เวลานี้ตู้เจ๋อ ลู่เพียวและพวกก็มาถึงแล้ว
“เสิ่นเยวี่ย พวกเ้าชั่วช้าเกินไปแล้ว เจ็ดคนรุมเนี่ยหลีคนเดียว มันชักจะเกินไปแล้ว!” ตู้เจ๋อโกรธเคือง เมื่อเห็นเนี่ยหลีไม่เป็อะไรจึงค่อยโล่งอก แม้เนี่ยหลีจะแกล้งทำตัวอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่ แต่ความจริงข้อหนึ่งก็คือเนี่ยหลีไม่ได้รับาเ็ร้ายแรงอันใด
พวกนักเรียนที่ชมดูอยู่ไกลๆ ต่างก็พากันด่าทอการกระทำของเสิ่นเยวี่ย
“ข้าไม่ได้ทำอะไรเขาเลย!” เสิ่นเยวี่ยแก้ตัวหน้าสลด พวกเขาถูกผู้คนด่าสาปแช่ง
เนี่ยหลี ลู่เพียวและพวกสบตากัน ลู่เพียวพลันเข้าใจ
“พวกเ้าตั้งหลายคนทั้งเตะทั้งถีบเนี่ยหลีมาั้แ่แรก เนี่ยหลีจะไม่เป็ไรได้อย่างไร? เ้าอยากให้พวกเราเตะถีบเ้าบ้างหรือไม่?” ลู่เพียวคำรามลั่น “เสิ่นเยวี่ย เ้ากล้าสาบานหรือไม่ ว่าเ้าไม่ได้สั่งให้พวกลูกน้องของเ้ามาฆ่าเนี่ยหลี? แต่ต่อให้เ้าไม่ยอมรับ พวกนักเรียนมากมายในโรงเรียนนี้ก็ได้ยิน!”
“ข้าพูดก็จริง แต่ข้าไม่ได้ตั้งใจ...” เสิ่นเยวี่ยพยายามจะแก้ตัว
เซียวหนิงเอ๋อร์และเยี่ยจื่ออวิ๋นต่างจ้องมองเสิ่นเยวี่ยด้วยความรังเกียจ เขาพยายามฆ่าคนในโรงเรียนอย่างนั้นหรือ? เขาช่างต่ำช้าจริงๆ! ภาพลักษณ์ของเสิ่นเยวี่ยในใจของเยี่ยจื่ออวิ๋นยิ่งเลวร้ายลงไปทุกที
ที่เขาพูดเป็ความสัตย์จริง แม้เสิ่นเซิ่งจะะโบอกให้พวกลูกน้องตีเนี่ยหลีจนตาย แต่ก็เป็เพียงการพูดอย่างมิได้ใส่ใจ การฆ่าคนในโรงเรียน เขาย่อมไม่กล้าทำแน่ หากเป็ความจริง แม้แต่ตระกูลเสินเซิ่งก็ไม่อาจปกป้องเขาได้!
ทว่าคำพูดโเี้เหล่านี้เมื่อพูดให้ผู้อื่นฟัง ความหมายย่อมไม่เหมือนกัน!
“ท่านรองอาจารย์ใหญ่เยี่ยเซิ่งมาแล้ว!”
