จ้าวหลิงเซียนที่กำลังดิ้นอยู่ก็หยุดลงและจ้องไปที่ฉินเฟิง ทำไมเธอถึงไม่คิดถึงสิ่งที่พ่อของเธอเพิ่งพูดเมื่อครู่? ฉินเฟิง เ้าหมอนี่มันยกเลิกหมั้นของเธอต่อหน้าสาธารณชน
ฉินเฟิงรู้สึกอึดอัดนิดหน่อยหลังจากได้ยินจ้าวต้าไห่พูด บรรยากาศรอบตัวของจ้าวหลิงเซียนก็เป็น้ำแข็งทันทีฉินเฟิงจึงหยุดจูบเธอและปล่อยเธอไป
ั์ตาของจ้าวหลิงเซียนดูไร้ความหวังขณะที่เดินไปตรงโซฟาและนั่งลงพร้อมกับพูดว่า “พ่อ ทั้งฉินเฟิงและเหลียงเจิ้ยเวยกลับไปแล้วหนูไม่ชอบพี่น้องในตระกูลเหลียง แต่หนูจะลองหาคนที่ชอบในเร็วๆ นี้ดูดังนั้นพ่อไม่ต้องห่วงเื่การแต่งงานของหนูอีกต่อไปแล้ว”
ขณะที่เธอพูดจ้าวหลิงเซียนมองที่ฉินเฟิง เหมือนกับว่ากำลังยั่วยุเขา
หลังจากที่จ้าวต้าไห่ได้ยินว่าฉินเฟิงและเหลียงเจิ้นเวยกลับไปแล้วเขาก็ไม่ได้รบกวนลูกสาวของเขาอีกและกลับห้อง
“ฉันล้างแผลให้นายแล้ว นายกลับไปได้”จ้าวหลิงเซียนกล่าวขณะที่ความเ็าของเธอกลับมาทันทีและไม่แม้แต่จะมองเขาอีก
ท่าทีของผู้หญิงคนนี้นี่เปลี่ยนไวยิ่งกว่าดินฟ้าอากาศอีก!
ฉินเฟิงจริงจังขึ้น“หลิงเซียน เธอควรจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นระหว่างตระกูลฉินกับตระกูลฮ่าวเพราะเื่นั้น พรุ่งนี้ฉันจะไม่ไปมหา’ ลัย แต่จะไปทำงานแทน”
ร่างของจ้าวหลิงเซียนสั่นเล็กน้อยขณะที่ั์ตาของเธอเริ่มพร่ามัวเธอพยายามจะกลั้นน้ำตาไม่ให้ไหลออกมาพร้อมกับตอบ “นายออกไปได้แล้ว และในอนาคตนายไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับฉันอีก”
หลังจากอาการบ้าที่เธอประสบในคืนนั้นจ้าวหลิงเซียนยอมให้ฉินเฟิงจูบเธอ และช่วยเขาชำระล้างร่างกายเมื่ออาการบ้านั้นหายไป เธอก็กลับมามีเหตุมีผลขึ้นอีกครั้ง
เธอรู้ว่ามันเป็ไปไม่ได้สำหรับเธอกับฉินเฟิงแม้ว่าฉินเฟิงจะเปลี่ยนไป แต่เขาก็ยังทำตัวเสเพลและไม่จริงจังอยู่จ้าวหลิงเซียนไม่สามารถยอมรับที่ผู้ชายของเธอไปข้องแวะกับผู้หญิงอื่นได้
อารมณ์ของเธอดิ่งลงในทันทีและหลังจากที่มองดูฉินเฟิงครั้งสุดท้าย เธอพูดอย่างไร้ความรู้สึกว่า“ต่อไปอย่ามาหาฉันอีก!”
