ทองคำราตรีนั้นเป็รุ่นที่สองของตระกูลที่ร่ำรวยสมกับชื่อแต่เขาก็ไม่ได้ทำตัวเป็เพลย์บอยแต่อย่างใด ตรงกันข้ามเขาเป็คนที่มีความโดดเด่นคนหนึ่งเมื่อเรียนจบจากมหาวิทยาลัยซิงหัว เขาใช้เวลาเรียนอีก 3 ปี ที่ MIT ประเทศสหรัฐอเมริกา จนสำเร็จปริญญาโท ก็เดินทางกลับมาที่บ้านเกิดเพื่อสืบทอดธุรกิจของครอบครัว ใช้เวลาเพียง 3 เดือนก็สามารถเข้าดูแลกิจการได้อย่างมั่นคง หลังจากนั้นจึงเข้าสู่เกม ‘เหยี่ยวั่ง’ด้วยความเร็วที่แทบจะทำให้คนอื่นยากที่จะเชื่อ จากนั้นได้ก่อตั้ง กิลด์ราตรียิ่งใหญ่ สร้างเมืองหนูขึ้นกลายเป็กลุ่มที่ทรงพลังจนไม่มีใครสามารถเมินเฉยได้
ชื่อจริงของทองคำราตรีก็คือ‘หวังหลิน’ เขาไม่ได้เข้าเกมมาเพื่อ้าจะเล่นเกมแต่มันเป็สิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่านั้น ด้วยเหตุนี้สัดส่วนในการลงทุนนั้นอยู่ราว 5%ของอุตสาหกรรมในโลกจริง ซึ่งเป็จำนวนที่ค่อนข้างสูงมากทีเดียว
หลังจากที่ก่อตั้งเมืองหนูขึ้นมาแล้วผู้จัดการทั่วไปก็ถูกดึงเข้ามาในเกมมากขึ้นถึง 10% เพื่อให้เข้ามาจัดการในเมืองหนูนี่คือสิ่งที่ทำให้เมืองหนูนั้นสามารถทำสิ่งต่างๆ ได้สำเร็จอย่างรวดเร็วนั่นเป็เหตุผลที่ทำให้รวมทุกอย่างเข้าด้วยกันอย่างสมบูรณ์แบบราวกับเครื่องจักรไม่ว่าจะเป็การวางแผน ถนนหนทาง ร้านค้า การป้องกันเมือง ระบบภาษี จำนวนประชากรและทหารรักษาการณ์ เมื่อเปรียบเทียบกับบริษัทแล้วการดูแลเมืองนั้นมีความซับซ้อนมากกว่าถึงสิบเท่าและยังมีความเกี่ยวข้องในเื่ต่างๆ ในหลายแง่มุมซึ่งเป็ภารกิจที่ไม่สามารถทำสำเร็จได้ด้วยตัวคนเดียว
ในระหว่างที่เขากำลังเรียนอยู่ที่ประเทศสหรัฐอเมริกานั้นหวังหลินโชคดีได้มีโอกาสเข้าองค์กรลึกลับที่ชื่อว่า ''หุยตี้'' และเขาก็ได้รับข้อความว่า''เหยี่ยวั่ง'' นั้นมีความลับที่น่าใซ่อนอยู่ในเกมซึ่งสามารถพัฒนาความสามารถของมนุษย์ได้ แต่ไม่มีใครรู้ว่าความลับนั้นคืออะไรแต่นั่นก็เพียงพอแล้ว ดังนั้นหวังหลินจึงเข้าสู่เกมโดยปราศจากความลังเล
หวังหลินมีสิ่งที่ต้องทำมากมายในแต่ละวันเื่การจัดการกับธนาคารฉินหวังเป็เพียงสิ่งหนึ่งจากหลายสิ่งเขาจะจัดการเฉพาะเื่ใหญ่ๆ งานที่เฉพาะเจาะจง โดยปกติจะมีผู้ติดตามของเขาเป็ดูแลในเวลานี้มีสิ่งที่สำคัญหลายอย่างที่กำลังรอให้เขาจัดการอยู่
เตรียมรับมือกับการโจมตีของมอนสเตอร์ที่กำลังจะบุกเข้ามาโจมตีเมือง
