เสียงปะทะดังกึกก้อง ปางมือวัชระที่เคยเอาชนะนักยุทธ์วงแหวนใหญ่ขั้นห้าถูกกำแพงน้ำแข็งสิบทิศขวางไว้
เมื่อมองไปยังกำแพงน้ำแข็ง กำแพงแปดในสิบด้านถูกโจมตีเสียหาย ด้านที่แปดส่วนบนมีเพียงรอยปางมือ ซึ่งพลังปางมือวัชระไม่สามารถทะลุผ่านได้
“แม้แต่ปางมือมรณาท่าที่สองยังทะลุผ่านไปไม่ได้ นึกไม่ถึงว่ากำแพงน้ำแข็งสิบทิศที่ดูธรรมดาของนางจะแข็งแกร่งได้ถึงเพียงนี้!”
หยวนจุนถูกพลังที่ตนเองสร้างขึ้นสะท้อนกลับ จนเขาเกือบจะตกเวทีประลอง
เซียวหานยืนอย่างมั่นคง ก่อนจะสลายกำแพงน้ำแข็งสิบทิศนั้น
ใบหน้านางแสดงรอยยิ้มอบอุ่น ทำให้หยวนจุนรู้สึกลำบากใจ
ถึงอย่างไรเซียวหานก็มิได้ใส่ใจพลังปางมือมรณาท่าที่สองของเขาั้แ่แรกอยู่แล้ว
“หยวนจุน มีกลยุทธ์ใดอีกก็แสดงออกมาเถิด นี่คงมิใช่ไพ่ใบสุดท้ายที่เ้ามีใช่หรือไม่?” เซียวหานกล่าวด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ
หยวนจุนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เพื่อพยายามสงบสติอารมณ์ ยอมรับว่าขณะนี้ปางมือมรณาท่าที่สองเป็วิชายุทธ์ที่แข็งแกร่งที่สุดของเขา
หากกล่าวถึงกลยุทธ์ เขาเหลือเพียงกระแสปราณตะวันทรงกลด เพลิงอัคคีกลืนตะวัน และพลังจิตที่ยังไม่ค่อยดีเท่าไรนัก
“เพลิงอัคคีกลืนตะวันค่อนข้างพิเศษ หากมิใช่ยามคับขันแล้วห้ามใช้เด็ดขาด แม้ฝีมือพลังจิตของข้าจะก้าวหน้า แต่เมื่อเผชิญหน้ากับระดับวงแหวนใหญ่ขั้นห้าอย่างเซียวหานก็มิได้ส่งผลต่อนางเท่าไร”
“เว้นแต่ข้าจะหาโอกาสใช้พลังจิต เพื่อเปิดทางให้สามารถเข้าใกล้ร่างกายนางได้มากขึ้น”
หยวนจุนเม้มปาก สิ่งที่เขา้าทำต่อจากนี้อาจดูเสียสติ แต่ก็คุ้มค่าที่จะเสี่ยง
เซียวหานไม่เพียงมีการป้องกันอย่างกำแพงน้ำแข็งสิบทิศ แต่ยังมีการโจมตีอย่างหยาดน้ำแข็งทะลวงปราณ หากเขา้าหลีกเลี่ยงสิ่งนี้และใช้พลังจิตเพื่อเปิดทาง เขาต้องเพิ่มความแข็งแกร่งให้แก่ร่างกายก่อน
“แปะ”
ขณะที่ผู้ชมกำลังมองดู เขาได้ตบมือเข้าหากัน จากนั้นปราณดาราก็พุ่งเข้ามาหาเขาอย่างบ้าคลั่ง
“ปราณดาราบนูเาสองแดนหนาแน่นมาก อย่างน้อยก็มากกว่าดินแดนทั่วไปถึงสามเท่า ดูแล้วการที่เมืองเทียนอวิ่นกับเมืองลั่วฝานประลองกันคงมิใช่เพียงเพราะเป็ูเาลูกใหญ่อย่างแน่นอน!”
“ปราณดารามากมายเช่นนี้เพียงพอที่จะให้ข้าเสี่ยงแล้ว!”
