความเยือกเย็นของหลี่อวี่เฉินก็ละลายลง แม้ว่าเธอจะเกลียดฉินเฟิงแต่เธอก็ต้องยอมรับว่ายาที่เขาทาให้เธอนั้นลึกลับจริงๆเธอแค่นอนตื่นเดียวและวันต่อมาแผลก็หายไปแล้วมันเหมือนกับว่าเธอไม่เคยาเ็มาก่อน
“นั่นคือปัญหาของฉัน คุณไม่ต้องห่วง” เธอใช้น้ำเสียงปกติ
“หัวหน้าหลี่ ไม่ต้องสุภาพขนาดนั้นหรอก เราเป็เพื่อนร่วมงานเราก็ควรจะมีปฏิสัมพันธ์กันนะ รีบให้ผมดูขาของคุณใกล้ๆ เร็ว ถ้าแผลยังไม่หายดีผมจะช่วยคุณทาผงยาให้...แน่นอนว่าผงยานี้ต้องคู่กับน้ำลายผมถึงจะได้ผล!”
เมื่อเห็นหลี่อวี่เฉินใจอ่อนลงฉินเฟิงก็ออกความเห็นเพิ่มทันทีด้วยรอยยิ้ม
“ฉินเฟิง คุณเป็หนูหรือไง? ทำไมคุณชอบเข้ามาในใต้โต๊ะของฉันจัง?ออกไปนะ!” หลี่อวี่เฉินทั้งอายและโกรธ เธอโกรธมากจนลุกขึ้นยืนทันที
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้