“ลุกขึ้นแล้วมาปรนนิบัติข้า” นางเบ้ปากไม่ค่อยสบอารมณ์นัก ชายผู้นั้นเมื่อลุกขึ้นยืนเต็มความสูง จึงเห็นได้ชัดว่ารูปร่างของเขาสูงใหญ่เพียงใด
‘กวงิ’ เดินเข้ามาแล้วยื่นมือไปหยิบผ้าผืนหนึ่งมาแล้วยื่นมือไปจับเรียวแขนงามของหญิงสาวขึ้นจากน้ำบรรจงขัดผิวให้นางอย่างแ่เบา
“อา...” หญิงสาวส่งเสียงครางอย่างพอใจ “ไม่มีผู้ใดปรนนิบัติข้าได้ดีเท่าเ้าเลย”
ชายหนุ่มยังมีสีหน้าราบเรียบ ตั้งอกตั้งใจทำหน้าที่ของตนเอง
“เด็กดี” หญิงสาวพลิกกายมาเกาะขอบอ่างอาบน้ำ หากจ้องมองดวงตาของนางให้ดีจะเห็นว่าดวงตาของนางมีประกายสีม่วงเข้มราวกับอัญมณีเม็ดงาม
“เ้ารับใช้ข้ามากี่ปีแล้วนะ”
“ยี่สิบปีขอรับ”
“ยี่สิบปีของมนุษย์แสนยาวนาน แต่สำหรับปีศาจอย่างข้าเพียงพริบตาเดียว” นางหัวเราะเบาๆ
“ท่านประมุขประสงค์จะพักที่นี่หรือขอรับ”
“แค่เล่นสนุกสามประเดี๋ยวเดียวเท่านั้น” นางหัวเราะร่วน “ข้าไม่รีบร้อนเดินทาง หรือเ้ารีบ?”
“ทุกอย่างเป็ไปตามที่ประมุข้าขอรับ”
“อืม” นางเบ้ปากเพราะอีกฝ่ายปากหนักไม่ค่อยพูดจากับนางนัก “น้ำเย็นแล้ว ข้าจะขึ้นจากอ่างอาบน้ำแล้ว”
“ขอรับ” ชายหนุ่มลุกขึ้นแล้วโน้มตัวลงยื่นมือไปช้อนร่างของนางขึ้นจากน้ำ เรียวแขนงามยกขึ้นคล้องคอของเขา ร่างเปลือยเปล่าเปียกชุ่มเย้ายวนตา แต่ชายหนุ่มยังสีหน้าเ็า เขาอุ้มนางมาที่ยืนหลังฉากกั้น หยิบผ้ามาซับน้ำจนแห้งสนิทดีแล้วหยิบเสื้อผ้าของนางมาสวมให้ที่ละชิ้น ทุกอย่างเป็ไปอย่างเรียบง่ายและใจเย็นทำให้ปีศาจสาวหงุดหงิด
“ออกไปได้แล้ว มีอะไรข้าจะเรียกเ้าเอง”
“ขอรับ”
ชายหนุ่มถอยหลังไปสองสามก้าว ก้มศีรษะให้เล็กน้อยเพียงพริบตาร่างของเขากลายเป็อีกาตัวหนึ่งบินออกไปอย่างไร้ร่องรอย
‘ชิงหรู’ เบ้ปากไม่สบอารมณ์นัก ไม่ว่านางจะยั่วยวนหรือกลั่นแกล้งกวงิอย่างไร ชายผู้นี้แทบไมแสดงสีหน้าอารมณ์ใดให้นางเห็น
นางคือปีศาจราคะ ครั้งหนึ่งนางเคยเพียรพยายามฝึกฝนเพื่อเป็เทพเซียน ผ่านมาพันปีนางคิดว่าหนทางเป็เซียนนั้นเป็เื่เหลวไหลไร้สาระ นางมุ่งสู่วิถีมารกลายเป็ปีศาจอันดับหนึ่ง ล่อลวงผู้คนให้มัวเมาราคะ เสพสมสูบพลังิญญา หากผู้ใดทำให้นางพึ่งพอใจ นางจะบันดาลในสิ่งที่ปรารถนา ด้วยเหตุนี้เทพเซียนจึงลงมาปราบมาร กักขังนางไว้ที่ภูผาเทียมเมฆา ร่างกายถูกกักขังแต่สามารถถอดดวงจิตสิงสู่มนุษย์ มนุษย์กลุ่มหนึ่งบูชานาง ก่อตั้งลัทธิลิขิตจันทราคัดเลือกเด็กหญิงมาเพื่อเป็ ‘ร่างทรง’ ถวายแด่ปีศาจราคะ
ชิงหรูมาอยู่ที่ลัทธิลิขิตจันทราั้แ่อายุสิบสอง โดยมีกวงหมินเป็คนพาเข้ามา เด็กหญิงมากมายถูกส่งเข้ามาที่แห่งนี้ จนอายุสิบห้า เด็กหญิงวัยเยาว์เติบโตเป็หญิงสาวแรกแย้ม ทั้งหมดถูกคัดเลือกจนเหลือเพียงห้าคน สุดท้ายนางคือผู้ที่ ‘ปีศาจราคะ’ เลือก ผู้คนในลัทธิเรียกปีศาจราคะว่า ‘ท่านประมุข’ นางจึงเป็ ‘ร่างทรง’ ของปีศาจราคะ
