นี่เป็ครั้งแรกที่หนิงเทียนใช้ศาสตร์ของเส้นทางิญญาเพื่อสู้กับศัตรู เมื่อครั้งที่ต้นไม้สังเวยิญญาโบราณสอนหนิงเทียนถึงวิชาแปลงิญญา อีกฝ่ายได้เตือนเขาซ้ำแล้วซ้ำว่าวิชาแปลงิญญานั้นชั่วร้ายเกินไป มันเต็มไปด้วยคำสาปแช่ง จึงมักมีผลตามติดมาด้วย ถ้าเป็ไปได้ก็ไม่ควรใช้
เพื่อสังหารถังจิ้นอู่ หนิงเทียนยอมใช้วิชาที่แข็งแกร่งที่สุด โดยใช้น้ำเต้าเจ็ดสีกำจัดกระบี่ิญญาของศัตรูออกไป จากนั้นจึงใช้กระบี่เลื่อนลอยไร้แก่นทำลายแขนทั้งสองข้างของอีกฝ่าย ซึ่งเป็การสร้างการโจมตีแบบรวดเดียว นี่เป็โอกาสเดียวและเป็วิธีการฆ่าคนอย่างมีประสิทธิภาพอย่างแท้จริง
การโจมตีครั้งนี้ช่างน่ากลัว ในฐานะหยวนซิวในขอบเขตเปลี่ยนผ่าน ถังจิ้นอู่คิดว่าเขามีความรู้ดี แต่เขาไม่เคยเห็นศาสตร์ของเส้นทางิญญามาก่อน
พลังแห่งแสงเนื้อและจิติญญาที่เน่าเปื่อยทำให้ถังจิ้นอู่ดิ้นรนอย่างบ้าคลั่ง และร้องคำรามอย่างะเืใจ เนื้อและเืบนใบหน้าละลายอย่างรวดเร็ว ิญญาถูกมัดแน่นจนเขาแทบจะหายใจไม่ออก
เขาเปิดใช้ทักษะควบคุมกระบี่อย่างสิ้นหวัง และพยายามโจมตีหนิงเทียนด้วยกระบี่ิญญาที่อยู่ข้างกายเพื่อพลิกชะตากลับมา
กระบี่ิญญานั้นไม่ใช่กระบี่ิญญาของถังจิ้นอู่แต่เป็อาวุธิญญาระดับกลาง แต่เมื่อเสียงโจมตีกระทบกับหนิงเทียน ก็เกิดเสียงปะทะขึ้น และมันไม่สามารถทำอะไรกายาสุวรรณะนิรันดร์ของหนิงเทียนได้เลย
หนิงเทียนกระชับนิ้วแน่นขึ้น ก่อนจะใช้แรงนิ้วเจาะทะลุกะโหลกศีรษะของถังจิ้นอู่ แล้วใช้วิชาแปลงิญญาเพื่อดึงแสงิญญาของเขาออกมา พร้อมกับเสียงกรีดร้องที่หยุดลงทันที
สีหน้าของซูอวิ๋นเต็มไปด้วยความใ ดวงตาของนางมีเพียงความไม่เชื่อ
นี่เป็ทักษะแบบใดถึงสามารถสังหารยอดฝีมือขอบเขตเปลี่ยนผ่านได้ในการโจมตีเพียงครั้งเดียวเช่นนี้?
