ร่างของโม่เส้าเยี่ยนเปล่งแสงเสวียนอันเจิดจ้า เขาไม่มีความคิดจะออมมือให้เซียวเฉินเลยสักนิด ความสามารถของเซียวเฉินคุกคามเขามากเกินไป ดังนั้น เขาจึงลงมือด้วยวิธีอำมหิตที่สุด จะไม่ให้โอกาสใดๆ แก่เซียวเฉินทั้งสิ้น ต้องจู่โจมสังหารในคราเดียว
ไม่เช่นนั้นจะเป็เภทภัยภายหลัง
เซียวเฉินมองโม่เส้าเยี่ยน ตนเองก็ปล่อยความสามารถออกมาโดยไม่ออมมือเช่นกัน
คนทั้งสองดวลกันอย่างดุเดือด ทำให้ทุกคนที่มองอยู่ห่างๆ เบิกตาโต
ศึกนี้ สุดท้ายใครจะเป็ฝ่ายชนะกันแน่!
วิ้ง!
สองมือของโม่เส้าเยี่ยนกลายเป็เงาลวงนับพันนับหมื่น แยกไม่ออกว่าอันใดคือมายาอันใดคือของจริง สับสนตาลาย ขณะที่ทุกคนกำลังจับจ้องอยู่นั้น โม่เส้าเยี่ยนก็ลงมือแล้วฟาดฝ่ามืออย่างคลุ้มคลั่ง ความเร็วนี้เกือบจะทำให้คนหายใจไม่ออก การจู่โจมอย่างทรงพลังกราดลงมา
ส่วนเซียวเฉินกลับเฉยชา
ระดับความสงบนิ่งนั้นราวกับผนึกด้วยน้ำแข็ง ลึกล้ำจนน่ากลัว ให้ความรู้สึกดุจเข้าใกล้บึงน้ำลึก [1]
“ฝ่ามือพันเงา”
ยามนี้ โม่เส้าเยี่ยนคำรามอย่างเดือดดาล “จงตายเสีย!”
ทันใดนั้น ฝ่ามือปกคลุมด้วยแสงเสวียน ดุดันอย่างประหลาด เบื้องหน้าของเซียวเฉินมีฝ่ามือนับร้อยนับพันปรากฏขึ้น ฝ่ามือแต่ละสายแฝงกลิ่นอายแข็งแกร่ง ทำให้แยกแยะไม่ออกว่ากระบวนท่าใดเป็ท่าไม้ตายที่แท้จริง โม่เส้าเยี่ยนยิ้มหยัน เขามีความมั่นใจว่ากระบวนท่านี้สามารถจู่โจมเซียวเฉินให้พ่ายแพ้ได้ ถึงอย่างไรกระบวนท่านี้ของเขาก็ยังไม่เคยแพ้ใครมาก่อน
เสิ่นเล่ยที่อยู่ด้านข้างกำหมัดแน่นอย่างตึงเครียด
แม้แต่นางยังรับรู้ได้ถึงกลิ่นอายอันน่าสะพรึงของกระบวนท่านี้ เซียวเฉินจะหลบได้จริงๆ หรือ?
ขณะที่กลิ่นอายอันดุดันบรรลุถึงเบื้องหน้า เซียวเฉินพลันเคลื่อนไหว เขาขยับเท้า ร่างเกิดเงามายา กายอาบเปลวเพลิง ดั่งอัคคี์ร่วงจากฟ้า เห็นหงสาด้านหลังของเซียวเฉินสยายปีก ราวกับเซียวเฉินที่อยู่กลางอากาศมีปีกเพิ่มมาคู่หนึ่ง ปีกกระพือยิงลูกบอลเพลิงจำนวนนับไม่ถ้วนจู่โจมฝ่ามือพันเงา
ตูม!
อานุภาพอันน่าตระหนกคลี่คลุม แฝงความกดดันน่าพรั่นพรึง
จากนั้นเห็นมุมปากของเซียวเฉินโค้งขึ้นนิดๆ
“ประมุขน้อยของสำนักเหยียนหยางมีความสามารถแค่นี้เองหรือ” ปีกด้านหลังของเซียวเฉินขยับ เคลื่อนไหวในพริบตา จากนั้น เซียวเฉินที่ยืนอยู่กลางอากาศต่อยหมัดออก ดุจอัสนีเก้าชั้นฟ้าผ่าเปรี้ยง ทำให้เกิดเสียงฟ้าคำรามไม่ขาดหู แม้แต่ผู้คนรอบด้านที่มองอยู่ห่างๆ ก็หวาดกลัว
“ร่างเทพอัสนี หมัดสายฟ้าคลั่ง!”
หมัดเดียวสะท้านเก้าชั้นฟ้า ชักนำอัสนี!
ตูม!
