“ท่าน......” จิ่นเซวียนใเมื่อซ่งจื่อเฉินที่ร่างกายกึ่งเปลือยเปล่า อุ้มนางไปชำระร่างกายที่บ่อน้ำร้อน กล้ามเนื้อของเขาช่างน่าลูบไล้ ช่างร้อนแรงเสียจริง
“วางข้าลงเร็ว ข้าจะอาบเอง” ใบหน้าของจิ่นเซวียนแดงระเรื่อเหมือนผลผิงกั่ว การกระทำของซ่งจื่อเฉินทำให้นางต้องมองเขาใหม่ บุรุษผู้นี้ทำทุกสิ่งที่อยู่เหนือการคาดเดาของนางเสมอ
“ข้าจะช่วยเ้าอาบ” ซ่งจื่อเฉินวางจิ่นเซวียนลงในบ่อน้ำร้อน แล้วก้าวลงไปด้วย เขาหยิบผ้าขึ้นมาเช็ดหลังให้จิ่นเซวียนพลางพูดคุยกับนาง สามีภรรยาเย้าแหย่กันอย่างมีความสุข
“สามี วันพรุ่งนี้พวกเราต้องกลับบ้านเดิมของข้า หากครอบครัวของข้าเห็นท่านยืนอยู่หน้าบ้าน ท่านคิดว่าพวกเขาจะใหรือไม่?” จิ่นเซวียนรู้สึกเขินอาย จึงหาเื่มาคุยกับซ่งจื่อเฉินให้ตนเองผ่อนคลาย
“คนบ้านพ่อแม่ของเ้า ข้ายอบรับเพียงครอบครัวของท่านย่าเล็กและครอบครัวของท่านอาเล็กเท่านั้น ผู้อื่นข้ามิสนใจ” ซ่งจื่อเฉินมิชอบพ่อเฮงซวยของจิ่นเซวียน และมิใช่การมิชอบธรรมดาๆ เสียด้วย
“ข้ากังวลว่าพ่อเฮงซวยจะทำให้ท่านลำบากใจ ข้านำสินสมรสมาที่บ้านท่านทั้งหมด เขามิพอใจยิ่งนัก” เมื่อพูดถึงพ่อเฮงซวย จิ่นเซวียนก็แค้นจนกัดฟันกรอดๆ
พ่อเฮงซวย เรียกเช่นนี้มิเลวเลย เพราะท่านพ่อตาของเขาเป็คนห่วยแตกจริงๆ ซ่งจื่อเฉินยิ้มบาง เมื่อได้ยินจิ่นเซวียนเรียกซย่าหลี่จวินว่าพ่อเฮงซวย
“หากเขาอยากทำให้ข้าลำบากใจ มิใช่ว่าข้ายังมีเ้าอยู่หรือ?”
“ฮ่าๆ ท่านหวังให้ข้าปกป้องท่านหรือ?” จิ่นเซวียนเอ่ยหยอกเย้า “เพียงท่านมีเงินมอบให้เขา เขาก็มิทำให้ท่านลำบากใจแล้ว”
“พวกเราให้เงินมากเท่าใด เขาก็มิพอใจหรอก เื่ที่พวกเราจะทำธุรกิจ อย่าให้เขารู้ในเวลานี้เลย ข้าเกรงว่าเขาจะทำให้เ้าลำบาก” ซ่งจื่อเฉินมิได้พยายามยุแยง ผู้ที่ขายลูกสาวของตนเองเพื่อเงิน มิสมควรได้รับการเคารพ
“ข้าดูเป็คนที่ยอมให้เขารังแกได้ง่ายๆ หรือ?” จิ่นเซวียนหันมามองซ่งจื่อเฉิน “ความจริงท่านควรขอบคุณเขาเสียด้วย หากมิใช่เพราะเขาส่งข้ามาแต่งกับท่าน ท่านจะมีภรรยาที่งดงามและมีความสามารถเช่นนี้หรือ”
“เช่นนั้นวันพรุ่งนี้ข้าจะเข้าเมือง ซื้อของขวัญมาให้เขาเพิ่ม เพื่อเป็การขอบคุณ” ซ่งจื่อเฉินให้ความร่วมมือกับจิ่นเซวียนมาก หลังจากที่อาบน้ำให้จิ่นเซวียนเสร็จแล้ว เขาก็ลุกออกจากบ่อน้ำร้อน ไปหยิบผ้าขนหนูมาเช็ดหยาดน้ำบนร่างกายของจิ่นเซวียน
“พวกเราพักผ่อนเถิด วันพรุ่งนี้ต้องตื่นแต่เช้า” จิ่นเซวียนเช็ดตัวจนแห้ง แล้วกลับห้องนอนไปพักผ่อน
เช้าวันรุ่งขึ้น พวกเขาตื่นนอนและแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว ซ่งหยวนหยวนที่อยู่ตรงหน้าประตูก็มาเรียกพวกเขาให้ไปทานข้าว
อาหารเช้าวันนี้เป็ฝีมือของซ่งหยวนหยวนกับพานซื่อ พวกนางนึ่งหมั่นโถวและต้มโจ๊กข้าว
เมื่อก่อนพวกเขากินเช่นนี้กันทุกเช้า
“หยวนหยวน เ้าขยันจริงๆ” จิ่นเซวียนเปิดประตูและเดินออกจากเรือนมาลูบหัวของซ่งหยวนหยวนด้วยความเอ็นดู
“ข้าชินกับการตื่นเช้าเ้าค่ะ” ซ่งหยวนหยวนยิ้มหวาน “ท่านน้าเล็ก ท่านงดงามยิ่งนัก เหตุใดผิวพรรณของท่านถึงขาวเช่นนี้เ้าคะ?”
