กุบกับ! กุบกับ! กุบกับ! กุบกับ!...
บนถนนสายหลัก ม้าหนุ่มพุ่งทะยานไปข้างหน้า เสียงเกือกม้ากระทบพื้นถนน
บุรุษในอาภรณ์สีฟ้าบนหลังม้า ชายอาภรณ์สะบัดไปตามแรงลม
ด้านหลังของเขามีม้าอีกสองตัวติดตามมาไม่ใกล้ไม่ไกลนัก และระหว่างม้าสองตัวยังมีระยะห่างกันอย่างไม่ใกล้ไม่ไกลเช่นกัน
พวกเขามิใช่ใครอื่น แต่เป็ลั่วหยิ่งและโจวหมัวมัวที่สะกดรอยตามเขามานั่นเอง!
“เป็ไปอย่างที่ฝ่าาคาดไว้จริงๆ ขอเพียงติดตามคุณชายมู่จะต้องหาตัวฮองเฮาพบ!” ลั่วหยิ่งคิดในใจ
“ข้าอยากจะดูนักว่า คนเลวทรามต่ำช้าเช่นฮองเฮาจะไปซ่อนตัวที่ไหน!” โจวหมัวหัวเราะเสียงเหี้ยม
ม้าสามตัวควบไปข้างหน้ามุ่งหน้าสู่ป่าแห่งหนึ่ง ผ่านไปราวๆ ครึ่งชั่วยาม บุรุษในอาภรณ์สีฟ้าพลันดึงสายบังเหียนกะทันหัน เขาหยุดม้า
ลั่วหยิ่งที่ติดตามมาด้านหลังรีบหยุดม้าลงเช่นกัน
โจวหมัวมัวเห็นเช่นนั้นจึงรีบดังสายบังเหียนเช่นกัน
มู่ชิงเซียวพลันหยุดม้าลง เพราะเขานึกถึงเื่หนึ่งขึ้นมาอย่างกะทันหัน ด้วยสติปัญญาและความฉลาดเฉลียวของฮ่องเต้ จู่ๆ ฮองเฮาก็หายตัวไป เหตุใดเขาจึงไม่ตามหาตัวอย่างเปิดเผย ทั้งๆ ที่เขารู้ว่าตนและเฉียนเฉี่ยนมีไมตรีต่อกันไม่สามัญ เขายังปล่อยให้ตนจากมาอย่างง่ายดาย นี่มันไม่สมเหตุสมผล!
เขาหยุดม้าลงกะทันหัน จากนั้นได้ยินเสียงม้าร้องจากการหยุดลงกะทันหันดังขึ้นจากด้านหลัง ครานี้เขาเข้าใจทั้งหมดทันที!
เป็ไปอย่างที่เขาคาดไว้ ฝ่าาให้คนสะกดรอยตามเขา เขาเกือบจะเปิดเผยร่องรอยของเฉียนเฉี่ยนเสียแล้ว
เขากุมสายบังเหียนไว้ในมือแน่น เขาค่อยๆ บังคับม้าให้หันกลับมาแล้ววิ่งย้อนกลับไปตามทางเดิม
ลั่วหยิ่งคิดไม่ถึงว่าเขาจะหันหัวกลับมากะทันหันเช่นนี้ เขารีบบังคับม้าของตนหลบเข้าไปในป่าลึกทันที
ทันทีที่เขาหาที่ซ่อนตัว โจวหมัวมัวที่ติดตามมาด้านหลังจึงปรากฏตัวขึ้นเบื้องหน้าสายตาทันที คนทั้งสองประจันหน้ากัน จากนั้นต่างคนต่างหาที่หลบซ่อนตัว กระทั่งมองส่งมู่ชิงเซียวควบม้าผ่านไปจนลับหายไปจากสายตา
“แย่แล้ว เขารู้ตัวแล้วใช่หรือไม่?” ลั่วหยิ่งขมวดคิ้วลอบรู้สึกว่าแย่แล้ว
กลับไปถึงวังหลวง ลั่วหยิ่งรีบไปรายงานผลในห้องทรงพระอักษร
เซวียนหยวนเช่อฟังเื่ราวที่ลั่วหยิ่งบอกเล่า ดวงตาเรียวยาวนั้นหรี่ลง ในั์ตาดำขลับนั้นปรากฏให้เห็นความเฉียบขาด ดูแล้วคล้ายผิวน้ำที่นิ่งสนิทไม่เคลื่อนไหว แต่ในแววตานั้นคมปลาบประหนึ่งดวงตาของพญาอินทรี “องค์หญิงหลานซินถึงกับส่งคนสะกดรอยตาม? สตรีที่ไม่สงบเสงี่ยมเจียมตนนางนี้ เจิ้นให้อภัยนางครั้งแล้วครั้งเล่า คิดว่านางยังพอจะมีประโยชน์อยู่บ้าง นางถึงกับลงมือกับฮองเฮาอย่างโเี้ ช่างเป็การรนหาที่ตายโดยแท้!”
