เหม่ยฉีได้รับเงินคืนในวันถัดมา ถึงแม้ว่านางไม่้าเงินจากท่านแม่ทัพเจี้ยนหยู่แม้สักตำลึงหรอก แต่เขามาถึงเรือนท่านหมอหลวงก็ตรงมาหานาง ยัดถุงเงินใส่มือนาง เอ่ยปากขอผ่อนจ่ายเป็งวด ๆ ไป เขาติดหนี้นางมากกว่าหนึ่งมื้อ! บางมื้อท่านหมอหลวงก็ตามไปจ่ายให้เขา
นางเก็บถุงเงินสีทองเหน็บเอว ถือโอกาสชักชวนเขาเข้ามานั่งเจรจา นางนั่งห้อยขาอยู่บริเวณระเบียงเรือน แม่ทัพเจี้ยนหยู่นั่งบนตั่งไม้ ระหว่างเขาและนางมีโต๊ะกลมสำหรับวางถ้วยชา บ่าวรับใช้วางขนมต้อนรับแขกแล้วออกไป
“ท่านผู้ตรวจการเป็ผู้มีอำนาจ เขาคุ้มครองเ้าได้หากวันหนึ่งบิดาของเ้าไม่อยู่ดูแลเ้า ลองไตร่ตรองดูให้ดี เ้าไม่ควรตัดสัมพันธ์กับเขา”
“ไม่รู้ท่านรับหน้าที่เป็พ่อสื่อั้แ่เมื่อไร ไยต้องมายุ่งวุ่นวายเื่การเลือกเฟ้นสามีที่เหมาะสมให้ข้าด้วย?”
“ข้าหวังดีกับเ้า”
“ท่านเป็แม่ทัพ ส่วนข้าเป็บุตรีท่านหมอหลวง”
“ใช่ เ้าเป็...”
เจี้ยนหยู่ตอบได้ไม่เต็มปากว่าเขาไม่มีสิทธิก้าวก่าย เมื่อเขาปกป้องดูแลเยว่ฉีมาทั้งชีวิต
ใต้เหมันต์ร่วงหล่น สองสายตาสบประสานด้วยความรู้สึกที่แตกต่าง เจี้ยนหยู่หลุบตามองาแบนคอเพรียวระหง เหลือเพียงรอยแดงจาง ๆ นางบอกว่าไม่เป็ไร นางมีสมุนไพรดี นางหยิบเสื้อคลุมหนาลายดอกบ๊วยมาคลุมกันหนาว
“ข้าเป็คนปรุงยา ไม่ว่าภพชาติใดของข้า ปรารถนาจะอยู่กับยาพวกนี้ ข้าอาจมีชีวิตเพื่อช่วยเหลือผู้ยากไร้ เพื่อรักษาผู้คน รักษาท่านแม่ทัพ”
“สิ้นสุดรัชศกหลิงเฟยแล้ว เ้าไม่จำเป็ต้องมาสนใจข้า ครั้งหนึ่งเ้าเป็ผู้มอบอิสรภาพให้ข้าหลุดพ้นจากฮ่องเต้อำมหิต ข้าไม่อยากติดหนี้เ้า... มากไปกว่านี้...”
