น้ำเสียงเ็าของฮองเฮาอวี่เหวินฉายชัดถึงความประชดประชันอย่างจงใจ และไม่ปิดบังแม้แต่น้อย
ฉางหงเยียนใช้สายตามองผ่านอูเสียนอ๋องตรงหน้า สายตาเห็นมุมปากของฮองเฮาอวี่เหวินยกยิ้มเล็กน้อย พริบตาต่อมา แม้แต่สายตาที่มองอูเสียนอ๋องยังสั่นไหวเล็กน้อย ฮองเฮาอวี่เหวินจะต้องไม่ยอมปล่อยเื่นี้แน่...
อย่างที่คิด ฮองเฮาอวี่เหวินเพิ่งจะกล่าวจบ พลันกล่าวต่อไปว่า “ไม่กล้าทำอีกงั้นหรือ กล่าวว่าจะไม่กล้าทำอีกใช่จะชดเชยกลับมาได้หรือไร? อูเสียนอ๋องพูดไปหมดแล้วว่า องค์หญิงหงเยียนทำเื่ไร้ยางอาย ตามกฎธรรมเนียมของหนานเยวี่ยจะต้องถ่วงลงแม่น้ำ ได้ยินเสมอมาว่าแคว้นหนานเยวี่ยเองก็เป็แคว้นที่มีจริยธรรม หากละเว้นโทษองค์หญิงหงเยียนในเื่นี้ เช่นนั้นช่างทำให้เปิ่นกงเปิดหูเปิดตานัก ที่เรียกกันว่าแคว้นที่มีจริยธรรมก็มิค่อยเท่าใดนัก”
ระหว่างที่ฮองเฮาอวี่เหวินตรัส สายตาจับจ้องฉางไทเฮาอย่างลึกลับ ความหมายชัดเจนอย่างยิ่ง
เื่ในวันนี้ ถึงแม้ฉางไทเฮาจะจัดแจงแย่งอำนาจใส่มือของหนานเยวี่ย ทว่าก็อย่าได้คิดว่ามันจะง่ายดายเช่นนั้น
“ไม่ ท่านอ๋อง...ฮองเฮาเพคะ...” ในใจของฉางหงเยียนตื่นตระหนกยิ่งกว่าเดิม นางคุกเข่าลงเบื้องหน้าพระพักตร์ฮองเฮาอวี่เหวินอย่างตื่นกลัว นางรู้ว่าชีวิตของนางในยามนี้อยู่ในกำมือของสตรีตรงหน้า แทบจะไม่ต้องครุ่นคิด ฉางหงเยียนโขกศีรษะคำนับฮองเฮาอวี่เหวินอย่างหนักหน่วง “ฮองเฮาเพคะ ขอพระนางโปรดทรงละเว้นโทษหงเยียนด้วยเถิดเพคะ หงเยียนไม่ขอเป็พระชายามู่แล้ว หงเยียนเลอะเลือน หงเยียน...”
การกระทำอย่างกะทันหันของฉางหงเยียน ทำให้ผู้คนรอบข้างต่างตื่นใ ในความทรงจำของพวกเขา องค์หญิงแคว้นหนานเยวี่ยผู้นี้สง่างามและเย่อหยิ่ง ทว่ายามนี้ความมีเสน่ห์สง่างามดังวันวานไปอยู่ที่ใดแล้ว?
และคำพูดของนาง...พระชายามู่ ‘มู่หวังเฟย’
“องค์หญิงหงเยียน ยามนี้แล้วเ้ายังคิดอยากจะขึ้นเป็พระชายามู่อีกหรือ หึ ช่างไม่เจียมตัว พอแล้ว เ้าอย่าได้ขอร้องเปิ่นกง หากเ้าเป็องค์หญิงแคว้นเป่ยฉีของเปิ่นกง คงจะสั่งโบยเ้าเสียตรงนี้ทันทีเพื่อรักษาหน้าตาของบ้านเมือง ทว่าเ้าโชคดีนัก มีแคว้นหนานเยวี่ยกับฉางไทเฮาคอยปกป้อง ฮ่าๆ...”