เขากำมือเป็หมัดแน่นแล้วพูดด้วยน้ำเสียงเ็า “เหมืองแร่ของซีซานมิใช่ขาดแคลนคนอยู่หรือ? โจวหมัวมัวมีวรยุทธ์สูงส่ง คนหนึ่งมีความสามารถเท่ากับสิบคน ให้นางไปช่วยงานที่เหมืองแร่ก็แล้วกัน จะได้ไม่ต้องให้นางอยู่ในวังไม่มีงานทำ วิ่งวุ่นวายไปมา!”
ลั่วหยิ่งอดที่จะเศร้าสลดใจแทนโจวหมัวมัวไม่ได้ ครั้งนี้นางได้รับความยากลำบากแล้ว
เซวียนหยวนเช่อพูดอีกว่า “สำหรับหลานเฟย ให้นำราชโองการของเจิ้นไป กักบริเวณเป็เวลาสามเดือน ห้ามก้าวออกจากตำหนักยีหลันแม้เพียงครึ่งก้าว!”
เขาจะปล่อยให้นางมีโอกาสทำร้ายเฉียนเฉี่ยนไม่ได้อีกเด็ดขาด!
ผู้หญิงของเขา เขายังหักใจทำร้ายไม่ได้ จะยอมให้คนอื่นทำร้ายนางแม้เพียงปลายก้อยได้อย่างไรกัน?
“พ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมน้อมรับบัญชา!” ลั่วหยิ่งตั้งสติ ฝ่าาลงมือกับหลานเฟยเหนียงเหนียงแล้วในที่สุด ดูท่าครั้งนี้ฝ่าาทรงกริ้วแล้วจริงๆ!
เหนียงเหนียงหนอเหนียงเหนียง ท่านเห็นถึงความจริงใจของฝ่าาที่มีต่อท่านแล้วหรือไม่?
เนิ่นนาน ได้ยินเซวียนหยวนเช่อพูดขึ้นมาอีกว่า “มู่ชิงเซียวออกจากเมือง จะต้องไปตามหาฮองเฮาแน่นอน เขาพบว่ามีคนสะกดรอยตาม ดังนั้นจึงย้อนกลับมา! หากเป็ไปตามที่เ้าบอกเล่ามา เส้นทางนั้นแบ่งออกไปยังสามสถานที่ แคว้นหนานเยียน เมืองเทียนเซียง หรือไม่ก็...สำนักศึกษาเทียนหง!”
เขาหยุดไปครู่หนึ่งแล้วครุ่นคิด แล้วเอ่ยว่า “เ้าส่งคนออกไปมากหน่อย แบ่งไปตามสามเส้นทางที่ว่า ต่อให้ต้องขุดดินลงไปสามฉื่อก็ต้องหาฮองเฮาให้พบ!”
“พ่ะย่ะค่ะฝ่าา!” ลั่วหยิ่งรับคำสั่งแล้วออกไป
“ช้าก่อน!” เซวียนหยวนเช่อกล่าวอีกว่า “ทันทีที่พบร่องรอยของฮองเฮา จำไว้ว่าอย่าเพิ่งแหวกหญ้าให้งูตื่น ให้ลอบสังเกตการณ์เงียบๆ ก็พอ เจิ้น้าไปรับนางกลับมาด้วยตัวเอง!”