“เนี่ยหลี ข้ายอมรับความพ่ายแพ้ในวันนี้ เ้ารอข้าให้ดีเถอะ!” เสิ่นเยวี่ยทิ้งท้ายและรีบหนีไปพร้อมพรรคพวก
“เนี่ยหลี เ้าไม่เป็อะไรนะ!” สีหน้าของเซียวหนิงเอ๋อร์แสดงความกังวลใจ เกี่ยวแขนเนี่ยหลีด้วยความเป็ห่วงเป็ใย
“ข้าเจ็บเพียงเล็กน้อย ไม่มีอะไรร้ายแรง โชคดี พวกเ้ามาถึงเร็ว” เนี่ยหลีพูดยิ้มแย้ม หันมองเซียวหนิงเอ๋อร์และก็หันไปมองเยี่ยจื่ออวิ๋น
หลังจากที่เซียวหนิงเอ๋อร์ได้ฝึกเคล็ดวิชาใหม่ พลังปราณและผิวพรรณก็ยิ่งดีขึ้นกว่าเดิม อ่อนเยาว์และงดงามยิ่งกว่าเดิม ทั่วร่างมีเสน่ห์ดึงดูดใจไม่อาจบรรยายได้ และเยี่ยจื่ออวิ๋นเล่า นางก็งดงามขึ้นกว่าเดิมเช่นกัน บอบบาง สง่างามน่าประทับใจ
สองโฉมงาม คนหนึ่งข้างซ้าย คนหนึ่งข้างขวา แต่ละคนมีความงามที่ไม่ด้อยไปกว่ากัน
เห็นท่าทางห่วงใยที่เซียวหนิงเอ๋อร์มีต่อเนี่ยหลี เยี่ยจื่ออวิ๋นก็บอกไม่ถูกว่ารู้สึกอย่างไร
“ไม่เป็อะไรก็ดีแล้ว” เยี่ยจื่ออวิ๋นหัวเราะแก้เขิน
เห็นภาพฉากเช่นนี้ พวกเด็กผู้ชายรอบด้านก็สงบใจมิได้แล้ว หากเมื่อครู่เป็พวกเขาถูกทุบตี และคนที่ได้ยืนอยู่ระหว่างเทพธิดาทั้งสองเป็พวกเขาก็คงจะดีไม่น้อย เด็กผู้หญิงที่เห็นเหตุการณ์ก็เพิ่งสังเกตเห็นเป็ครั้งแรก ที่แท้หน้าตาของเนี่ยหลีก็ค่อนข้างหล่อเหลาเอาการไม่น้อย อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองเนี่ยหลีอีกสองสามหน ยิ่งมองก็ยิ่งถูกใจ มิน่าทั้งเทพธิดาหนิงเอ๋อร์และเทพธิดาจื่ออวิ๋นต่างสนใจเนี่ยหลีนัก
และเด็กผู้ชายหลายคน ยิ่งมองเนี่ยหลีก็ยิ่งรู้สึกเกลียดขี้หน้า เ้าฉกเทพธิดาของข้าไปคนหนึ่งก็มากพอแล้ว ประเดี๋ยวเดียวก็คว้าไปอีกคน นี่เกินจะทนแล้ว เมื่อครู่ทำไมไม่ถูกเสิ่นเยวี่ยตีจนตายไปเสียเลยเล่า? เห็นสองโฉมงามอยู่ข้างกายเนี่ยหลี ความห่วงใยของพวกเขาที่มีต่อเนี่ยหลีก็ถูกโยนขึ้นไปถึงฟ้าเสียแล้ว
เห็นโฉมงามเยี่ยจื่ออวิ๋นอยู่ข้างกายเนี่ยหลี เซียวหนิงเอ๋อร์พลันรู้สึกถึงวิกฤตบางอย่าง นางรู้ว่าคนที่เนี่ยหลีชื่นชอบก็คือเยี่ยจื่ออวิ๋น แต่นางยังไม่อาจระงับความรู้สึกแรงกล้าในใจได้ เนี่ยหลีเป็เด็กผู้ชายคนแรกที่เดินเข้ามาอยู่ในหัวใจของนาง นางคิดว่ามีแต่ตนเท่านั้นที่ล่วงรู้ถึงพร์ของเนี่ยหลี นางจะค่อยๆ ดึงสายตาของเนี่ยหลีมาจากเยี่ยจื่ออวิ๋น แต่คิดไม่ถึง ั้แ่เมื่อไหร่กันที่เนี่ยหลีกับเยี่ยจื่ออวิ๋นสนิทกัน
“เนี่ยหลี ข้าจะช่วยพาเ้ากลับห้องเรียน ข้านำอาหารเช้ามาให้เ้าด้วย” เซียวหนิงเอ๋อร์เอ่ยเบาๆ สองมือประคองเนี่ยหลี ส่วนนูนนุ่มบนทรวงอกกดแน่นอยู่บนท่องแขนของเนี่ยหลี
รับรู้ได้ถึงความอ่อนนุ่ม เนี่ยหลีอดรู้สึกกังวลกับความน่าหลงใหลเช่นนี้ไม่ได้ หันไปมองเยี่ยจื่ออวิ๋นอย่างเงอะงะ “จื่ออวิ๋น ข้า...”