ทุกเมืองใหญ่น้อยจะต้องถูกมอนสเตอร์บุกเข้าโจมตีซึ่งจะต้องป้องกันเอาไว้ให้ได้ นั่นถึงจะประสบความสำเร็จเราต้องแสดงถึงความสามารถในการยืนหยัดให้ได้ดั่งขุนเขามิเช่นนั้นเมืองก็จะถูกทำลายลง ทุกอย่างก็จะกลับเป็ศูนย์ทุกสิ่งที่ทำมาก่อนหน้าก็จะกลายเป็สูญเปล่า เทียบได้กับตัวอ่อนของทารกที่ต่อมาจะต้องเปลี่ยนรูปร่าง แต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งสุดท้ายของชีวิต จนกว่าจะได้คลอดออกมาอย่างสมบูรณ์แล้วต่างหาก
ใครบอกผมได้บ้างว่า“ทำไมเมืองหนูของเราถึงได้ขาดแคลนอุปกรณ์อาวุธสำหรับป้องกันเมือง เช่น คันธนูลูกธนู” หวังหลินจ้องมองไปที่ผู้เล่นชั้นสูงด้วยสายตาที่เ็า
ทุกคนที่อยู่โดยรอบต่างพากันเหงื่อไหลท่วมจนเปียกชุ่มผู้เล่นที่มีหน้าที่ป้องกันเมืองสีหน้าเริ่มซีดเผือดก่อนจะพูดว่า "เนื่องจากราคาของอุปกรณ์สำเร็จรูปจากร้านค้าของระบบนั้นสูงเราจึงเลือกที่จะผลิตด้วยตนเอง แต่ในการหลอมสร้างนั้นปริมาณของแร่ก็ไม่เพียงพอต่อความ้าพวกเราพยายามทำทุกวิถีทางแล้ว"
"เหมืองแร่ของเราถูกขุดจนหมดแล้วอย่างนั้นหรือ?"
"นอกจากเหมืองแร่ของกลุ่มฉินหวังกรุ๊ปแล้วเหมืองอื่นๆ แม้ว่าจะยังไม่หมด แต่ผลผลิตก็ลดลงเป็อย่างมากเราหาซื้อแร่ได้ไม่ถึงหนึ่งในสิบส่วน"
เนื่องจากราตรียิ่งใหญ่กำลังจะจัดการกับฉินหวังกรุ๊ปดังนั้นแล้วแร่ของฉินหวังกรุ๊ปจึงไม่สามารถขายให้กับราตรียิ่งใหญ่ได้สายตาที่เ็าของหวังหลินดูอ่อนลงเล็กน้อย ก่อนจะถามว่า“เราสามารถหาซื้อจากผู้เล่นโดยตรงได้หรือไม่?”
"เราได้กว้านซื้ออย่างเต็มที่แล้วแต่เนื่องจากจำนวนของผู้เล่นนั้นน้อยเกินไปก็ไม่ต่างจากเอาน้ำน้อยไปดับกองไฟ"
"แล้วร้านค้าของระบบหรือร้านค้าของผู้เล่นไม่มีเลยหรือ?"
“ไม่รู้ว่ามีใครปล่อยข่าวว่าอุปกรณ์ในเกมในเวลานี้กำลังขาดตลาด ทำให้ราคาของแต่ละร้านค้าจึงเพิ่มขึ้นสินค้าชิ้นเดียวกันราคาสูงขึ้นกว่าแต่ก่อนถึง 10% เนื่องจากราคาที่แพงขึ้นทำให้แผนกการเงินจึงไม่อนุมัติให้จัดซื้อ”
“สายตาสั้นเหมือนหนูหรืออย่างไรกันไม่รู้จักมองการณ์ไกลกันบ้างเลย เหลืออีกแค่ 3 วันที่จะเกิดาป้องกันเมืองแล้ว ไม่คิดว่าจะมัวแต่มาคิดเื่หยุมหยิมพวกนี้อยู่อีกยังมีสมองกันอยู่บ้างไหม” หวังหลินคิดว่าพวกบอร์ดบริหารแก่ๆทั้งหลายควรจะถูกปลดออกไปได้แล้ว สมองทื่อไปหมดแล้วความรู้สึกนึกคิดไม่ได้มีการพัฒนาปรับเปลี่ยนให้เข้ากับเหตุการณ์ ไม่รู้จักคิดบ้างถ้ามันสามารถทำสำเร็จได้จริง การสร้างผลกำไรมันคงง่ายกว่าการดื่มน้ำเสียอีก
"และอุปกรณ์ในร้านค้าของผู้เล่นก็มีไม่ครบซึ่งเราต้องใช้อุปกรณ์เป็จำนวนมาก และมันก็ไม่มีขายตามร้าน..."
