เื่ของการจัดสรรบ้านใหม่ให้กับเดม่อน ไวท์ ได้สร้างเอกภาพที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในหมู่นักเรียนสลิธีริน
จากสมาชิกคณะกรรมการโรงเรียนทั้งสิบสองคน มีแปดคนที่ถูกก่อกวน พวกเขาได้รับจดหมายจากเพื่อนฝูงหลายฝ่าย ขอให้พิจารณาเื่การจัดสรรบ้านใหม่ของคุณไวท์อีกครั้ง
ในสายตาของผู้ใหญ่ พฤติกรรมของเด็ก ๆ เหล่านี้แน่นอนว่าเป็เพียง “เื่ตลก”
แต่กระนั้น แม้จะเป็เื่ตลก หากนำเสนอในโอกาสเหมาะสม มันก็สามารถกลายเป็เครื่องมือได้เช่นกัน
ผู้คนที่ไม่ได้ติดต่อกันมานาน ก็กลับมาพูดคุยกันอีกครั้งเพราะคำร้องของเหล่ารุ่นเยาว์ และสำหรับมาสเตอร์แปลงร่างที่กำลังเป็ที่จับตามองคนนี้ พวกเขาเองก็ใช่ว่าจะไม่มีความคิดใด ๆ
แต่เพราะมีูเาสูงอย่างดัมเบิลดอร์ขวางอยู่เบื้องหน้า พวกเขาจึงไม่สามารถก้าวข้ามได้ง่ายๆ คุณลุงผู้อ่อนโยนคนนี้ได้ประกาศต่อโลกเวทมนตร์อังกฤษทั้งประเทศแล้วว่า เขาจะไม่ยอมให้ใครมารบกวนชีวิตของเดม่อน ไวท์
ไม่ว่าจะในรั้วโรงเรียน หรือนอกโรงเรียน
และเขาจะ ไม่ให้อภัย กับการล่วงเกินใด ๆ ทั้งสิ้น!
ถ้อยคำเหล่านี้ เมื่อออกมาจากปากของดัมเบิลดอร์ ย่อมทรงน้ำหนักมหาศาล อันที่จริง ั้แ่เขาปฏิเสธตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงเวทมนตร์ เขาก็แทบไม่เคลื่อนไหวในที่แจ้งอีกเลย
ทุกคนจึงเข้าใจดีว่า คราวนี้ดัมเบิลดอร์เอาจริง
และสำหรับมาสเตอร์แปลงร่างหนุ่มที่สามารถประสบความสำเร็จอย่างสูงั้แ่ปีหนึ่ง คนเหล่านี้ก็เริ่มลังเล พวกเขาอาจไม่จำเป็ต้องรีบผูกมิตรกับเดม่อนในทันที แต่ที่แน่ ๆ พวกเขาไม่้ามีปัญหากับเขา
คำร้องจากเด็ก ๆ คราวนี้จึงอาจเป็โอกาสดีที่จะได้ลองทำความเข้าใจกับบุคลิกของมาสเตอร์หนุ่มผู้นี้ในอีกทางหนึ่ง
ในที่สุด เื่ที่ในสายตาผู้ใหญ่ดูเหมือนเื่ล้อเล่น ก็ได้ถูกผลักดันอย่างเงียบ ๆ จนไปถึงมือของดัมเบิลดอร์
รวมไปถึงจากฝ่ายกระทรวงเวทมนตร์ และสมาชิกระดับแกนของวิซเกมัต
การจัดสรรบ้านถือเป็สิ่งศักดิ์สิทธิ์ และการจัดสรรใหม่ก็ไม่เคยมีมาก่อน ดัมเบิลดอร์ย่อมไม่อยากรับไว้ แต่ในเวลาเดียวกัน เขาก็อยากรู้ว่าความคิดของเดม่อนคืออะไร
ถ้า ถ้าเดม่อนอยากไปอยู่บ้านสลิธีรินขึ้นมาล่ะก็…
ดัมเบิลดอร์เองก็ไม่แน่ใจว่าเขาจะรู้สึกยังไง
ในบ่ายวันหนึ่งอันแจ่มใส ด้วยจิตใจอันซับซ้อน เขาเรียกเดม่อนมาที่ห้องทำงานของตน
“โอ้! นี่ไม่ใช่น้องใหม่จากบ้านสลิธีรินในอนาคต ที่เป็มาสเตอร์แปลงร่างอายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของเราหรอกหรือ!”