ฮองเฮาอวี่เหวินทรงพระสรวลเบาบาง ครั้นเอ่ยถึงตรงนี้ นางเบนสายตาไปมองฉางไทเฮา แฝงความหมายลึกซึ้งในรอยยิ้ม “เสด็จพี่สะใภ้ เื่ของฉางหงเยียนให้แคว้นหนานเยวี่ยของท่านจัดการก็ได้ เพียงแต่...แคว้นหนานเยวี่ยทำเื่อับอายให้เป่ยฉีของข้า เปิ่นกงจะต้องพินิจให้รอบคอบ และคิดดูว่าจะซักไซ้ไล่เลียงอย่างไร”
หนานเยวี่ยทำให้เป่ยฉีอับอาย?
ทุกคนล้วนได้ยิน สีหน้าต่างแปรเปลี่ยนต่างกันไป พวกเขานึกไม่ถึงเลยว่าฮองเฮาอวี่เหวินจะเฝ้ารอสิ่งนี้อยู่
เหตุการณ์ในยามนี้ เดิมทีเป็ได้ทั้งเื่ใหญ่และเื่เล็ก
พูดให้เป็เื่เล็กก็แค่ความรักความชอบของชายหญิง
พูดให้เป็เื่ใหญ่ เดิมทีแคว้นหนานเยวี่ยส่งฉางหงเยียนมาเพื่อจะเกี่ยวดอง ทว่าคนที่อยากจะมาเกี่ยวดองกลับทำเื่วุ่นวายงามหน้าเช่นนี้ ลักลอบเป็ชู้กับองครักษ์อย่างโจ่งแจ้ง ทั้งยังถูกเห็นอย่างบังเอิญ นี่มิใช่เป็การดูิ่หน้าตาของแคว้นเป่ยฉีหรอกหรือ?
หากว่าฮองเฮาอวี่เหวินประสงค์จะขยายการสอบสวนสถานการณ์นี้ก็เป็เื่ที่สมเหตุสมผล
ภายในพระทัยของฉางไทเฮากระตุกไปครู่หนึ่ง นางกำผ้าเช็ดหน้าแน่น อวี่เหวินซินผู้นี้ ช่างน่ารังเกียจเสียจริง!
วันนี้แต่ละย่างก้าวช่างกดดันอย่างยิ่ง แทบจะทำให้นางไร้หนทางเดินต่อ ทว่าในยามนี้ นางยังจะทำอย่างไรได้?
ถึงแม้จะแอบวางแผนลับๆ ชั่วขณะหนึ่ง ฉางไทเฮาก็ยังไร้ความเห็น
ทุกคนล้วนกลั้นหายใจ จ้องมองทุกอย่างในห้อง แทบทุกคนต่างเข้าใจดีว่า นี่เป็การประมือระหว่างฮองเฮาและไทเฮาของแว่นแคว้น และฉางหงเยียนที่อยู่ในช่องว่างนี้ เกรงว่าจะเป็ได้เพียงเหยื่อชิ้นหนึ่งเท่านั้น
สายตาของเหนียนยวี่เหลือบมองฉางหงเยียนผู้ซึ่งกำลังคุกเข่าอยู่บนพื้น เป็อย่างที่คิด เสียงของฉางไทเฮาพลันดังขึ้นมาอย่างไม่เร่งรีบ...
