ไอสังหารจู่โจมลงมา
ทันทีที่จวินจิ่วเฉินตื่นตัว เขาก็หลบออกทันที แต่หลังจากที่หลบออกแล้วก็หยุดชะงัก จำเป็ต้องทราบเอาไว้ว่าภายใต้สภาพแวดล้อมที่มืดมิดเช่นนี้ วิธีที่ปลอดภัยที่สุดก็คือการหยุดนิ่งไม่เคลื่อนไหว
ไม่ช้าบริเวณโดยรอบก็กลับเข้าสู่ความเงียบสงบเช่นก่อนหน้านี้ สิ่งที่หลงเหลืออยู่มีเพียงแค่เสียงของสายลมที่มักจะพัดพาเข้ามาในป่า
แม้ว่าจวินจิ่วเฉินจะไม่ทราบตำแหน่งที่แน่ชัดของไป๋หลี่ิชวน แต่ก็ทราบว่าไป๋หลี่ิชวนอยู่ในละแวกนี้
แล้วกูเฟยเยี่ยนเล่า?
หรือว่าไป๋หลี่ิชวนจับกุมกูเฟยเยี่ยนพร้อมกับจู่โจมเขา?
การเคลื่อนไหว้าศีรษะเมื่อสักครู่นี้ปรากฏขึ้นมาอย่างกะทันหันมาก อีกทั้งยังสลายหายไปอย่างง่ายดาย มันไม่เหมือนกับคนที่จี้ชิงตัวผู้อื่นมาแล้วจะสามารถทำได้
ตกลงแล้วหญิงสาวผู้นั้นอยู่ที่ใดกัน? เกิดอะไรขึ้นกับนาง?
ความกังวลปรากฏขึ้นมาในใจของเขาอีกครั้ง
ในขณะเดียวกันก็มีเสียงการเคลื่อนไหวดังขึ้นมาจากบนต้นไม้ที่อยู่เหนือศีรษะ ในคราวนี้จวินจิ่วเฉินไม่ได้หลบ แต่ชี้ดาบพุ่งขึ้นไป ภายใต้ความมืดมน จู่ๆ ไป๋หลี่ิชวนก็หัวเราะออกมาเสียงดัง “เ้าเป็ใครกัน? มาชิงตัวแพทย์หญิงตัวน้อยคนนี้เหมือนกันหรือ? ฮ่าๆ ไม่ต้องแย่ง ข้ามอบให้เ้า! ”
ทันทีที่ไป๋หลี่ิชวนเอ่ยคำพูดเช่นนี้ออกมาก็มีเสียงเสียดสีราวกับมีคนตกลงมาจากบนต้นไม้!
เบื้องหน้าล้วนเต็มไปด้วยความมืดมิดที่มองไม่เห็นสิ่งใดทั้งนั้น มีเพียงเสียงที่ดังชัดเจน
เมื่อจวินจิ่วเฉินได้ยินเสียงนี้เขาก็มีความมั่นใจถึงแปดส่วนว่าคนที่ตกลงมาไม่ใช่กูเฟยเยี่ยน กูเฟยเยี่ยนทั้งเบาทั้งผอม ไม่น่าจะเป็ไปได้ที่จะเป็เสียงเช่นนี้
ทว่าตัวเขาเองที่มีความตรงไปตรงมาและเด็ดขาดมาโดยตลอดกลับเกิดความลังเล ท้ายที่สุดเขาก็ตัดสินใจเก็บดาบลงพลางหลบหลีก
“ตุบ” ไม่ช้าคน คนนั้นก็ตกลงบนพื้นอย่างแรง
จากนั้นป่ามืดมิดก็ตกอยู่ภายใต้ความเงียบสงัดอีกครั้ง ราวกับไม่มีแม้แต่เสียงสายที่ลมพัดผ่าน
ต้องยอมรับว่าในขณะนี้จวินจิ่วเฉินหงุดหงิดมากๆ
หลังจากที่ได้ยินเสียงที่ตกลงบนพื้นเขาก็ทราบได้ในทันทีว่าคนผู้นั้นไม่ใช่กูเฟยเยี่ยนอย่างแน่นอน การวิเคราะห์ของเขาเมื่อสักครู่มีความนี้ถูกต้อง ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อสักครู่นี้เขาพลาดโอกาสอันดีไป หากเขาไม่ได้หลบแล้วฉวยโอกาสนี้พุ่งขึ้นไป เขาคงจะจับกุมไป๋หลี่ิชวนได้ั้แ่แรกแล้ว
เมื่อคิดในเื่นี้ ดูเหมือนว่าจวินจิ่วเฉินจะนึกอะไรออก เขากุมดาบแน่นด้วยความเด็ดขาดเพื่อเตรียมพร้อมที่จะลงมือ
เขาเข้าใจแล้ว
คนที่ตกลงมาไม่ใช่กูเฟยเยี่ยนแต่เป็ไป๋หลี่ิชวน! นี่เป็หลุมพรางที่อยู่ภายในหลุมพรางอีกที ความลวงและความจริงยากที่จะแยกแยะได้ นี่คือวิธีการที่ใช้ได้ดีที่สุด และไป๋หลี่ิชวนชำนาญมากที่สุด!