ผู้บำเพ็ญบนดินแดนหยวนซิงรู้จักเพียงหยวนซิว ซิงซิว และจื๋อซิวเท่านั้น ในหมู่พวกเขาซิงซิวเกี่ยวข้องกับการโจมตีทางจิติญญา แต่มันค่อนข้างแตกต่างจากสิ่งที่เรียกว่าเส้นทางิญญา
ซูอวิ๋นเป็หยวนซิวมาไม่ถึงหนึ่งปี การผจญภัยมากมายนำนางมาสู่สถานะปัจจุบันของนาง แต่นางไม่เคยได้ยินเื่เส้นทางิญญาเลย
เนื้อและเืของถังจิ้นอู่ละลายจนร่างของเขากลายเป็โครงกระดูกสีขาว กระบี่ิญญาลิขิตชีวิตของเขากรีดร้องก่อนจะร่วงหล่นจากกลางอากาศจมลงสู่ทะเลสาบทันที
กระบี่ิญญาอีกเล่มตกไปอยู่ในมือของหนิงเทียนรวมถึงแหวนมิติของถังจิ้นอู่ ซึ่งหนิงเทียนเก็บไว้ในกำไลหยกหยวนทันที
เมื่อหันกลับไป หนิงเทียนก็มองซูอวิ๋นอย่างเ็า เจตนาฆ่าอันมหึมาทำให้เกิดคลื่นที่โหมกระหน่ำเป็พันจั้ง เขาไม่คิดปิดบังความเกลียดชังในใจเลย
จากอดีตคนรักมาเป็ศัตรูในยามนี้ ทั้งหมดเป็ความผิดของซูอวิ๋น
ทั้งสองเป็คู่รักในวัยเด็ก หนิงเทียนเคยห่วงใยนางอย่างสุดหัวใจ แต่ผลที่ได้คือนางแทนคุณด้วยความแค้น นางมีจิตใจโฉดชั่วเยี่ยงหมาป่า!
ดวงตาของซูอวิ๋นเย็นเฉียบ นางไม่เคยคิดว่ามีอะไรผิดปกติกับการแสวงหาความสุขของตน
แม้ตระกูลหนิงจะดีต่อตระกูลซู แต่ในมุมมองของซูอวิ๋น ความมีน้ำใจเช่นนั้นไม่สามารถรั้งนางไว้ และทำให้นางยอมแต่งให้กับคนไร้ประโยชน์
จากมุมมองของนางเอง ซูอวิ๋นรู้สึกว่านางกำลังทำสิ่งที่ถูกต้อง แต่นางกลับมองข้ามสิ่งหนึ่งไป ทางเลือกของนาง ความเฉยเมย และความกระตือรือร้นของนางที่จะกำจัดหนิงเทียนโดยไม่ใช้วิธีทรยศ สุดท้ายนางทำให้พ่อของหนิงเทียนต้องตาย!
นี่คือความเกลียดชังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดระหว่างหนิงเทียนและซูอวิ๋น
แม้หนิงเทียนจะเคยชอบซูอวิ๋นมาก แต่เขาไม่เคยแค้นใจกับการถูกซูอวิ๋นดูแคลน
สิ่งที่หนิงเทียนเกลียดคือความอกตัญญูของตระกูลซู และสิ่งที่ซูอวิ๋นและเ้าเยี่ยนเหมยที่เป็ผู้ก่อเหตุฆาตกรรมด้วยการยืมมีดฆ่าคน
ตระกูลหนิงทุ่มเททุกอย่างให้กับตระกูลซู พระคุณยิ่งใหญ่กว่า์ แต่สุดท้ายก็จบลงเช่นนี้ หนิงเทียนจะไม่แค้นได้อย่างไร?
ดวงตาของทั้งสองปะทะกันอย่างดุเดือดกลางอากาศ ประกายไฟปะทุขึ้นพร้อมเจตนาสังหารที่พลุ่งพล่าน
หนิงเทียนอยากล้างแค้นให้กับพ่อของตน ขณะที่ซูอวิ๋นอยากตัดรากถอนโคน[1] และตัดทางหลบหนีของหนิงเทียนให้สิ้น เพราะนางกลัวจริงๆ ว่าหนิงเทียนจะเติบโตเป็ั์ใหญ่ฐานะผู้บำเพ็ญจื๋อซิว
หนิงเทียนตื่นเต้นมาก หลังจากเกิดความบาดหมางขึ้น นี่เป็ครั้งแรกที่ทั้งสองเผชิญหน้ากันตามลำพัง เขามีข้อตำหนิมากมายที่ติดอยู่ในใจ แต่ไม่รู้จะระบายออกมาอย่างไร