“ฮองเฮากล่าวผิดแล้ว ไม่ว่าจะเป็ข้า หรือแคว้นหนานเยวี่ย ล้วนไม่มีผู้ใดปกป้องฉางหงเยียน ข้าคิดเช่นเดียวกับฮองเฮา เื่นี้ไม่เพียงแต่เกี่ยวข้องกับหน้าตาของเป่ยฉี แต่ยังเกี่ยวข้องกับหน้าตาของหนานเยวี่ยเช่นกัน ในเมื่ออูเสียนอ๋องเองก็กล่าวไปแล้ว ตามกฎธรรมเนียมของหนานเยวี่ย หงเยียนทำเื่เช่นนี้ สมควรถ่วงลงแม่น้ำ เช่นนั้นก็ถ่วงลงแม่น้ำเถิด ไม่ว่าอย่างไรย่อมต้องให้คำอธิบายแก่แคว้นเป่ยฉี และปกป้องหน้าตาของหนานเยวี่ย!”
ครั้นเอ่ยจบ ฮองเฮาอวี่เหวินพลันยกยิ้มมุมพระโอษฐ์ ฉางหนิงนังสตรีชั่วช้าผู้นี้ ยอมประนีประนอมจริงหรือ?
หึ นางเองก็มี่เวลาที่ยอมประนีประนอมเช่นกัน ช่างหายากเสียจริง!
ภายในพระทัยของฮองเฮาอวี่เหวินมีความสุขมาก ทว่าสีหน้าของฉางไทเฮากลับดำมืด สายตาดุดันตวัดมองฉางหงเยียน พร้อมกับกล่าวอย่างเ็า “ทหาร คุมตัวสตรีไร้ยางอายผู้นี้!”
ฉางไทเฮาออกคำสั่ง ทหารรักษาการณ์ของหนานเยวี่ยที่คอยเฝ้าอยู่ด้านนอกจึงรีบเข้ามาในห้องทันทีด้วยท่าทางที่ดูดุร้าย ชั่วขณะหนึ่ง ฉางหงเยียนนิ่งอึ้งไป จนกระทั่งทหารสองคนเข้ามาคว้าข้อมือนาง นางจึงได้สติกลับมา
"ไม่... " ฉางหงเยียนเอ่ยปากตามจิตใต้สำนึกทันที ดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความตื่นตระหนกหวาดกลัว ส่ายหน้าไม่หยุด “ไม่นะ ไทเฮาละเว้นชีวิต...ละเว้นชีวิตหม่อมฉันด้วย...”
นางไม่อยากตาย!
ทว่ายามนี้ ฉางไทเฮาทรงกล่าวอย่างชัดเจนแล้วว่า้าจะทอดทิ้งนาง...
นางควรจะทำอย่างไร?
ทหารลากฉางหงเยียนออกไป ทว่าทันทีที่เดินไปถึงประตู ฮองเฮาอวี่เหวินกลับเอ่ยออกมาอย่างเ็าว่า "ช้าก่อน!"
ทหารเฝ้ารักษาการณ์พลันชะงักฝีเท้า ร่างกายของฉางหงเยียนชะงักงันเล็กน้อย รู้สึกมีความหวังเบาบางขึ้นมาทันใด ทว่า...นั่นจะใช่ความหวังจริงหรือ?
ชั่วขณะหนึ่ง ทุกคนหันไปมองฮองเฮาอวี่เหวิน บรรยากาศดูตึงเครียด แม้แต่ฉางไทเฮายังกลั้นหายใจ จับจ้องฮองเฮาอวี่เหวินอย่างใกล้ชิด
ผ่านไปชั่วครู่ใหญ่ ฮองเฮาอวี่เหวินเดินไปที่ด้านข้างของฉางหงเยียน ก้มมองหญิงสาวที่ดูจนตรอกอย่างเย่อหยิ่ง “เสด็จพี่ไทเฮา้าจะคุมตัวนางไปที่ใด?”