หลังจากออกจากตระกูลจ้าวไปแล้วฉินเฟิงกลับมาที่ทุ่งหญ้าโล่งอีกครั้งตอนนี้ชายรอยสักทั้งสามจากในคุกกำลังรอเขาอยู่
เมื่อพวกเขาเห็นฉินเฟิงพวกเขาก็รีบมาหาด้วยความเคารพทันที
“นายน้อยฉินครับ ขอบคุณที่เมตตาและไม่ถือโทษโกรธแค้นกับเรา พวกเรา 3พี่น้องปลาบปลื้มอย่างสุดซึ้งที่ท่านพาเราออกมาเราจะทำงานดั่งวัวควายเพื่อรับใช้ท่านจากนี้เป็ต้นไป”
ทั้ง 3 เกลอซาบซึ้งกับฉินเฟิงตอนที่พวกเขาโดนปล่อยตัวพวกเขาก็รู้สถานะของฉินเฟิงแล้ว
หลังจากพบว่าฉินเฟิงคือนายน้อยเ้าสำราญอันดับหนึ่งผู้มีชื่อเสียงแห่งเมืองเว่ยเฉิงนายน้อยฉิน ทั้งสามก็ตกตะลึง ถ้าพวกเขารู้เื่นี้ตอนที่อยู่ในคุกแม้ว่าจะโดนขู่ฆ่า พวกเขาก็คงจะไม่พยายามที่จะ ‘สั่งสอน’ ฉินเฟิง
แถมพวกเขายังสั่งให้ฉินเฟิงนวดและสร้างความสำราญแก่เขาซึ่งรนหาที่ตายจริงๆ!
ฉินเฟิงมองไปที่ทั้งสามคนและหลังจากยืนยันว่าไม่มีใครอยู่แถวนี้ เขาก็ลากร่างของเหลียงเจิ้นเวยออกมา“ไอ้หมอนี่มันอยากฆ่าฉัน ฉันเลยฆ่ามันก่อน ฉันอยากให้พวกนายจัดการร่างของมัน”
“แล้วก็ ถ้าพวกนายอยากจะติดตามฉัน ก็ทำตามคำสั่งฉันให้ดีและฉันจะดูแลพวกนายอย่างดี พวกนายทุกคนรู้อยู่แล้วว่าตระกูลฉินของฉันทรงพลังขนาดไหนถ้ามีใครในพวกนายที่กล้าทรยศ ฉันฆ่าพวกนายได้ในไม่กี่นาทีก็เพียงพอแล้ว”
โดยไม่ต้องให้ฉินเฟิงเตือนทั้งสามคนก็ตัดสินใจจะติดตามฉินเฟิงด้วยความศรัทธาอยู่แล้วเนื่องจากไม่ใช่ทุกคนที่จะมีโอกาสแบบนี้
หลังจากที่พวกเขาเห็นฉินเฟิงลากศพออกมาชายทั้งสามก็ไม่กลัว แต่ตื่นเต้นแทนนี่หมายความว่าฉินเฟิงเชื่อใจพวกเขาและให้โอกาสพวกเขาตราบใดที่พวกเขาติดตามฉินเฟิง พวกเขาก็จะได้ทั้งอำนาจและความร่ำรวยรวมถึงความปลอดภัยและสงบสุข
ทั้งสามคนให้คำมั่นสัญญากับฉินเฟิง“นายน้อยฉินครับ โปรดวางใจได้ เราจะแอบจัดการให้อย่างลับๆ เอง”
เมื่อเห็นความจริงใจของทั้งสามคนฉินเฟิงก็ค่อนข้างพอใจหลังจากมองดูพวกมันอุ้มร่างของเหลียงเจิ้นเวยขึ้นรถที่พวกมันขับมาฉินเฟิงจึงกลับสู่ตำหนักฉิน
...
