ในคืนที่แสงดาวพร่างพรายบนท้องฟ้ายามรัตติกาลของโลกที่ไม่คุ้นเคย ณ ยอดหอนาฬิกาสูงตระหง่านใจกลางอาณาจักรแห่งเวทมนตร์ ชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังนั่งทอดสายตาไปยังทิวทัศน์เบื้องหน้า เสียงเข็มนาฬิกาที่ดังเป็จังหวะเหมือนกำลังนับถอยหลังให้กับชีวิตใหม่ของเขา ไอแซกซ์ (IZax) ย้อนนึกไปถึงโลกใบเก่าที่เขาจากมา…
ในยุคปี ค.ศ. 3014 ยุคที่มนุษยชาติก้าวข้ามขีดจำกัดแห่งความเร็วแสงด้วยการคิดค้น Warp Path Engine เทคโนโลยีที่ไม่ได้เพิ่มความเร็ว แต่ลดระยะทางให้สั้นลง แต่ถึงแม้จะไปได้ไกลเพียงใด จิตใจของไอแซกซ์ก็ไม่เคยหนีพ้นจากความทุกข์ที่รุมเร้าได้เลย...
“มันน่าแปลกนะ” ไอแซกซ์พึมพำกับตัวเองขณะมองแสงไฟจากหน้าต่างบ้านเรือนยามค่ำคืน “ตอนนั้นฉันคิดว่าความเร็วคือคำตอบของทุกอย่าง... แต่สุดท้ายแล้ว การเดินทางที่ไกลที่สุดในชีวิตฉัน กลับเป็การเดินทางที่ช้าที่สุดและไม่มีความเร็วเข้ามาเกี่ยวข้องเลย...”
เขาหลับตาลง ภาพในอดีตก็ฉายชัดขึ้นมาในห้วงความคิด...
ชีวิตของเขาคือเื่ตลกที่น่าเศร้า... ั้แ่เด็ก เขาเกิดมาพร้อมกับมันสมองอัจฉริยะในร่างที่ดูอ่อนแอวัย 5 ขวบ เขาสามารถคำนวณตัวเลขได้อย่างแม่นยำ วัย 7 ขวบก็เข้าใจหลักการของมอเตอร์ไฟฟ้าและกฎของฟาราเดย์ได้อย่างถ่องแท้ และเมื่ออายุ 9 ขวบ เขาก็ซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้าได้ราวกับช่างผู้ชำนาญ...
“ฉันยังจำได้ดีตอนที่แม่ะโใส่หน้าว่า ‘ทำไมแกถึงไม่เหมือนคนอื่น! ทำไมแกถึงไม่ทำในสิ่งที่ควรทำ!’ ” เสียงในอดีตยังคงก้องอยู่ในหูของไอแซกซ์ “ฉันพยายามแล้ว แต่พวกเขาก็ไม่เคยเข้าใจ... สุดท้ายฉันก็ต้องยอมแพ้...”
“ตอนนั้นฉันคิดว่าไม่มีอะไรจะแย่ไปกว่านี้แล้ว... แต่ฉันคิดผิด...” เขาหัวเราะให้กับตัวเองอย่างเ็ป “เพราะมันมีเื่ราวที่เลวร้ายกว่านี้รออยู่... ชีวิตฉันเหมือนหนังตลกที่ไม่มีวันจบสิ้น...”
ความสิ้นหวังถาโถมจนเขาไม่เหลืออะไรอีกแล้ว เขาพยายามจบชีวิตตัวเองหลายครั้ง แต่เหมือนโชคชะตายังอยากจะกลั่นแกล้ง ขนาดเชือกที่ผูกคอก็ยังขาดสะบั้น สะพานที่ะโลงไปก็ยังไม่สูงพอที่จะพรากชีวิตเขาไปได้... จนกระทั่งวันหนึ่ง ป้ายประกาศใบปลิวขนาดใหญ่ก็สะท้อนเข้ามาในแววตาที่ว่างเปล่าของเขา “รับอาสาสมัครสำหรับภารกิจสำรวจหลุมดำ Ton 618” ในที่สุด... เขาก็พบการเดินทางเที่ยวสุดท้าย ที่ไม่มีการหวนกลับ...
วันที่ภารกิจเริ่มต้น... เขาลอยเคว้งคว้างอยู่ในอวกาศอันมืดมิด มีเพียงแสงจากหลุมดำ Ton 618 ที่ค่อยๆ ใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ อยู่เบื้องหน้า “นี่คงเป็การเดินทางครั้งสุดท้ายที่ไม่มีการหวนกลับของฉันจริงๆ แล้วสินะ...” เขาคิดในใจอย่างสงบ... เมื่อเข้าสู่ Event Horizon ทุกอย่างก็บิดเบี้ยว แรงโน้มถ่วงมหาศาลบีบอัดร่างกายเขาจนเ็ปไปทั้งร่าง แต่ในความเ็ปนั้นกลับไม่มีความกลัวหลงเหลืออยู่เลย... เขารู้สึกเหมือนถูกดูดเข้าไปในอุโมงค์มืดๆ ...
เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง เขารู้สึกเหมือนถูกเหวี่ยงออกมาจากอะไรบางอย่างอย่างแรงจนร่างกายกระแทกเข้ากับกำแพงไม้แข็งๆ ก่อนจะลงไปนอนกองอยู่บนกองฟาง เมื่อเขามองไปรอบๆ สิ่งแรกที่เขาเห็นคือคอกม้าที่เขาไม่รู้จักเลย เมื่อเดินออกมาจากคอกม้า เขาก็ได้พบกับชายแก่คนหนึ่งที่ดูเหมือนจะเป็เ้าของที่นี่
“อ้าว! เ้าหนู แกจะมาขโมยม้าฉันรึไง!?” ชายแก่ถามด้วยน้ำเสียงกังวานและใ
“ปะ...เปล่าครับ! ผมแค่...หลงทางมาครับ!” ไอแซกซ์ตอบกลับอย่างตะกุกตะกัก
“จริงๆ นะครับ!” เขารีบล้วงกระเป๋าให้ดู “ดูสิครับ ผมไม่มีอะไรติดตัวเลย”
ชายแก่เห็นดังนั้นจึงสงสารและชวนเขาเข้าบ้าน “ดูจากสภาพของแกแล้ว…งั้นก็เข้าบ้านมาสิ”
“ครับ” ไอแซกซ์ตอบรับ…
ระหว่างนั้น ไอแซกซ์คิดในใจอย่างสับสนว่าทำไมภาษาของที่นี่ถึงเหมือนกับโลกที่เขาจากมาได้ หรือว่าที่นี่จะเป็จักรวาลคู่ขนานตามทฤษฎี Multiverse แล้วเขาก็คิดได้ว่า รูหนอน ที่อยู่ใน Singularity คงจะพาเขาเดินทางข้ามจักรวาลมาโผล่ที่ปลายอีกด้านหนึ่งของ White Hole และถูกดีดออกมาอย่างรุนแรงจนมาโผล่ที่โลกใบนี้…
เมื่อมาถึงบ้าน ชายแก่ก็หาเสื้อผ้าและอาหารให้ ไอแซกซ์มองชายแก่ด้วยความซาบซึ้งใจ
“แล้วเธอมาจากที่ไหนล่ะหนุ่มน้อย” ชายแก่ถาม
“ผมมาจากที่ที่ไกลมากครับ” ไอแซกซ์ตอบไปตามตรง “ผมจำอะไรไม่ได้เลย รู้ตัวอีกทีก็มาอยู่ในคอกม้าซะแล้ว”
“คงจะเป็ทาสที่หลบหนีมาสินะ” ชายแก่พึมพำกับตัวเอง “งั้นเอางี้ไหม... ฉันเองก็ไม่มีลูกชายสนใจมาอยู่กับฉันก่อนไหมล่ะ”
ไอแซกซ์มองตัวเองจากเงาสะท้อนในแก้วน้ำ เขามองเห็นเด็กหนุ่มอายุราวๆ 13-14 ปี ที่มีใบหน้าแตกต่างจากเขาในอดีตอย่างสิ้นเชิง…
“หรือว่า...” ความคิดหนึ่งผุดขึ้นในสมองที่ยังคงเต็มไปด้วยความรู้ทางฟิสิกส์ “...เป็ผลจากการเดินทางเข้าหลุมดำ และเดินทางผ่านรูหนอนตอนไปถึง Singularity ก่อนโดนดีดออกจาก White Hole ตามทฤษฎีสัมพัทธภาพของไอน์สไตน์ หากยิ่งเดินทางเร็วเท่าไหร่เวลาก็จะช้าลงจนเป็อนันต์... หรือว่า... เวลาไหลย้อนกลับผ่านตัวเรางั้นหรอ!?”
เขาหันกลับไปตอบชายแก่ “ได้ครับ...เพราะผมเองก็ไม่มีที่ไปเหมือนกัน”
“ดีเลย” ชายแก่พูด “ฉันชื่อ คาร์เตอร์ แล้วเธอละชื่ออะไร”
“ไอ...ไอแซกซ์ครับ”
“โอ้ว เป็ชื่อที่แปลกดี ยินดีที่ได้รู้จักนะ ไอแซกซ์”
“ครับ ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันครับ คุณลุงคาร์เตอร์”
หลังทานอาหารเสร็จ ไอแซกซ์ขอตัวไปสำรวจเมือง คุณลุงคาร์เตอร์กำชับให้รีบกลับก่อนค่ำ เขาเดินสำรวจไปทั่วเมือง ััถึงวัฒนธรรม และผู้คน ทุกอย่างล้วนเป็เหมือนสมัยยุคกลางที่เขาเคยเห็นในภาพยนตร์ เขาเห็นผู้คนใช้เวทย์มนต์ก่อไฟทำอาหาร ใช้เวทย์มนต์ทำความสะอาด หรือแม้แต่ร้านค้าที่ขายคัมภีร์เวทมนตร์ โพชั่น และอุปกรณ์สำหรับนักผจญภัย ทุกอย่างช่างน่าทึ่งและตื่นตาตื่นใจไม่น่าเชื่อว่าสิ่งเหล่านี้จะมีจริง จนกระทั่งเขานั่งพักอยู่ที่หอนาฬิกาแห่งนี้ และนึกย้อนถึงชีวิตในอดีตทั้งหมด...
ขณะที่เขากำลังเหม่อมองไปยังแสงไฟจากบ้านเรือนที่ส่องสว่างอยู่เบื้องล่างอยู่นั้น ก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้นบนยอดหอนาฬิกา เด็กสาวคนหนึ่งอายุรุ่นราวคราวเดียวกับไอแซกซ์ในชุดคุณหนูกระโปรงยาวสีดำ ผมสีม่วงดำยาวสลวย มีั์ตาเป็สีแดงทับทิม ผิวขาวราวหิมะ เดินขึ้นมาพร้อมรอยยิ้ม เธอกำลังจะเงยหน้าขึ้นไปมองท้องฟ้ายามค่ำคืน แต่สายตากลับเหลือบไปเห็นไอแซกซ์ที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว…
ทันใดนั้นต่างฝ่ายต่างใแล้วสบตากันและกัน
เื่ราวของเด็กหนุ่มผู้มาจากอีกจักวาลหนึ่ง และหญิงสาวปริศนาในโลกแห่งเวทมนตร์กำลังจะเริ่มต้นขึ้น...