บางทีอาจจะไม่มีอะไรเหลือที่ต้องพูดระหว่างพวกเขาแล้ว ทั้งสองกลายเป็คนแปลกหน้าต่อกัน และไม่มีอะไรเหลือนอกจากความเกลียดชัง ไม่ว่าจะพูดมากแค่ไหนก็ไม่มีประโยชน์
ร่างกายของซูอวิ๋นถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง แนวน้ำพุ่งขึ้นมาจากผิวทะเลสาบ กลายเป็น้ำแข็งกลางอากาศ ปล่อยคลื่นหนาวเหน็บกัดกระดูกออกมา
เปลวเพลิงที่อยู่ข้างกายหนิงเทียนสะท้อนความโกรธแค้นในใจ จิติญญาการต่อสู้ของเขายิ่งพลุ่งพล่านถึงขีดสุด
ในฐานะยอดฝีมือขอบเขตเปลี่ยนผ่าน ความแข็งแกร่งโดยรวมของซูอวิ๋นนั้นดีกว่าถังจิ้นอู่มาก นางฝึกทักษะเหมันต์เยือกแข็งของสำนักหานเทียน ซึ่งเข้ากันได้ดีกับร่างเหมันต์ซานหยินของนาง
เมื่อซูอวิ๋นเข้าสู่ขอบเขตเปลี่ยนผ่าน วัตถุเปลี่ยนผ่านของนางเป็หยกหิมะวิจิตรที่หายาก ซึ่งพลังอันน่าสะพรึงกลัวของแดนเหมันต์ ซึ่งกระบี่ิญญาของถังจิ้นอู่ไม่อาจเทียบได้
นอกจากนี้ซูอวิ๋นยังไข่มุกหยินทมิฬซึ่งเป็สมบัติปฐีขัดเกลา นับเป็อาวุธิญญาระดับสูงที่ทรงพลังอย่างน่าสะพรึงกลัว
เมื่อรวมกับม้วนภาพพันทิวเขาเหมันต์และพัดหิมะลอยล่องแล้ว ซูอวิ๋นมีอาวุธิญญาที่ยอดเยี่ยมอย่างน้อยสี่ชิ้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้เพียงอย่างเดียวก็เกินกว่าหยวนซิวจำนวนนับไม่ถ้วนแล้ว
เหตุผลที่ซูอวิ๋นไม่จากไปก็เพราะเหตุนี้ แม้ถังจิ้นอู่จะพ่ายแพ้ แต่ซูอวิ๋นรู้สึกว่านางยังคงมีโอกาสที่ดีที่จะฆ่าหนิงเทียน
ท้ายที่สุดแล้วซูอวิ๋นและหนิงเทียนก็อยู่ในขอบเขตที่ต่างกันมาก ก่อนหน้านี้หนิงเทียนปะทะถังจิ้นอู่ ในการเผชิญหน้าแบบตัวต่อตัว หนิงเทียนไม่สามารถเอาชนะถังจิ้นอู่ได้อย่างแท้จริง
กุญแจสำคัญในความสามารถของเขาที่ใช้เอาชนะได้อย่างน่าประหลาดใจ คือวิชาแปลงิญญาที่มีบทบาทสำคัญ
ซูอวิ๋นเป็ผู้ยืนดูและเห็นข้อบกพร่องด้านขอบเขตของหนิงเทียน ดังนั้นนางจึงอยากลองเดิมพัน
“นางหญิงเลว ตายซะเถอะ”
คำพูดนับพันกลายเป็ประโยคเดียวที่เอ่ยออกมาด้วยความโกรธ
หนิงเทียนคิดถึงพ่อที่เสียชีวิตไปแล้ว คิดถึงความเสื่อมโทรมของตระกูลหนิง หัวใจของเขาก็เต็มไปด้วยความเกลียดชัง
หนิงเทียนพุ่งตัวมา ทั้งร่างรายล้อมไปด้วยลมและสายฟ้าคำราม พลังหมัดของทะลวงพันชั้นช่างน่าสะพรึงกลัว สายลมที่กึกก้องจากพลังหมัดทำให้ห้วงอากาศแตกสลาย ก่อนจะกระแทกเข้าที่หน้าอกของซูอวิ๋นเต็มกำลัง
“กระบี่น้ำแข็งแยก์ตัดนภา”
ซูอวิ๋นยกมือขวาขึ้นตั้งตรงหน้าอก แล้วใช้ฝ่ามือแทนกระบี่ผลักพลังของศัตรูออกไปอย่างรวดเร็ว แสงสีขาวเงินบนขอบฝ่ามือปล่อยอากาศเย็นเจาะกระดูก ควบแน่นเป็ใบมีดสีหยก กระแทกเข้ากับหมัดของหนิงเทียนอย่างรุนแรง ทำให้ทั้งร่างกายของเขาสั่นอย่างรุนแรง และร่างเขาก็กระเด็นออกไปในทันที
“พัดหยกระบำร่ายเสน่ห์!”
