“พวกเ้า้าอะไรกันแน่ไม่กลัวว่าจะกลายเป็ศัตรูกับสำนักหมื่นิญญาหรือยังไงกัน?” ข่าถูพยายามตะเกียกตะกายลุกขึ้นมานั่งแล้วก้มหน้าพูดอย่างยากเย็น
“ศัตรู?”
เว่ยฉือหลงส่ายหน้าพลางยิ้ม “ไม่ๆๆพวกข้าไม่ได้โง่ถึงขั้นเป็ศัตรูกับสำนักหมื่นิญญาหรอกนะ แต่ว่า...ที่นี่มันหุบเขาหลิงหยุนพวกข้าสามารถจัดการกับตาแก่อย่างเ้าได้อย่างสบายๆมิหนำซ้ำยังจะไม่มีใครรู้อีกต่างหาก...ฤทธิ์ของยาน้ำค้างประกายส้มที่ดมเข้าไปแล้วจะไม่มีทางใช้พลังิญญาได้ชั่วขณะเป็ยังไงบ้าง รู้สึกดีใช่ไหมล่ะ?”
เชวียนหยวนจิ้นและไอลาปรายตามองกันเพราะเริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัยจึงรีบวิ่งหนี
“คิดหนีอย่างนั้นเหรอ?!”
ร่างของเว่ยฉือเป้าวูบไหวเข้าหาสองคนนั้นอย่างรวดเร็วก่อนจะใช้ฝ่ามือหนักซัดเข้าไปจนพวกนั้นกลับมาอยู่ที่เดิมและกระอักเืออกมาเนื่องจากได้รับาเ็
เว่ยฉือหูขมวดคิ้วเล็กๆ ก่อนจะพูดขึ้น “ฮึ!มีลูกสาวของตระกูลใหญ่อยู่ที่นี่ถึงสองคนเลยอย่างนั้นเหรอ? แต่น่าเสียดายที่ข้าไม่ได้สนใจผู้หญิงถ้าฉลาดพอก็เอาของมีค่าในตัวพวกเ้าออกมาให้หมด!”
เชวียนหยวนจิ้นกระตุกยิ้มก่อนจะพูดขึ้น“ถึงจะเอาให้แล้วพวกข้าก็ต้องตายอยู่ดีใช่ไหม?”
“แน่นอน”
เว่ยฉือหลงหัวเราะเสียงดังแล้วพูดต่อ“แต่ข้าจะทำให้พวกเ้าได้ตายอย่างสบายๆ หน่อย”
ข่าถูได้ยินจึงพูดด้วยความเดือดดาล “พอแล้ว! ข้า...ข้ามีจินตานอยู่สามลูกหนึ่งในนั้นเป็จินตานระดับเจ็ดของเสือดาวเมฆมรกตพวกเ้าเอามันไปและถ้ากลัวว่าข้าจะกลับมาแก้แค้นก็ฆ่าข้าซะแต่ขอให้ปล่อยศิษย์พวกนั้นไป พวกเขาไม่ควรจะต้องมาตายที่นี่...”
“อย่างนั้นเหรอ?”
เว่ยฉือหลงคว้าเอาจินตานมาก่อนจะแสยะยิ้มแล้วพูดขึ้น“ยังมีของดีอะไรอีก เอาออกมาให้หมด! ”
เชวียนหยวนจิ้นถอดแหวนที่นิ้วตัวเองออกมาก่อนจะพูดขึ้น“นี่เป็แหวนประจำตระกูลเชวียน เป็อาวุธิญญาระดับทองที่ชื่อว่าแหวนกำบังขอแค่พวกเ้าปล่อยพวกข้าไป แหวนนี่ก็จะกลายเป็ของพวกเ้าทันที...”
เว่ยฉือหลงรีบไปแย่งเอามาก่อนจะหัวเราะแล้วพูดต่อ “ฮ่าๆตระกูลเชวียนนี่ช่างมีเงินมีทองเสียจริงๆนึกไม่ถึงว่าจะเอาของล้ำค่าขนาดนี้มาให้เ้าสวะนี้สวมไว้ ฮ่าๆๆ แหวนกำบังอาวุธิญญาระดับทอง ครั้งนี้ข้าต้องรวยแน่ๆ!”
