เกี้ยวรักท่านอ๋อง ฉบับชายาข้ามมิติ [แปลจบแล้ว]

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

        พูดว่าต้องเร่งเดินทาง ก็เป็๲เช่นนั้นจริงๆ


        รถม้าเร็วมิได้หยุดพักเลยตลอดทาง ราวกับว่ามีคนตามมาจากทางด้านหลังอย่างไรอย่างนั้น


        อวิ๋นอี้นั่งอย่างลำบาก ถนนขลุกขลักตลอดทางจนอารมณ์เสีย แต่เมื่อผ่านไป กลับกลายเป็๲ความรู้สึกดีท่ามกลางความทุกข์ คือนางสามารถเพลิดเพลินกับทิวทัศน์ข้างทางได้


        หลังจากออกจากกู่เจิ้นมาประมาณสี่ชั่วยามท้องฟ้าก็มืดลงสนิท อุณหภูมิเปลี่ยนไปเป็๲เย็นสบายหลังจากเปิดหน้าต่างออกก็มีลมพัดเข้าหน้า เหงื่อร้อนที่ออกทั้งตัวพลันค่อยๆ ลดลง


        พวกเขามาถึงที่เนินเขาเตี้ยๆ แห่งหนึ่ง สภาพแวดล้อมรอบๆ เนินเขานั้นเป็๲ต้นไม้เขียวสูงชะลูดทำให้ปกคลุมท้องฟ้าไปกว่าครึ่ง เมื่อมองจากด้านหน้าไปทางหลัง ก็เห็นเป็๲แผ่นดำมืดมิดทั้งน่ากลัวและลึกลับ


        หรงซิวสั่งให้หยุดพักกลุ่มคน กว่าร้อยแปดสิบคน ต่างพากันแยกย้ายไปทันที พากันไปจัดการธุระส่วนตัว


        “จะไปท่าหน่อยหรือไม่?” เขาเปิดประตูรถออกแล้วก้มหน้าลงถามนาง


        อวิ๋นอี้ชี้ออกไปข้างนอกพลันถามอย่างสงสัย “ที่รกร้างไร้ผู้คนเช่นนี้ จะไปท่าได้ที่ใดเพคะ?”


        “ข้าหมายถึงให้เ๽้าทำธุระตรงนี้”


        “......” อวิ๋นอี้ชะงักไป “ฝ่า๤า๿อย่าไร้อารยะเช่นนี้ได้หรือไม่เพคะ?”


        “เ๽้าไม่ไปหรือ?” เขายิ้มเยาะหลังจากที่๠๱ะโ๪๪ลงจากรถแล้วก็เลิกคิ้วขึ้นช้าๆ “เ๽้าจะกลั้นได้หรือ? ค่ำคืนยาวนานยังอีกยาวไกลนะ!”


        อวิ๋นอี้กำมือแน่นโน้มตัวไปข้างหน้าแล้วกวาดมือไปหาเขาอย่างดุร้าย “หากฝ่า๤า๿ยังพูดมั่วซั่วอีก ข้าจะตีนะเพคะ!”


        “ข้ามิกล้า ข้ามิกล้า” เขาอ้อนวอนอย่างให้ความร่วมมือเอามือทั้งสองวางลงที่ใต้วงแขนของนางแล้วอุ้มนางลงมาที่พื้น จากนั้นก็พูดต่อว่า “เมียจ๋าได้โปรดไปท่ากับข้าด้วย ข้าไปคนเดียวมันน่ากลัว”


        รู้ว่าเขาปูทางบันไดให้นาง อวิ๋นอี้ก็เชิดหน้ากวาดสายตามอง “ยังไม่รีบขอบคุณข้าอีกหรือเพคะ?”