ปราณดารารอบสนามประลองที่มีอยู่ไม่สิ้นสุดได้เปลี่ยนเป็พลังปราณสามสาย ก่อนจะหลั่งไหลรวมกันเข้าไปยังร่างกายของเขาอย่างบ้าคลั่ง
“ซ่า ซ่า ซ่า”
ขณะที่ในอากาศส่งเสียงเหมือนดั่งน้ำไหล ปราณดาราสามสายก็ตกลงบนร่างกายของหยวนจุน ทำให้เขากระตุกไปทั้งตัว!
อักษรลับเก้าตะวันทำให้หยวนจุนสามารถใช้ร่างสร้างปราณได้ ดังนั้นทุกอณูในร่างกายจึงสามารถดูดซับปราณดาราได้เช่นเดียวกับเส้นปราณ ซึ่งเร็วกว่านักยุทธ์ทั่วไปหลายเท่า!
อีกทั้งความหนาแน่นของปราณดาราบนูเาสองแดนยังมากกว่าดินแดนทั่วไปถึงสามเท่า ดังนั้นเมื่อสองสิ่งนี้ประสานกันจึงทำให้การดูดซับพลังมีความรวดเร็วมากขึ้นจนน่าใ!
“วิ้ว”
ขณะเดียวกันแผ่นกระดาษปริศนาก็ปลดปล่อยรัศมีสีแดงจางๆ ออกมา หากสังเกตให้ดี จะพบว่าปราณดาราพวกนั้นกำลังแทรกวงรัศมีอยู่อย่างรวดเร็วประมาณสี่ถึงห้าครั้ง
เมื่อเห็นความรวดเร็วของการดูดซับกับร่องรอยของการบรรลุที่ปรากฏบนฝ่ามือ ทำให้ผู้คนเข้าใจทันทีว่าเขาคิดจะทำสิ่งใด
“นึกไม่ถึงว่าเ้าหนุ่มนี้จะกล้าดูดซับปราณดาราบนเวทีประลอง เขาคิดจะบรรลุขั้นอย่างนั้นหรือ?”
“การบรรลุขั้นต้องทำอย่างค่อยเป็ค่อยไป ต้องมีสมาธิ และห้ามว่อกแว่กแม้แต่น้อย หากมีผู้ใดเข้ามาแทรกระหว่างการบรรลุ จะทำให้เส้นปราณเสียหาย ถูกปราณดาราย้อนทำร้าย จนกระทั่งกระแสปราณสลายหายไป!”
เมื่อหลิวหรูเยียนเห็นหยวนจุนเลือกที่จะบรรลุในเวลานี้ นางอดไม่ได้ที่จะกังวล สองมือเรียวบีบเข้าหากันแน่น
“น่าสงสาร ช่างเยาว์วัยเสียเหลือเกิน” เซียวจั้นถอนหายใจ เขาคิดว่าการที่หยวนจุนทำเช่นนี้เป็สิ่งที่ไม่สมควรเป็อย่างยิ่ง แม้ปราณดาราบนูเาสองแดนจะมีความหนาแน่นมาก แต่ก็เป็ไปไม่ได้ที่เขาจะบรรลุขั้นได้ภายในเวลาอันสั้น
นอกจากนี้ เซียวหานที่มีวงแหวนใหญ่ขั้นห้าก็ยังยืนอยู่บนเวทีประลองเดียวกับเขา เพียงนางลงมือขัดขวาง การบรรลุของหยวนจุนก็ถูกทำลายลงได้ทุกเมื่อ
“นี่คือกลยุทธ์ที่เ้าคิดได้อย่างนั้นหรือ?” เซียวหานเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ถามหยวนจุนที่กำลังดูดซับพลังงานของดวงดาวอย่างบ้าคลั่งด้วยเสียงเรียบนิ่ง
“มิต้องพล่ามมาก! หากเ้า้าประลองก็เข้ามาได้เลย”
หยวนจุนยืนนิ่ง จากนั้นก็เร่งการดูดซับปราณาดาราอีกครั้ง เขาส่งสายตาที่ไม่แยแสออกมา ทำให้ผู้คนที่ได้เห็นถึงกับแปลกใจ และแทบไม่อยากจะเชื่อ
นึกไม่ถึงว่าเขายังกล้าพูดจายั่วยุเซียวหานอีก!