หากเมื่อสักครู่นี้เขาไม่ได้หลบก็อาจจะไม่สามารถทำอันตรายอะไรไป๋หลี่ิชวนได้ ตรงกันข้ามอาจถูกไป๋หลี่ิชวนทำอันตรายได้ และในตอนนี้หากเขายังไม่ลงมืออีก เกรงว่าไป๋หลี่ิชวนจะลงมือแล้ว
จวินจิ่วเฉินคาดการณ์ได้ถูกต้อง!
ในขณะนี้คนที่หลบอยู่บนพื้นดินก็คือไป๋หลี่ิชวน เขารับรู้ตำแหน่งของจวินจิ่วเฉินได้อย่างแน่ชัดแล้ว อีกทั้งยังวิเคราะห์ทิศทางที่สามารถปลิดชีวิตได้ในหนึ่งกระบวนท่าอีกด้วย
เขาไม่ทราบว่าบุคคลที่มีความเร็วประดุจเงาเช่นนี้เป็สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มาจากไหน แต่เขามั่นใจว่าคนผู้นี้คือนักฆ่าที่ปล้นสะดมยาสมุนไพรไปในตอนนั้น อีกทั้งยังเป็ชายลึกลับที่จับกุมตัวอู๋กงกงไปโยนทิ้งไว้ให้เฉิงอี้เฟย!
แทนที่จะบอกว่าเื่ดีของเขาถูกทำลายโดยกูเฟยเยี่ยน มันจะดีกว่าถ้าบอกว่าแผนการของเขาถูกทำลายลงโดยนักฆ่าลึกลับคนนี้
แม้ว่าเขาจะรู้สึกสนใจและอยากทราบตัวตนที่แท้จริงของหมอนี่ แต่เขาไม่ถือสาที่จะสังหารก่อนแล้วค่อยมองหน้าคนผู้นี้ชัดๆ
สิ่งที่เขาเกลียดที่สุดในชีวิตก็คือแผนการที่เขาวางไว้อย่างรอบคอบถูกคนมาก่อกวน! แผนที่เขาคิดไว้อย่างสมบูรณ์แบบถูกคนทำลายไปหมดแล้ว เขากุมไปที่พัดพับบนมือแน่นพลางทำการเปิดออก ใบมีดลับที่ซุกซ่อนอยู่ภายในพัดพับราวกับลูกศรบนสายธนูก็พร้อมปะทุทันที
ในขณะเดียวกันจวินจิ่วเฉินก็วิเคราะห์ทิศทางที่สามารถปลิดชีวิตได้ในหนึ่งกระบวนท่าแล้วเช่นกัน เขากุมไปที่ดาบยาวแน่นและพร้อมที่จะลงมือ
ทันใดนั้น!
ใบมีดลับก็พุ่งออกมา ดาบยาวก็แทงเข้าไป ทั้งสองคนลงมือในเวลาเดียวกัน!
“แกร๊ก…”
เสียงปะทะดังขึ้นมาชัดเจน ใบมีดลับกระทบเข้ากับตัวดาบยาว จากนั้นใบมีดลับก็พุ่งทะยานไปตามดาบยาวต่อไป!