เดม่อนเพิ่งเดินเข้ามาในห้องอาจารย์ใหญ่ เสียงทักทายแรกกลับมาจากภาพเหมือนของอดีตอาจารย์ใหญ่ ฟีเนียส แบล็ก ที่โพล่งขึ้นมาก่อนใคร
“โอ้ อย่ามาทำสนิทเลยครับ ผมเป็เด็กมักเกิ้ลโดยกำเนิดนะ”
เดม่อนโบกมือ ตัดบทอย่างไม่ใส่ใจ
ภาพของแบล็กโวยวายขึ้นอีก:
“เป็ไปไม่ได้ มักเกิ้ลไม่มีทางเลี้ยงดูเด็กอัจฉริยะอย่างเ้าได้แน่นอน เด็กน้อย เ้าต้องเป็เืบริสุทธิ์แท้แน่ ๆ!”
เดม่อนยิ้มแห้ง ๆ ไม่คิดจะเถียงต่อ
พวกเืบริสุทธิ์หัวโบราณพวกนี้ สมองมีปัญหากันหมด มองข้ามความพยายามของคนคนหนึ่ง แล้วโยนเครดิตทั้งหมดให้กับสายเื บ้าชัด ๆ
ดัมเบิลดอร์รับรู้ได้ถึงท่าทีของเดม่อน จึงยิ้มถามอย่างอ่อนโยนว่า:
“ยังดื่มชาแดงอยู่หรือเปล่า?”
“แน่นอนครับ ขอบคุณ”
“แล้วขนมล่ะ อยากได้อะไร?”
“เลมอนชีสครับ”
ทั้งคู่พูดคุยกันอย่างคุ้นเคย ไม่มีช่องว่างระหว่างวัยใด ๆ ให้ััได้เลย
“อาจารย์ใหญ่ เรียกผมมามีเื่อะไรหรือครับ?”
เดม่อนเป็ฝ่ายเริ่มต้นหลังจิบชาหนึ่งคำ
เขายุ่งมาก และไม่อยากเสียเวลานานนัก
“ดูเหมือนเธอจะยุ่งจริง ๆ ขอโทษด้วย แต่เื่นี้ ฉันคิดว่าฉันตัดสินใจคนเดียวไม่ได้ ควรต้องถามความเห็นของเธอก่อน”
ดัมเบิลดอร์วางถ้วยชาในมือลง พูดอย่างใจเย็นว่า:
“พักนี้ฉันได้ยินเื่น่าสนใจมาว่า
เธอควรจะได้ไปอยู่บ้านสลิธีรินแต่แรก แต่เพราะเหตุบังเอิญบางอย่าง ทำให้เธอคิดว่าสลิธีรินจะไม่ต้อนรับเธอ เธอจึงปฏิเสธคำแนะนำของหมวกคัดสรร และยืนกรานจะไปอยู่กริฟฟินดอร์?”
ยังไม่ทันจบประโยค หมวกคัดสรรที่วางอยู่บนชั้นก็อ้าปากะโขึ้นมาว่า:
“ไร้สาระที่สุด! การตัดสินใจของฉันถูกต้องเสมอ! แม้ว่าเด็กคนนี้จะเกิดมาเพื่อเป็สลิธีรินโดยแท้ แต่นั่นไม่ได้แปลว่าเขาไม่เหมาะกับกริฟฟินดอร์! ไม่เลย! เขาเหมาะกับที่นั่นยิ่งกว่า!”
“ถูกต้องครับ ผมเกิดมาเป็กริฟฟินดอร์โดยแท้ การคัดเลือกของคุณถูกต้องที่สุดแล้ว”
เดม่อนยิ้มให้หมวกคัดสรร มันดูพอใจมาก ยิ้มมุมปากนิด ๆ แล้วก็เงียบไป
“ดูเหมือนเธอจะปรับตัวกับบ้านกริฟฟินดอร์ได้ดีนะ”
ดัมเบิลดอร์พยักหน้า แต่ก็พูดต่อไปว่า:
“แต่ฉันคิดว่า เธอมีพร์ และสลิธีรินอาจช่วยเติมเต็มความทะเยอทะยานของเธอได้มากกว่า หากเป็แค่ความเข้าใจผิดที่ทำให้เื่ทั้งหมดเป็แบบนี้ ก็น่าเสียดายไม่น้อย”
“คณะกรรมการโรงเรียนเห็นว่าครั้งนั้นคือความผิดพลาด ถ้าเป็ความผิดพลาด ก็ควรได้รับการแก้ไข ไม่ใช่เพียงเพราะกฎไม่เคยถูกละเมิด จึงต้องยอมรับมันตลอดไป เธอคิดยังไง?”
