แม่เหอเจียเพียงคนเดียว ทำเอาคนทั้งตระกูลหวังวิ่งวุ่นตลอดทั้งวัน
หวังก่วงผิงรู้สึกว่ามีคนกำลังเล็งเป้ามาที่ตัวเขา เขาสืบรู้มาว่าครอบครัวของเหอเจียเองก็ทำงานอยู่ที่กระทรวงศึกษาธิการเช่นกัน เพียงแต่อยู่กันคนละหน่วยงานกับเขาเท่านั้น พ่อเหอเจียยื่นขอลางานหลายวัน หวังก่วงผิงจึงไม่เจอตัวเขาเสียที
พ่อเหอเจียชื่อเหอเย่าจวิน หวังก่วงผิงหาตัวเขาไม่เจอเช่นนี้ สรุปแล้วเขาไปอยู่ที่ไหน?
อยู่ที่บ้านตระกูลกู้น่ะสิ
กู้เจิ้งชิงขึ้นชื่อเื่ทำงานดีและมีประสิทธิภาพ เขาไม่เพียงแต่เป็เพื่อนร่วมงานเก่าแก่หลายปีของเหอเย่าจวิน อีกทั้งยังเป็ลูกเขยของตระกูลโจวอีกด้วย เื่เหอเจียตั้งครรภ์ แม้แต่กู้ซือเหยียนยังรู้ เหอเย่าจวินย่อมคิดว่าตระกูลกู้คงรู้กันทั่วหมดแล้ว เขาไม่สนใจเื่เกียรติหรือศักดิ์ศรีอีกต่อไป เขามาถามกู้เจิ้งชิงถึงที่บ้านว่าเขาควรจะทำอย่างไร!
ทว่ากู้เจิ้งชิงไม่รู้เื่แม้แต่น้อย
กู้ซือเหยียนเก็บทุกอย่างเป็ความลับไว้อย่างดี แม้แต่พ่อแม่ก็ไม่ยอมบอก
พอเหอเย่าจวินมาถึงแล้วพูดเื่นี้ให้กู้เจิ้งชิงฟัง กู้เจิ้งชิงจึงรู้สึกใมาก
ท้อง?
เหอเจียเพิ่งอายุเท่าไรกัน เด็กสาวมัธยมต้นปีที่สาม หากเป็กู้ซือเหยียนที่ตั้งท้อง กู้เจิ้งชิงอาจจะคลุ้มคลั่งยิ่งกว่าเหอเย่าจวินเสียด้วยซ้ำ
“เย่าจวิน เื่นี้คุณคิดจะทำอย่างไร”
ที่เขี่ยบุหรี่เต็มไปด้วยก้นบุหรี่ ั้แ่ทราบเื่เหอเย่าจวินอดหลับอดนอนจนตาแดงก่ำ “เด็กเพิ่งอายุเท่านี้ เื่ก็เกิดขึ้นแล้ว ตีให้ตายก็คงไม่เกิดประโยชน์หรอกจริงไหม อีกอย่างแม่เจียเจียเองเธอก็ยังทำใจไม่ได้ พูดอย่างไรก็จะไปเอาเื่คนของชั้นเรียนกวดวิชา เธอบอกว่าอาจารย์ที่นั่นไม่มีความรับผิดชอบ ฉันรู้ว่าเื่นี้เธอทำไปนั้นมันไร้เหตุผล แต่ตอนนี้เราสองคนคงไม่สนใจความสมเหตุสมผลอีกต่อไปแล้ว”
แฟนหนุ่มที่เป็รักแรกของเหอเจีย เหอเย่าจวินเองก็ไปหาถึงที่บ้าน เด็กหนุ่มคนนั้นใแทบตาย
พ่อแม่ของเด็กหนุ่มคนนั้นคุกเข่าให้เหอเย่าจวิน ขอเพียงเขาไม่ส่งตัวลูกชายของตนเข้าคุกจะให้ครอบครัวตนทำอะไรก็ได้ และไม่ได้ปฏิเสธความรับผิดชอบแม้แต่น้อย ขอแค่เหอเย่าจวิน้า พ่อแม่ฝ่ายชายยินดีให้เด็กทั้งสองหมั้นหมายกัน ทว่าการหมั้นหมายนั้นคงเป็ไปไม่ได้ แม่เหอเจียไม่มีทางเห็นด้วยอย่างแน่นอน