หลังการก่อฏของหลานผู้แต่งตั้งตนเป็ฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน บ้านเมืองกลับมาสงบสุข แม่ทัพปีศาจได้รับอิสรภาพจากการไปออกรบเพื่อแลกสมุนไพรที่ทำให้เสพติด สกุลหยางแม้เป็ตระกูลหมอยา ก็มีส่วนร่วมในการผลัดเปลี่ยนแผ่นดิน โดยเฉพาะเยว่ฉี นางให้ความช่วยเหลือซวี่จิงตี้ในการก่อฏ
“ฝิ่น... หน้าที่ของข้า ไม่เพียงทำให้ท่านเลิกมัน ท่านจะมีสุขภาพแข็งแรงไปออกรบทำศึก ข้ารับพระบัญชาจากฝ่าาด้วยความเต็มใจ ข้ายินดีรับใช้บ้านเมือง ต้าเหลียงเป็บ้านของข้า”
“ใช่แล้วล่ะ... เ้ารับใช้ต้าเหลียง”
‘อะไรทำให้เ้าต่อปากต่อคำไม่หยุด จะเอาชนะข้าให้ได้เลยงั้นหรือ?’ เขาไม่ได้เอ่ยออกไป ตั้งใจฟังนางเล่าถึงการเสียสละในฐานะมนุษย์ ในฐานะผู้ช่วยเหลือ นางไม่ใช่เยว่ฉีคนเดิมเพราะนางมีสำนึกรู้ในทางที่ดีกว่า
เกล็ดน้ำแข็งร่วงหล่นพาให้นางหายใจออกมาเป็ไอควัน เจี้ยนหยู่เฝ้ามองนางทอดสายตาไปข้างหน้า หัวคิดถึงถ้อยคำชื่นชมนับร้อยพัน บุรุษในเมืองกล่าวถึงความงามอันเด่นชัดของคุณหนูรองสกุลหยาง ทั้งผิวพรรณขาวผ่อง ริมฝีปากบางกระจับงาม ดั่งบุปผาสีชาดท่ามกลางฤดูเหมันต์
ยามนี้นางสวมผ้าขนสัตว์ฟูฟ่องอย่างคุณหนูผู้สูงศักดิ์ มีแต้มสีชาดกลางหน้าผาก เจี้ยนหยู่ผายมือไปข้างหน้า เรียกก้อนไฟเล็ก ๆ ในอุ้งมือมอบความอบอุ่นให้แก่นาง แก้มทั้งสองข้างของนางเป็สีแดงราวลูกตำลึงสุก
“ชีวิตมนุษย์ไม่ได้ขึ้นอยู่กับความรักระหว่างหนุ่มสาวเพียงอย่างเดียว สิ่งเ่าั้เป็ความคิดของสตรีในอดีต หลายคนไร้วาสนาต่างจากข้า เป็บุตรีท่านหมอหลวง เกิดบนกองเงินกองทอง กองตำรา สรรพวิชาแห่งความรู้ ถึงข้าจะไม่อยากต่อว่าพวกนางที่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตน ทว่าสตรีมีหน้าที่แต่งงาน สืบทอดทายาท สตรีมีหน้าที่เป็แม่พันธุ์ เกิดมาเพื่อการสืบพันธุ์เท่านั้นหรือ?” อยู่ดี ๆ นางก็เอ่ยเสียงแข็ง เบือนหน้าหนีไป ไม่สนใจความเอาใจใส่เล็กน้อย ในเมื่อนางรู้แก่ใจดี แม่ทัพครึ่งอสรพิษผู้นี้คอยปกป้องนางอยู่เสมอ ต่อให้ไม่มีคำสั่งจากเบื้องบน เขาจะอยู่เคียงข้างนาง ปรารถนาให้นางเป็สุขในที่ใดสักแห่ง ความหวังดีของเขานั้นอาจมากกว่าท่านผู้ตรวจการหลายเท่านัก
“ข้าเบื่อจะต่อคารมกับเ้าแล้วเยว่ฉี บอกความจริงข้ามาเถอะ เ้าไปทำอะไรมา เ้าจำได้ไหม? เ้าพูดกับข้าว่าเ้าจะแต่งงานกับคุณชายหลิว”
“ข้าจำได้” นางย้ำด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ‘แล้วข้าก็อยากตบปากตัวเองด้วย!’
สีหน้าร้ายกาจของนางเสมือนคนสำนึกผิด นางนึกถึงข้อความในนิยาย เยว่ฉีวิ่งจากบ้านไปถึงกระโจมท่านแม่ทัพเพื่อทำร้ายน้ำใจเขา...