ส่วนของมีค่าของหวังอี้ ไอลาหลี่สวินและหลินเค๋อก็ถูกอีกสองคนเข้ามาค้นเอาไปเหมือนกันและเมื่อของพวกนั้นถูกค้นไปจนหมด เวลาแห่งความตายของพวกนั้นก็ใกล้เข้ามา
...
หมาป่าขนทองทั้งเจ็ดจ้องมาที่ข้าเหมือนกำลังเล็งดูว่าจะฝังเขี้ยวลงไปจุดไหนถึงจะเหมาะที่สุดส่วนข้าในตอนนี้ก็ได้เรียกอาวุธิญญาอย่างกระบี่คมจันทราออกมาแล้วพลังจากวิชาลมหายัขั้นที่แปดอย่างาเทพัคุนภายในตัวเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆซึ่งพลังที่แกร่งกล้าทำให้นกกาที่เกาะอยู่บนต้นไม้ต่างพากันบินว่อนด้วยความแตกตื่นและเป็จังหวะเดียวกันกับที่คนพวกนั้นรู้ว่าข้าอยู่ตรงนี้
“พี่ใหญ่ มีขอทานอยู่ที่นี่ด้วย!” เว่ยฉือหูพูดขึ้น
“ปู้อี้เชวียน...” ไอลาพูดพลางมองด้วยสายตาที่ตกตะลึง
ส่วนข่าถูขมวดคิ้วแล้วพูดขึ้น “เ้าเด็กนี่มาอยู่ตรงนี้ได้ยังไงและยังถูกสัตว์ิญญาระดับเจ็ดล้อมเอาไว้อีก...”
“ปู้อี้เชวียน เ้านี่มัน...” เชวียนหยวนจิ้นกัดฟันพูดขึ้นมา
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับหมาป่าขนทองที่แข็งแกร่งถึงเจ็ดตัว ข้าก็ค่อยๆถอยหลังเหยียบลงไปบนกิ่งไม้แห้งจนเกิดเสียงดัง พร้อมกับกระบี่คมจันทราที่จับไว้ก็ขยับเล็กน้อยส่วนอีกมือก็หยิบกริชปลิดิญญาออกมาจากเอวซึ่งการเผชิญหน้ากับคู่ต่อสู้ที่แข็งแกร่งขนาดนี้ข้าจึงต้องใช้พลังที่มีอยู่ทั้งหมดเพราะถ้ายังออมแรงคงต้องเอาชีวิตมาทิ้งที่นี่อย่างแน่นอน
ทว่าขณะที่ข้าล้วงเอากริชปลิดิญญาออกมา เ้าหมาป่าขนทองทั้งเจ็ดตัวต่างก็มีท่าทีที่เปลี่ยนไปมันไม่ได้แสดงท่าทีดุร้ายเหมือนเดิม คือเริ่มทำหูตั้งแล้วกระดิกหางก่อนจะค่อยๆเดินเข้ามาหาข้าจมูกของมันดมกลิ่นของกริชในมือแล้วก็ส่งสายตาที่บ่งบอกว่ามันยอมสยบแก่ของสิ่งนี้ และยังเอาตัวมาถูข้าไปมาอีกด้วย!
พอเป็แบบนี้ทำให้ข้าถึงกับขนลุกพลางพูดขึ้นมาในใจ“พวกเ้าเป็ถึงสัตว์ิญญาระดับหก ไม่ใช่สุนัขสักหน่อย จะทำอะไรก็รีบลงมือเข้าสิเล่นกับข้าจนใจเต้นไม่เป็จังหวะแบบนี้สนุกมากหรือไง?”
อิ๋ง อิ๋ง...