จวินจิ่วเฉินควรที่จะหลบออกไป แต่ในครั้งนี้เขาไม่ได้หลบ!
เขาชักดาบไปด้านหน้าอย่างไม่ลังเล เพียงดาบเดียวก็แทงเข้าที่ไป๋หลี่ิชวน แทบจะในขณะเดียวกันเขาก็เอียงศีรษะออก ใบมีดลับที่เดิมทีควรจะยิงเข้าไปกลางลำคอของเขาได้พาดผ่านคอเขาไป เมื่อแตะไปที่คอก็พบว่าเป็รอยเืยาวอยู่
ไป๋หลี่ิชวนหลบหลีกเช่นกัน ทว่าไม่ได้โชคดีเหมือนกับจวินจิ่วเฉิน
ดาบที่เดิมทีควรจะแทงลงไปที่คอของเขา ในตอนนี้ถูกแทงลงมาที่กระดูกไหปลาร้าแทน แม้ว่าจะไม่อันตรายถึงชีวิตแต่ก็าเ็สาหัส
ในขณะนี้จวินจิ่วเฉินยังคงกุมดาบเอาไว้
ทว่าจวินจิ่วเฉินไม่ได้สู้ต่อ เพราะใบมีดลับของไป๋หลี่ิชวนมีพิษ!
ความชำนาญในการต่อสู้ของจวินจิ่วเฉินมีมากกว่าเล็กน้อย ทว่าไป๋หลี่ิชวนเ้าเล่ห์ใช้พิษ การประลองฝีมือของทั้งคู่ในครั้งนี้เรียกได้ว่าฝีมือไล่เลี่ยกัน ไม่มีใครได้เปรียบไปกว่ากันอย่างแท้จริง
แต่หากต้องแบ่งตามคนที่ได้เปรียบกว่าจริงๆ คนนั้นก็คือจวินจิ่วเฉินแน่นอน!
ร่างกายของจวินจิ่วเฉินมีการต้านทานพิษอย่างยอดเยี่ยมมาั้แ่กำเนิด แขนของเขาค่อยๆ ไร้เรี่ยวแรงลงเรื่อยๆ ทว่าเขาก็ยังยืนหยัดเอาไว้อยู่ เขาไม่ลังเลที่จะเพิ่มแรงลงไปในทันที
ไป๋หลี่ิชวนร้องออกมาด้วยความเ็ปเพราะมันเกินความคาดหมายมาก มือทั้งสองข้างรีบกดลงไปบนดาบยาวเล่มนั้นทันที ทั้งสองคนตกอยู่ในสภาวะแข็งทื่ออีกครั้ง ซึ่งในขณะเดียวกันก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นมาจากด้านหลังของจวินจิ่วเฉิน
ในป่ามืดมิดนี้ยังมีคนอื่นอยู่อีก!
จวินจิ่วเฉินลอบใพลางตัดสินใจดึงดาบออกมาแทงไปด้านหลัง
แทบจะในเวลาเดียวกันไป๋หลี่ิชวนก็ได้ลุกขึ้นหลบหนีไปและคนที่อยู่ด้านหลังก็ไม่ได้เขยิบเข้ามาใกล้แต่รีบถอยห่างออกไป
์ทราบดีว่ามีคนดักซุ่มโจมตีอยู่ภายในป่ามืดมิดแห่งนี้กี่คน? จวินจิ่วเฉินไม่ได้สู้ต่อ แต่ตัดสินใจออกจากป่ามืดมิดนี้อย่างไม่ลังเล
ทันทีที่เห็นแสงแห่งดวงจันทร์ ดวงตาของจวินจิ่วเฉินก็ปรับตัวไม่ทันเล็กน้อย เสียงม้าดังขึ้นมาในระยะไกล เป็หมางจ้งกับเฉิงอี้เฟยที่ไล่ตามมาอย่างไม่ต้องสงสัย
จวินจิ่วเฉินใช้มือทั้งสองข้างถือดาบยาวเอาไว้ บัดนี้เขายืนไม่มั่นคงอย่างเห็นได้ชัด ์ทราบดีว่าพิษบนใบมีดลับของไป๋หลี่ิชวนรุนแรงเพียงใด? เพียงระยะเวลาไม่นานเขาก็แทบจะทนไม่ไหวแล้ว