“ผมไม่้าฟังเหตุผลอะไรทั้งสิ้นผมจะบอกพวกคุณไว้ว่า สามวัน... คุณมีเวลาเพียงแค่สามวันเท่านั้นถ้ายังหาอุปกรณ์มาได้ไม่ครบ ก็ไสหัวออกไปได้เลย “เข้าใจไหม?”
"รับทราบ"ผู้เล่นที่มีหน้าที่ป้องกันเมืองตอบด้วยความสัตย์ซื่อ
"กลุ่มผู้เล่นคนอื่นๆที่เข้ามาช่วยเหลือ ผมไม่อยากเห็นว่า สามวันถัดจากนี้นักธนูไม่มีลูกธนูที่จะใช้ยิงนะ" หวังหลินพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น"จำไว้ว่า พวกคุณทั้งหมดอยู่ในระดับหัวกะทิขององค์กรผมหวังว่าจะเห็นพวกคุณสามารถแก้ปัญหาต่างๆ ด้วยความมั่นใจ แทนที่จะต้องรอฟังคำแนะนำจากผมมีใครมีอะไรอีกไหม?"
“ดูเหมือนว่าจะมีเหมืองแห่งใหม่เกิดขึ้นบริเวณป่าเอลฟ์และมีการขายแร่ในปริมาณมาก...” ผู้เล่นระดับสูงยืนขึ้นในขณะที่พูดก็ปรากฏอาการสั่นด้วยความหวาดกลัว
"แล้วนายรออะไรอยู่อีก ทำไมไม่รีบไปซื้อมา"หวังหลินพูดแทรกขึ้นมาอย่างไม่เกรงใจ
"ผมไปมาแล้วแต่พออีกฝ่ายรู้ว่าผมมาจากกิลด์ราตรียิ่งใหญ่ พวกเขาก็โกรธมากและไม่ขายให้"ชายคนดังกล่าวตอบด้วยความลังเล
"ทำไม?"สีหน้าของหวังหลินเริ่มดำคล้ำ มีลางสังหรณ์ว่าจะเกิดเื่ไม่ดีขึ้น
"พวกเขาพูด...พูดว่า..."
"พูดว่าอะไร?"หวังหลินถามด้วยน้ำเสียงราบเรียบ
"เขาพูดว่าหัวหน้ากิลด์นั้นทั้งแก่และอัปลักษณ์เลยไม่อยากจะทำการค้าขายด้วย" ผู้เล่นระดับสูงคนเดิมพูดด้วยน้ำเสียงที่เบามากผู้เล่นที่หูไม่ค่อยดีก็จะได้ยินไม่ชัด โชคดีว่าในที่นี้มีแต่พวกผู้เล่นระดับสูงการได้ยินของพวกเขาจึงชัดเจนแจ่มแจ้ง
ทั่วทั้งห้องเงียบสนิทหวังหลินหมุนตัวหันหลังให้ทุกคน ร่างกายสั่นเล็กน้อยพร้อมทั้งขบกรามแน่นก่อนจะพูดอย่างไม่รีบร้อน และชัดถ้อยชัดคำว่า"งานต่อไปให้เน้นไปที่การต่อสู้ในการป้องกันเมือง ใครเอาเื่ของผมออกไปพูดผมจะจัดการกับคนคนนั้น เลิกประชุมได้"
หลังจากที่พวกเขาเดินออกมาแล้วก็ได้ยินเสียงแก้วที่ถูกขว้างใส่พื้นจนแตก และตามมาด้วยเสียงโต๊ะล้มลงกระแทกพื้นพวกเขาต่างปิดปากเงียบสนิทไม่ต่างจากจักจั่นในฤดูหนาวมองหน้ากันแล้วรีบเดินออกไปอย่างรวดเร็ว
ธนาคารฉินหวัง