“ผมนั่งคิดครับ” เดม่อนตอบเรียบ ๆ “ผมเชื่อมั่นในการเลือกของหมวกคัดสรร และผมก็ไม่ชอบคนสลิธีริน”
“ไร้สาระ! เ้าเกิดมาเพื่อเป็สลิธีริน ดูท่าทางเมินเฉยของเ้านั่นสิ ความเฉยเมยต่อผู้อื่นก็คือหนึ่งในลักษณะของชาวสลิธีริน!”
ภาพเหมือนของแบล็กะโอีกครั้ง
เดม่อนไม่สนใจเขา พอเข้าใจแล้วว่าทำไมดัมเบิลดอร์ถึงเรียกเขามา เขาก็อยากจะกลับ
พวกงูพวกนั้นก็คิดได้เนอะ เล่นไม่ได้ก็ขอเข้าเกมแทนเราซะเลย แบบนี้ก็มีด้วย
“ศาสตราจารย์ ขอบคุณที่ช่วยกันผมจากการถูกรบกวนใน่ก่อนหน้านี้นะครับ ผมเองก็อยากมีชีวิตในโรงเรียนที่สงบเรียบง่าย” เดม่อนลุกขึ้น “ถ้าไม่มีเื่อื่น ผมขอตัวไปทำการบ้านก่อนนะครับ”
“จะรีบไปแล้วเหรอ? เราแทบจะไม่ได้เจอกันเลย ขอร้องล่ะ อยู่คุยกับคนแก่คนนี้อีกสักนิดไม่ได้หรือ?”
ใบหน้าของดัมเบิลดอร์ดูเหงาขึ้นมาอย่างเห็นได้ชัด เขาพูดอย่างเศร้าใจว่า:
“ไม่รู้ว่าเป็เพราะอายุหรือเปล่า ่นี้ฉันชักอยากอยู่กับพวกเธอพวกเด็ก ๆ ให้นานขึ้นหน่อย มันทำให้ฉันรู้สึกเหมือนกลับไปหนุ่มอีกครั้ง”
เดม่อนไม่คิดว่าดัมเบิลดอร์จะรั้งไว้เช่นนี้ จึงต้องกลับมานั่งใหม่และพูดว่า:
“ผมคิดว่าท่านมีภารกิจมากมาย เวลาก็มีค่ามาก คงไม่เสียเวลากับเด็กอย่างผมหรอกครับ”
“โอ้ ก็จริงบางส่วน แต่ฉันคิดว่าการพูดคุยกับเธอเป็เื่ที่มีคุณค่ามากเลยนะ”
ดัมเบิลดอร์ยิ้มบาง มองเดม่อนแล้วพูดต่อว่า:
“พักนี้ข้างนอกมีข่าวลือเกี่ยวกับเธอมากมาย พวกเขาขุดประวัติเธอออกมาจนหมด ฉันเองก็ไม่คิดว่าในโลกของมักเกิ้ล เธอก็เป็คนดังเหมือนกัน?”
“คนดังอะไร? ทำไมผมไม่รู้เื่เลย”
“เดม่อน ไวท์ เด็กอัจฉริยะด้านดนตรีจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า อายุหกขวบสามารถเล่นเปียโนเพลงยาก ๆ ได้ด้วยการหลับตา อายุเจ็ดขวบเริ่มทัวร์คอนเสิร์ตทั่วอังกฤษ ผู้คนเต็มทุกรอบ
ใน่สามปีนั้น เธอเปล่งประกายราวดาวหาง แต่ก็ดับวูบลงอย่างรวดเร็วเช่นกัน
เมื่ออายุสิบ เธอตัดสินใจหยุดทุกอย่างด้วยตัวเอง หายไปจากสายตาของสาธารณชน ความจริงแล้ว ฉันเองก็อยากรู้เหมือนกันว่า ตอนนั้นมันเกิดอะไรขึ้นกับเธอกันแน่?”
(จบบท)
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้