“ข้าได้ติดตัวมาั้แ่เกิด” จิ่นเซวียนหยิกแก้มของซ่งหยวนหยวน และยิ้มหลอกนาง
“อิจฉาท่านยิ่งนักที่มีผิวสวยเช่นนี้ ท่านดูสิเ้าคะ ข้าตากแดดจนกลายเป็สาวผิวคล้ำแล้วเ้าค่ะ” ซ่งหยวนหยวนคลึงแก้มทั้งสองข้างของนางอย่างน่ารัก “ท่านอาเล็กบอกว่าข้าเป็คนผิวคล้ำ ในวันข้างหน้าข้าจะมิได้แต่งงานเ้าค่ะ”
“เ้าอย่าไปฟังนางพูดไร้สาระ เ้าจะเป็คนผิวคล้ำได้อย่างไร เมื่อฤดูหนาวมาถึง ผิวของเ้าจะค่อยๆ กลับมาขาวดังเดิม”
“่หน้าหนาวผิวของข้าดีขึ้นเล็กน้อย โชดดีที่ใบหน้าของข้ามิมีสิวขึ้น แม้จะผิวคล้ำ แต่ผิวค่อนข้างละเอียดเ้าค่ะ” ซ่งหยวนหยวนเป็แม่นางตัวน้อย นางเองก็รักสวยรักงามเช่นกัน นางมีชาดกับแป้งน้ำด้วย แต่นางใช้ไปเพียงหนเดียวเท่านั้น เพราะนางแพ้
“ภรรยา เ้าคุยสิ่งใดกับหยวนหยวนหรือ?” ตอนนั้นเองซ่งจื่อเฉินก็เดินออกมา
เขาค่อนข้างดีใจที่เห็นจิ่นเซวียนคุยอย่างสนุกสนานกับซ่งหยวนหยวน
เขารักและเอ็นดูหลานสาวผู้นี้มากนัก นางฉลาดเฉลียว รู้ความั้แ่เล็ก ่ที่เขาบาดเจ็ดที่ขาทั้งสองข้าง นางมักจะทำอาหารและต้มยาให้เขา มิเคยแอบอู้ เมื่อเทียบกับผู้ใหญ่ในครอบครัวแล้ว นางมีน้ำใจมากกว่าพวกเขาเสียอีก
ในห้องโถงใหญ่ ขาดไปเพียงจิ่นเซวียนกับซ่งจื่อเฉินเท่านั้น จากนี้ต่อไปพวกจิ่นเซวียนตัดสินใจจะทำอาหารเช้ากันเอง มิอยากรบกวนทุกคน
“จื่อเฉิน พวกเราทำงานในทุ่งเสร็จเรียบร้อยแล้ว รอเพียงเก็บเกี่ยวใน่ฤดูใบไม้ร่วงเท่านั้น” ระหว่างทานอาหาร ซ่งหวาก็รายงานเื่งานในทุ่งให้ซ่งจื่อเฉินฟัง
“รบกวนทุกคนแล้วขอรับ” ซ่งจื่อเฉินยิ้มตอบรับ
“จริงด้วย เซวียนเซวียน เื่ขุดสมุนไพร เ้าจะทำต่อหรือไม่?” เฉินซื่อถาม
“พี่สะใภ้ใหญ่ งานขุดสมุนไพรให้คนในหมู่บ้านทำเถิดเ้าค่ะ ท่านกับพี่ใหญ่ไปสอบถามในเมืองว่ามีชาวสวนดอกไม้ที่ใด้าขายดอกไม้หรือไม่ พวกเราจะขอรับซื้อทั้งหมด ขอเพียงเป็ดอกไม้ที่ใช้ทำชาดและแป้งน้ำได้ ถึงราคาแพงหน่อยก็มิเป็ไรเ้าค่ะ” จิ่นเซวียน้าดอกไม้จำนวนมาก เพื่อนำมาทำน้ำซวงฟู แพงเท่าใดนางก็มิกลัว
“พวกเราจะไปถามมาให้ เมื่อรู้แน่ชัดแล้ว จะนำมาบอกพวกเ้าภายหลัง” ซ่งหวากับเฉินซื่อแอบดีใจที่จิ่นเซวียนให้ความสำคัญกับพวกเขา
“จื่อเฉิน เซวียนเซวียน แล้วพวกเราเล่า พวกเราทำหน้าที่ใดหรือ?” ซย่าตงชิงกลัวว่าจิ่นเซวียนจะมิมอบหมายงานให้นาง นางจึงรีบถามจิ่นเซวียนว่านางรับผิดชอบงานใด
“ท่านกับพี่รองช่วยไปถามชาวสวนดอกไม้เช่นกันเ้าค่ะ หลังจากที่ข้านำโสมคนไปจำนำแล้ว จะนำเงินมาซื้อที่ดิน เพื่อปลูกดอกไม้เ้าค่ะ” จิ่นเซวียนสุ่มเลือกงานให้ซ่งเหลียงกับซย่าตงชิง
