สำหรับทหารที่เห็นได้ชัดว่าได้รับบาดสาหัสจนไม่อาจทำการรักษาได้ จะมีเ้าหน้าที่พิเศษช่วย ‘ปลดปล่อยจากความเ็ป’ แทนพวกเขาด้วยการใช้ตะปูตั้งไว้ตรงจุดที่ด้านหลังศีรษะของคน จากนั้นก็ใช้ค้อนตอกลงไป ซึ่งจะทำให้ผู้ที่ได้รับาเ็สาหัสเสียชีวิตไปในทันที ไม่ต้องเ็ปทรมานอีกต่อไป
และดูเหมือนว่าอาการาเ็ของเพียร์ซ แน่ชัดแล้วว่าสมควรที่จะใช้วิธี ‘ปลดปล่อยจากความเ็ป’
แต่ก่อนหน้านั้นพวกเขาใคร่ครวญว่าเพียร์ซเป็นักรบที่มีชื่อเสียงในเมืองแซมบอร์ด และด้วยผลงานที่โดดเด่นจากการทำลายบันไดยึดเมืองติดต่อกันถึงสองอันในการรบของานองเื บวกกับการที่ผู้บัญชาการทหารรักษาพระองค์อย่างบรู๊คกำชับเป็พิเศษว่าอย่าใช้วิธีแบบนั้น ดังนั้นพวกเขาจึงรอจนถึงตอนนี้
“เขาเป็อย่างไรบ้าง?” ซุนเฟยกอดอกแล้วถือโอกาสถามหมอหนุ่ม
“ต้องขออภัยด้วยขอรับ องค์าา พวกข้าพยายามเต็มที่แล้ว แต่อวัยวะภายในของเขาถูกกระทบกระเทือนอย่างรุนแรง อาจจะมีบางส่วนที่เสียหายหนัก อาการาเ็เช่นนี้ต้องให้นักบวชระดับสูงของโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์รักษา หาไม่แล้วก็ไม่มีวิธีรักษาแล้วขอรับ”
นักบวช?
ด้วยคำพูดของหมอหนุ่มทำให้ซุนเฟยพอจะจับใจความสำคัญที่น่าสนใจได้อย่างหนึ่ง
แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เขาจะมาซักไซ้ ในใจของเขาครุ่นคิดหาวิธีแก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว
หมอที่สวมเสื้อคลุมยาวสีขาวอีกสองคนได้เดินเข้ามาหาแล้วโค้งคำนับให้ซุนเฟย
ในมือของเขาถือถาดไม้ขนาดใหญ่หนึ่งอัน ในถาดไม้มีตะปูเล็กๆ และค้อนที่รูปร่างประหลาดๆ วางอยู่ นั่นคงจะเป็อุปกรณ์ที่ใช้ปลดปล่อยจากความเ็ปสำหรับผู้ที่ได้รับาเ็สาหัส และเพียร์ซก็เป็คนสุดท้ายที่มีอาการาเ็สาหัส แม้ว่าเพียร์ซกำลังสลบอยู่ แต่ก็มองออกว่าตอนนี้เขากำลังได้รับความเ็ปมหาศาลอยู่ จริงอยู่ว่าอาการาเ็ของเขาตอนนี้ไม่สามารถคร่าชีวิตเขาได้ แต่เืที่ไหลทะลักออกมาจากาแและปากของเขา ประหนึ่งน้ำแร่ที่ไหลนองนั้น มันก็พอจะบอกว่าเขาคงทรมานมากเพียงใด...
หมอคนหนึ่งค่อยๆ พลิกร่างเพียร์ซให้นอนคว่ำ
ส่วนหมออีกคนนำตะปูไปจ่อที่หลังหัวของเขา ในขณะที่เตรียมจะตอกค้อนลงไปนั้น
“เดี๋ยว รอก่อน!”