“ในเมื่อหมดปัญหาอะไรข้าก็ควรไปได้แล้ว!” เยี่ยจื่ออวิ๋นแสร้งทำเป็ไม่ได้ยินอะไร นางหมุนตัวและเดินจากไป นางบอกไม่ได้ว่ามีความรู้สึกอย่างไร นางยังไม่มีความรู้สึกถึงขั้นรักชอบเนี่ยหลี แต่ก็ไม่ทราบเพราะเหตุใด เมื่อเห็นความสนิทสนมระหว่างเซียวหนิงเอ๋อร์และเนี่ยหลี ในใจก็รู้สึกอึดอัดขึ้นมาเล็กน้อย
“อีกอย่างเื่นี้ก็มิใช่เื่ของข้า” เยี่ยจื่ออวิ๋นพึมพำ เนี่ยหลีกับเซียวหนิงเอ๋อร์รักชอบกันแล้วจะเป็อย่างไร
ตู้เจ๋อกับลู่เพียวที่อยู่ด้านข้างยิ้มประหลาดขณะยกนิ้วโป้งชูให้เนี่ยหลี เนี่ยหลีเ้าแน่มาก สามารถใกล้ชิดกับเทพธิดาทั้งสองของชั้นได้ แม้เยี่ยจื่ออวิ๋นยังไม่มีปฏิกิริยาอันใดมากนัก แต่ตอนที่เนี่ยหลีถูกพวกลูกน้องของเสิ่นเยวี่ยรุมตีนั้น สีหน้าห่วงใยบนหน้าของนางก็มิใช่แสร้งทำ
ห่างออกไปในฝูงชน เห็นเนี่ยหลีค่อยๆ เดินจากไปพร้อมเซียวหนิงเอ๋อร์ เสิ่นเฟยสีหน้าเคร่งขรึม
“มันกล้าขัดแย้งกับตระกูลเสินเซิ่งของข้า และยังกล้ามายุ่งกับผู้หญิงของข้าอีกรึ? คงเหนื่อยที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไปแล้วกระมัง!” เสียงกรอดๆ ดังขึ้นจากหมัดที่กำจนแน่นของเสิ่นเฟย เขาเป็พี่ชายของเสิ่นเยวี่ยและก้าวขึ้นถึงระดับเงินแล้ว อยู่ในชั้นเรียนผู้ควบคุมจิตอสูรก็นับเป็อัจฉริยะผู้หนึ่ง เขาย่อมไม่เห็นเนี่ยหลีอยู่ในสายตา
ด้วยเหตุการณ์ที่ผ่านมาเมื่อเร็วๆ นี้ เนี่ยหลียืนอยู่ฝั่งตรงข้ามกับตระกูลเสินเซิ่งอย่างสิ้นเชิง
กลับถึงชั้นเรียน แม้เซียวหนิงเอ๋อร์ไม่้า แต่เนี่ยหลียังคงคืนเงินหนึ่งแสนเหรียญจิตอสูรให้แก่นาง เงินหนึ่งแสนเหรียญจิตอสูรสำหรับเนี่ยหลีย่อมไม่นับว่ามีอะไร หญ้าจื่อหลันยังคงขายได้กำไรดี แม้ราคาจะลดลงไปบ้างเล็กน้อย แต่ราคาต่อหนึ่งจินก็ยังสูงกว่าสองร้อยเหรียญจิตอสูร ภายในสามปีนี้ เมืองกวงฮุยยังคงมีความ้าหญ้าจื่อหลันอย่างต่อเนื่อง เขาสามารถค่อยๆ ระบายมันออกไปได้
เนี่ยหลีกลายเป็หัวข้อสนทนาในโรงเรียน ไม่ว่าจะเป็เื่ที่มีความขัดแย้งกับตระกูลเสินเซิ่งหรือความสัมพันธ์อันคลุมเครือกับเซียวหนิงเอ๋อร์และเยี่ยจื่ออวิ๋น นักเรียนทุกคนสนใจเนี่ยหลี มีเด็กนักเรียนหญิงหลายคนแอบส่งจดหมายรักไว้บนโต๊ะของเนี่ยหลีเพื่อพรรณนาถึงความรักของพวกนาง ในหมู่นักเรียนหญิงเหล่านี้ หลายคนหน้าตาค่อนข้างดีทีเดียว