ซูอวิ๋นโบกมือซ้าย พัดหิมะลอยล่องบนฝ่ามือปล่อยคลื่นหนาวเย็นที่แปรเปลี่ยนเป็พายุหิมะ กวาดล้างห้วงมิติเวลาราวกับถูกแช่แข็ง
ดวงตาของหนิงเทียนเหมือนกับคบเพลิง เนตรเพลิงจับจ้องซูอวิ๋นนิ่ง แส้เกล็ดมรกตัทมิฬเคลื่อนไหวตามทักษะเก้าร่างเถาวัลย์ั แล้วผสานพลังกับกระบี่เลื่อนลอยไร้แก่นในมือซ้าย จากนั้นเขาจึงเริ่มเผชิญหน้าแบบตัวต่อตัวกับซูอวิ๋น
ซูอวิ๋นระมัดระวังมาก ก่อนหน้านี้นางได้เห็นแขนของถังจิ้นอู่ถูกะเิเป็ชิ้นๆ และรู้ว่าพลังกระบี่ของหนิงเทียนนั้นค่อนข้างประหลาด นางจึงใช้น้ำค้างแข็งหนาควบแน่นบนแขนทั้งสองข้างเพื่อหลีกเลี่ยงการััทางกายภาพกับหนิงเทียน
พัดหิมะลอยล่องเข้าสู้กับแส้เกล็ดมรกตัทมิฬราวกับัที่เต้นอยู่ในทุ่งหิมะ คนหนึ่งใช้พลังอันมหาศาลแช่แข็งทุกสิ่ง ในขณะที่อีกคนไม่เคยยอมแพ้และต่อสู้อย่างหนัก
ทักษะทางกายภาพของซูอวิ๋นเปรียบเสมือนสายฟ้า พลังการต่อสู้ของนางแข็งแกร่งกว่าที่หนิงเทียนจินตนาการไว้มาก
ทั้งสองเคยสู้กันที่ก้นบ่อในเมืองร้างของแดนลับ ในเวลานั้นซูอวิ๋นอยู่ขั้นเจ็ดของขอบเขตผนึกดารา นางไม่สามารถเอาชนะหนิงเทียนซึ่งอยู่ที่ขอบเขตจิตหยั่งลึกขั้นห้าได้
ตอนนี้ซูอวิ๋นเข้าสู่ขอบเขตเปลี่ยนผ่านแล้ว พลังสายเืของนางได้รับการฟื้นฟูอย่างสมบูรณ์ ประสิทธิภาพการต่อสู้จึงเพิ่มสูงขึ้นมาก ในส่วนของการใช้ท่าเคลื่อนไหวนั้น นางควบคุมความแข็งแกร่งได้ดีขึ้นมาก
เมื่อประกอบกับคำแนะนำส่วนตัวของปรมาจารย์ของสำนักหานเทียน ซูอวิ๋นจึงได้เรียนรู้ทุกสิ่งและสามารถบดขยี้คู่ต่อสู้ทั้งหมดในขอบเขตผนึกดาราได้อย่างง่ายดาย
อารมณ์ของหนิงเทียนพุ่งสูง ทั่วร่างกายเปล่งประกายด้วยแสงสีทอง ยุทธศาสตร์ครอง์ผสมผสานกับวาโยพิโรธ ทำให้ทั้งร่างของเขายิ่งดุร้ายและทรงพลัง
ด้วยการผสมผสานระหว่างดอกไม้ หญ้า ต้นไม้ เถาวัลย์ ดิน ไฟ น้ำ และลม หนิงเทียนได้ใช้พลังสูงสุดของหอคอยพลัง ร่างกายของเขาบริสุทธิ์ราวกับเพชร และเป็การยากที่จะได้รับอันตรายจากอาวุธิญญา ไม่ต่างจากเตาหลอมที่กำลังลุกไหม้
ดวงตาของซูอวิ๋นเ็า พลังสายเืในร่างกายของนางฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว ชีพจรหลักทั้งเก้าเส้นสั่นะเืในเวลาเดียวกัน จำนวนกระแสวังวนพลังในชีพจรหยวนแรกนั้นมากกว่าของถังจิ้นอู่อย่างเห็นได้ชัด
