บทที่ 94 เข้าใจผิดอีกแล้ว
สามสิบนาทีผ่านไป เย่จื่อเฉินลุกออกจากเก้าอี้ด้วยสีหน้าเป็ปกติ ตี๋ซินเผิงนึกถึงผลการแข่งเมื่อครู่นี้ด้วยใบหน้าหมองหม่น
จากห้าเกมชนะสาม มาถึงเจ็ดเกมชนะสี่ จนสุดท้ายเก้าเกมชนะห้า…
เขาเอาแต่เพิ่มจำนวนครั้งในการแข่ง เย่จื่อเฉินก็ไม่เคยปฏิเสธ
แต่ผลสุดท้าย เขาก็แพ้อย่างราบคาบ
“ตอนนี้ยอมหรือยัง?”
เย่จื่อเฉินมองใบหน้าเศร้าเสียใจของตี๋ซินเผิง พร้อมกับเม้มปากหัวเราะเบาๆ
จากการแข่งโซโลเมื่อครู่นี้ เขาก็รู้สึกว่าเ้าเด็กคนนี้มีพร์ในการเล่นเกมแนวMOBAมาก
ความสามารถก็แข็งแกร่ง ไม่แปลกที่เซี่ยเขอเข่อจะแพ้เขา
แต่ถ้าจะโทษก็ต้องโทษตี๋ซินเผิง ที่เลือกเย่จื่อเฉินเป็คู่ต่อสู้…
“ยอมรับ”
ตี๋ซินเผิงยอมรับด้วยใจจริง เล่นกันมาตั้งหลายรอบ ตัวแชมเปียนทุกตัวเขาก็เป็คนเลือก แถมตัวแชมเปียนพวกนี้เขาก็ถนัดที่สุด แต่ในการแข่งขันเขารู้สึกได้ถึงความแตกต่างระหว่างเขากับเย่จื่อเฉินมันเป็เหมือนร่องน้ำ
ไม่ว่าจะเป็การควบคุมหรือว่าความคิด ล้วนแต่แข็งแกร่งกว่าเขาทุกอย่าง
กดดัน
เขายอมรับทั้งใจ
“ถ้ายอมแล้ว ยังจำข้อตกลงระหว่างเราได้ไหม?”
ทุกคนแสดงสีหน้าแปลกใจออกมา ในตอนที่เย่จื่อเฉินกับตี๋ซินเผิงตกลงเื่กฎการเดิมพันอยู่นั้น พวกผู้หญิงก็ไม่ได้ยินว่าพวกเขาตกลงอะไรกัน
ตี๋ซินเผิงพยักหน้า ถอนลมหายใจยาวแล้วเดินไปหยุดอยู่ตรงหน้าของชิงหว่าน
“พี่ชิงหว่าน สัญญาที่เราเซ็นกันไปก่อนหน้านี้ ลบมันทิ้งไปเถอะครับ”
“อะไรนะ?”
ชิงหว่านทำหน้าไม่เข้าใจ เธอมองไปทางเย่จื่อเฉินอย่างตกตะลึง ความโกรธเกรี้ยวที่ไม่สามารถข่มเอาไว้ได้ค่อยๆ ปรากฏขึ้นบนใบหน้า
“เย่จื่อเฉิน ฉันรู้ว่านายไม่สนใจไยดีทีมของฉัน นายวิจารณ์ความเป็เด็กของฉันได้ แต่นายทำแบบนี้มันไม่เกินไปหน่อยเหรอ?”
เย่จื่อเฉินอึ้งไป
“ฉันทำอะไร? นี่ฉันหวังดีกับเธอนะ”
“หวังดีกับฉัน?” ชิงหว่านยิ้มขึ้นมาเหมือนคนเสียสติ “นายบอกว่าหวังดีกับฉันเหรอ?”
“ใช่ไง!”