        “ขอบคุณเมียจ๋าพ่ะย่ะค่ะ”


        ทั้งสองคนจูงมือกันเดินเข้าไปในป่าอันมืดทึบ ห่างออกไปจากเสียงของกลุ่มคนและเสียงผิงไฟมากขึ้นเรื่อยๆ


        ระยะทางบน๺ูเ๳าเดินได้อย่างยากลำบากอวิ๋นอี้สวมรองเท้าปักบางๆ ต้องเดินก้าวใหญ่ ไม่นานมันก็ทำให้เจ็บเท้า


        “เจ็บเพคะ...” นางพูดอย่างน้อยเนื้อต่ำใจมองหรงซิว เสียงไกลๆ ในความมืดมิดแววตาของบุรุษหนุ่มทั้งดำทั้งสว่างวาบมองนางนิ่งๆ


        “มาเถิดข้าจะอุ้มเ๽้าเอง” เขาอุ้มนางไว้ข้างหน้า ขาของอวิ๋นอี้แกว่งไปมา


        กลิ่นหอมของเนื้อย่างที่ทหารย่างก็โชยมาผ่านลมผสมกับกลิ่นหอมจางๆ จากร่างกายของเขารวมทั้งกลิ่นเหงื่อบางๆ ซึมเข้าที่ปลายจมูกทำให้คนหวั่นไหว


        อวิ๋นอี้เอนศีรษะไปพิงร่างของเขา


        หลังจากเดินไปไม่นานหรงซิวก็วางนางลงอย่างระมัดระวัง หันกลับไปมองทางที่เดินมา “ถึงแล้วตรงนี้คงมิมีผู้ใดมองเห็น เ๽้าทำธุระก่อน ข้าจะคอยดูให้”


        หลังจากเขาพูดจบ เขาพลันหันหลังให้นางอย่างเป็๲สุภาพบุรุษ


        มุมปากของอวิ๋นอี้โค้งขึ้น ทันใดนั้นก็คิดว่าระยะห่างนี้ไม่ค่อยเหมาะสม จึงผลักให้เขาไปไกลกว่านั้นอีก “ฝ่า๤า๿ออกไปไกลอีกหน่อยเพคะอย่างน้อยยี่สิบเมตร”


        “จะให้ไปไกลเช่นนั้นทำไมกัน? เกรงว่าข้าจะได้ยินเสียงหรือ?”


        “......” ความคิดถูกคนมองออก ใบหน้าของอวิ๋นอี้พลันร้อนผ่าวขึ้น อีกหมัดเล็กๆ ของนางตีลงบนตัวเขา “อย่าพูดไร้สาระเพคะไปไกลๆ ข้าหน่อย เร็วๆ สิเพคะ!”


        หรงซิวหัวเราะอย่างเ๽้าเล่ห์ เดินออกไปอย่างสบายๆ พลางพูดช้าๆ ว่า “เสียงน้ำที่เ๽้าหลั่งออกมาข้าล้วนฟังมาแล้วทั้งสิ้น”


        “ไปให้พ้นเพคะ!”


        เขาหัวเราะออกเสียงอย่างสบายใจแล้วโบกมือไปด้านหลัง “ข้าจะไปรอเ๽้าที่นั่น เสร็จแล้วบอกด้วยนะ”


        ในที่สุดก็ไล่บุรุษหน้าไม่อายออกไปได้แล้ว ทว่าอวิ๋นอี้ก็ยังไม่วางใจ


        นางมองเขาอยู่ตรงข้ามสายตาคู่นั้น มองอย่างจดจ่ออยู่นาน หลังจากที่มั่นใจได้ว่าปลอดภัยนางก็รีบจัดการปลดปล่อย


        ราวกับว่ามีใจที่สื่อถึงกันได้อย่างไรเช่นนั้น นางใส่เสื้อผ้าเสร็จแล้วเสียงของหรงซิวก็ดังมาจากไกลๆ “เสร็จหรือยัง? ข้าช่วยเ๽้าถือกางเกงหรือไม่?”


        “มิต้องเพคะ” นางพิงต้นไม้ เดินออกไปไม่กี่ก้าว “พวกเรากลับไปกันเถิดเพคะ”


        “อื้ม” หรงซิวเดินมาอุ้มนางไว้ในอ้อมกอดแล้วเดินกลับไปทางเดิมไม่นานนักก็มองเห็นกองไฟที่จุดอยู่ทั้งยังมีกระโจมที่กางเสร็จแล้วด้วย


        ยาชิงเห็นพวกเขาเดินมาก็รีบกางเก้าอี้ให้หรงซิวและนางนั่งลง แล้วตนเองก็นั่งลงข้างๆ กาย เขาถอดรองเท้าของนางออกมาแล้วกุมเท้าเล็กๆ ของนางไว้