เขามองไปที่ป่ามืดมนด้วยความรู้สึกกังวลที่วนเวียนอยู่ภายในจิตใจ ความรู้สึกนี้ก่อกวนความเด็ดขาดและความโเี้ของเขามาโดยตลอด
เขาไม่ทราบว่าไป๋หลี่ิชวนชิงตัวกูเฟยเยี่ยนไปทำไม
ในยามนี้ทำได้เพียงปลอบใจตนเองว่าไป๋หลี่ิชวนไม่ได้มีเจตนาจะสังหารกูเฟยเยี่ยน ไม่อย่างนั้นแล้วหมอนั่นคงไม่จำเป็ต้องสูญเสียพละกำลังในการลักพาตัวนางไป
เขาลังเลอยู่ชั่วขณะก่อนจะใช้รอยเืบนปลายดาบยาววาดรหัสลับเลือนรางคลับคล้ายรูปดาวลงบนพื้นดิน จากนั้นจึงหายตัวไปอย่างรวดเร็ว
อันที่จริงแล้วภายในป่ามืดมิดไม่มีการดักซุ่มโจมตีใดๆ
คนที่ช่วยไป๋หลี่ิชวนไปเมื่อสักครู่นี้ไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เป็หญิงรับใช้ของไป๋หลี่ิชวนที่ดักซุ่มอยู่นอกเมือง ไม่ช้านายและบ่าวก็พากูเฟยเยี่ยนออกมาจากป่ามืดมิดอีกด้านหนึ่งแล้วหลบหนีเข้าไปในป่าเขา
ในค่ำคืนนั้นเฉิงอี้เฟยได้ระดมพลทหารออกตรวจค้นูเา
ทางด้านของหมางจ้งนั้นเดิมทีจะเข้าไปในเขาพร้อมกับเฉิงอี้เฟย แต่เมื่อเห็นรหัสลับบนพื้น เขาก็หาข้ออ้างจากไป
วันรุ่งขึ้นเฉิงอี้เฟยไม่พบสิ่งใดภายในป่าเขา ทว่าชายหนุ่มไม่ยอมแพ้ เขาส่งทหารไปเพิ่มแล้วขยายขอบเขตในการค้นหา
ในขณะเดียวกันจวินจิ่วเฉินก็มีรับสั่งให้ศาลต้าหลี่ออกหมายจับและรางวัลนำจับไป๋หลี่ิชวน องค์ชายสามแห่งอาณาจักรว่านจิ้น!
ต้องบอกไว้ว่าทันทีที่หมายจับนี้ออกมาผู้คนทั้งเมืองก็เดือดพล่านทันที เื่แบบนี้หากแพร่กระจายออกไปนอกเมือง คาดว่าอาณาจักรเทียนเหยียนทั้งหมดและดินแดนเสวียนคงล้วนจะเกิดความเดือดพล่านเช่นกัน!
การที่ออกรางวัลนำจับองค์ชายของอาณาจักรเพื่อนบ้านเป็เื่ที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยจริงๆ และมีเพียงจวินจิ่วเฉินที่กล้าจะทำเื่แบบนี้ออกมาได้! จวินจิ่วเฉินดำเนินการอย่างเฉียบขาดแล้วค่อยรายงานในภายหลัง กล่าวให้ถูกต้องคือเขาไม่มีเวลาไปทูลรายงานต่อเทียนอู่ฮ่องเต้ ทันทีที่เขากลับเข้ามาในเมืองก็ไปตามหาแพทย์พิษมาถอนพิษ ทว่าแพทย์พิษไม่สามารถถอนพิษออกได้ ทำได้เพียงช่วยเขาระงับการออกฤทธิ์ของพิษไว้ชั่วคราว เขาไม่ได้สนใจมากนัก จากนั้นจึงรีบไปที่ศาลต้าหลี่เพื่อสอบสวนคนที่จับมาจากร้านขายสมุนไพรเสินหนงด้วยตนเอง
เขามั่นใจมากว่าไป๋หลี่ิชวนดักซุ่มอยู่ภายในเมืองจิ้นหยางมานาน ภายในตัวเมืองและนอกเมืองต้องมีที่ซ่อนตัวอยู่แน่…