เมื่อหันกลับไปผมก็เห็นเพียงสายตาอำมหิตไร้เมตตาของเยียนสั่วเฟิงเยว่ตอนที่เธอจัดการผมก็ได้พูดด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า “นี่คือผลจากการที่นายกล้าลองดีกับสงป้าเฟิงหยิน”
สวบ!
ผมกลายเป็ิญญาอีกครั้งอยู่บริเวณสุสานใกล้ๆห่างจากพื้นที่ของ NPC ไปไม่ไกล หากจะเดินกลับเข้าไปในถ้ำต้องใช้เวลาอีกประมาณ 10 นาที เฮ้อเป็เพราะผมช่วยเหลือเยียนสั่วเฟิงเยว่จนฆ่านักแม่นปืนตายไปหนึ่งคนทำให้ชื่อของผมกลายเป็สีแดง แถมยังมีค่าบาปอีก 100 พอยต์ ตอนนี้ก็ดันมาถูกฆ่าตายจนเลเวล27 ลดลงไปอยู่ที่ 25 เซ็งชะมัด!
ผมยืนอยู่ภายในสุสานพร้อมเริ่มสำรวจของในกระเป๋าและตามร่างกายก่อนจะพบว่าเกราะป้องกันส่วนขาระดับเขียวและเกราะข้อมือถูกดรอปออกไปแล้วโชคดีที่ไม่ใช่หอกโลหะโบราณ ไม่งั้นคงเ็ปเจียนตายแน่ ส่วนของในกระเป๋าก็มีอุปกรณ์บางอย่างที่ดรอปไปแต่ผมคิดว่าความเสียหายใหญ่หลวงที่สุดในครั้งนี้คือ ชื่อที่ติดสีแดงของผมนี่แหละ
ผมกำหมัดแน่นด้วยความเจ็บใจที่แท้เยียนสั่วเฟิงเยว่ก็เป็คนของหลิวอิง เ้าบ้านั่นร้ายกาจนักเพื่อล่อผมให้ติดกับถึงกับลงทุนให้เยียนสั่วเฟิงเยว่และนักล่าลมนั่นแสดงละครตบตาไอ้นักล่าลมนั่นก็ยอมสละตัวเองตั้ง 1 เลเวลเพื่อให้ผมหลงเชื่อใจคนเรานี่ยากแท้หยั่งถึงจริงๆ
……
ผมยิ้มโดยไม่ได้แสดงสีหน้าโกรธเคืองพร้อมกับมุ่งหน้ากลับเข้าไปในถ้ำโลหิตดำ ขณะเดียวกันผมก็มองตารางสัตว์เลี้ยงไม่เพียงไม่โกรธเท่านั้น แต่กลับดีใจด้วยซ้ำ เพราะในตารางมีสัตว์เลี้ยงเพิ่มมาอีก 1 ตัวแถมเ้านั่นคือกะโหลกเพลิงซึ่งมีเปลวไฟปกคลุมร่างถือว่าเป็สมบัติล้ำค่าเลยนะเนี่ย
ผมยื่นมือไปด้านหน้าก่อนที่ค่าสถานะของกะโหลกจะปรากฏขึ้น
[กะโหลกเพลิง]
เลเวล :1
พลังโจมตี:★★★★
พลังป้องกัน:★★★☆
HP:★★★★☆
ความว่องไว:★★☆
MP:★☆
ค่าความเป็เลิศ :100%
……
ค่าความเป็เลิศ 100%!!!
ตัวอักษรลอยอยู่ตรงหน้าขณะที่ร่างกายผมชะงักงันเหมือนโดนไฟดูด ให้ตายเถอะพระเ้า!อะไรจะโชคดีขนาดนี้วะเนี่ย นี่เป็สัตว์เลี้ยงที่มีค่าความเป็เลิศ 100% ตัวแรกเลยนะ? ทั้งพลังโจมตี ค่า HP รวมถึงค่าความเป็เลิศนี่ถือว่าพิเศษสุดๆหากเทียบกับเ้านกขนสีเงิน ผึ้งสังหารพวกนั้นดูเหมือนว่าเ้ากะโหลกเพลิงนี่จะแข็งแกร่งกว่าหลายเท่าตัวเลย
เยี่ยมสุดๆถึงแม้ภารกิจครั้งนี้จะไม่สำเร็จ แต่ก็ช่างแม่งเพราะราคาของกะโหลกเพลิงนี้คงมีมูลค่าอย่างน้อยๆ ก็ 100 เหรียญทอง หึๆรวยแล้วจ้า!