ซุนเฟยทนไม่ได้จึงสั่งให้หมอหยุดการกระทำ
เขาทนไม่ได้ที่นักรบผู้กล้าหาญคนหนึ่งต้องมาตายแบบนี้ ไม่ได้ตายในคมดาบศัตรูในสนามรบ แต่กลับต้องถูกบังคับให้ต้องตายในสภาพแบบนี้ สำหรับลูกผู้ชายอย่างเพียร์ซ นี่คงเป็เพียงความอัปยศ...ยิ่งไปกว่านั้น ซุนเฟยอยากให้เพียร์ซรอด
“แต่...ข้าควรจะช่วยเขาอย่างไรดี?”
สมองของซุนเฟยทำงานรวดเร็ว
ในตอนนี้เอง เพียร์ซที่สลบไปเพราะอาการาเ็และถูกหามลงมาจากกำแพงเมือง ดูเหมือนเขาจะรู้สึกถึงอะไรบางอย่าง ทันใดนั้นเขาก็ฟื้นคืนสติขึ้นมาได้อย่างปาฏิหาริย์ เขาลืมตาขึ้นมาแล้วมองเห็นอเล็กซานเดอร์ที่ยืนอยู่ตรงหน้า ทั้งยังมองไปที่หมอที่กำลังพยุงตัวเองและสุดท้ายดวงตาก็เลื่อนลงมาที่ค้อนเล็กๆ อันนั้น ใบหน้าก็พลันแสะยิ้มออกมา “แค่กๆๆ...ถึงตาข้าแล้วหรือ? งั้นลงมือเถอะ...”
เพียร์ซไม่พูดอะไรกับซุนเฟย
เพราะว่าสลบไปก่อนหน้านั้น จึงไม่ได้เห็นฉากอันกล้าหาญของซุนเฟย เลยไม่รู้ว่าองค์าาปัญญาอ่อนคนนั้น ตอนนี้ได้กลายเป็วีรบุรุษของแซมบอร์ดไปแล้ว
ค้อนไม้ในมือหมอยกขึ้น
“เดี๋ยว...”
ซุนเฟยสั่งให้หมอหยุดอีกครั้ง
เขาก้มหน้าไปมองเพียร์สที่สติสัมปะชัญญะกำลังเลือนราง ในหัวพลันคิดอะไรบางอย่างขึ้นมาได้จึงพูดว่า “เพียร์ซ บางทีข้าอาจจะมีวิธีช่วยเ้าได้ แต่เ้าจะได้รับความเ็ปบางอย่าง”
“ท่าน? อ่า...อะ...องค์าาอเล็กซานเดอร์...ฝ่าา...นี่...นี่...ไม่ใช่เื่เล่นๆ...หาก...หากท่านเห็นอกเห็นใจทหารของท่าน...งั้น...ข้าหวังว่า...หวังว่าท่านจะ...สามารถ...ให้รางวัลกับหลุยส์ บุตรสาวที่น่าสงสารวัยสิบสองปีของข้าเป็ผ้าไหมสักผืน...หรือไม่ก็ขนมปังสักแผ่นก็ได้!”