เหอเจียอดอาหารอยู่ที่บ้าน เื่นี้เกิดขึ้นเพราะความเดียงสาของหนุ่มสาววัยรุ่น ผลีผลามชิงสุกก่อนห่าม การตั้งครรภ์ทำให้เหอเจียเสียศูนย์อย่างหนัก แต่เธอก็ไม่อยากให้พ่อกับแม่ไปเอาเื่ฝ่ายชาย ทว่าพวกเขามีลูกสาวแค่คนเดียว จะบีบคั้นกันให้ตายคงไม่ใช่เื่ แม่เหอเจียนั้นมีโทสะอัดแน่นอยู่เต็มทรวง จึงพุ่งเป้าเอาเื่กับชั้นเรียนกวดวิชา
เหอเย่าจวินรู้ดีว่าเื่นี้มันไม่ถูกต้องนัก แต่ชั้นเรียนกวดวิชาก็ใช่ว่าจะไม่มีความผิด
เปิดชั้นเรียนกวดวิชาเพื่อกอบโกยเงินทอง แต่กลับไม่ดูแลเอาใจใส่ชั้นเรียนเลยสักนิด เื่คุณภาพของการเรียนการสอนยังไม่ต้องพูดถึง แต่ ‘อาจารย์’ ที่ชั้นเรียนกวดวิชาพวกนั้นกลับปล่อยให้นักเรียนในชั้นเรียนออกนอกลู่นอกทาง ตอนนี้เกิดเื่กับเหอเจียแล้ว ไม่รู้ว่ายังมีคู่รักวัยเยาว์อีกกี่คู่ที่ยังไม่เกิดเื่
ผู้ปกครองจ่ายเงินส่งลูกไปกวดวิชา สุดท้ายเด็กกลับไปที่นั่นเพื่อมีความรัก!
หาก ‘เหล่าอาจารย์’ ใส่ใจมากกว่านี้ มีหรือจะไม่เห็นเด็กนักเรียนส่งสายตาเกี้ยวพากัน?
ถ้าบอกให้ผู้ปกครองรับรู้ ก็คงไม่เกิดเื่อื้อฉาวอย่างการที่เหอเจียตั้งครรภ์เช่นนี้ขึ้น
เหอเย่าจวินรู้ว่าภรรยาของเขาเป็คนไร้เหตุผล แต่ใจเขาก็คิดเช่นกันว่าชั้นเรียนกวดวิชาต้องรับผิดชอบต่อเื่นี้ กู้เจิ้งชิงอยากให้ความเห็นที่เป็กลาง แต่พอได้ยินว่าชั้นเรียนกวดวิชาเป็ของครอบครัวหวังก่วงผิง เพื่อนบ้านที่เพิ่งกลับมารับตำแหน่งข้าราชการได้เพียงไม่นาน ความคิดของกู้เจิ้งชิงก็เริ่มซับซ้อนขึ้นมาบัดดล
นี่คือการใช้อำนาจหน้าที่แสวงหาผลประโยชน์ส่วนตัวอย่างแน่นอน
หากรองหัวหน้าหวังข้องเกี่ยวกับชั้นเรียนกวดวิชาที่ตั้งขึ้นเพื่อทำกำไรเช่นนี้ ถือเป็เื่ไม่เหมาะไม่ควรอย่างสิ้นเชิง
“เพื่อข้อสอบที่ใช้สอบเข้ามหาวิทยาลัย?”
หวังก่วงผิงทำงานอยู่ที่ฝ่ายอุดมศึกษา หากอยากรู้ข้อสอบที่ใช้ในการสอบเข้ามหาวิทยาลัยย่อมไม่ใช่เื่ยาก
หากแพร่งพรายข้อสอบออกไปเพื่อผลประโยชน์ของชั้นเรียนกวดวิชา แล้วการสอบเข้ามหาวิทยาลัยจะยุติธรรมได้อย่างไร!