“เย่จื่อเฉิน นายจะเอายังไงกันแน่ เขอเข่อก็ทีหนึ่งแล้ว ผู้หญิงอย่างเธออาจจะไม่เหมาะกับอาชีพนี้จริงๆ แต่สมาชิกคนอื่นของฉันนายก็ไม่เว้นเลยเหรอ? ฉันขอบอกนายเลยนะว่าไม่ได้ ฉันปล่อยเขาไปไม่ได้”
ชิงหว่านตอบด้วยน้ำเสียงเด็ดเดี่ยว ใบหน้ารูปไข่เรียวสวยนั้นประดับไว้ด้วยอารมณ์กรุ่นโกรธที่ไม่สามารถปิดเอาไว้ได้
“เชิญนายออกไปด้วย ที่นี่ไม่ต้อนรับนาย”
“เดี๋ยวนะ…”
“เชิญออกไป”
พอเห็นท่าทางที่โกรธเกรี้ยวของชิงหว่าน เย่จื่อเฉินจึงหดคอกลับพร้อมกับพาเซี่ยเขอเข่อเดินออกมาจากบ้าน
เมื่อเห็นว่าเย่จื่อเฉินกับชิงหว่านเดินออกไป ตี๋ซินเผิงก็อึ้งไปเช่นเดียวกัน เขาอ้าปากพะงาบๆ เหมือนจะพูดอะไร แต่กลับโดนชิงหว่านขัดขึ้นเสียก่อน
“ตี๋ซินเผิง นายเคยบอกว่าอยากทำงานไม่ใช่เหรอ นายบอกว่านายอยากยืนอยู่บนเวทีระดับโลกไม่ใช่เหรอ นาย...”
“พี่ชิงหว่าน พี่เข้าใจผิดแล้ว” ตี๋ซินเผิงถอนหายใจออกมาอีกครั้ง แล้วพูด “ผมหมายถึงว่าจะเซ็นสัญญากับพี่ใหม่”
“เซ็นสัญญาใหม่?” ชิงหว่านดูไม่ค่อยเข้าใจในความหมายของเขา จึงได้ถามออกไป “เมื่อกี้ที่นายบอกว่าจะเซ็นสัญญาใหม่มันคืออะไร?”
“เมื่อกี้พี่เย่พนันกับผม ว่าถ้าผมแพ้ก็จะต้องอยู่ในทีมของพี่ไปตลอด แต่ก่อนอื่นเลยคือทีมของพี่ต้องเล่นเป็อาชีพได้ ถ้าทีมของพี่ไม่สามารถไปแข่งระดับโลกได้ ก็ถือว่าสัญญานี้เป็โมฆะ”
“เย่จื่อเฉินพูดกับนายแบบนั้นเหรอ?”
ชิงหว่านอึ้งไป เธอคิดว่า…
“แล้วทำไมนายไม่รีบบอกเล่า”
พอนึกถึงกิริยาที่เธอทำกับเย่จื่อเฉินเมื่อครู่นี้ ในใจของชิงหว่านก็เต็มไปด้วยความละอายใจ ทั้งๆ ที่อีกฝ่ายหวังดีกับเธอ ทั้งยังกลัวว่าสมาชิกในทีมของเธอจะเปลี่ยนไป…
แต่เธอเองกลับ…
“ก็พี่ไม่ให้โอกาสผมพูดเลยนี่” ตี๋ซินเผิงยิ้มอย่างอ่อนใจ แล้วพูด “เมื่อกี้พี่…พี่เป็แบบนั้น ใครจะกล้าพูด”
ไม่ต้องบอกเลยว่าความรู้สึกของชิงหว่านมันอึดอัดขนาดไหน เธอยกมือขึ้นทึ้งผมตัวเองจนยุ่งเหยิง กัดริมฝีปากไม่พูดอะไรอยู่นาน
พอโดนไล่ออกมาแบบงงๆ ภายในใจของเย่จื่อเฉินก็รู้สึกแย่