หมาป่าตัวที่ดูจะแข็งแรงจนเกินเหตุตัวนั้นหมอบลงตรงหน้าด้วยท่าทีที่ยอมสยบหูที่ตั้งขึ้นเมื่อครูลู่ลงไปกับหัวแล้วแกว่งหางไปมา
หมาป่าอีกตัวก็ขยับเข้ามาดมกลิ่นของกริชในมือของข้าและทำเหมือนกับตัวก่อนๆไม่นานทั้งเจ็ดตัวก็อยู่ในสภาพหมอบตัวลงต่ำกับพื้นเหมือนรอคำสั่งจากข้าอย่างไรอย่างนั้น
ข้าถึงกับมึนงงกับภาพตรงหน้า นี่มันเกิดอะไรขึ้น?
และตอนนี้เองก็รู้สึกถึงพลังของกริชในมือตาทิพย์ที่เปิดโล่งมองเห็นกริชเล่มนี้กำลังเรียกและยอมรับกลุ่มของหมาป่าไม่นานก็มีแสงสีทองก็ผุดขึ้นมาจากส่วนปลายของกริช นี่มัน...ส่วนที่ดีที่สุดของการหลอมรวมกริชอย่างนั้นเหรอ?
จู่ๆก็มีเสียงคำรามของหมาป่าดังขึ้นมาจากภาพของตาทิพย์ที่ข้ากำลังมองอยู่!
ชั่วพริบตาเดียวข้าก็เข้าใจได้ทันทีว่ากริชเล่มนี้มีการหลอมและสร้างมาจากกระดูกของหมาป่าขนทองนี่เองและยังเป็ถึงหมาป่าขนทองที่พัฒนาพลังไปถึงระดับาาสัตว์ิญญาหรืออาจจะถึงขั้นจักรพรรดิแล้วด้วย!ไม่อย่างนั้นคงไม่ทำให้หมาป่าขนทองทั้งเจ็ดตัวตรงหน้ายอมสยบได้ถึงขนาดนี้ สุดยอดดูเหมือนว่ากริชปลิดิญญาจะกลายเป็สิ่งที่ช่วยชีวิตข้าเอาไว้!
ข้ายกกริชขึ้นสูงก่อนจะชี้ไปยังทหารเือินทรีทั้งสามคนนั้น“เข้าไปจัดการพวกมันซะ!”
เพียงพักเดียวหมาป่าทั้งเจ็ดที่เหมือนได้รับคำสั่งจากพระเ้าก็รีบลุกขึ้นพร้อมกับพองขนและดวงตาที่บ่งบอกถึงความดุร้ายก่อนจะเดินเข้าไปหาทั้งสามคนนั้น
...
“พี่ใหญ่ ทำไมข้ารู้สึกว่ามันแปลกๆดูเหมือนเ้าขอทานมันกำลังคุยกับหมาป่าอยู่ใช่ไหม?...” เว่ยฉือเป้าถามอย่างสงสัยก่อนจะพูดต่อด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ“หมาป่าพวกนั้นมันเดินเข้ามาแล้ว ทีนี้จะทำยังไงกันดีล่ะ?...พี่ใหญ่!”
เว่ยฉือหลงพูดขึ้นเสียงดังอย่างเดือดดาล “จะทำยังไงได้ล่ะจัดการหมาป่าพวกนั้นซะ!”
“ขอรับ!”
ทั้งสามคนพุ่งเข้าประจันหน้ากับหมาป่าทั้งเจ็ดตัวจนเกิดเสียงคำรามและเสียงที่เวทนาดังขึ้นส่วนข่าถู ไอลา เชวียนหยวนจิ้นและคนอื่นๆต่างยืนมองอย่างตกตะลึงเพราะเื่ราวมันกลับตาลปัตรอย่างคาดไม่ถึง!
ผ่านไปไม่นานแขนข้างหนึ่งของเว่ยฉือหลงก็ขาดอีกฝั่งคือเว่ยฉือหูที่ถูกหมาป่ากัดขา ส่วนคนที่น่าเวทนาที่สุดคงจะเป็เว่ยฉือเป้าเพราะถูกกัดเข้าที่คอจนเืสาดราวกับใกล้ตาย
“ใช่ ทำได้ดีมาก!”
ไอลาะโบอกเสียงดัง “กัดมันให้ตาย กัดทหารเลวๆพวกนี้ให้ตายไปเลย!”