เ้าหน้าที่ของกระทรวงศึกษาธิการไม่ควรข้องเกี่ยวกับธุรกิจประเภทนี้ กู้เจิ้งชิงเดาความคิดของรองหัวหน้าหวังไม่ออก หรือรองหัวหน้าหวังคิดว่าตนทำสิ่งที่ถูกต้องไม่จำเป็ต้องกลัวคำวิพากษ์วิจารณ์? แต่กู้เจิ้งชิงรู้ ชั้นเรียนกวดวิชาแห่งนี้ต้องมีปัญหาอย่างแน่นอน
“ความ้าของคุณกับแม่เจียเจีย คือจะเอาเื่จนชั้นเรียนกวดวิชาต้องปิดตัวลงอย่างนั้นหรือ”
เหอเย่าจวินพยักหน้า “ฉันคุยกับแม่เจียเจียแล้ว หลังสอบจบมัธยมต้นก็จะให้เจียเจียย้ายโรงเรียน แม่เจียเจียเองก็ลาหยุดยาวไว้แล้ว”
จบมัธยมต้นสามารถเรียนต่อมัธยมปลายได้ทันที ตระกูลเหอตัดสินใจมอบสภาพแวดล้อมใหม่ให้กับเหอเจีย
กู้เจิ้งชิงไม่กล้าถามว่าแล้วจะจัดการอย่างไรกับเด็กในท้องของเหอเจีย เหอเจียอายุยังน้อยขนาดนั้น คงไม่ปล่อยให้เด็กเกิดมาใช่ไหม?
—---------------------------------------
เซี่ยจื่ออวี้เย็บแผลที่หน้าไปเก้าเข็ม
หมอพยายามเย็บแผลอย่างเป็ระเบียบ แต่จะทิ้งแผลเป็เอาไว้หรือไม่หมอคงไม่สามารถตอบได้ ขึ้นอยู่กับผิวของเซี่ยจื่ออวี้ว่าจะทิ้งรอยแผลเป็เอาไว้หรือเปล่า ผิวของแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน ระยะเวลาในการสมานแผลก็แตกต่างกันออกไป แผลบาดลึกเช่นนั้น ไม่อยากให้ทิ้งรอยอะไรไว้เลยคงเป็เื่ยาก เซี่ยจื่ออวี้เองก็รู้ดี
แต่ตอนนี้เธอไม่มีเวลาสนใจเื่รอยแผลเป็
หวังก่วงผิงบอกว่าพ่อของเหอเจียทำงานอยู่ที่กระทรวงศึกษาธิการเช่นกัน เื่เหอเจียท้องคงต้องให้คำตอบกับตระกูลเหอให้ได้
ตระกูลเหอช่างไร้เหตุผล ตอนนี้พวกเขาเรียกร้องให้ชั้นเรียนกวดวิชาปิดทำการชั่วคราว และบอกให้หวังเจี้ยนหัวไปเข้าคุก โทษฐานข่มขืนกระทำชำเรา!
เซี่ยจื่ออวี้รู้สึกน่าขัน “คุณลุง เจี้ยนหัวบอกว่าเขาไม่ได้ทำ และฉันก็เชื่อเขา คนตระกูลเหออยากป้ายความผิดเื่ลูกสาวตัวเองท้องให้เจี้ยนหัว ถ้าอย่างนั้นเด็กในท้องก็ต้องเป็ลูกของเจี้ยนหัวสินะคะ ฉันรู้ว่าการตรวจดีเอ็นเอสามารถพิสูจน์ได้ว่าพ่อของเด็กในท้องคือใครกันแน่ พวกเราห้ามประนีประนอมเด็ดขาด หากพวกเราประนีประนอมเมื่อไร ต่อให้สามารถเจรจาต่อรองกันได้ มลทินนี้ก็จะอยู่ติดตัวเจี้ยนหัวไปจนวันตายแน่นอน”
ตรวจดีเอ็นเอ?