แม้ว่าสติจะฟื้นฟูได้ไม่มากนัก แต่เห็นได้ชัดเลยว่าเพียร์ซไม่เชื่อถือองค์าาที่ยืนตรงหน้าตัวเองสักนิด ให้เชื่อคำพูดของเด็กปัญญาอ่อนคนหนึ่ง นี่เ้าคิดว่าข้าผู้นี้ก็ปัญญาอ่อนเช่นกันหรือ? เพียงแต่ยามที่เอ่ยถึงบุตรสาวของตัวเอง ในดวงตาของเขาปรากฏร่องรอยความกังวลใจออกมาทั้งๆ ที่คนผู้นี้แม้ในยามที่ศัตรูแทงดาบเข้ามาที่ร่างของตัวเองเขาไม่แม้จะเกรงกลัวสักนิด
“ทำไม? หรือว่าเ้ากลัวเจ็บ?” ซุนเฟยนั่งยองๆ ใบหน้าแสยะรอยยิ้มกวนๆ ออกมา
เขาจงใจกระตุ้นบาทาของเพียร์ซ
และมันก็สำเร็จ
เพียร์ซติดเบ็ดได้อย่างง่ายดาย
ผู้ชายคนนี้อารมณ์ช่างรุนแรงนัก เหมือนสิงโตตัวผู้ที่เกรี้ยวกราดยามพบว่าเมียตัวเองถูก่ชิงไปในตอนฤดูผสมพันธุ์ เขาพยายามจะลุกขึ้นนั่ง ทันใดนั้นแผลก็ปริเืทะลักออกมา“ฮ่า...ฮ่าๆๆ...ขะ...ข้าเพียร์ซคนนี้จะ...จะกลัวเจ็บอย่างงั้นหรือ? แค่กๆๆ...ข้า”
ซุนเฟยพลันตื่นใ
คนคนนี้เป็พวกลาเ้าอารมณ์ ซุนเฟยคงไม่กล้าไปกระตุ้นเขาอีกแน่ๆ หากกระตุ้นอีกครั้งคาดว่าเพียร์ซอาจจะกระอักเืตายทั้งเป็ จึงทิ้งท้ายไว้ว่า “ไม่กลัวเจ็บงั้นก็แข็งใจไว้นะ เพื่อลูกสาวของเ้า” แล้วรีบออกไปจากสถานพยาบาล
เพิ่งจะเดินพ้นประตู เขาก็เห็นบรู๊คพาแองเจล่าและเจ็มม่าเดินเข้ามาอย่างรีบร้อน
แองเจล่าและเจ็มม่าสองสาวใบหน้าแดงระเรื่อเมื่อเห็นซุนเฟย ในดวงตากลมโตเต็มไปด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
อ่า ดูเหมือนว่าสองสาวจะทราบ ‘เื่ราวที่กล้าหาญ’ ของตนเองแล้ว
ซุนเฟยรู้สึกผ่อนคลาย อดไม่ได้ที่จะทำตัวโอ้อวดขึ้นมา
“ฝ่าา เพียร์ซเขา....” บรู๊คถามอย่างมีความหวัง
“บางทียังพอมีวิธีช่วย...” สำหรับวิธีที่ซุนเฟยจะใช้นั้นตัวเขาเองก็ยังไม่มั่นใจมากเท่าไร “ข้าจะลองดู ถ้าโชคดี ก็อาจจะรักษาชีวิตเพียร์ซไว้ได้”
“เช่นนั้นก็เยี่ยมไปเลย” บรู๊คพูดอย่างดีใจ
ในฐานะที่เป็ทหารของเมืองแซมบอร์ด เขาเคยพบเห็นการสังหารมามาก แน่นอนว่าบรู๊ครู้ดีว่าอาการาเ็ของเพียร์ซนั้นมันหนักหนาเพียงใด อาการาเ็แบบนั้นมีโอกาสที่จะตายได้อย่างไม่ต้องสงสัย เดิมทีในใจของเขาแค่อยากลองเสี่ยงโอบกอดความหวังในใจจึงวิ่งมาขอให้อเล็กซานเดอร์ช่วย คาดไม่ถึงว่าองค์าาองค์นี้จะยังพอมีวิธีช่วยจริงๆ
“ใช่แล้ว บรู๊ค สถานพยาบาลแห่งนี้ดูห่วยแตกจริงๆ ไม่มีสถานที่ที่ดีกว่านี้มารองรับทหาราเ็เลยหรือไง?”