"ย่อมต้องลงโทษโดยการพาถ่วงลงแม่น้ำ!" ฉางไทเฮาเอ่ยปาก
“ถ่วงลงแม่น้ำ? ผู้ใดจะรู้ว่าเมื่อออกไปจากเขตพำนักแล้ว คนพวกนี้จะหายไปอย่างไร้ร่องรอยหรือไม่” ฮองเฮาอวี่เหวินทรงพระสรวลแ่เบา ไม่ปิดบังความไม่ไว้ใจของนางเลยแม้แต่น้อย ฉางหนิงตัดสินใจจะปะาฉางหงเยียนขึ้นมาอย่างกะทันหัน กลับทำให้นางเกิดสงสัย นางจะไม่มีทางปล่อยให้ฉางหนิงได้มีโอกาสเล่นลูกไม้อันใดเด็ดขาด
สีพระพักตร์ของฉางไทเฮาพลันมืดมน ความไม่พอใจผาดผุดบนพระพักตร์ “เช่นนั้นฮองเฮาว่าควรจะทำอย่างไร?”
ครั้นกล่าวออกไป ฉางไทเฮาพลันรู้สึกเสียใจ นางโยนอำนาจใส่มือฮองเฮาอวี่เหวินอย่างไม่ต้องสงสัย
เป็อย่างที่คิด ฮองเฮาอวี่เหวินแย้มสรวลพึงพอใจ “ในเมื่อเสด็จพี่ไทเฮาเชื่อเปิ่นกงเพียงนี้ เช่นนั้นเปิ่นกงจะบอกให้ฟัง ต่อให้ฉางหงเยียนต้องตาย ก็พาไปถ่วงแม่น้ำเช่นนี้ไม่ได้ มิสู้เอาอย่างนี้ดีกว่า ให้องค์หญิงหงเยียนเข้าไปในคุกหลวงเสียก่อน และพาบุรุษที่ลักลอบคบชู้ผู้นั้นไปด้วย!”
"ไม่ได้!"
ทันทีที่ฮองเฮาอวี่เหวินตรัสจบ ฉางไทเฮาพลันกล่าวขัดบทอย่างรวดเร็ว แม้แต่อูเสียนอ๋องยังก้าวไปข้างหน้า ใบหน้าร้อนรนมากขึ้นยิ่งกว่าเมื่อครู่นี้
การกระทำอันละเอียดอ่อนของทั้งสองคนนี้อยู่ในสายตาของผู้คน คนในเหตุการณ์มิได้โง่เขลาไปเสียหมด ฉางไทเฮาที่ดุดันขึ้นมาอย่างกะทันหัน มิใช่เพราะเื่ของฉางหงเยียนอย่างแน่นอน
มิใช่เพราะฉางหงเยียน เช่นนั้นเป็เพราะผู้ใด?
หลายคนหันไปมององครักษ์หนานเยวี่ยที่ยืนอยู่ข้างเตียงมาโดยตลอดโดยที่แทบจะทันที ทั่วทั้งใบหน้าปกคลุมไปด้วยหนวดเครา แทบจะปกปิดทั้งใบหน้าของเขา ทว่าดวงตาคู่นั้นกลับส่องสว่างมีชีวิตชีวาเป็พิเศษ
เมื่อครู่นี้ไม่เพียงแต่ฮองเฮาอวี่เหวินกับองค์หญิงใหญ่ชิงเหอ ทว่าแม้แต่หนานกงฉี่กับฮูหยินผู้เฒ่าหนานกงยังจับตาดูบุรุษผู้นี้ ในยามนี้ความสนใจจับจ้องไปที่เขาผู้นั้นอีกครั้ง ยิ่งมองก็ยิ่งรู้ว่าคนผู้นี้ค่อนข้างแปลกประหลาด
เื่ใหญ่เช่นนี้ องครักษ์ผู้นั้นกลับไม่ตื่นตระหนก ดูเหมือนว่าั้แ่ต้นจนจบ เขายืนอยู่แต่ตรงนั้น ทั้งสายตาคู่นั้นยังฉายแววไม่พอใจและรังเกียจอย่างชัดเจน!
หึ ช่างน่าสนใจขึ้นมาเสียแล้ว!
ทุกคนพินิจมององครักษ์ผู้นี้อย่างละเอียดถี่ถ้วนยิ่งกว่าเดิม