ผมเดินกลับไปที่ชั้น 3 ของถ้ำอีกครั้งก็พบว่าเ้าซีฉู่ป้าหวางเยียนสั่วเฟิงเยว่ นักล่าลม และคนอื่นๆ กำลังยืนรวมกันอยู่ที่นั่นและจัดการกับพวกกะโหลกเพลิง เป็เพราะทางเข้าชั้น 4 จะต้องผ่านกลุ่มมอนสเตอร์เหล่านี้จึงจำเป็ต้องจัดการพวกมันให้หมดเสียก่อน
ศพของผมยังนอนแอ้งแม้งอยู่ที่เดิมท่ามกลางคนพวกนั้นตอนนี้ระบบแจ้งว่าสามารถฟื้นคืนชีพได้แล้ว แต่ผมรีบกดปฏิเสธกลับไปหากฟื้นคืนชีพตอนนี้มีหวังถูกฆ่าตายอีกรอบแหงๆ
ผมมองศพของตัวเองทันใดนั้นเยียนสั่วเฟิงเยว่ก็พูดขึ้นว่า “ตอนนี้เซียวเหยาจื้อจ้ายคงเกลียดฉันเข้ากระดูกดำแน่ๆที่ฉันไปหลอกเขาแบบนั้น”
นักล่าลมหันมาหัวเราะ “ไม่เห็นต้องสนใจเ้าบ้านั่นเลยก่อนหน้านี้เ้าหมอนั่นก็ชอบมาขัดขวางการเก็บเลเวลของพวกเราตลอด หึ ตายได้ก็ดี! ”
เยียนสั่วเฟิงเยว่ถือกริชในมือ “ว่าแต่...เซียวเหยาจื้อจ้ายนั่นก็คือ หลี่เซียวเหยา นักศึกษาใหม่ชั้นปี 1 มหา’ลัยหลิวหัวของพวกเราจริงๆ เหรอ? ”
“ใช่ ฉันไปหาข้อมูลมาแล้ว เ้านั่นคือหลี่เซียวเหยานักศึกษาสาขาวิชาภาษาจีนชั้นปี 1”
เยียนสั่วเฟิงเยว่ยังคงแสดงอาการกังวลใจออกมา
หลิวอิงถือดาบในมือก่อนเดินตรงมาตบบั้นท้ายกลมมนของเยียนสั่วเฟิงเยว่แล้วลูบไปมาพร้อมกับกอดหญิงสาวไว้“นี่สวีเยว่เธอจะไปกังวลเื่พวกนั้นให้รกสมองทำไม อย่าลืมสิว่าเธอเป็ผู้หญิงของฉันนะยังไงเธอก็ต้องอยู่ข้างฉันตลอดไป หรือว่า... เธอสนใจเ้าหมอนั่นขึ้นมา? ”
เยียนสั่วเฟิงเยว่อ้าปากค้างครั้นพอได้สติก็ใช้กำปั้นทุบอกของหลิวอิง “นายพูดอะไรของนาย ฉันเนี่ยนะจะสนใจหลี่เซียวเหยา?เชอะ ถึงเขาจะดูดี แต่ผู้ชายอ่อนแอแบบนั้นไม่ใช่สเปกฉันนายก็น่าจะรู้นี่ว่าฉันชอบใคร”
หลิวอิงหัวเราะก่อนจะก้มลงจูบเยียนสั่วเฟิงเยว่พร้อมกับเลื่อนมือไปจับเนินเขาทั้งสองข้างของหญิงสาวแล้วบีบอย่างสนุกมือ“งั้นเดี๋ยวจัดการกับแผนที่นี้เสร็จแล้วฉันจะจัดชุดใหญ่ให้เธอเลยนะ ฮ่าๆๆๆ ”
เยียนสั่วเฟิงเยว่ได้ยินเช่นนั้นก็หน้าแดงพร้อมกับบิดตัวไปมาในอ้อมกอดของอีกฝ่าย
ไอ้หมูน้อยรีบวิ่งเร็วๆสิวะถือปืนมาพร้อมพูดขึ้น “เอ่อ พี่ใหญ่ เรารีบฆ่ามอนสเตอร์กันเถอะ จะได้รีบไปชั้น 4 กัน ผมรู้สึกว่าิญญาของเ้าเซียวเหยาจื้อจ้ายคงจะวิ่งกลับมาแล้วบางทีอาจจะอยู่แถวนี้แล้วก็ได้ที่พี่แสดงความรักกันขนาดนี้อยากจะทำให้เ้านั่นโกรธเหรอ? ”
หลิวอิงเลิกคิ้วก่อนจะยิ้ม “ไอ้หลี่เซียวเหยาแกเห็นหรือยังว่าคนสวยคนนี้เป็ของฉัน หึ คิดอยากจะเป็ฮีโร่ช่วยคนอื่นงั้นเรอะ!ดูสารรูปตัวเองซะก่อนเถอะ ไอ้งั่ง”
ผมยืนกำหมัดแน่นอยู่กับที่ ไอ้เวรเอ๊ย!จะแก้แค้นทั้งที ต่อให้ต้องรอ 10ปีก็ยังไม่สายหรอกเว้ย!