ั้แ่วันที่ถูกเลือก ชิงหรูทำได้เพียงขยับปากแต่ไร้เสียง ผู้คนจึงเข้าใจว่านางเป็ใบ้ ซึ่งร่างทรงก่อนหน้านางก็เป็เช่นนี้
‘กวงหมิน’ บุรุษใบหน้าเรียบเฉยคอยดูแลรับใช้และเป็คนปกป้องนาง ยี่สิบปีที่ผ่านมา ท่านประมุขเปลี่ยน ‘ร่างทรง’ ไปหลายคนแล้ว แต่กวงหมินยังบ่าวรับใช้ข้างกายไม่เคยเปลี่ยน แม้นางจะนึกเบื่อหน่ายสีหน้าเ็าและท่าทางไม่แยแสต่อสิ่งใด แต่นางกลับพึงพอใจที่เห็นบุรุษผู้นี้เป็เช่นนี้ นางหัวเราะออกมา กวงหมินจะกล้าแข็งข้อกับนางได้อย่างไร ในเมื่อเขาเองก็ถูกทำให้กลายเป็ ‘อีกา’ด้วยน้ำมือของนางเอก
หากนางไม่เป็ผู้ ‘ปลดปล่อย’ กวงหมินก็ไม่มีวันได้ร่างมนุษย์อย่างเดิม
เช่นเดียวกับร่างของ ‘ชิงหรู’ หากนางไม่ ‘ปลดปล่อย’ ชิงหรูก็ไม่มีวันพูดได้
มือเรียวแตะแก้มเบาๆ เพียงแค่นี้ก็ทำให้แก้มนวลแดงระเรื่ออย่างน่ามอง นางไม่ได้เลือกร่างทรงส่งเดช แต่ร่างของชิงหรูมีความพิเศษแต่กำเนิด เป็สตรีที่ความเย้ายวนขวนเสน่หา ร่างกายนี้อ่อนไหวกับััแม้เพียงบางเบา นางคือปีศาจราคะที่้าเสพสมกับมนุษย์เพื่อเพิ่มพลังวัตรให้ตนเอง แต่กระนั้นนางก็เป็ปีศาจที่แสนดี หากผู้ใดทำให้นางสุขสมอิ่มเอม นางจะมอบความปรารถนาให้คนผู้นั้นเป็การตอบแทน ผู้คนที่เข้าร่วมลัทธิลิขิตจันทราก็เพียงเพื่อให้ได้สมในปรารถนา ไม่ต้องฝึกบำเพ็ญตนให้ทรมาน เสพสังวาสก็พบหนทางแห่งสุขได้เห็น์เหมือนกัน
นางปีศาจยิ้มหวานให้กระจกเงาแล้วลุกขึ้นยืน คงใกล้เวลาอาหารเย็นแล้ว นางอยากเห็นนักว่า เื้ัโฉมหน้าของเศรษฐีใจบุญและบุตรชายผู้มุ่งมั่นจะเป็บัณฑิตนั้นเป็เช่นไร
จางลี่รู้ว่าตนเองเป็แค่หญิงรับใช้แต่กระนั้นนางก็ยังวาดหวังที่จะหลุดพ้นจากฐานะต่ำต้อยนี้ แต่เมื่อคุณชายหวังหย่งส่งสายตาชื่นชมแขกแปลกหน้า ความรู้สึกริษยาเจ็บแค้นจึงบังเกิดขึ้นในใจ
“ต้องขออภัยทุกท่าน ข้าเมื่อยเนื้อเมื่อยตัวเลยอาบน้ำนานไปหน่อย”
เสียงของชิงหรู-แขกของนายท่านใหญ่ทำให้จางลี่ตื่นจากภวังค์ นางฝืนยิ้มแสดงท่าทีอ่อนน้อมและเจียมตัว
“เชิญแม่นางชิงหรูทางนี้เ้าคะ” จางลี่เดินนำไปที่ห้องที่ตระเตรียมอาหารมื้อเย็นเพื่อเลี้ยงแขกคนพิเศษของนายท่านใหญ่
ชิงหรูเดินตามจางลี่ลอบยิ้มกลั้นหัวเราะ นางมักัักลิ่นอายริษยาชิงชังเหล่านี้ได้รวดเร็วเสมอ แน่ล่ะ นางเป็ปีศาจอายุกว่าพันปี เื่แค่นี้นางนางจะไม่รู้ได้อย่างไร
หวังอี้มีภรรยาที่งามพร้อมอยู่สองคน เหมยกุ้ยและหูเตี๋ย ทั้งสองเป็พี่น้องที่มองภายนอกเหมือนรักใคร่กันดี แท้จริงแล้วทั้งสองชิงดีชิงเด่นกันเป็ที่รักของสามี ภายนอกผู้อื่นมองเศรษฐีหวังอี้ด้วยสายตาอิจฉาปนชื่นชมที่มีครอบครัวที่รักใคร่กลมเกลียว แต่เื้ันั้น...