ผู้เล่นเริ่มเพิ่มจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆการเดินทางเริ่มติดขัดอย่างหนัก เสียงผู้คนะโโหวกเหวกไปทั่ววุ่นวายเสียยิ่งกว่าตลาดสด มีคนพูดกันว่าผู้คนในเมืองันั้นมากเกินขีดจำกัดแล้วมีผู้เล่นจำนวนมากติดอยู่ที่ประตูเมืองที่ไม่สามารถเข้ามาได้
ดูเหมือนว่าฉินหวังกรุ๊ปกำลังประสบกับปัญหาแต่เนื่องจากความแข็งแกร่งและยิ่งใหญ่ ผลกระทบจึงเพิ่งจะแสดงออกมาให้เห็นในจุดนี้ทำให้กลุ่มผู้นำหลักต่างก็รู้สึกอิจฉาถ้าเราไม่สามารถหยุดยั้งความมุ่งมั่นนี้ลงไปได้ ก็ไม่ต่างจากหอกข้างแคร่ มิเช่นนั้นถ้าปล่อยให้เวลาล่วงเลยไปฉินหวังกรุ๊ปเองก็จะอยู่เหนือกลุ่มอื่นๆ ทั้งหมดเมื่อถึงเวลานั้นคงปฏิเสธไม่ได้แล้วว่าสายเกินไป
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเสียงเรียกร้องอย่างไม่พอใจของผู้เล่นตลอดจนปัญหาที่ยากลำบากทั้งหลายในที่สุดธนาคารฉินหวังก็มีความเคลื่อนไหวน้ำเสียงที่นุ่มนวลอ่อนหวานของหวังโหรวก็ดังออกมาจากลำโพงเวท ทำให้เสียงต่างๆในเวลานี้ก็พลันเงียบลงในทันใด
"ท่านผู้มีเกียรติทุกท่านฉันชื่อหวังโหรว เป็ประธานของ ฉินหวังกรุ๊ป เป็ผู้ที่รับผิดชอบดูแลในฉินหวังกรุ๊ปต่อจากนี้เป็ประกาศซึ่งมีอยู่หลายฉบับ ฉบับที่หนึ่ง ข้อผิดพลาดเกี่ยวกับการลงทุนของฉินหวังกรุ๊ปนั้นเป็เพียงแค่ข่าวลือเท่านั้นกลุ่มผู้ไม่หวังดีฝ่ายตรงข้ามเจตนาปล่อยข่าวลือ ไม่น่าเชื่อแม้แต่น้อย ฉบับที่สองเกี่ยวกับความ้าของลูกค้าที่มีเป็จำนวนมากทางเราได้เพิ่มเคาน์เตอร์ให้บริการอีก 10 ช่องทาง เพื่อบริการให้กับทุกท่านนี่เป็การขยายจนสูงสุดเท่าที่ระบบมีให้ หวังว่าทุกท่านจะเข้าใจ ฉบับที่สามผู้ที่ให้ร้ายหรือกล่าวหาฉินหวังกรุ๊ปทางเรารู้ตัวแล้วจะจัดการให้พวกเขารับผิดชอบอย่างแน่นอน ฉบับที่สี่ธนาคารฉินหวังยังมีเงินทุนสำรองอยู่อีกมากมาย สุดท้ายนี้ฉินหวังกรุ๊ปยังคงแข็งแกร่งอยู่อย่างแน่นอนซึ่งได้พิสูจน์มาแล้วว่าไม่เคยทำให้ลูกค้าต้องสูญเสียผลประโยชน์ ฉันขอจบแถลงการณ์แต่เพียงเท่านี้ขอขอบคุณทุกท่านค่ะ"
"เื่จริงหรือเปล่า?"
"น่าจะจริงนะลองดูสิ มีการเพิ่มช่องทางบริการขึ้นอีก ถ้าเป็เื่จริงที่เงินกำลังขาดแคลนนี่ไม่เท่ากับเร่งให้หมดไวขึ้นหรือ?"