เดิมทีเซียวหาน้าเห็นว่าเขาจะสามารถบรรลุขั้นได้หรือไม่ แต่ด้วยคำพูดนั้นของหยวนจุนจึงทำให้นางเปลี่ยนใจ ก่อนจะยกมุมปากที่มีเสน่ห์ขึ้นแล้วกล่าวว่า “เช่นนั้นก็ตามใจเ้าเลย”
พลังออกมาจากสองมือของเซียวหาน นางมิได้เล็งไปทางหยวนจุนที่กำลังดูดซับปราณดารา แต่กลับเล็งไปที่กระแสปราณนับไม่ถ้วนสามกลุ่มที่กำลังวนเวียนอยู่รอบตัวเขา
“ผ่าง”
“ตู้ม”
ปราณดาราที่วนอยู่รอบตัวหยวนจุนสลายไป จากนั้นก็มีเสียงกึกก้องดังมาจากใต้ฝ่าเท้า ทันใดนั้นปราณดาราที่แปรเปลี่ยนเป็ลำแสงก็พุ่งขึ้นมาทันที
ร่างกายของหยวนจุนเล็กมากเมื่ออยู่ภายใต้การปกคลุมของลำแสงพวกนั้น!
“การมีผู้มาขัดขวางระหว่างการบรรลุนั้นทำให้ข้าอารมณ์เสียมาก แต่ข้าจะไม่พลาดท่าเป็ครั้งที่สองเด็ดขาด!”
“วงแหวนเล็กขั้นห้า สำเร็จ!”
ความโกรธที่พลุ่งพล่านทำให้ลำแสงที่ไม่มีสิ้นสุดนั้นกลายเป็ปราณดาราหลั่งไหลลงมาอีกครั้ง ก่อนจะพุ่งเข้าสู่ร่างกายของเขาในทันที
ทั้งนี้ กระแสปราณที่แผ่ออกจากร่างกายของหยวนจุนได้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อนจะค่อยๆ หยุดจนกระทั่งพลังปราณเทียบเท่ากับวงแหวนเล็กขั้นห้า
หยวนจุนยืนอยู่กลางเวทีประลองอย่างองอาจ แม้เขาจะอายุเพียงสิบห้าสิบหกปี แต่กลับมีคุณสมบัติโดดเด่นราวกับเคยพบเจอประสบการณ์มาอย่างโชกโชน
เมื่อต้องเผชิญหน้ากับสถานการณ์เช่นนี้ เซียวหานจึงรีบลงมือทันทีแต่ก็สายไปเสียแล้ว
“ปางมือวัชระ!”
หยวนจุนลงมืออย่างรวดเร็ว พลังทะลุผ่านหนามน้ำแข็งของเซียวหานแล้วพุ่งตรงไปหานาง
“กำแพงน้ำแข็งสิบทิศ!”
กำแพงน้ำแข็งหนาสิบด้านปรากฏขึ้นต่อหน้านางทีละด้าน แต่ไม่สามารถขวางความเร็วของพลังปางมือวัชระได้ แม้พลังจะทลายทะลุกำแพงน้ำแข็งทั้งเก้าไปแล้วก็ไม่มีทีท่าว่าจะชะลอลง
“ปัง”
หลังจากรอยฝ่ามือขนาดมหึมาที่ลุกไหม้ชนเข้ากับกำแพงน้ำแข็งก้อนสุดท้าย ทำให้เห็นเพียงกำแพงน้ำแข็งเป็รอยร้าว ก่อนจะแตกกระจัดกระจายออกมา
“นึกไม่ถึงว่าระดับวงแหวนใหญ่ขั้นสี่ที่เพิ่งบรรลุวงแหวนเล็กขั้นห้าจะมีพลังเปลี่ยนแปลงชัดเจนถึงเพียงนี้? หากมิใช่เพราะกำแพงน้ำแข็งสิบทิศช่วยต้านพลังให้ข้าครึ่งหนึ่ง ข้าคงถูกทำลายไปแล้ว!”
เซียวหานจะทำลายพลังปางมือวัชระ แต่กลับถูกทำให้ถอยไปหลายสิบเมตร ดวงตาสีทองมองหยวนจุนด้วยความใแกมประหลาดใจเล็กน้อย
สามารถบรรลุขั้นสำเร็จได้ภายในเวลาอันสั้น ทั้งยังใช้วิชายุทธ์จนทำให้เซียวหานถอยได้ ความสำเร็จนี้ทำให้ผู้ชมทุกคนในสนามประลองถึงกับตกตะลึง
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้