ข้าไม่ได้ลงมือแต่กระชับกระบี่คมจันทราเอาไว้แน่นเพียงพักเดียวก็รับรู้ได้ถึงพลังอันมหาศาลที่กำลังใกล้เข้ามา ไม่นานใครคนหนึ่งก็ลอยออกมาจากยอดไม้ และยังเป็คนที่แข็งแกร่งมากทีเดียว!
ฟู่ ฟิ่ว...
ยอดไม้ปลิวไหวไปตามแรงลมก่อนร่างของเขาจะลงมายืนอยู่บนพื้นดินอย่างน่าเกรงขามฝ่ามือของเขาผายออกแล้วปล่อยพลังออกมาอย่างรวดเร็วจนเกิดเสียงดัง ‘ฉึบ ฉึบ’ติดต่อกันสองครั้งซึ่งทำให้หมาป่าขนทองตายไปสองตัว หลังจากนั้นก็เงื้อมือขึ้นพร้อมด้วยพลังของเปลวเพลิงที่ลุกโชนแล้วซัดเข้าไปยังหมาป่าขนทองจนตายไปอีกสองตัวเขามาได้ไม่ถึงนาทีแต่กลับสังหารหมาป่าขนทองทั้งเจ็ดจนเหลือแค่สามตัวเท่านั้น!
“ท่านนายกอง ในที่สุดท่านก็มา!” ถึงแม้ร่างของเว่ยฉือหลงจะเต็มไปด้วยเืแต่ก็ยังยิ้มออกมา
คนที่มาไม่ใช่ใครอื่น แต่คือเจิ้งหยางนายกองของกองทหารเือินทรีนั่นเอง!
พลังจากฝ่ามือของเขาถูกส่งไปอีกครั้งจนทำให้หมาป่าที่เหลือตายไปตามๆกัน เมื่อต้องเผชิญหน้ากับคนที่แข็งแกร่งขนาดนี้สัตว์ิญญาระดับหกก็กลายเป็เหมือนสัตว์ข้างถนนส่วนหัวใจของข้าก็ตกลงไปยังจุดต่ำสุดเพราะชั่วพริบตาเดียวกองกำลังเสริมที่เพิ่งจะมาถึงก็ถูกการราบคาบไม่กี่อึดใจหมาป่าขนทองทั้งเจ็ดก็ถูสังหารจนหมด หลงเหลือเพียงเืที่ไหลนองเต็มพื้นหญ้า
หมาป่าน้อยที่น่ารักของข้าทั้งหลายทำไมถึงต้องมาตายอย่างน่าอนาถแบบนี้นะ...
เจิ้งหยางมองไปที่ลูกน้องทั้งสามอย่างเยือกเย็นก่อนจะพูดอย่างไม่สบอารมณ์“ไม่ได้เื่แค่เพียงไม่กี่คนพวกเ้าก็จัดการไม่ได้! ถ้าเกิดปล่อยให้พวกมันหลุดไปได้ละก็แค่ปู้เสวียนยินคนเดียวก็สามารถจัดการกับกองทหารของเราจนราบเป็หน้ากลองถ้าเป็แบบนั้นพวกเ้าจะรับผิดชอบไหวหรือเปล่า!”
เว่ยฉือหลงรีบคุกเข่าลงกับพื้นก่อนจะก้มคำนับหลายครั้ง“ท่านนายกอง...เป็เพราะพวกข้าประมาทเกินไป นึกไม่ถึงว่าเ้าขอทานนั่นจะเป็คนของสำนักหมื่นิญญาและยังสามารถสั่งให้หมาป่าขนทองพวกนั้นทำร้ายพวกข้าได้อีก พวกข้า...พวกข้าพยายามอย่างเต็มที่แล้วนะขอรับท่านนายกองดูนี่สิ นี่คือจินตาน รวมทั้งอาวุธิญญาระดับทองอีกส่วนนี่คือแหวนกำบังซึ่งเป็อาวุธิญญาระดับทองชั้นดีที่หาได้ยากอีกด้วยนะขอรับ!”
“ฮึ!”