เนี่ยหลีในชีวิตหนก่อนไม่ได้มีความโดดเด่นแต่อย่างใด จึงไม่มีผู้ใดสนใจ และก็เหมือนไม่มีตัวตนอยู่ในโรงเรียน เขาไม่เคยคิดว่าชีวิตชาตินี้ตนจะเป็ที่ชื่นชอบปานนี้
อย่างไรก็ตาม จดหมายรักเ่าั้ถูกเนี่ยหลีกำจัดไปหมดสิ้น หลังเกิดใหม่ หัวใจของเขามีเพียงเยี่ยจื่ออวิ๋น เด็กผู้หญิงเหล่านี้จะเทียบกับเยี่ยจื่ออวิ๋นได้อย่างไร? ไม่ว่าอย่างไร ระหว่างเนี่ยหลีและเยี่ยจื่ออวิ๋น พวกเขาเผชิญความเป็ความตายมาด้วยกัน ส่วนเซียวหนิงเอ๋อร์ เนี่ยหลียินดีอย่างยิ่งที่จะเป็เพื่อนที่ดีกับนาง
ด้วยการฝึกเคล็ดวิชาเทียนเต้าอย่างต่อเนื่องตลอดเวลา พลังิญญาของเนี่ยหลีเพิ่มพูนขึ้นอย่างรวดเร็ว เชื่อว่าเวลาสองเดือนนี้เพียงพอที่จะทำให้เนี่ยหลีเหมือนได้เกิดใหม่อีกครั้ง
ปกติแล้วทุกๆ คืน เนี่ยหลีจะกินยาหลอมรวมจิติญญาและยาเสริมจิติญญา จากนั้นแช่น้ำสมุนไพรด้วยยาน้ำที่มีหญ้าจื่อหลันเป็ส่วนผสม ขั้นตอนนี้ช่วยให้พลังิญญาของเขาได้รับการบำรุงอย่างเต็มที่
นอกจากการฝึกพลังิญญาแล้วเนี่ยหลียังมีวิธีการหลายอย่างฝึกร่างกายเป็ประจำทุกวัน เพื่อเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง แม้การฝึกพลังิญญา ก็จะสามารถเสริมร่างกายให้แข็งแรงขึ้นได้เช่นกัน แต่ว่าพลังกายเป็สิ่งสำคัญสำหรับการฝึกยุทธ์ หลังจากระดับเงินขึ้นไปแล้ว จิตอสูรของมนุษย์จะสามารถหลอมรวมกับจิตอสูรของสัตว์อสูรได้ และหากร่างกายยิ่งแข็งแกร่ง ก็จะยิ่งสามารถหลอมรวมเข้ากับจิตอสูรที่แข็งแกร่งขึ้นได้ หากร่างกายอ่อนแอเกินไป ก็ง่ายที่ร่างกายจะะเิเพราะพลังอันล้นหลามของจิตอสูรได้
ผู้ควบคุมจิตอสูรมากมายคร่ำเคร่งกับการฝึกฝนร่างกายเมื่อทะลวงเข้าถึงระดับเงินและสามารถเลือกจิตอสูรได้ แต่หากรอจนถึงตอนนั้นก็นับว่าสายเกินไปแล้ว
เนี่ยหลี้าปูพื้นฐานของเขาั้แ่เดี๋ยวนี้ ทุกๆ วันออกวิ่ง ปีนเขาและยกน้ำหนัก
เพียงพริบตาเดียว สองวันก็ผ่านไป พลังิญญาของเนี่ยหลีก็ก้าวถึงเจ็ดสิบหกจุดแล้ว ประมาณว่าอีกไม่กี่วันเนี่ยหลีก็จะสามารถก้าวถึงระดับทองแดงหนึ่งดาวเช่นตู้เจ๋อและลู่เพียวแล้ว
เช้าวันที่สาม
ในห้องสมุด เฉินหลินเจี้ยนและพวกกำลังรออยู่ที่นั่น
นอกจากเฉินหลินเจี้ยน เยี่ยจื่ออวิ๋น เสิ่นเยวี่ย และคนอื่นๆ ก็รวมอยู่ด้วย เฉินหลินเจี้ยนมาจากตระกูลเซิ่งิ เยี่ยจื่ออวิ๋นมาจากตระกูลวายุหิมะเฟิงเสวี่ย เสิ่นเยวี่ยมาจากตระกูลเสินเซิ่ง พวกเขาต่างรู้จักกันมาแต่เด็ก ครั้งนี้ออกไปสำรวจเมืองโบราณด้วยกันก็มิใช่เื่น่าประหลาดใจแต่อย่างใด