ทักษะเก้าเนตร์ของหนิงเทียนสามารถมองผ่านความผันผวนของชีพจรหยวนในร่างกายของซูอวิ๋น และมองเห็นการไหลเวียนโลหิตบนร่างกายของนางได้อย่างชัดเจน เช่นเดียวกับวัตถุเปลี่ยนผ่านที่ซ่อนอยู่ในตันเถียนของนาง
มันเป็เจดีย์หยกอันวิจิตรงดงามที่บรรจุพลังเย็นหยินอันลึกลับที่เรียกว่าหยกหิมะวิจิตร มันเคลื่อนไหวขึ้นๆ ลงๆ อยู่ในตันเถียนของซูอวิ๋น เปิดใช้งานต้นกำเนิดโดยธรรมชาติของร่างเหมันต์ซานหยิน พร้อมกับความงามเยือกแข็งที่พัฒนาเคียงข้างกัน ทั้งยังทำให้นางมีสติที่แจ่มชัดและเ็าอย่างยิ่ง
ปลายนิ้วกระบี่ของซูอวิ๋นหมุนปล่อยแสงเย็นและน้ำแข็งออกมา ทุกครั้งที่ปะทะกับหมัดของหนิงเทียน มันทำให้แขนของเขาเริ่มชา
เมื่อวิชากระบี่แม้วคงพบกับกระบี่ของซูอวิ๋น มันจะแตกสลายไปทันที ทำให้ไม่สามารถเจาะเข้าไปได้
คิ้วกระบี่ของหนิงเทียนเริ่มขมวดเล็กน้อย เขาใกับความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้นของซูอวิ๋น ในขณะที่ซูอวิ๋นขมวดคิ้วเล็กน้อย กระบี่ของนางเทียบได้กับกระบี่เลื่อนลอยไร้แก่น แต่มันไม่สามารถทำลายกายาสุวรรณะนิรันดร์ของหนิงเทียนได้
สายฟ้าที่ดังกึกก้องแวบผ่านกลางอากาศ
การเคลื่อนไหวระหว่างซูอวิ๋นและหนิงเทียนนั้นรวดเร็วมาก ทั้งสองเข้าหาและผละจากกันราวกับสายลม หากไม่มีกำลังจากภายนอก หนิงเทียนก็ไม่สามารถทำร้ายซูอวิ๋นได้ และซูอวิ๋นก็ไม่สามารถจัดการเขาได้เช่นกัน
“พันภูผาโถมหิมะ!”
ดวงตาของซูอวิ๋นเต็มไปด้วยเจตนาฆ่า ทันใดนั้นนางก็เริ่มใช้กระบวนท่าสังหารครั้งใหญ่ ในเวลาเดียวกันก็เปิดใช้ม้วนภาพพันทิวเขาเหมันต์และพัดหิมะลอยล่อง ท่ามกลางพายุหิมะที่ถาโถมเข้ามา ดูเหมือนว่าูเาน้ำแข็งจะทุบหัวของหนิงเทียนแล้ว
ประสาทััทั้งหกของหนิงเทียนนั้นเฉียบคม เขาใช้คัมภีร์หลิงฮวงทันที แส้เกล็ดมรกตัทมิฬลอยออกจากมือของเขา ก่อนกลายเป็ัขนาดพันจั้ง ทุบูเาหิมะด้วยกรงเล็บ ลอยโฉบกับท้องฟ้าท่ามกลางพายุหิมะ
ร่างของซูอวิ๋นล้อมรอบด้วยเกล็ดหิมะ พลังสายเืในร่างกายของนางก็ฟื้นคืนชีพขึ้นมาอย่างเต็มที่ หยกหิมะวิจิตรกระตุ้นทุกส่วนในร่างกาย ทำให้ความแข็งแกร่งทะยานไปสู่จุดจุดสูงสุดในทันที
่เวลาต่อมา สิ่งที่ดูเหมือนลูกปัดโปร่งใสสีเขียวแวววาวราวกับหยก ซึ่งประกอบไปด้วยคลื่นความเย็นอันท่วมท้นก็พุ่งเข้าหาหนิงเทียนภายใต้การควบคุมของซูอวิ๋น