แววตาของเจิ้งหยางบ่งบอกถึงความโลภก่อนเขาจะพูดขึ้น“แบบนี้ค่อยยังชั่วหน่อย เอามาสิ!”
“ขอรับ!”
เว่ยฉือหลงส่งของไปด้วยสายตาที่ไม่อยากจะทำแต่จำใจก่อนเจิ้งหยางจะพูดต่อ“หาเ้าแก่ที่เก็บหญ้าิญญานั่นหรือยัง นี่มันผ่านมากี่วันแล้ว!”
“ยังไม่เจอขอรับ...”
“ฮึ! พวกเ้ามันไร้ประโยชน์!ข้าเลี้ยงพวกเ้าแล้วจะมีประโยชน์อะไรฮะ? รีบจัดการเื่นี้ให้สะอาดหมดจดอย่าได้มีร่องรอยแล้วรีบออกไปจากที่นี่ส่วนเื่ภารกิจถือว่าจบลงเพียงเท่านี้”
“ขอรับ!”
พักเดียวคนที่อยู่ในขั้นผู้พิทักษ์ระดับมนุษย์ที่ได้รับาเ็สาหัสก็มองมาที่พวกข้าอย่างเดือดดาลบางทีข้าอาจจะยังพอสู้ได้บ้าง แต่กับข่าถู หวังอี้ไอลาและคนอื่นคงต้องนอนรอความตายสถานเดียวแล้วล่ะ
ทว่าตอนนี้กลับมีเสียงเพลงดังขึ้นจากในป่าซึ่งเสียงนั้นช่างดูแก่แหบแห้งและร้องไม่ตรงตามทำนองเลยสักนิด
“ข้ามาตามลม เพื่อเอาสมุนไพร เ้าโสมน้อยผู้น่ารักช่างมีชีวิตยืนยาวนักตั้งสามพันปี...”
...
น้ำเสียงนี้ช่างคุ้นหูนักเมื่อฟังครั้งแรกจากต้นเสียงที่ไกลออกไปกว่าสองลี้แต่พอฟังอีกทีดูก็คล้ายว่ามันจะมาหยุดอยู่ตรงหน้าแล้วร่างของตาแก่ที่ดูเหมือนหลังค่อมคนหนึ่งเดินออกมาจากพุ่มไม้เตี้ย แต่จริงๆแล้วตาแก่นั่นกำลังแบกถุงขนาดใหญ่อยู่ต่างหากรูปลักษณ์ที่คุ้นตาขนาดนี้ถ้าไม่ใช่เหล่าฉื่อแห่งสำนักหมื่นิญญาแล้วจะเป็ใครได้อีก?
ดูเหมือนว่าตาแก่นี่ไม่ได้โกหกข้า เพราะชีวิตของเขาไปๆ มาๆในหุบเขาหลิงหยุนแห่งนี้จริงๆ!
“มันมาแล้วขอรับ!” เว่ยฉือหลงว่าแล้วปล่อยพลังขั้นเซียนของตัวเองออกมา
เจิ้งหยางกลับมองอย่างใจเย็นก่อนจะพูดขึ้น “อย่าเพิ่งรีบร้อนลงมือข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าตาแก่นี่เป็เทพเทวดามาจากไหน!”
“ขอรับ! ”
ขณะนี้เหล่าฉื่อได้เดินมาอยู่ข้างหน้าข้าแล้ว“ดูเหมือนว่าพวกเ้ากำลังรังแกคนไม่มีทางสู้อยู่สินะ?”
เว่ยฉือหลงแสยะยิ้มก่อนจะพูดขึ้น“ไม่เพียงแค่รังแกแต่ข้าจะฆ่าพวกมันเลยต่างหาก เ้าแก่พวกข้าตามหาเ้ามาตั้งหลายวัน รีบส่งโสมโลหิตอายุสามพันปีนั้นมา เพราะบางทีข้าอาจจะไว้ชีวิตหมาแก่ๆอย่างเ้าสักตัว!”