สิ่งที่เขาทำมันคือการคิดพิจารณาให้รอบคอบเพื่อชิงหว่าน ทำไมถึงได้ทำอย่างกับว่ามีความคับแค้นใจอะไรมากมายขนาดนั้น
“ทำไมจู่ๆ พี่ชิงหว่านถึงได้โกรธนายล่ะ”
เซี่ยเขอเข่อมองฐานทีมด้านหลังอย่างเศร้าสร้อย เย่จื่อเฉินเลียริมฝีปากพูดอย่างจนใจ
“ใครจะไปรู้ว่ายัยป้าคนนั้นไปโมโหอะไรมา”
หันไปเบ้ปากใส่บ้านที่อยู่ข้างหลัง พอนึกถึงใบหน้าบูดบึ้งของชิงหว่านเมื่อครู่นี้ เย่จื่อเฉินก็เกิดโมโหขึ้นมา
เซี่ยเขอเข่อเหลือบมองสีหน้าของเย่จื่อเฉิน ก่อนจะยกมือขึ้นเกาะแขนเขาแล้วพูด
“อย่าโกรธเลยนะ จริงสิ เมื่อกี้นายพูดกับตี๋ซินเผิงว่าฉันเป็แฟนนาย”
เอาแล้วเอาแล้ว
เย่จื่อเฉินรู้อยู่แล้วว่าเซี่ยเขอเข่อต้องถามคำถามนี้แบบกัดไม่ปล่อยแน่
“ตอนนั้นฉันเห็นแก่หน้าเธอ ก็เธอไปพูดว่าฉันเป็แฟนเธอแล้วนี่ ถ้าฉันบอกว่าไม่ใช่เธอจะขายหน้ามากแค่ไหน อีกอย่างมันก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่แกล้งเป็แฟนเธอ เื่เดิมๆ เธอก็น่าจะเข้าใจนะ”
“เชอะ”
เซี่ยเขอเข่อย่นจมูกพูดเสียงห้วนอย่างไม่ค่อยพอใจ
“ไม่สนนายแล้ว”
เมื่อเดินถึงซอยถัดมา เซี่ยเขอเข่อก็หันไปแลบลิ้นปลิ้นตาใส่เย่จื่อเฉิน ก่อนจะหายเข้าไปในโซนบ้าน
ในขณะที่เย่จื่อเฉินยืนโบกมือให้เธออยู่ หลิวฉิงก็โผล่ออกมาอยู่ข้างๆ
“เหมือนเขอเข่อจะชอบนายนะ”
“เธอไม่ต้องบอกฉันหรอก”
ต่อให้เป็คนโง่ก็ยังดูออกว่าเซี่ยเขอเข่อสนใจตัวเขา
“ถึงยังไงฉันก็อยากพูดกับนาย นายจัดการความสัมพันธ์กับผู้หญิงรอบตัวนายให้เรียบร้อยด้วย เท่าที่ฉันรู้เนี่ย ดูเหมือนจะสามคนแล้วนะ”
หลิวฉิงย่นจมูก เย่จื่อเฉินเลียริมฝีปากเล็กน้อย ก่อนจะเดินกลับบ้าน
กลางดึก
เย่จื่อเฉินเลื่อนดูวีแชทอยู่บนเตียงนอน ไม่รู้ว่าทำไม่นี้กลุ่มถึงได้ถูกทิ้งร้าง
คนที่คุยกันอยู่ก็น้อย แล้วก็ไม่มีใครแจกอั่งเปาด้วย
เลื่อนเปิดดูไทม์ไลน์ของเทพเซียนหลายคน ดูเหมือนว่าคนบน์กำลังประชุมสรุปอะไรสักอย่างอยู่
ถึงอย่างนั้น สิ่งที่มันส่งผลกระทบต่อเย่จื่อเฉินโดยตรงก็คือ…
แย่งอั่งเปาไม่ได้
ติ๊ง!