หวังก่วงผิงเริ่มสนใจ และบอกให้เซี่ยจื่ออวี้เล่ารายละเอียด
เซี่ยจื่ออวี้รู้ผิวเผินเท่านั้น เธอรู้แค่ว่ามีเทคโนโลยีนี้
จะประนีประนอมกันหรือไม่ ที่จริงหวังก่วงผิงเองก็ลังเลเช่นกัน
ผลักดันหวังเจี้ยนหัวให้เจริญก้าวหน้า เดิมทีก็ทำไปเพื่อประโยชน์ส่วนตน จุดประสงค์คือการสร้างชื่อเสียงให้หวังเจี้ยนหัว ให้เขาได้รับรางวัลบุคคลตัวอย่าง หลังจากนั้นก็จะย้ายมหาวิทยาลัย หวังก่วงผิงไม่เคยอยากกอบโกยเงินทองจากชั้นเรียนกวดวิชาเลยแม้แต่น้อย และไม่มีทางยอมทำข้อสอบรั่วไหลเพื่อประโยชน์ของชั้นเรียนกวดวิชาแน่นอน เขาคิดด้วยซ้ำว่า เมื่อใดที่จัดการเื่ของหวังเจี้ยนหัวสำเร็จแล้ว ก็จะรีบดึงหวังเจี้ยนหัวให้ออกห่างจากชั้นเรียนกวดวิชาทันที ซึ่งเื่นี้สามารถจัดการได้ง่ายมาก แค่สั่งให้หวังเจี้ยนหัวเลิกรากับเซี่ยจื่ออวี้ก็เป็อันเสร็จสิ้น
และตอนนี้หวังก่วงผิงก็มีความคิดนี้เช่นกัน
ถ้าไม่ใช่เพราะหวังเจี้ยนหัวได้ลงหนังสือพิมพ์จนทำให้ภาพลักษณ์ของหวังเจี้ยนหัวดูใกล้ชิดกับชั้นเรียนกวดวิชามาก และตระกูลเหอไม่ใช่ครอบครัวคนธรรมดาสามัญ เป็เหตุให้พวกเขารู้จุดนี้ดีจึงกัดไม่ปล่อย หากไม่ใช่เพราะเหตุผลเหล่านี้หวังก่วงผิงก็คงตัดสินใจเลือกวิธีที่ง่ายที่สุดไปนานแล้ว
วิธีที่ว่าก็คือ เขาจะส่งเซี่ยจื่ออวี้ให้ตระกูลเหอเพื่อเยียวยาความโกรธของทางนั้น
ชั้นเรียนกวดวิชาเป็ความคิดของเซี่ยจื่ออวี้ และก็เป็เซี่ยจื่ออวี้ที่ชวนหวังเจี้ยนหัวมาร่วมทำงานด้วยกัน ตอนนั้นหวังก่วงผิงคิดว่าเธอชาญฉลาดเหลือเกิน ทว่าความจริงแล้วเธอเก่งแต่ปากเท่านั้น มีความคิดริเริ่มแล้วอย่างไร บนโลกนี้มีคนที่มีความคิดอยู่ไม่น้อย ที่สำคัญคือการทำความคิดนั้นให้กลายเป็ความจริงต่างหาก!
ซึ่งเซี่ยจื่ออวี้ไม่มีความสามารถนั้น
ชั้นเรียนกวดวิชามีเื่ไม่เว้นแต่ละวัน ‘เหล่าอาจารย์’ ย่อมเดือดเนื้อร้อนใจ เซี่ยจื่ออวี้ก็ไม่สามารถซื้อใจลูกน้องได้ ถ้าไม่มีความสามารถในการบริหารก็ควรลดความเร็วในการขยายกิจการสิ ทว่าเธอเป็พวกทะเยอทะยานแต่ไร้ความสามารถ สุดท้ายก็ทำให้หวังเจี้ยนหัวกับตระกูลหวังของเขาต้องซวยไปด้วย!
ตอนนี้เซี่ยจื่ออวี้เสนอความคิดให้ ‘ตรวจดีเอ็นเอ’ เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของหวังเจี้ยนหัว หวังก่วงผิงคิดว่ามันคือทางออกหนึ่ง เขาไม่ควรตามใจตระกูลเหอทุกอย่าง หลังจากล้างมลทินให้หวังเจี้ยนหัวเสร็จแล้ว ค่อยคุยกันว่าชั้นเรียนกวดวิชาจะรับผิดชอบเื่เหอเจียท้องอย่างไร
ไม่รับผิดชอบเลยก็คงเป็ไปไม่ได้ หวังก่วงผิงยังรู้สึกโหวงเหวงอยู่ในใจ ตระกูลเหอจะต้องมีคนคอยหนุนหลังอย่างแน่นอน ใครกันนะที่้าเล่นงานเขา?
แต่กับเซี่ยจื่ออวี้ หวังก่วงผิงไม่คิดจะเชื่อใจเธอเหมือนตอนแรกอีกแล้ว
เทคโนโลยีการตรวจดีเอ็นเออะไรนั่น เขาไม่เคยได้ยินด้วยซ้ำ ดังนั้นเขาจะต้องไปถามเพื่อนที่ทำงานด้านระบบสันติบาลให้รู้เื่!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้