สายฟ้าฟาดลงมาใส่โม่เส้าเยี่ยนอย่างรุนแรง โม่เส้าเยี่ยนเร่งเร้าแสงเสวียนคุ้มกายให้กลายเป็เกราะป้องกันปกป้องร่างของตนเองไว้ภายใน แต่เซียวเฉินกลับยิ้มดูแคลน อัสนี์ลงสู่หล้า อย่าว่าแต่ความสามารถขั้นเสวียนฟ้าอย่างเ้าเลย ต่อให้เป็ผู้เข้มแข็งขั้นดารา์ก็กริ่งเกรงอยู่สามส่วน
“ทลาย!”
เซียวเฉินคำราม สายฟ้ารุนแรงอย่างประหลาด กลายเป็ัวิชชุโจมตีแสงเสวียนคุ้มกายของโม่เส้าเยี่ยน
ตูม!
พรวด!
แสงเสวียนคุ้มกายของโม่เส้าเยี่ยนแตกเป็เสี่ยงๆ โม่เส้าเยี่ยนสีหน้าซีดเผือด โลหิตสดไหลออกจากปาก แม้แต่ร่างก็ไม่มั่นคง
เซียวเฉินกางปีกสู่นภา เส้นผมยาวลอยขึ้น ใบหน้าหล่อเหลามีรอยยิ้มหยิ่งทะนงราวกับเป็เทพสังหารที่ไม่อาจล่วงเกิน
ส่วนโม่เส้าเยี่ยนที่มองเห็นทุกอย่างศีรษะเต็มไปด้วยโลหิต
“เ้าแพ้แล้ว”
เซียวเฉินที่อยู่กลางอากาศมองโม่เส้าเยี่ยนแล้วเอ่ยเรียบๆ
ประโยคเดียว ทำให้คนทั้งหมดที่มองเหม่อต่างหวาดหวั่นพรั่นพรึง โม่เส้าเยี่ยนพ่ายแพ้?
ดุจโยนหินลงน้ำแล้วก่อเกิดระลอกคลื่นนับพันชั้น
แต่โม่เส้าเยี่ยนกลับยิ้ม ยิ้มอย่างเย็นเยียบน่ากลัว
“ไม่รู้อะไรเอาเสียเลย ชนะครึ่งกระบวนท่าก็คุยโวโดยไม่ละอายตรงนี้” เสียงของโม่เส้าเยี่ยนเด็ดขาด “ความสามารถของเ้าแข็งแกร่ง ดังนั้น ข้าจะใช้เคล็ดวิชาที่แข็งแกร่งที่สุดของข้า เ้าสามารถบีบคั้นจนข้าใช้กระบวนท่านี้ได้ก็เพียงพอให้เ้าภาคภูมิใจแล้ว”
จากนั้น ั์ตาสีทองของโม่เส้าเยี่ยนก็เปล่งแสงสีทองวิบวับ
แสงสีทองกะพริบราวกับหมุนมิติ
ร่างของเซียวเฉินสะท้าน สีหน้าไม่น่ามอง
ดวงตาคู่นั้นเหมือนมีเวทมนตร์ กักขังเขาไว้ภายใน ทำให้เขาขยับเขยื้อนไม่ได้
จมลึกลงไปในนั้น
เสิ่นเล่ยรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของเซียวเฉินก็มีสีหน้าไม่น่าดู
“วิชาเนตรจักรทองของประมุขน้อยแข็งแกร่งขึ้นมาก” มีคนในสำนักเหยียนหยางส่งเสียงขึ้น
วิชาเนตรจักรทองเป็หนึ่งในเคล็ดวิชาที่แข็งแกร่งที่สุดของสำนักเหยียนหยาง สามารถใช้กักขังร่างกายคน และถึงขั้นยืมพลังมิติอันแข็งแกร่งมาใช้ได้ เป็วิชาอันยอดเยี่ยม
เวลานี้ เซียวเฉินถูกกักขัง โม่เส้าเยี่ยนยิ้มหยัน
“จะสู้กับข้า เ้ายังห่างชั้นอีกไกล”
ตูม!
ต่อยหมัดหนึ่งกระแทกทรวงอกของเซียวเฉินอย่างแรง เซียวเฉินแค่นเสียงหนักๆ ทันที ได้ยินเสียงกระดูกสันอกหัก โลหิตสดไหลลงมาตามมุมปาก สีหน้าไม่น่ามอง ร่างกายลอยคว้างและกระแทกพื้นอย่างหนักหน่วง หมัดนี้ทำเอากระดูกสันอกของเขาแตก
เซียวเฉินมีสีหน้าอัปลักษณ์สุดขีด
ความเ็ปรุนแรงทำให้ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยว
กระอักโลหิตสดจากปากไม่หยุด
เซียวเฉินเงยหน้าขึ้นมองโม่เส้าเยี่ยนด้วยสายตาเย็นเยียบ แต่โม่เส้าเยี่ยนยังหัวเราะดุจเดิม
“ดูสิว่าเ้าจะทนได้นานเพียงไร!”