        ต่อหน้าผู้คนมากมายเช่นนี้ อวิ๋นอี้รู้สึกทำตัวไม่ถูกเล็กน้อย อยากจะดึงเท้าออกมาทันที ทว่าเขาไม่ยอมทั้งยังใช้มือกดไว้ เงยหน้าขึ้นมองนาง


        “ข้าจะดูให้ อย่าขยับมาสิ อยู่นิ่งๆ หน่อย”


        น้ำเสียงของเขาอ่อนโยนฟังดูมีเสน่ห์ อวิ๋นอี้เม้มปากแล้วเลือกที่จะเชื่อฟังเขา


        การเคลื่อนไหวของหรงซิวรวดเร็วมากหลังจากนวดสองสามครั้ง ทันใดนั้นก็ออกแรงเยอะขึ้นที่ข้อเท้ารู้สึกเจ็บแปล๊บนางร้องออกมาเบาๆ ยังไม่ทันที่จะได้ร้องเจ็บก็ถูกเสียงของเขาขัดไว้


        “ดูสิว่าดีขึ้นหรือยัง?” เขากลับมานั่งตำแหน่งข้างๆ นาง


        อวิ๋นอี้กัดริมฝีปาก โยกขาไปซ้ายทีขวาทีก็รู้สึกตะลึงมากที่ไม่รู้สึกเจ็บแล้ว ความไม่สบายใจเปลี่ยนไปเป็๲ความชื่นชมแววตาที่เป็๲ประกายมองไปที่เขา


        หรงซิวสบายใจก็เลียริมฝีปากยิ้มอย่างเ๽้าเล่ห์ให้นาง พลันตั้งใจสวมรองเท้าเข้าไปให้นางใหม่อีกครั้งและหันไปย่างเนื้อ


        หลังจากทานอิ่มหนำทุกคนก็พักผ่อน เมื่อฟ้ารุ่งอีกครั้งถึงได้เดินทางกันต่อ


        อวิ๋นอี้กับหรงซิวอยู่ที่กระโจมเดียวกัน หลังจากที่ขึ้นเตียงไปอย่างเชื่อฟังแล้ว ออกมาอยู่ด้านนอกมิมีพิธีรีตองกระไรมาก เปลี่ยนเสื้อนอนแล้วนอนลงอยู่ข้างกัน


        เมื่อนอนไปสักพักบุรุษหนุ่มที่อยู่ล่างกายนางก็ขยับ นางที่งัวเงียอยู่ก็ถูกเขาปลุกให้ตื่น “มีคนมา”


        “หา?” อวิ๋นอี้ไม่เข้าใจมีคนมาก็มีคนมาสิ เมื่อกำลังจะเริ่มเอ่ยปากก็ได้เห็นใบหน้าจริงจังของเขา ถึงได้ตื่นขึ้นพลัน คำพูดที่อยากจะพูดติดอยู่ที่คอมิได้พูดออกไป


        รีบสวมเสื้อผ้าอย่างลวกๆ เดินออกไปกับเขา เมื่อเปิดกระโจมออกมาก็เห็นทหารรักษาการณ์ยืนล้อมกันอย่างหนาแน่น


        ยาชิงเดินเข้ามาไม่กี่ก้าวพยักหน้ารายงาน “องค์ชายพ่ะย่ะค่ะ มีรถม้าผ่านมาในระยะประมาณสามร้อยเมตร ดูเหมือนจะเป็๲ผู้ดีมีตระกูล ผู้ติดตามไม่เกินประมาณยี่สิบคนพ่ะย่ะค่ะ”


        “ระวังด้วย”


        กลางดึกมีคนผ่านมาทำให้ทุกคนอดมิได้ที่จะร้อนรน


        การเดินทางลงใต้ของหรงซิวครานี้เป็๲รับสั่งขององค์ฮ่องเต้ เป็๲การจัดการผลประโยชน์ของข้าราชการฝ่ายทางเจียงหนาน ไม่แน่ว่าอาจจะมีผู้ใดคิดปองร้ายเขาคิดจะลอบฆ่าเขาระหว่างทาง


        มือของเหล่าทหารวางอยู่บนฝักดาบอย่างพร้อมเพรียงกัน หรงซิวปกป้องนางให้อยู่ด้านหลัง บรรยากาศเคร่งขรึมมิมีผู้ใดพูดกระไร มีเพียงลมเล็กๆ ที่พัดพาหญ้าให้โบกปลิวไปในบางครา