คืนนั้นเหมันต์ไม่หยุดลงสักชั่วขณะหนึ่ง ทั่วทั้งเมืองต้าเหลียงปกคลุมด้วยสีขาวโพลน เหน็บหนาวถึงขั้วกระดูก
เยว่ฉีเข้าไปในกระโจมแม่ทัพทั้งลมหายใจหอบเหนื่อย นางถอดผ้าคลุมขนสัตว์วางไว้บนโต๊ะไม้กลม ะโอย่างดีใจ ‘ข้ากำลังจะแต่งงานกับท่านผู้ตรวจการ คุณชายสามสกุลจาง!’
ั์ตาสีดำสนิทแปรเปลี่ยนเป็สีชาด ใบหน้าหล่อเหลาคมคายที่เคยนิ่งเฉยเ็าปรากฏความผิดหวัง แต่ก็เพียงไม่นาน เจี้ยนหยู่เสแสร้งยิ้ม มองความสดใสภายในดวงตาของนางด้วยหัวใจที่เ็ป เค้นน้ำเสียงสั่นเทาออกมา ‘ข้ายินดีกับเ้าด้วย เยว่ฉี’
เหม่ยฉีคิดมาถึงตรงนั้น นางถอนหายใจ “เฮ้อ... เอาเป็ว่าข้าจะทำเื่ที่เป็ประโยชน์ต่อบ้านเมือง ดีกว่าไปรับใช้คนคนเดียว ท่านลืมเื่คุณชายหลิวไปได้ละ”
“เ้าแต่งงานไป เ้าก็ปรุงยาได้ เรือนท่านผู้ตรวจการกว้างขวางใหญ่โต บ่าวรับใช้มากมาย เ้าจะได้ทุกสิ่งที่เ้า้า”
“ท่านรู้หรือว่าข้า้าอะไร?” นางท้าทายบุรุษข้างกายด้วยรอยยิ้ม แต่นางเอาแน่เอานอนไม่ได้ อาทิตย์ก่อนนางกล่าวว่านางปรารถนาจะแต่งงานกับชายผู้เป็ที่รัก ตอนนี้นางกลับกลายเป็อีกอย่าง นางลุกขึ้นทำท่าเข้มแข็งอย่างนักแสดง “แม่ทัพตายในสนามรบเช่นไร ลมหายใจสุดท้ายของข้า ขออยู่กับกองยาสมุนไพร ข้าจะอยู่เคียงข้างบิดาและท่านแม่ทัพเจี้ยนหยู่ ผู้อื่นไม่อยู่ในสายตาของข้าอีกต่อไป!”
“พูดเื่ไร้สาระอะไรของเ้า?”
“ไม่ใช่ปัญหาของท่าน เป็การตัดสินใจของข้า ไม่มีสิทธิมาบังคับจิตใจข้า ท่านอย่าเสียเวลาเลย คราวนี้ข้าไม่เปลี่ยนใจเด็ดขาด นี่ก็ดึกมากแล้ว...” เหม่ยฉีประสานมือไว้ด้านหน้าอย่างนอบน้อม นางยังคงเป็คุณหนูรองที่ดุดันเด็ดขาด ไม่โอนอ่อนตาม นางเชิดหน้าใส่แม่ทัพใหญ่ “พบหน้ากันไม่พูดเื่คนรัก หัวใจข้าเลือกเอง อาฮั่น อาจู่ ส่งแขก” ไม่ทันที่นางจะเรียกบ่าวรับใช้ชายสองคน แม่ทัพเจี้ยนหยู่ลุกขึ้นยืนสุดความสูง หน้าตาของเขาดุดันไม่แพ้นาง
“ไม่ต้องส่ง ข้ากลับเองได้”
“เดินทางปลอดภัยเ้าค่ะใต้เท้าเจี้ยน”