เนตรทองหมุนวน กักขังเซียวเฉินไว้อีกครั้ง จากนั้นก็ต่อยเซียวเฉินอีกหมัด เซียวเฉินถูกอัดกระเด็นไปไกลหลายสิบเมตร กระเซอะกระเซิงอย่างยิ่ง โลหิตสดซึมย้อมชุด ร่างสั่นเทาไม่หยุด ค่อยๆ ประคองตัวลุกจากพื้นช้าๆ เสิ่นเล่ยรีบมาคุ้มครองอยู่เบื้องหน้าของเซียวเฉิน โจมตีด้วยมุทรากระบี่อย่างบ้าคลั่ง ทุกแห่งหนที่รังสีกระบี่ผ่าน จะฟันทุกสิ่งลงมา
โม่เส้าเยี่ยนสายตาเ็า ต่อยหมัดทำลายรังสีกระบี่ แต่กลับเหลือรอยกระบี่ไว้บนกำปั้น
รอยกระบี่แฝงความเย็นเยียบเสียดกระดูก
จากนั้นเสิ่นเล่ยก็หันไปมองเซียวเฉิน ส่งเสียงถามว่า “เซียวเฉิน เ้าไม่เป็ไรนะ”
เซียวเฉินส่ายศีรษะ
เขามีร่างเทพอัสนีคุ้มกาย แม้ได้รับาเ็ แต่ก็หายดีอย่างรวดเร็ว ไม่เป็อะไรมากนัก
เสิ่นเล่ยเอ่ย “เซียวเฉิน อย่ามองดวงตาเขา”
“วิชาเนตรของเขาร้ายกาจมาก อย่าถูกเขาควบคุม อย่ามองดวงตาเขา อย่าถูกเขาชักนำ” เสิ่นเล่ยกระซิบ เซียวเฉินใจสะท้าน จากนั้นผงกศีรษะช้าๆ ลุกขึ้นยืน ถือกระบี่หนักเบิกฟ้าไว้ในมือ เดินมาช้าๆ ดวงตาเปี่ยมไอสังหาร
เขาจะทำให้โม่เส้าเยี่ยนตาย!
โม่เส้าเยี่ยนสีหน้าแปรเปลี่ยน ใช้วิชาเนตรจักรทองอีกครั้ง แสงสีทองหมุนวน ห่อหุ้มเซียวเฉินเป็ชั้นๆ ราวกับกำลังค้นหาจุดอ่อนของเซียวเฉิน จากนั้นควบคุมมัน แต่ในไม่ช้า สีหน้าของโม่เส้าเยี่ยนก็แปรเปลี่ยน ใบหน้าที่ประดับด้วยรอยยิ้มเปลี่ยนเป็อึมครึมจนน่าใ
เขามองเซียวเฉินแล้วส่งเสียงว่า “เป็ไปไม่ได้ เ้าหลุดพ้นจากวิชาเนตรของข้าได้อย่างไร”
“เ้าจมลึกอยู่ในนั้นแล้วชัดๆ เหตุใดจึงไม่ถูกข้าควบคุม?”
โม่เส้าเยี่ยนเอ่ยอย่างตื่นตระหนก สีหน้าไม่น่ามอง ใบหน้าหล่อเหลาบิดเบี้ยว
เซียวเฉินยิ้มกล่าว “เ้าแค่ชักนำจิตใจของข้า ไม่ได้รุกราน วิชาเนตรของเ้าควบคุมข้าไม่ได้ ต่อไป เ้าก็ตายได้แล้ว”
เพิ่งสิ้นเสียงเซียวเฉิน แสงกระบี่ในมือก็วูบวาบอย่างรวดเร็ว
คัมภีร์กระบี่ทัณฑ์์ กระบวนท่าที่หนึ่ง ใบไม้ร่วงพันสารท ประกายวาบห่านป่าตื่น!
เมื่อแสงกระบี่วาบขึ้น ก็เกือบจะสมบูรณ์แบบ ไม่รอให้ทุกคนมีปฏิกิริยา คมกระบี่ก็แทงเข้าไหล่ของโม่เส้าเยี่ยนทันที เมื่อคมกระบี่เปลี่ยนทิศก็ฟันทั้งไหล่และแขนของโม่เส้าเยี่ยนหลุดลงมาพร้อมกัน โลหิตสดสาดกระจาย โม่เส้าเยี่ยนหน้าขาวซีดทันที กรีดร้องโหยหวน ล้มลงกับพื้น
เซียวเฉินไม่หยุดมือ
สิบปีเป็ตายไร้ขอบเขต จักรวาลทอดแสงทอง!
ฉับ!
ในเวลาชั่วประกายไฟก็ฟันศีรษะของโม่เส้าเยี่ยนร่วงหล่น
หลังแสงกระบี่เลือนหาย ทุกคนก็ตกตะลึงคาที่ คนของสำนักเหยียนหยางยิ่งใขวัญหนีดีฝ่อ
ไม่รู้ว่าเซียวเฉินและเสิ่นเล่ยไปที่ใด ส่วนประมุขน้อยของพวกเขากลับถูกคนบั่นศีรษะเสียชีวิตอนาถคาที่ โลหิตสดย้อมถนนเป็สีแดง...
---
[1] ดุจเข้าใกล้บึงน้ำลึก หมายถึง ต้องระวังตัวสุดขีด