ซุนเฟยไม่พอใจอย่างมากกับสถานพยาบาลแห่งนี้
บรู๊คตะลึงไปครู่หนึ่ง ตอบอย่างอ้อมแอ้มเล็กน้อย
เจ็มม่าสูดลมหายใจเข้าลึกๆ อยู่ด้านหลังบรู๊ค นี่เป็เพราะว่านางไม่ค่อยได้วิ่งเร็วๆ แบบนี้จึงทำให้เหนื่อยง่าย ก่อนจะเผชิญหน้ากับซุนเฟยแล้วกรอกตาใส่พร้อมเหน็บแหนมว่า “นี่ไม่ใช่เพราะเ้าหรอกหรือ ถ้าไม่ใช่ว่าเ้าฟังคำพูดให้ร้ายของเ้าหมูอ้วนกิลว่าให้เอาของมีค่าในสถานพยาบาลมาขายเล่นๆ ไม่เพียงไล่หมอออก แม้กระทั่งหน้าต่างเ้ายังรับสั่งให้รื้อออกด้วย ดังนั้นมันจึงกลายสภาพเป็แบบนี้ไง...”
ซุนเฟยอึ้งไปทันที
รู้สึกว่าตัวเองเมื่อก่อนได้ทำเื่ที่โง่บัดซบจริงๆ
“นอกจากที่นี่ ยังมีพื้นที่โล่งกว้างที่อื่นที่เหมาะสำหรับรองรับทหาราเ็อีกไหม?” ซุนเฟยไม่สนใจสาวน้อยผมทองเจ็มม่าที่เป็เหมือนนกกระจอกที่คอยมายั่วยุตัวเอง ซุนเฟยหันหัวไปถามบรู๊ค
“วิหารของโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ในแซมบอร์ดและยังมีคฤหาสน์ของท่านบาร์เซิลที่สามารถรองรับได้ แต่...แต่...” บรู๊คสูดลมหายใจลึกๆ เมื่อพูดถึงประโยคสุดท้าย ทันใดนั้นก็ลังเลขึ้นมาก่อนจะมีท่าทีอึกอัก
“แต่อะไร?” ซุนเฟยซักต่อ
บรู๊คไม่รู้ว่าควรจะพูดอย่างไรดี
“สถานที่ทั้งสองแห่งที่ท่านอาบรู๊คพูดถึง แน่นอนว่ามีพื้นที่เพียงพอที่จะรองรับทหาราเ็เหล่านี้ได้ แต่อเล็กซานเดอร์ พระองค์ไม่สามารถทำได้....” แองเจล่าที่เงียบมาตลอดก็อธิบายอย่างอดทนว่า “เพราะก่อนหน้าที่ข้าศึกจะล้อมเมือง เหล่านักบวชได้ออกจากเมืองแซมบอร์ดไป วิหารจึงถูกปิด พวกเราไม่มีอำนาจที่จะเปิดมันได้ ไม่อย่างนั้นจะได้รับโทษอย่างรุนแรงจากโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ ในแผ่นดินของอาเซรอทไม่มีใครกล้าท้าทายโบสถ์ศักดิ์สิทธิ์ ส่วนคฤหาสน์ท่านบาร์เซิล ตอนนี้ไม่สะดวกเท่าไร....”
คำอธิบายคลุมเครือทำให้ซุนเฟยมึนงง
เขาพบว่าแม้ว่าตัวเองจะซึมซับความทรงจำของอเล็กซานเดอร์มาก่อน แต่สำหรับความรู้เกี่ยวกับโลกนี้มันไม่ได้มีอยู่ในความทรงจำเลย ซุนเฟยอดไม่ได้ที่จะหยอกล้อนางว่า “โบสถ์ศักดิ์สิทธิ์แข็งแกร่งขนาดนี้ แม้แต่าาก็ไม่สามารถจัดการพวกเขาได้เหรอ?”