……
ผ่านไป 30 นาทีกลุ่มคนพวกนั้นก็จัดการกับกะโหลกเพลิงสำเร็จแถมยังได้รับอาวุธระดับเขียวอีกจำนวนหนึ่งดูเหมือนว่าที่นี่จะเป็สถานที่เก็บไอเท็มที่เจ๋งมากเลยนะเนี่ย
ก่อนจะเข้าสู่ชั้น 4 ซีฉู่ป้าหวางก็หันมามองศพของผม“เหลือคนไว้ที่นี่ 3 คนเฝ้าศพมันไว้ให้ดีส่วนคนอื่นๆ ตามฉันไปที่ชั้น 4 บอสน่าจะยังอยู่ที่นี่อย่าปล่อยให้ไอ้บ้านี่มาแย่งบอสไปเด็ดขาด”
“ครับ พี่ใหญ่”
อัศวิน 1 คน และนักแม่นปืนอีก 2 ทำหน้าที่ดูแลศพของผม
ผมจึงเลือกจะไม่ฟื้นคืนชีพในตอนนี้แล้วใช้ร่างิญญาเดินตามพวกนั้นลงไป ชั้น 4 ตามแผนที่เป็ที่อยู่ของพวกซอมบี้โลหิตดำเป็มอนสเตอร์เลเวล 33 ซึ่งมีการโจมตีที่รุนแรงมากแต่เนื่องจากกลุ่มของเ้าหมอนี่มากัน 40 กว่าคนและทั้งหมดยังเป็ผู้เล่นเลเวล 20 ขึ้นไปคงจะฆ่าซอมบี้โลหิตดำได้ไม่ยาก
……
ผมยืนอยู่ตรงทางเดินชั้น 4 เพื่อดูสถานการณ์โดยรอบห่างออกไปมีพวกซอมบี้โลหิตดำกำลังเดินไปมา ที่มุมหนึ่งมีเงาสีเทายืนอยู่ในมือของมันถือคทาเวทมนตร์ ผมฟูฟ่อง ใบหน้าเป็สีดำหน้าตาของมันจะว่าเหมือนคนก็ไม่ใช่ จะว่าเหมือนผีก็ไม่เชิงดูน่าสะพรึงกลัวเหลือเกิน แถมบนหัวของมันยังมีตัวอักษรที่สร้างความตกตะลึงต่อผู้พบเห็นอีกด้วย
[จอมเวทปี่เค้อ] (บอสระดับทอง)
เลเวล :35
พลังโจมตี:???
พลังป้องกัน:???
HP:???
สกิล :???