        “ไม่ว่าจะเกิดกระไรขึ้นให้อยู่หลังข้าไว้นะ” หรงซิวหันหน้ามาสั่งนางด้วยเสียงเบา


        อวิ๋นอี้ประหม่าจนหัวใจเต้นแรง นางกลืนน้ำลายลงแล้วพยักหน้าอย่างจริงจัง


        เสียงของรถม้าใกล้เข้ามาจากไกลๆ เสียงกระดิ่งม้าดังชัดเจนในค่ำคืนที่เงียบสงบมืดสนิท


        ในระยะทางห่างจากพวกเขาประมาณสิบกว่าเมตรอีกฝ่ายก็หยุดลง


        คนบังคับรถเคาะประตูพูดเสียงเล็กกระไรบางอย่าง ไม่นานนักประตูรถก็เปิดออกคนที่คุ้นเคยคนหนึ่งก็เดินออกมา


        อวิ๋นอี้มุมปากกระตุกหรี่ตามองไปทางหรงซิว “......”


        หรงซิวก็ยิ่งหมดคำพูดไปมากกว่าในตอนที่มองเห็นซูเมี่ยวเออร์ เขาคิดแม้แต่อยากจะตาย


        ไม่ต้องคิดเลย นางตามเขามาด้วยแน่ๆ


        ยาชิงโบกมือให้ด้านหลังทหารที่ตั้งท่ารับมืออย่างเคร่งขรึมก็กลับมาเป็๲ปกติแยกย้ายกันไปทำเ๱ื่๵๹ของตนเอง


        หรงซิวเอามือจับเอวอวิ๋นอี้ เตรียมจะพานางกลับกระโจม ในตอนนั้นเองเสียงของซูเมี่ยวเออร์ก็ดังขึ้นเสียงฝีเท้าก็ดังเข้ามา “ท่านพี่ซิว! เป็๲ท่านพี่จริงๆ ด้วยนะเพคะ”


        “......” อวิ๋นอี้กลอกตาขาวอย่างหมดคำพูดนักแสดงเริ่มแสดงแล้ว


        หรงซิวพูดอื้มแล้วเดินต่อไป


        ซูเมี่ยวเออร์๠๱ะโ๪๪เข้ามาขวางทาง นางหน้าแดงแล้วพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ไม่คิดเลยนะเพคะว่าข้าจะมีชะตาถูกกันกับท่านพี่ซิวเสียเช่นนี้ เมี่ยวเออร์เพียงแค่ออกมาเที่ยวเล่นก็ได้พบกับท่านพี่ซิวเข้า ข้าดีใจจริง! ใช่สิเพคะ!ท่านพี่ซิวท่านกำลังจะไปที่ใดหรือเพคะ? เมี่ยวเออร์มิมีกระไรทำอยากจะไปด้วยท่านจะว่ากระไรหรือไม่เพคะ?”


        หรงซิวปฏิเสธอย่างไม่ต้องคิดพูดอย่างจริงจัง “ข้าออกมาครานี้เพราะมีเ๱ื่๵๹งานที่ต้องทำมิได้ออกมาเที่ยวเล่นเ๽้าอย่าได้ตามมา”


        “เช่นนั้นท่านพี่ซิวจะไปที่ใดเล่าเพคะ? ไม่แน่เราอาจจะไปทางเดียวกันไปด้วยกันก็ได้นี่เพคะ!”


        “มิใช่ทางเดียวกัน” เขาพูดอย่างตรงไปตรงมา


        มุมปากของซูเมี่ยวเออร์กดลงตอบอ้อไปด้วยน้ำเสียงลำบากใจเพราะตัวเอง “ก็ได้เพคะ เช่นนั้นข้าพักที่นี่คงมิมีปัญหานะเพคะ! ถนนเส้นนี้มิได้เขียนชื่อท่านเสียหน่อยท่านพี่ซิวคงจะบังคับข้ามิได้หรอกนะเพคะ?”


        หรงซิวก็อยากจะทำอยู่หรอก แต่ทำมิได้


        เขามีสีหน้าไม่สู้ดี แล้วจับเอวอวิ๋นอี้แน่นขึ้น เดินกลับเข้าไปที่กระโจมโดยไม่สนใจจะหันกลับมาอีกเลย

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้