หวังอี้ไม่ปิดบังภรรยาทั้งสองที่เชิญแขกอย่างชิงหรูมาพักที่บ้าน เขาเล่าไปตามจริง ภรรยาทั้งสองแม้จะประหลาดใจอยู่บ้างที่จู่ๆ สามีเชิญหญิงสาวแปลกหน้ามาพักและต้อนรับอย่าง ทว่าเมื่อเหมยกุ้ยและหูเตี๋ยได้เห็นใบหน้าของแขกคนพิเศษแล้วนั้น ทั้งสองก็ได้แต่ซ่อนความไม่พอใจไว้ใต้รอยยิ้ม
“ทำให้ทุกท่านต้องรอ ข้าเสียมารยาทจริงๆ”
ชิงหรูแย้มยิ้มทำเป็ไม่เห็นสายตาของภรรยาทั้งสองของเ้าบ้าน หวังอี้และหวังหย่งดูแลต้อนรับแขกแปลกหน้าอย่างดียิ่ง นางคะยั้นคะยอให้สองภรรยาของหวังอี้ดื่มสุราเป็เพื่อนนาง สุดท้ายนางแสร้งเมามายและขอร้องให้จางลี่พาเรือนที่พัก
ก่อนขอตัวกลับ นางเดินไปจับมือเหมยกุ้ยและหูเตี๋ยพลางทำเป็กระซิบกระซาบอะไรบางอย่างแล้วให้จางลี่ประคองกลับเรือน จางลี่อดสงสัยกับท่าทางของชิงหรูแต่ไม่กล้าเอ่ยปากถามอะไร ทว่าเมื่อเดินออกมาพ้นสายตาผู้คนแล้ว ชิงหรูก็ไม่มีอาการเมามายเหมือนเมื่อครู่เลยสักนิด
“ทำไมรึ” ชิงหรูถามพลางหัวเราะเสียงใส ท่าทางเป็ธรรมชาติแสนเย้ายวนจนสตรีด้วยกันยังรู้สึกริษยา
“ไม่มีอะไรเ้าคะ” จางลี่ส่ายหน้าไปมาเร็วๆ
“ลี่เอ๋อร์เอยลี่เอ๋อร์” ชิงหรูยื่นปลายนิ้วไล้ใบหน้าของเด็กสาวแล้วทำเสียงจิ๊กจั๊กในลำคอ “ข้ารู้ว่าเ้าปรารถนาสิ่งใด แต่การที่เ้าอุทิศตัวเองให้คุณชายหวังหย่งนั้นไม่เพียงพอให้ตัวเองได้หลุดพ้นจากฐานะสาวใช้หรอกนะ”
“ท่าน...ท่านพูดเื่อะไร ข้า...ข้าไม่เข้าใจ” จางลี่ถอยหลังครึ่งก้าวทำให้มือของชิงหรูค้างอยู่ในอากาศ
“ข้าเอ็นดูเ้านัก” ชิงหรูหาได้ถือสาจางลี่ นางยังคงหัวเราะเบาๆแล้วเอ่ยต่อ “เอาล่ะ ข้าจะบอกเคล็ดลับให้ หากเ้า้าสลัดฐานะสาวใช้นี้ ก็จงเปลี่ยนจากเป็ฝ่ายรอรับอารมณ์ของบุรุษและเป็ฝ่ายควบคุมเขาเสียเอง เื่ง่ายๆ แค่นี้ เ้าก็จะได้ทุกอย่างที่้า”
“เป็ฝ่ายควบคุม?” จางลี่พูดทวนช้าๆ “จะเป็ไปได้อย่างไร?”
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้