แนะนำมอนสเตอร์ :จอมเวทปี่เค้อผู้ชั่วร้ายเคยเป็นักเวทของเมืองปาหวางซึ่งมีเชื้อสายของราชวงศ์ตอนอายุยังน้อยเขาเดินทางไปทั่ว 7ราชอาณาจักร ทั้งยังได้รับการยกย่องมากมายทว่าภายใต้สถานการณ์หนึ่งทำให้เขาได้รับมนตร์ดำนับั้แ่นั้นมาทำให้เขาตกอยู่ในความมืดมน และสุดท้ายเขาก็ได้ผลิตน้ำยาแห่งความตายขึ้นมาจนกลายเป็หนึ่งในอาชญากรคนสำคัญของอาณาจักรเทียนหลิง
……
บอสระดับทองเลเวล 35 สามารถดรอปอุปกรณ์ระดับทองออกมาได้ซึ่งบอสตัวนี้ถือว่ามีพลังมากแต่ในเวลานี้ยังไม่มีอุปกรณ์ระดับทองดรอปลงมาแม้แต่ชิ้นเดียว แม้แต่อุปกรณ์ระดับเงินก็ยังไม่มีเลยด้วยมากสุดในตอนนี้ก็คงเป็อุปกรณ์ระดับทองแดง ดังนั้น่นี้กิลด์ใหญ่ๆจึงพากันออกตามหาและต่อสู้กันเพื่อแย่งอุปกรณ์ระดับเงินและระดับทองมาและดูเหมือนว่าบอสระดับทองเลเวล 35 ตัวนี้อาจมีของมีค่าดรอปลงมาก็ได้
ซึ่งถ้ามันดรอปอุปกรณ์ระดับเงินได้จริงๆข่าวดังสนั่นไปทั่วเซิร์ฟเวอร์แน่ๆ
แต่น่าเสียดายที่ผมมาคนเดียวนี่ผมต้องยืนดูเ้าพวกบ้านี่ฆ่าจอมเวทปี่เค้อจริงๆ เหรอ? แบบนั้นผมรับไม่ได้หรอกนะ!อีกอย่างข้างๆ เ้าปี่เค้อนั่นก็มีน้ำยาสีเขียววางอยู่ซึ่งมันเป็ของที่ผม้าเพื่อส่งภารกิจ ถ้าผมได้มา ภารกิจก็จะถือว่าเสร็จสิ้น
ห่างออกไป เ้าหลิวอิงเห็นบอสแล้วเช่นกันและมันอดไม่ได้ที่จะหัวเราะอย่างมีความสุขเ้าหมอนั่นถือดาบในมือฟาดซอมบี้โลหิตดำตัวหนึ่งพร้อมพูดขึ้น “สุดยอดไปเลยโว้ย!มีบอสอยู่ที่นี่จริงๆ ด้วย แถมยังเป็บอสระดับทองอีก หึๆเ้าหลี่เซียวเหยานั่นพาเรามาถึงนี่ แถมยังมอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้อีกด้วย ฮ่าๆๆๆๆๆ ”
ในเวลาเดียวกันไอ้หมูน้อยรีบวิ่งเร็วๆสิวะก็ขมวดคิ้ว “พี่ใหญ่ อย่าเพิ่งดีใจไป...”
หลังจากพูดจบอัศวินคนหนึ่งก็เปล่งเสียงร้องก่อนจะล้มลงไปนอนอยู่ใต้กรงเล็บซอมบี้โลหิตดำ
ผมหรี่ตามองภาพตรงหน้า ตอนนี้ผมเป็ิญญาถึงแม้ว่าผู้เล่นในเกมที่ยังมีชีวิตจะมองไม่เห็นผมแต่ิญญาของผู้เล่นด้วยกันจะสามารถมองเห็นได้เ้าพวกนั้นเลยส่งอัศวินให้กลายเป็ิญญาเพื่อตามมาดูว่าผมอยู่แถวนี้หรือเปล่าสินะ? หึ ร้ายกาจจริงๆ
……
คิดเช่นนั้นแล้วผมก็ออกจากระบบทันที หึถึงพวกแกจะวางแผนมาเป็อย่างดี แต่ฉันเองก็มีเหมือนกันโว้ย!