“ฉินเฟิง รีบลุกจากเตียงได้แล้ว ลูกอยากจะไปสายั้แ่วันแรกหรือไง?”ฉินเฟิงยังนอนอยู่ในเตียงตอนที่เสียงพ่อของเขาดังออกมา
ฉินเฟิงพลิกตัวอย่างไม่มีความสุขและมุดหัวอยู่กับหมอนขณะที่ตั้งใจจะนอนต่อ
“ฉินเฟิง งั้นก็ไม่ต้องไปทำงานแล้วพ่อจะโทรหาตระกูลตงฟางให้ส่งคนมารับลูกไป ลูกจะได้แต่งงานกับตงฟางชิงเสวี่ยสักทีต่อไปพ่อก็จะไม่รบกวน...” ฉินหวงพูดประโยคเด็ดออกมา และก่อนที่เขาจะพูดจบเขาก็เห็นฉินเฟิงกระโจนออกมาจากเตียง
“อรุณสวัสดิ์ฮะพ่อ! วันนี้เป็วันทำงานวันแรกของผมพ่อบอกให้พ่อบ้านหวังรีบทำอะไรอร่อยๆ ให้กินหน่อยได้ไหม? ผมจะได้ไปทำงานทันทีตอนที่กินเสร็จ”ฉินเฟิงเดินออกจากห้องนอนไปห้องอาบน้ำทันที
เมื่อเห็นท่าทีแบบนี้ของลูกชายฉินหวงยิ้มและส่ายหน้า เขาไปที่ห้องนั่งเล่นและกินอาหารเช้ากับหานอิ๋งอิ๋ง
หลังจากอาบน้ำเสร็จฉินเฟิงก็ลงมาข้างล่างั์ตาของเขาส่องประกายเมื่อเห็นหานอิ๋งอิ๋งที่กำลังบรรจงกินสเต๊กอยู่
เธอไม่ได้ใส่ชุดที่ดูเปิดเผยเหมือนปกติแต่เธอใส่เสื้อเชิ้ตสีขาวและกระโปรงสีดำ เธอมีบรรยากาศดูยิ่งใหญ่เหมือนกับผู้บริหารหญิงที่มีอำนาจ
อย่างไรก็ตามรูปร่างที่เซ็กซี่และยั่วยวนของเธอดูเหมือนจะะเิออกจากเสื้อผ้าที่คับแน่นของเธอได้ตลอดเวลา
เธอแต่งหน้าบางๆและมีริมฝีปากแดงโดยธรรมชาติโดยที่ไม่ต้องทาลิปสติกมือที่อ่อนช้อยของเธอถือส้อมสีเงินขณะที่ป้อนสเต๊กคำเล็กๆ เข้าปากซึ่งดูมีสง่าราศีอย่างมาก
ครึ่งหนึ่งของขาที่เรียวยาวของเธอถูกเปิดเผยและไขว่ห้างเข้าด้วยกัน ทำให้ดูค่อนข้างเย้ายวนใจ
เมื่อเห็นฉินเฟิงเดินลงมามือของหานอิ๋งอิ๋งก็หยุดลงขณะที่ส่งรอยยิ้มให้ “ฉินเฟิง ตื่นแล้วเหรอ”
“อืม คุณก็ตื่นเช้าเหมือนกันเหรอ?” มีชุดมีดส้อมและจานสเต๊กบนที่นั่งถัดจากหานอิ๋งอิ๋งรวมถึงแก้วที่ใส่น้ำผลไม้ปั่น ฉินเฟิงนั่งลงข้างๆหานอิ๋งอิ๋งและกลิ่นของน้ำหอมก็โชยมาที่เขา
“มันเป็วันแรกที่บริษัทของคุณอา ฉันก็ต้องตื่นเช้าอยู่แล้วสิ”ดวงตาที่โค้งขึ้นของหานอิ๋งอิ๋งกลายเป็จันทร์เสี้ยวสองดวงขณะที่เธอยิ้มทำให้มองดูสวยงามอย่างเหลือเชื่อ สีหน้าใโผล่ขึ้นบนใบหน้าของฉินเฟิงขณะมองไปที่พ่อของเขาคนที่กำลังนั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม และถาม “พ่อ เกิดอะไรขึ้น?”
“จะเกิดอะไรขึ้นล่ะ? หานอิ๋งอิ๋งชื่นชมพ่อและอยากจะเรียนรู้เื่การจัดการและการลงทุนจากพ่อั้แ่วันนี้เป็ต้นไป อิ๋งอิ๋งจะเข้าบริษัทเดียวกับลูก ลูกจะเริ่มต้นเป็พนักงานขายส่วนอิ๋งอิ๋งจะเริ่มต้นเป็ผู้ช่วยของประธานกรรมการ
ฉินเฟิงรู้สึกเสียใจเขาเป็ลูกชายของฉินหวง ทำไมเขาต้องเริ่มต้นจากพนักงานขายในขณะที่หานอิ๋งอิ๋งสามารถเป็ผู้ช่วยพ่อของเขาได้ทันที?
อย่างไรก็ตามเมื่อเห็นสายตาคุกคามของฉินหวงที่กำลังเหล่มาที่เขา ฉินเฟิงจึงไม่กล้าพูดอะไรเขาทำได้แค่เงียบและยอมรับชะตาของการเป็พนักงานขายที่ต่ำต้อยของบริษัท
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้