ลั่วหยิ่งตะลึงงัน แล้วรีบตอบทันที “พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าา! กระหม่อมจะทำให้สำเร็จพ่ะย่ะค่ะ!”
หลังจากลั่วหยิ่งออกไป ปลายนิ้วเรียวยาวของเซวียนหยวนเช่อยังคงเคาะอยู่บนโต๊ะ ใบหน้าคมสันของบุรุษนั้นปรากฏให้เห็นความไม่พึงใจเป็พักๆ “เฉียนเฉี่ยน เ้าติดตามศิษย์น้องของเจิ้นไปแคว้นหนานเยียนจริงๆ หรือเพียงคิดจะห่างจากเจิ้น ไม่้าให้เจิ้นหาเ้าพบเท่านั้น?”
ตำหนักยีหลัน โจวหมัวมัวเล่าเื่ราวที่ตนไปสะกดรอยตามมา องค์หญิงหลานซินถอนใจด้วยความเสียดาย “อีกนิดเดียวก็จะรู้ว่าฮองเฮาอยู่ที่ไหนแล้ว น่าเสียดายจริง!”
โจวหมัวมัว “องค์หญิงวางใจเพคะ บ่าวได้ส่งคนไปจับตามองจวนสกุลมู่ไว้แล้ว ขอเพียงคุณชายมู่ออกจากจวนสกุลมู่ก็จะมีคนมารายงานบ่าวทันทีเพคะ”
องค์หญิงหลานซินพยักหน้า “ในเมื่อฝ่าาเองยังแน่ใจว่าคุณชายมู่รู้แน่นอนว่าฮองเฮาอยู่ที่ใด ขอเพียงพวกเราจับตามองคุณชายมู่เอาไว้ย่อมไม่ผิดพลาดเด็ดขาด!”
“เพียงแต่บ่าวกังวลเื่หนึ่งเหลือเกินเพคะ...” โจวหมัวมัวใจตุ้มๆ ต่อมๆ
“มีอะไร?” องค์หญิงหลานซินถาม
โจวหมัวมัวตอบว่า “ระหว่างที่บ่าวกำลังสะกดรอยตามคุณชายมู่ ไม่ทันระวังทำให้องครักษ์ลั่วพบเห็นเพคะ บ่าวเกรงว่า...”
องค์หญิงหลานซินขมวดคิ้วแน่น “เ้าว่าอะไรนะ? เ้าถูกคนอื่นพบเห็นเข้า?”
ทว่านางกลับมีท่าทีผ่อนคลายลงอย่างรวดเร็ว “ไม่เป็ไรหรอก ต่อให้ฝ่าารู้ว่าเ้าสะกดรอยตามคุณชายมู่ เขาก็ไม่ทำอะไรเ้า ไม่เห็นแก่หน้าพระพุทธรูปก็ต้องเห็นแก่หน้าพระสงฆ์ ข้าเป็ถึงองค์หญิงแห่งแคว้นหนานเยียน เขายังไม่กล้าทำอะไรข้าหรอก”
ด้านนอกประตูพลันมีเสียงวุ่นวายเกิดขึ้น “องครักษ์ลั่ว ท่านเข้าไปไม่ได้นะ หลานเฟยเหนียงเหนียงกำลังพักผ่อนอยู่!”
ทันทีที่สิ้นเสียง ประตูถูกผลักให้เปิดออกทันใด ลั่วหยิ่งนำองครักษ์เสื้อเกราะมาหน่วยหนึ่ง ปรากฏตัวหน้าประตู
องค์หญิงหลานซินตกตะลึงนางตวาดเสียงเฉียบขาด “บังอาจ! ใครอนุญาตให้เ้าบุกเข้ามา?”