"ฟันธงเลยว่านี่เป็จุดประสงค์ที่ทำให้คนคิดว่าพวกเขายังมีเงินทุนสำรองอยู่มากพอแต่คงน่าจะอีกไม่นาน..."
คำแถลงการณ์และการกระทำของฉินหวังกรุ๊ปทำให้เพิ่มความมั่นใจให้กับผู้เล่นที่เคยรู้สึกกังวลไม่ว่าคำพูดของหวังโหรวจะเชื่อถือได้มากขนาดไหนแต่ก็ยังมีผู้เล่นกลุ่มใหญ่ที่ยังคงไม่เชื่อมั่นอยู่ดี
คำพูดของหวังโหรวอย่างเป็ทางการนั้นกระจายออกไปอย่างรวดเร็วทำให้ผู้เล่นคลายความตื่นตระหนกลงไปได้บ้าง
“ทุกคนอย่าไปฟังสิ่งที่หวังโหรวพูดผมเป็รองผู้จัดการของธนาคารฉินหวัง ผมสามารถพิสูจน์ได้ว่าในเวลานี้ธนาคารฉินหวังนั้นเหลือเงินอยู่น้อยกว่า 3 ล้านเหรียญทอง”เป็เสียงที่ออกมาจากธนาคารฉินหวังเหมือนกัน แต่เนื้อหากลับต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ความเงียบปรากฏให้เห็นชั่วครู่หลังจากนั้นเสียงะโโหวกเหวกก็ดังขึ้นราวกับเกิดเหตุสึนามิขึ้นแต่ละคนต่างวิ่งกันแตกตื่นออกไป ผู้เล่นต่างก็เร่งรีบราวกับน้ำเดือดต่างเริ่มวิ่งแซงกันเพื่อให้ไปถึงก่อนคนอื่นข่าวนี้ส่งผลให้ทุกคนต่างรู้สึกตื่นตระหนกจนสงบใจไว้ไม่ไหว
"ถอนเงิน..."
"รีบคืนเงินของฉันมาให้ไวเลย..."
"คนทำธุรกิจก็มีแต่พวกขี้โกงอย่างที่คิดไว้ไม่มีคนดีๆ เลยสักคน..."
เ้าหน้าที่ที่อยู่หน้าเคาน์เตอร์ให้บริการถูกรุมล้อมไปด้วยผู้เล่นที่หลั่งไหลมาแน่นขนัดจนแทบไม่มีช่องว่างเวลานี้มีผู้เล่นไม่ต่ำกว่าห้าล้านคนที่มารวมกันอยู่ที่นี่ ถ้าคำนวณที่ 50เหรียญเงินต่อหนึ่งคน ก็เท่ากับ 2.5 ล้านเหรียญทอง ปัญหาก็คือมีหลายคนที่ฝากเงินมากกว่า 50 เหรียญเงิน ดังนั้นถ้าคำนวณคร่าวๆ แล้ว 300เหรียญทองต่อคนก็ยังไม่น่าจะเพียงพอ
ผู้เล่นที่อยู่ด้านหลังเริ่มกระวนกระวาย
ในห้องประชุมใหญ่ของธนาคารฉินหวัง
“หลี่หลาง!”สีหน้าของหวังโหรวดูหนักใจเล็กน้อยสองคำที่พูดโพล่งออกมานั้นเต็มไปด้วยน้ำเสียงเ็า
“ฉันไม่คิดเลยนะว่านายจะเป็คนทรยศไปได้คงเป็จริงอย่างที่คนเขาพูดกันว่า รู้หน้าแต่ไม่รู้ใจ” ชูหลิงพูดด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธ
ฉินโจ้วหัวเราะออกมาเบาๆก่อนจะยิ้มและพูดว่า “เป็ไปอย่างที่คิด ว่าต้องมีหนอนบ่อนไส้จริงๆ เสียด้วยผมบอกแล้วว่าเป็กิลด์ราตรียิ่งใหญ่ เวลาอื่นทำไมไม่เห็นทายได้แม่นแบบนี้บ้างนะ ”พอพูดจบเขาเพียงแค่ส่ายหน้า และก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก
อันที่จริงฉินโจ้วแทบจะอดกลั้นเอาไว้ไม่ไหวราวกับฟ้าลิขิตให้มาเจอเื่ยุ่งยากใน่เวลาที่สำคัญเช่นนี้กลัวว่าจะไม่ได้มีเพียงแค่นี้ นี่เป็สิ่งที่เขาคิดอยู่ในใจ
มีชายหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่ท่าทางฉลาดผลักประตูเข้ามา ด้านหลังนั้นมีคนเดินตามมาด้วยอีกสามคน สายตาที่มองมาเหมือนกำลังขบคิดเื่บางอย่างชายรูปร่างสูงใหญ่มองไปที่หวังโหรวและชูหลิงก่อนจะยิ้มให้ใบหน้าเปี่ยมด้วยความมั่นใจ แล้วพูดว่า “หัวหน้าหวัง หัวหน้าชู ผมเข้าไปได้ไหม?”