ผมถอดหมวกเกมออกก่อนเดินไปชงกาแฟแล้วมานั่งข้างเตียงพร้อมกับมองดวงดาวที่อยู่ด้านนอกห้อง
ในเวลานั้นเองเ้าแว่นก็ถอดหมวกเกมออกเช่นกันเ้านั่นมองมาที่ผมก่อนจะถามว่า “นี่เ้าหลี่ ทุกคนวุ่นวายอยู่กับการอัปเลเวลแล้วทำไมนายถึงมานั่งจิบกาแฟสบายใจขนาดนี้เนี่ย? ”
ผมยิ้ม “เปล่านี่ ก็แค่ออกมาพักเฉยๆเดี๋ยวก็กลับเข้าไปแล้ว และวันนี้ฉันจะโต้รุ่ง ค่อยไปแอบงีบในห้องเรียน”
เ้าแว่นยิ้ม “ฮ่าๆ ฉันก็เหมือนกัน”
ผม “…”
หลังจากรอได้ประมาณ 30 นาทีผมก็เข้าสู่ระบบอีกครั้ง
สวบ!
ิญญาของผมปรากฏตรงชั้น 4 อีกครั้งส่วนอัศวินที่ถูกฆ่าตายคนนั้นก็ฟื้นคืนชีพแล้ว เป็อย่างที่คิดไว้จริงๆว่าเ้านั่นคงไม่อดทนรอผมเกิน 30 นาทีหรอกอีกอย่างจำนวนคนที่มีก็สำคัญในการฆ่าบอสระดับทองเลเวล 35 ด้วยเ้าพวกนั้นรู้ดีว่ายังไงก็ต้องสู้อย่างสุดความสามารถไม่งั้นพวกมันอาจถูกบอสเก็บเรียบก็เป็ได้
หลังจากรออยู่เกือบ 4 ชั่วโมงจนท้องฟ้าสว่างในที่สุดหลิวอิงและคนอื่นๆ ก็สามารถจัดการฆ่าซอมบี้โลหิตดำได้จนหมดถึงตอนนี้เ้าพวกนั้นเตรียมพร้อมจะจัดการกับบอสแล้ว
“ทุกคนระวังตัวให้ดี เดี๋ยวให้พระนำออกไปก่อนล่อบอสออกมา ส่วนฮีลเลอร์ก็จัดการฮีลเืให้พระ อย่าให้พลาดเด็ดขาดส่วนพวกโจมตีระยะประชิดก็เข้าโจมตี พวกที่โจมตีระยะไกลก็เล็งเป้าหมายให้ดีอย่าให้โดนพวกเดียวกัน”
หลิวอิงถือดาบในมือชี้ไปข้างหน้าเพื่อเป็สัญญาณเริ่มโจมตี
ตอนนั้นเองผู้เล่นอาชีพพระเลเวล 27 ก็ถือกระบองเหล็กพุ่งใส่บอสอย่างรวดเร็วหัวของเขาแวววาวราวกับดวงอาทิตย์ ทว่าตัวถูกปกคลุมไว้ด้วยเกราะป้องกันยังไม่ทันจะถึงตัวบอส เ้าหมอนั่นก็หยุดนิ่งก่อนจะพึมพำบางอย่างพร้อมกับกางแขนออกเผยให้เห็นแสงสีทองที่ปกคลุมไปทั้งศีรษะบอส และมันก็คือสกิล[วางอาวุธในมือ เลเวล 3] ซึ่งเป็สกิลคลาส 2 ของอาชีพพระ สกิลนี้จะทำให้พลังโจมตีของศัตรูลดลง 3% และดึงดูดความเกลียดชังได้ด้วย
……
“หึๆๆๆ ...”
เสียงหัวเราะดังจากมอนสเตอร์ตรงหน้าพร้อมกับร่างของมันที่ลุกขึ้นยืนพร้อมไม้เท้าในมือและรอบตัวมันก็เต็มไปด้วยพลังิญญา “เ้ามดพวกนี้สมควรตายเสียจริงพวกแกคือสุนัขรับใช้ที่มาจากเมืองปาหวางสินะ? หึๆๆ เข้ามาสิให้ข้าได้ช่วยพวกเ้าลงไปอยู่นรกเร็วขึ้น! ข้าจะฆ่าพวกแกให้หมด คอยดู! ”
พูดจบมันก็ยกคทาขึ้นมาก่อนจะเกิดสายฟ้าฟาดไปที่ตัวของพระอย่างรวดเร็ว
“-591! ”
หลิวอิงอ้าปากค้างก่อนจะรีบพูดขึ้น “เร็วเข้าฮีลเืตอนนี้เลย พวกเราต้องลงมือแล้ว! ”