เว่ยฉือหูพูดขึ้น “พี่ใหญ่เ้าแก่นี่มีขั้นบำเพ็ญอยู่ในระดับกลางของขั้นผู้พิทักษ์ระดับมนุษย์เท่านั้นท่านจะมัวเสียเวลาคุยกับมันอีกทำไม รีบลงมือไปก็สิ้นเื่!”
เว่ยฉือเป้ากระตุกยิ้มแล้วพูดเสริม “ใช่มันก็เป็แค่หมาแก่ที่ไม่รู้จักรักชีวิตตัวเองเท่านั้น!”
และในตอนนี้เองเหล่าฉื่อก็เงยหน้าขึ้นมาพร้อมกับดวงตาที่บ่งบอกถึงความเดือดดาลและพลังที่ไม่เหมาะกับสภาพร่างกายของเขาตอนนี้เลยสักนิดก่อนจะพูดขึ้นเสียงเข้ม“ถ้าแน่จริงก็พูดอีกสักรอบสิ!”
เว่ยฉือเป้าพูดขึ้น “ได้ๆ ข้าจะพูดอีกครั้งหนึ่งเ้ามันก็เป็แค่หมาแก่ที่ไม่รู้จักรักชีวิตตัวเองเท่านั้น!”
สายตาของตาเหล่าฉื่อบ่งบอกถึงความเดือดดาลที่พร้อมจะปลิดชีพคนได้ทุกเมื่อ“ประโยคก่อนหน้านี้!”
เว่นฉือหูพูดขึ้น “ข้าบอกว่าเ้าหมาแก่อย่างเ้ามีขั้นบำเพ็ญอยู่ในระดับกลางของขั้นผู้พิทักษ์ระดับมนุษย์เท่านั้นทำไม? ข้าพูดอะไรผิดหรือไง?”
อยู่ๆ เหล่าฉื่อก็หัวเราะออกมาเสียงดังอย่างองอาจ ก่อนรอบตัวจะส่งพลังของลำแสงหมื่นลี้ออกมา!
สายตาของเขาเปลี่ยนเป็ดุดันอย่างรวดเร็วพร้อมกับพูดขึ้นเสียงเข้ม“พวกเ้าด่าข้าว่าเป็หมาแก่ไม่เป็ไรเพราะพวกศิษย์ไม่มีหัวนอนปลายเท้าต่างก็ด่าคนอื่นแบบนี้ทั้งนั้นแต่ข้าทนฟังพวกเ้าบอกว่าข้าอยู่ในระดับกลางของขั้นผู้พิทักษ์ระดับมนุษย์เท่านั้นไม่ได้เบิกตาต่ำๆ ของพวกเ้าดูไว้ให้ดีๆ!”
เหล่าฉื่อตวาดเสียงดังก่อนพลังจะแผ่ซ่านกระจายออกมาพลังิญญาลอยล่องอยู่รอบตัวและเริ่มหลอมรวมเป็ความแข็งแกร่งที่แผ่นดินยังต้องะเื!
พลังเพียงแค่นี้แสดงให้เห็นว่าเขาอยู่ในขั้นที่สูงกว่าระดับกลางของขั้นผู้พิทักษ์ระดับมนุษย์ไปแล้วแต่สิ่งที่คาดไม่ถึงคือพลังยังคงเพิ่มขึ้นอีก!
ระดับสมบูรณ์ของขั้นผู้พิทักษ์ระดับมนุษย์!
ระดับสมบูรณ์ของขั้นผู้พิทักษ์ระดับ์!
ไม่น่าเชื่อ นึกไม่ถึงเลยว่าพลังของเขาจะเพิ่มสูงขึ้นอีก!
แสงของดวงดาวลอยล่องอยู่รอบๆ ตัวเขาอย่างระยิบระยับ...
ระดับสมบูรณ์ของขั้นผู้พิทักษ์ระดับดาว!
...
คนที่อยู่รอบๆ ต่างก็ยืนตะลึงจนอ้าปากค้างเพราะนึกไม่ถึงว่าตาแก่ที่สภาพเนื้อตัวมอมแมมจะเป็ถึงจอมยุทธ์ระดับสูงอย่างผู้พิทักษ์ระดับดาว!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้