ในขณะที่กำลังพูดประตูก็เปิดออกมีคนเดินเข้ามาหยุดยืนอยู่ตรงหน้า ในเวลานี้ก็พอจะมองออกว่าคนคนนี้ดูท่าทางเย่อหยิ่งจองหองพอดู
เป็ครั้งแรกที่ชูหลิงรู้สึกว่าชายคนนี้ดูท่าทางเ้าเล่ห์ความประทับใจที่เคยมีตอนนี้ก็ลดลงจนหมดสิ้นรูปลักษณ์ที่ดูดีภายนอกไม่ได้มีผลเกี่ยวเนื่องกับความน่าเกลียดที่อยู่ในจิตใจแม้แต่น้อย
หวังโหรวยิ้มทำท่าทางเชื้อเชิญอย่างเป็ธรรมชาติ ราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นหวังโหรวแสดงออกมาด้วยความสุภาพ ไม่ว่าเขาจะสูงศักด์หรือหล่อเหลาขนาดไหนในใจก็ต้องเต้นรัวจนแทบจะส่งเสียงดังออกมาไม่น่าแปลกใจเลยถ้าเป็สาเหตุให้ใครบางคนนั้นมีความคิดไม่ดีในใจ และแสดงสีหน้าท่าทางที่ไม่เป็ธรรมชาติออกมาก่อนที่รอยยิ้มจะเปลี่ยนเป็แข็งกระด้าง
“รองผู้จัดการหลี่ไม่คิดจะแนะนำเพื่อนทั้งสามคนให้รู้จักหน่อยหรือ?” หวังโหรวนั้นนั่งอยู่ในตำแหน่งประธานท่าทางใจกว้าง ท่านั่งที่ลำตัวตั้งตรง ก็สามารถสร้างความกดดันอย่างอธิบายไม่ได้ให้กับใครบางคนได้เหมือนกัน
"ผมฉางฟูมาในนามของกลุ่มหงเย่"
"ผมหยางหลิน"
"ผมโจวฉานผมมาพบประธานหวัง"
ทั้งสามไม่รีรอการแนะตัวจากหลี่หลางโดยทั้งสามรายงานตัวออกมาเองอย่างอัตโนมัติ
"ไม่จำเป็เชิญนั่ง"
หลังจากที่ทั้งสามคนนั่งลงแล้วก็พบว่าไม่มีใครเชิญให้หลี่หลางนั่ง ทำให้เขาต้องยืนอยู่คนเดียวทันใดนั้นใบหน้าที่หล่อเหลาก็เริ่มกลายเป็สีแดงขึ้นเรื่อยๆก่อนจะพูดด้วยเสียงอันดังว่า “ผมมาที่นี่ในนามของกิลด์ราตรียิ่งใหญ่ประธานหวังหลินนั้นมีท่าทีสนใจที่จะเข้าร่วมกับฉินหวังกรุ๊ปผมหวังว่าประธานหวังจะสามารถเลือกได้อย่างถูกต้อง
"คนทรยศ"ชูหลิงจ้องมองไปทางเขาอย่างไม่เกรงใจ
"ผมคิดว่าคุณทั้งสองคนไม่สามารถต่อต้านหวังหลินได้หรอกก่อนที่คุณจะตัดสินใจ ผมคิดว่าคุณควรจะฟังสุภาพบุรุษทั้งสามคนนั้นนะบางทีอาจจะช่วยคุณในเื่ตัวเลือกของคุณได้" หลี่หลางสีหน้าแดงก่ำตอนที่ถูกชูหลิงด่าทอ ซึ่งมันทำให้เขารู้สึกโกรธเป็อย่างมาก