ลั่วหยิ่งประสานมือพูดด้วยท่าทีเรียบเฉย “หลานเฟยเหนียงเหนียง กระหม่อมน้อมรับพระบัญชาฝ่าา เชิญตัวโจวหมัวมัวเดินทางไปซีซานสักเที่ยว!”
“ซีซาน? ไปซีซานทำอันใด?” องค์หญิงหลานซินไม่เข้าใจ
ลั่วหยิ่งตอบ “ตามที่ฝ่าาทรงตรัส เหมืองแร่ที่ซีซานขาดแคลนกำลังคนมาโดยตลอดมิใช่หรือ โจวหมัวมัวมีวรยุทธ์สูงส่ง คนหนึ่งเทียบเท่ากำลังสิบคน ก็เลยให้นางไปช่วยงานที่เหมืองแร่ นางจะได้ไม่ต้องว่างงานไม่มีอะไรทำ วิ่งวุ่นวายไปทั่ว!”
โจวหมัวมัวสีหน้าเผือดขาวทันที นางพูดตะกุกตะกัก “ซี เหมืองแร่ซีซาน?”
องค์หญิงหลานซินตกตะลึงเช่นกัน นางไม่อยากเชื่อ “เ้าพูดอะไรนะ? ฝ่าา้าให้โจวหมัวมัวไปทำงานในเหมืองแร่ที่ซีซาน? นี่จะได้อย่างไรกัน? สุขภาพของโจวหมัวมัวจะทนรับไหวได้อย่างไร?”
ลั่วหยิ่งไม่ใจอ่อนยังคงทำตามหน้าที่ “กระหม่อมเพียงแค่ทำตามพระบัญชาเท่านั้น เหนียงเหนียงมีความเห็นเป็อื่นหรือไม่พอใจ ให้ไปพูดกับฝ่าาเองพ่ะย่ะค่ะ!”
เขาโบกมือพูดเสียงเย็น “เด็กๆ ส่งโจวหมัวมัว!”
ทันทีที่เขาออกคำสั่ง องครักษ์เสื้อเกราะที่รออยู่สองนายก้าวเข้ามาข้างหน้าทันที พวกเขาหิ้วปีกซ้ายและปีกขวาของโจวหมัวมัว การกระทำเช่นนี้เรียกว่าส่งที่ไหนกัน ที่มันควบคุมตัวชัดๆ!
“องค์หญิง! ช่วยบ่าวด้วยเพคะ!” โจวหมัวมัวดิ้นรน วรยุทธ์ของนางเดิมก็ไม่สามัญอยู่แล้ว ลำพังเพียงแค่องครักษ์สองนายไหนเลยจะควบคุมนางได้
ขณะที่นางกำลังจะดิ้นหลุดนั้น ลั่วหยิ่งฉวยโอกาสที่นางไม่ทันได้ป้องกัน สกัดจุดนาง ทำให้นางเคลื่อนไหวไม่ได้
องค์หญิงหลานซินโกรธแค้น “ลั่วหยิ่ง เ้าถึงกับกล้า? ในสายตาของเ้ามีเปิ่นกงอยู่หรือไม่?”
สีหน้าของลั่วหยิ่งไม่บ่งบอกอารมณ์ “เหนียงเหนียง กระหม่อมฟังเพียงพระบัญชาของฝ่าาเท่านั้น! กระหม่อมไม่กล้าฝ่าฝืนพระบัญชาของฝ่าา ยิ่งไม่กล้าอิดออดเสียเวลา หวังว่าเหนียงเหนียงจะไม่ขัดขวางการทำงานของกระหม่อม! เด็กๆ นำตัวไป!”
นี่มันแทบจะไม่ไว้หน้ากัน!
โจวหมัวมัวเองก็ทึ่มทื่อเช่นกัน ครั้งนี้กระทั่งองค์หญิงก็ช่วยนางไม่ได้เช่นนั้นหรือ?
“องค์หญิง ช่วยข้า”
องค์หญิงหลานซินวิ่งตามออกมาตลอดทาง “โจวหมัวมัว! โจวหมัวมัว!”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้