“เซวียนเซวียน ข้าช่วยสิ่งใดพวกเ้าได้บ้าง?” ซ่งเหมยมักจะทำตัวเงียบอยู่เสมอ นางจึงโดนคนเมินได้ง่าย
“พี่สี่ วันนี้ท่านพักผ่อนให้เต็มที่ รอข้ากลับมา ข้าจะปรุงยาทาหน้าให้ท่าน หวังว่ายาของข้าจะช่วยกำจัดปานของท่านได้เ้าค่ะ” จิ่นเซวียนมองซ่งเหมยด้วยความอ่อนโยน พร้อมบอกให้นางไปพักให้รู้สึกผ่อนคลายเสียหน่อย
“จริงด้วย เมื่อครู่ข้าไปเรียกท่านอาเล็กให้มาทานข้าว แต่นางมิสนใจข้าเลยเ้าค่ะ ข้าคิดว่านางน่าจะยังโกรธพวกเราอยู่” เมื่อนึกถึงซ่งเป่าจู ซ่งหยวนหยวนก็อดที่จะขมาดคิ้วมิได้
ท่านอาเล็กของนางผู้นี้อารมณ์ร้ายยิ่งนัก หากมีผู้ใดไปยั่วโมโหนาง นางจะมิปล่อยให้คนผู้นั้นอยู่ดีมีสุขแน่
“เ้ามิต้องสนใจนาง นางอยากประชดก็ปล่อยให้นางทำไป” ซ่งจื่อเฉินเตือนซ่งหยวนหยวน ว่าอย่าไปโอ๋ซ่งเป่าจูเช่นเมื่อก่อน หากทุกคนยิ่งโอ๋ ซ่งเป่าจูก็ยิ่งคิดว่านางสำคัญ
พวกจิ่นเซวียนเตรียมตัวออกเดินทางหลังจากทานข้าวเรียบร้อยแล้ว ซย่าตงชิงอยากกลับไปพบพ่อแม่ของนางมานานแล้ว นางคิดว่าถือโอกาสที่จิ่นเซวียนมีรถ ขอนางนั่งรถไปด้วยดีกว่า
“เซวียนเซวียน ข้าขอไปกับพวกเ้าด้วย ข้ามิได้พบท่านแม่นานแล้ว” ซย่าตงชิงกลับเรือนไปหยิบผ้าพับครึ่งผืน ตั้งใจจะเอาไปทำชุดให้น้องชาย
พวกจิ่นเซวียนนั้นนอกจากเอาองุ่นไปเป็ของขวัญ ก็มิได้ซื้อของอย่างอื่นอีก พวกเขาวางแผนจะซื้อของกินไปให้หานเอ๋อร์เมื่อผ่านเข้าไปในเมือง
“พวกท่านรอข้าด้วย ข้าไปด้วยเ้าค่ะ” รถม้าเคลื่อนตัวแล้ว แต่ซ่งหยวนหยวนกลับวิ่งตามรถมาจากในบ้าน ซ่งเฉวียนที่รับหน้าที่ขับรถม้าได้ยินเสียงของซ่งหยวนหยวน เขาจึงรีบหยุดรถทันที
ซ่งหยวนหยวนวิ่งหอบตัวโยนมาข้างรถม้า “ท่านแม่ ข้ามิได้พบท่านยายมานานแล้ว ข้าอยากไปด้วยเ้าค่ะ”
“เ้าลูกคนนี้ จะไปแล้วมิรีบหน่อย เห็นหรือไม่ว่าพวกเราออกเดินทางกันแล้ว เ้าเพิ่งมาตัดสินใจชั่ววูบเช่นนี้ได้อย่างไร” ซย่าตงชิงมิพอใจลูกสาวเล็กน้อย นางจึงดุหยวนหยวนสองสามคำแล้วบอกให้นางขึ้นรถมา
จิ่นเซวียนกลัวซ่งเฉวียนจะเลี้ยวผิดตรงสามแยก นางจึงเอ่ยเตือนเขาก่อนว่าพวกเราต้องเข้าเมือง
เมื่อเดินทางออกจากหมู่บ้านแล้ว พวกจิ่นเซวียนก็บังเอิญพบกับพวกโจวซู่ซินบนถนน ผ้าม่านรถม้าถูกม้วนขึ้น พวกเขาจึงมองเห็นคนที่เดินอยู่บนถนนผ่านหน้าต่าง จิ่นเซวียนมิรู้จักโจวซั่ว แต่ซย่าตงชิงพูดขึ้นมา นางจึงหันไปมองโจวซั่วที่อยู่บนถนนหลายหน
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้