มันจะหน้าด้านมากเกินไปแล้วในตอนแรกดูเหมือนยอมรับการถูกตำหนิ แต่ก็ถูกฉินโจ้วเบรกไว้ได้อย่างพอเหมาะพอเจาะหวังโหรวเองก็เหมือนจะมีเวลาว่างทั้งวัน เงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจและั์ตาเต็มไปด้วยความครุ่นคิด แม้ว่าหลี่หลางจะรู้สึกอึดอัดอยู่ใน่หนึ่งและเหมือนมีบางอย่างที่ไม่ถูกต้อง แต่ก็มองหาไม่พบซึ่งความรู้สึกนั้นทำให้เขาเหมือนถูกเข็มตำ
แต่เขาปฏิเสธที่จะสูญเสียความมั่นใจต่อหน้าผู้อื่นพยายามทำให้ดูเหมือนว่าทุกอย่างยังอยู่ภายใต้การควบคุม
ฉินโจ้วคิดว่าชายคนนี้ช่างหน้าด้านไร้ยางอายสิ้นดี
ขณะที่ทั้งสาม้าจะพูดคุยหวังโหรวก็โบกมือ ขัดจังหวะการนำเสนอของพวกเขาอย่างไม่แยแส ก่อนจะพูดว่า “ก่อนที่คุณจะแสดงความคิดเห็นของคุณลองฟังข้อความนี้ก่อน ฉันแน่ใจว่าพวกคุณจะต้องสนใจ”
ฉางฟูเริ่มรู้สึกได้ถึงความผิดปกติขณะที่กำลังจะพูด ก็หุบปากลงทันที ประสบการณ์หลายปีในเขตเหยียนหวงบอกให้เขาเลือกที่จะฟังข่าวจากหวังโหรวอย่างตั้งใจ ส่วนอีกสองคนต่างมองหน้ากันแต่ก็ไม่มีใครทำสิ่งใดขึ้นเพื่อขัดจังหวะ
ดูเหมือนว่าในเวลานี้ในใจของหลี่หลางเหมือนมีเสียงของบางสิ่งตกลงบนพื้นจนแตกกระจายสุดท้ายเขาก็พบว่า สิ่งต่างๆ ดูเหมือนจะไม่ได้เป็ไปตามแผนที่วางเอาไว้เสียแล้ว
ติ๊ง!ประกาศจากเขตเหยียนหวง : ฉินหวังกรุ๊ปได้เหมืองแร่แห่งใหม่ ชื่อเหมืองแร่ิญญาซึ่งเต็มไปด้วยแร่เหล็กมันแพะ คิดเป็มูลค่าประมาณ 20 ล้านเหรียญทองจึงประกาศมาให้ทราบทั่วกัน
ติ๊ง!ประกาศจากเขตเหยียนหวง : ฉินหวังกรุ๊ปได้เหมืองแร่แห่งใหม่ชื่อเหมืองแร่ิญญา ซึ่งเต็มไปด้วยแร่เหล็กมันแพะ คิดเป็มูลค่าประมาณ 20ล้านเหรียญทอง จึงประกาศมาให้ทราบทั่วกัน
ติ๊ง!ประกาศจากเขตเหยียนหวง : ฉินหวังกรุ๊ปได้เหมืองแร่แห่งใหม่ชื่อเหมืองแร่ิญญา ซึ่งเต็มไปด้วยแร่เหล็กมันแพะ คิดเป็มูลค่าประมาณ 20ล้านเหรียญทอง จึงประกาศมาให้ทราบทั่วกัน
หลี่หลางในตอนนี้ราวกับถูกสายฟ้าฟาดใส่อย่างจังสมองเหมือนถูกะเิจนมึนงงสับสนไปหมด สีหน้าซีดเผือดทันทีสีหน้าของคนทั้งสามก็ไม่ต่างกัน ก่อนทั้งหมดจะรีบลุกขึ้นพรวดและนิ่งเงียบด้วยความใ
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้