นี่คือไข่มุกหยินทมิฬที่เป็สมบัติล้ำค่าที่สุดของสำนักหานเทียน เหตุที่การบ่มเพาะของซูอวิ๋นได้รับการปรับปรุงอย่างมากในเวลาไม่ถึงหนึ่งปี เป็เพราะไข่มุกเม็ดนี้นั่นเอง
พลังของอาวุธิญญาระดับสูงนั้นน่ากลัวอย่างยิ่ง มันเทียบได้กับปรมาจารย์ และเป็เื่ยากสำหรับคนทั่วไปที่จะเปิดใช้งาน
ทว่าซูอวิ๋นมีร่างกายที่พิเศษ หลังจากเข้าสู่ขอบเขตเปลี่ยนผ่าน หยกหิมะวิจิตรและไข่มุกหยินทมิฬจะเสริมซึ่งกันและกัน ซึ่งทำให้นางสามารถใช้พลังส่วนหนึ่งของไข่มุกหยินทมิฬเพื่อสังหารศัตรูในขอบเขตเดียวกันได้ทันที
รูปแบบิญญาเรียงกันในดวงตาของหนิงเทียน พลังเต๋าที่ส่งออกมาทำให้เขาตระหนักถึงความน่ากลัวของไข่มุกหยินทมิฬทันที หนิงเทียนเปิดใช้งานน้ำเต้าเจ็ดสีและหอคอยพลัง ทั้งยังพยายามอย่างเต็มที่ที่จะเพิ่มพลังให้น้ำเต้าเจ็ดสีในทันที
นี่เป็การเผชิญหน้าครั้งแรกระหว่างไข่มุกหยินทมิฬและน้ำเต้าเจ็ดสี ซูอวิ๋นมีความได้เปรียบในด้านขอบเขต ซึ่งเห็นได้ชัดว่าหนิงเทียนยังขาดในด้านนี้
น้ำเต้าเจ็ดสีที่งดงามสูงประมาณหนึ่งชุ่น มันใหญ่กว่าไข่มุกหยินทมิฬเล็กน้อย ทั้งสองฝ่ายปะทะกันอย่างดุเดือดกลางอากาศ แสงเย็นจากหยก และแสงสีขาวเงินดูคล้ายกันมาก ทว่าแก่นแท้ของพวกมันต่างอย่างสิ้นเชิง
ร่างกายของหนิงเทียนล้มลง เืเริ่มหลั่งออกมาจากปากและจมูกของเขา
ในการต่อสู้ด้วยอาวุธิญญา ความเหนือกว่าของซูอวิ๋นในด้านขอบเขตได้ปราบปรามคู่ต่อสู้ของนางลง
“ตายซะ หนิงเทียน!”
ซูอวิ๋นมีเจตนาซ่อนเร้น และดูเหมือนจะคาดการณ์ได้ว่าฉากนี้จะเกิดขึ้น หลังจากไข่มุกหยินทมิฬกดข่มน้ำเต้าเจ็ดสีได้แล้ว นางก็ใช้ทักษะเหมันต์เคลื่อนย้าย ก่อนจะมาปรากฏกายข้างหนิงเทียน แล้วชกเขาด้วยหมัดขวาของตน
พลังของหมัดนี้ช่างน่ากลัว ทำให้หนิงเทียนรู้สึกหวาดกลัวอย่างยิ่ง เขาเห็นหยกหิมะวิจิตรที่ไหลไปตามชีพจรหยวนในตันเถียนของซูอวิ๋นได้อย่างชัดเจน พร้อมหมัดที่พุ่งเข้ามาของซูอวิ๋น
หยกหิมะวิจิตรปรากฏขึ้นในดวงตาของหนิงเทียนแทบจะในทันที พลังนี้ราวกับธารน้ำแข็งอันรุนแรงที่มีความปั่นป่วนไม่สิ้นสุด พลังอันเยือกเย็นนี้แฝงความปรารถนาที่จะทำลายล้างทุกสิ่ง
---------------------------------------
[1] ตัดรากถอนโคน (斩草除根) หมายถึงทำลายล้างให้สิ้นซาก หรือกำจัดศัตรูให้หมดสิ้น