“เ้าก็มาด้วยรึ?” เยี่ยจื่ออวิ๋นมองเนี่ยหลีอย่างคิดไม่ถึง การเดินทางครั้งนี้เฉินหลินเจี้ยนเป็ผู้จัดการ เนี่ยหลีรู้จักกับเฉินหลินเจี้ยนั้แ่เมื่อใดกัน? ดูเหมือนนางยังคงประเมินเนี่ยหลีต่ำไป
“ใช่แล้ว” เนี่ยหลียิ้มๆ แล้วพยักหน้า
เห็นเนี่ยหลีเดินเข้ามาในกลุ่ม ใบหน้าของเสิ่นเยวี่ยก็ยิ่งหมองเข้าไปใหญ่ เมื่อครู่เขาพยายามเข้าไปหาเยี่ยจื่ออวิ๋นเพื่ออธิบายเื่ราวอยู่หลายครั้ง แต่เยี่ยจื่ออวิ๋นก็ปฏิเสธเขาอย่างเ็าและรักษาระยะห่างกับเขากว่าห้าหกหมี่ ทำให้เขาหดหู่ใจนัก
ทั้งหมดนี้เป็เพราะเนี่ยหลี หากมิใช่เพราะการปรากฏตัวของเนี่ยหลี เยี่ยจื่ออวิ๋นก็ไม่มีทางเ็ากับเขาเช่นนี้!
เสิ่นเยวี่ยโยนความผิดทั้งหมดให้แก่เนี่ยหลี
“ในเมื่อเ้ารนหาที่ตาย เ้าก็โทษผู้ใดมิได้!” เสิ่นเยวี่ยคิดร้ายอยู่ในใจ หันไปกระซิบกระซาบกับผู้ติดตามคนหนึ่ง ผู้ติดตามคนนั้นชำเลืองมองเนี่ยหลี จากนั้นจึงจากไปอย่างเงียบๆ หลังจากพ่ายแพ้ให้แก่เนี่ยหลีมาถึงสองครั้ง เสิ่นเยวี่ยเข้าใจว่าพลังของนักสู้ระดับทองแดงไม่อาจรับมือกับเนี่ยหลีได้ ดังนั้นเขาจึงส่งคนกลับไปที่บ้านเพื่อให้จัดหานักสู้ฝีมือดีมา
ความเคลื่อนไหวของเสิ่นเยวี่ยทั้งหมดล้วนอยู่ในสายตาของเนี่ยหลี และเนี่ยหลีหัวเราะอยู่ในใจ
สายตาของเฉินหลินเจี้ยนหันมาทางเนี่ยหลีและยิ้มบางๆ “เอาล่ะ คนที่ควรมาก็มาครบแล้ว ใกล้ได้เวลาออกเดินทางกันแล้ว!”
การออกสำรวจซากเมืองโบราณกู่หลันในครั้งนี้ เฉินหลินเจี้ยนพาคนไปทั้งหมดยี่สิบแปดคน เจ็ดคนเป็พวกของเสิ่นเยวี่ย รวมเนี่ยหลีและเยี่ยจื่ออวิ๋นอีกสองคน เนี่ยหลีไม่ได้บอกตู้เจ๋อ ลู่เพียวและพวกเกี่ยวกับเื่นี้ ปล่อยให้ตู้เจ๋อและลู่เพียวฝึกยุทธ์อยู่ในห้องสมุด ทั้งหมดทั้งมวลก็เป็เพราะการไปสำรวจซากโบราณกู่หลันครั้งนี้อันตรายนัก เนี่ยหลีไม่อาจปกป้องพวกเขาได้ทุกคน
ทั้งสามสิบเจ็ดคนเตรียมของจำเป็ต่างๆ มีของกินทั้งหลาย กระโจมที่พัก หน้าไม้ล่าสัตว์ พร้อมออกเดินทางแล้ว
การผจญภัยครั้งนี้ถือเป็ความลับอย่างยิ่ง จึงเป็ไปอย่างเงียบๆ จึงบอกกล่าวกับผู้อื่นว่าพวกเขาจะออกไปที่หุบเขาเพื่อฝึกยุทธ์เท่านั้น
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้