โทรศัพท์สั่นขึ้นมา
หัวใจของเย่จื่อเฉินก็สั่นขึ้นมาเช่นกัน
เขารีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู ก่อนจะเห็นว่าคนที่ส่งข้อความมาหาเขาคือซูเหยียน
ซูเหยียน : นอนหรือยัง?
นี่เป็ข้อความแรกที่ส่งมาหาเขา ั้แ่ที่เย่จื่อเฉินขอแอดวีแชทซูเหยียนเมื่อนานมาแล้ว แต่ว่าดึกขนาดนี้ ทักมาหาเขาทำไม หรือว่าเทพธิดาจะนอนไม่หลับ เลยจะชวนเขาออกไปข้างนอก…
แฮะแฮะแฮะ…
เพียะ!
เย่จื่อเฉินยกมือขึ้นตบตัวเองไปหนึ่งที
หยุดฝันได้แล้ว
เย่จื่อเฉิน : ยังไม่นอนเหรอ เป็อะไร คิดถึงฉันหรือเปล่า
รอยยิ้มแต้มอยู่บนใบหน้าของเย่จื่อเฉิน
ซูเหยียน : หลงตัวเอง
หลังจากที่ตอบกลับมาแล้ว ซูเหยียนยังส่งสติกเกอร์ทำหน้าเบ้ปากมาอีกหลายอัน เย่จื่อเฉินนึกหน้าของเธอในตอนนี้ออกทันที รอยยิ้มจึงได้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าอีกครั้งอย่างควบคุมไม่ได้
เย่จื่อเฉิน : เธอก็ไม่ได้เพิ่งรู้จักฉันนี่
ส่งสติกเกอร์ทำหน้าเบ้ปากไปเป็แถว ซูเหยียนถึงได้ส่งข้อความมาอีกครั้ง
ซูเหยียน : ไม่เถียงกับนายแล้ว ที่ฉันทักมาหาก็เพื่อจะคุยธุระสำคัญ
ธุระสำคัญ
เย่จื่อเฉินชะงักไปนิด
เย่จื่อเฉิน : ธุระอะไร
ซูเหยียน : ครั้งก่อนนายบอกว่าอยากเปิดซูเปอร์มาร์เก็ตไม่ใช่เหรอ?
เย่จื่อเฉิน : ก็คิดอยู่จริงๆ นั่นแหละ
ซูเหยียน : ฉันให้พี่ชายไปดูที่ทางให้นายสองสามที่ ถ้านายว่างจะไปดูหน่อยไหม?
คิดไม่ถึงว่าธุระสำคัญที่ซูเหยียน้าพูดกับเขาจะเป็เื่นี้
ตอนนั้นเขาแค่พูดเฉยๆ ไม่คิดเลยว่าซูเหยียนจะจดจำเอาไว้
ความประทับใจเกิดขึ้นมาภายในใจ ดูท่าว่าตำแหน่งของเขาในหัวใจซูเหยียนจะไม่ธรรมดาเลย
เย่จื่อเฉิน : โอเค พรุ่งนี้ฉันจะไปดูกับเ้าสาม
ซูเหยียน : อื้อๆ ดึกแล้ว ฉันจะนอนแล้วนะ
ส่งสติกเกอร์น่ารักไปสองสามอัน จากนั้นเย่จื่อเฉินก็เอาโทรศัพท์วางไว้ด้านข้าง
ซูเปอร์มาร์เก็ต!
ซูเปอร์มาร์เก็ตสำหรับ์…
ถือโอกาสเอาเวลาใน่หลายวันนี้ที่บน์กำลังประชุมกันอยู่เปิดซูเปอร์มาร์เก็ตให้เรียบร้อย ถึงตอนนั้นพอพวกเขาประชุมเสร็จ เย่จื่อเฉินก็จะทำการโปรโมตซูเปอร์มาร์เก็ตของเขา…
วิทยายุทธ
ฉันมาแล้ว!
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้