สาวน้อยผมทองก็เริ่มเหน็บแนมซุนเฟยอีกครั้ง “ตอนที่นักบวชออกจากเมือง แม้แต่ข้าศึกยังไม่กล้าวุ่นวายกับพวกเขา กลับกันยังคุ้มกันเหล่านักบวชให้เดินทางจากไป เ้ายังจะถามอีกไหมว่าเขาแข็งแกร่งหรือเปล่า? แม้แต่ราชอาณาจักรระดับเก้าของแผ่นดินใหญ่อาเซรอทก็ยังไม่กล้าต่อต้านเลย”
ซุนเฟยยิ้มขมขื่น ไม่ถามเื่ยุ่งยากนี้อีก
สำหรับเื่อำนาจอิทธิพลของแผ่นดินใหญ่เขารู้น้อยมาก หากฝืนถามต่อไปความลับของเขาคงแตกแน่ๆ เขาจึงรีบเปลี่ยนความสนใจของทั้งสามคน “ถ้าอย่างงั้นก็ช่างเถอะ นอกจากวิหารและคฤหาสน์ของบาร์เซิล ยังมีที่อื่นอีกไหม?”
บรู๊คส่ายหน้า
แองเจล่าและเจ็มม่าก็ส่ายหน้า ดูเหมือนว่ายังไม่มีความคิดดีๆ เกิดขึ้น
ซุนเฟยเห็นดังนั้นก็ยกมือแตะคาง เขาคิดๆ ดูแล้วว่า ที่คฤหาสน์ของบาร์เซิล ไอ้หมูกิลนั่นเป็ลูกชายของบาร์เซิลและมันก็มีความคิดเลวๆ ที่จะกำจัดตัวเอง ลูกชายยังเป็แบบนี้คาดว่าพ่อของมันคงไม่ได้ดีเด่อะไรนักหรอก หากยึดคฤหาสน์มาจากคนแบบนั้นได้ ซุนเฟยก็ไม่ต้องรู้สึกผิดอะไรมากนัก
ตอนนั้นเอง
“ข้านึกออกแล้ว ยังมีอยู่อีกที่หนึ่ง!” สาวน้อยผมทองเจ็มม่าพลันะโออกมา
“ที่ไหนหรือ?” ซุนเฟย แองเจล่าและบรู๊คทั้งสามคน พูดออกมาพร้อมกัน
ซุนเฟยจ้องสาวน้อยผมทอง ใบหน้าของนางแสดงรอยยิ้มซุกซน ยิ้มกว้างจนเห็นลักยิ้มที่เต็มไปด้วยความลำพองใจ “พระราชวังของเ้าไง มีพื้นที่ในการรองรับทหาราเ็ทั้งหมดแน่ๆ ฮิๆ ก็อยู่ที่ว่าเ้าจะยินยอมหรือไม่!”
ซุนเฟยดวงตาเป็ประกาย
“เป็ความคิดที่ดี เอาแบบนี้ล่ะ บรู๊ค เ้ารีบไปจัดระเบียบกำลังคน ให้นำทหาราเ็ทั้งหมดอพยพไปที่หน้าพระราชวัง แจ้งหมอทุกคน ไม่ว่าจะอาการาเ็เล็กน้อยหรือสาหัส ให้พวกเขาพยายามยื้อชีวิตเหล่าทหารไว้ เดี๋ยวข้าจะหาทางเอง!”
บรู๊คตะลึงไปครู่หนึ่งก่อนจะถามซ้ำว่า “ฝ่าา สามารถทำแบบนี้ได้หรือ?”
“ก็แล้วทำไมจะทำไม่ได้?” ซุนเฟยหัวเราะฮึๆ “พวกเขาหลั่งเืเพื่อข้า หรือว่าข้าไม่สามารถหาสถานที่ที่ดีกว่าเพื่อให้พวกเขาพักรักษาตัว?”
สาวน้อยผมทองเจ็มม่ากลับเป็ฝ่ายตะลึงแทนเสียอีก
ที่นางเสนอความคิดนี้ ไม่ได้้าจะแก้ปัญหา แต่แค่อยากจะแกล้งซุนเฟยแบบเด็กๆ เท่านั้น คาดไม่ถึงว่า “อ๊ะ อเล็กซานเดอร์ เ้าจะเอาแบบนี้จริงๆ หรือ?” สาวน้อยถามอย่างไม่เป็สุข
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้