น้ำตาของจักรพรรดินีไหลอีกครั้งระหว่างเดินมายังวังของตนเอง มันไม่ใช่น้ำตาแห่งความเสียใจแต่เป็น้ำตาแห่งความดีใจ รู้สึกโชคดีมากที่มีอายุยืนยาวมาขนาดนี้ ทำให้ได้รับรู้ความจริงและสามารถเข้าใจได้ทั้งหมดว่าที่ผ่านมาคืออะไร ทำไมถึงรักษาสัญญาเช่นนี้มาตลอดไม่เคยเปลี่ยนแปลง
จักรพรรดิมองคนรักของตนด้วยความเอ็นดูเพราะไม่คิดว่าหลายร้อยที่ผ่านมาอีกคนจะซื่อบื้อขนาดที่ไม่รู้ว่าตนมีใจให้ไปตั้งนานแล้ว ไม่งั้นจะยอมมีลูกด้วยกันตั้งหลายคนขนาดนี้ เหรอ บางทีการนิ่งเฉยเกินไปอาจจะทำให้ไม่รับรู้ความรู้สึกของอีกฝ่าย ท่าทางต้องแสดงออกมากกว่านี้เสียแล้วสิ
ตุ้บ!
ขาของคลาสเหวี่ยงไปโดนหนังสือที่วางอยู่บนโต๊ะพอดิบพอดีทำให้กองหนังสือร่วงลงมาเหมือนกระดานหมากรุกที่ถูกล้มโต๊ะกระจัดกระจายกันไปหมด เปลือกตาของแวมไพร์สูงศักดิ์เปิดขึ้นด้วยความงัวเงียว่าอะไรมารบกวนการนอนของเขา จนมารู้ว่าอีกคนนอนอยู่บนร่างตัวเองและยังพากันหลับบนโซฟาอีก ท่าทางตนเองจะเพลียมากจริงๆ มือหนาอุ้มอีกคนให้นอนสบายกว่าเดิมแต่เหมือนจะตื่นตามกันเพราะว่ามีการขยับตัวเกิดขึ้น
"ขอโทษ ข้าทำให้เ้าตื่นจนได้" คลาสบอกพลางส่ายหัวไปมา
"ไม่ใช่ความผิดของพี่คลาสหรอกครับ ผมเองก็เผลอหลับตามเฉยๆ ไม่ได้ง่วงขนาดนั้น" ไวท์บอกพลางลุกขึ้นตามอีกคนไป
ทั้งสองออกมาจากห้องทำงานก็กินเวลาไปครึ่งคืนเสียแล้ว อาหารที่เหล่าคนในห้องครัวทำไว้ดูท่าจะไม่ได้กินเพราะว่ามันเลยมื้ออาหารไปแล้ว ภายในห้องอาหารจึงมีการจัดอาหารใหม่ไว้ให้แทนที่ และอาหารเดิมก็ให้เหล่าคนทำและทหารในวังรับประทานแทนเพราะจากการคาดการณ์ของเลย์แล้ว ผู้เป็นายไม่น่าจะตื่นเร็วขนาดทันอาหาร่หัวค่ำอย่างแน่นอน
"สมเป็เ้านะเลย์ เตรียมอาหารมาใหม่" คลาสเอ่ยปากชมพลางใช้พลังบอกอีกฝ่ายที่อยู่ห่างไกลกันแล้วอีกคนก็ขานรับเบาๆ กลับมาเท่านั้น
"พี่คลาสคุยกับใครเหรอครับ ในห้องอาหารมีพวกเรากันแค่สองคน"
"ข้าใช้พลังสื่อสารกับเลย์ว่าจะกินอาหารที่ทำมาให้ใหม่แล้ว มันเป็การสื่อสารของนายกับบ่าว หากวันนึงเ้าเข้าพิธีศักดิ์สิทธิของทางจักรวรรดิเ้าจะทำได้เหมือนข้า" คลาสอธิบายให้ฟังพลางนั่งรับประทานอาหาร
คิดถูกที่ตัดสินใจบอกความรู้สึกของตนเองให้ชัดเจนออกไปจะได้รู้ว่าอีกคนคิดยังไง ถึงจะยังไม่ได้รับคำตอบแต่น่าจะทำให้รับรู้ได้มากกว่าเดิมว่าอะไรยังไง ไม่ต้องมานั่งรอโอกาสอะไรกันอีกต่อไป แถมยังต้องย้ายไปอยู่กับ ครอสอีกจะมีเื่อะไรให้น่าปวดหัวหรือเปล่ายังไม่รู้เลย ขอให้เวลาอยู่กับอีกคนให้นานที่สุดเท่าที่จะมีแล้วกัน
หลายวันที่มาอยู่พระราชวังทางตอนเหนือนอกจากตื่นขึ้นมารับประทานอาหาร ไปฝึกนั่งสมาธิเพื่อควบคุมจิตใจและควบคุมพลัง นั่งเรียนรู้ภาษาจักรวรรดิยังแทบจะไม่ได้ทำงานเลย หรือว่ามีการเปลี่ยนแปลงอะไรหรือเปล่า
"พี่คลาสครับ ทำไมถึงไม่ได้ให้ข้าทำงานอะไรอย่างที่ท่านจักรพรรดิได้บอกเอาไว้"
"มีอะไรเปลี่ยนแปลงหรือเปล่าครับ"
"ฟังข้านะริค ไวท์ เ้าคือผู้ที่กำลังต้องเลือกใครสักคนมาเป็คู่จากการเดินทางไปศึกษาดูใจกับเหล่าเชื้อพระวงศ์ทั้งหมด และยังต้องเรียนรู้อะไรอีกมากมายจึงไม่จำเป็ต้องทำงาน ตราบใดที่ยังเรียนไม่จบหมวดของจักรวรรดิ ถึงในอนาคตภายภาคหน้าเ้าจะได้หมั้นหมายหรือแต่งงานกับใครไปก็ยังต้องไปเรียนหนังสืออยู่ดี"
"เพราะว่าเรียนเพื่อมาใช้ทำงานร่วมกับผู้อื่น ไม่ว่าเ้าจะแต่งงานกับใครก็ย่อมต้องดูแลคนจำนวนมากทั้งหมด เพราะอายุขัยที่ยาวนานของพวกเราจำเป็ต้องเรียนรู้อะไรอีกหลายอย่างนัก"
"เ้ายังต้องเรียนรู้อีกมากนะไวท์ ที่นี่เรียนนานกว่าที่คาดคิดเอาไว้" คลาสบอกพลางทำงานไปด้วยเหมือนเห็นเป็เื่ปกติของจักรวรรดิ
คำพูดของเ้าชายคลาสทำให้เขาฉุกคิดได้ว่าแวมไพร์คือสิ่งมีชีวิตที่มีอายุยืนยาวนานกว่ามนุษย์ เพราะฉะนั้นการศึกษาอะไรต่าง ๆ อาจจะกินเวลานานกว่าที่คิด เพราะฉะนั้นมาพยายามเรียนรู้กันดีกว่า มือขาวเปิดอ่านหนังสือหน้าต่อไปอย่างตั้งใจ
เด็กคนนี้ไม่ได้ซุกซนเหมือนมนุษย์ที่อยู่ใน่วัยเดียวกัน ช่างน่าแปลกนัก...ผิดวิสัยของวัยรุ่นทั่วไป เพราะสมัยที่เขายังเป็เด็กก็สร้างเื่ไว้มากมายจนได้ฉายาที่ใครก็ลืมไม่ลงกันทั้งนั้น ปัจจุบันแม้ว่าจะผ่านมาหลายร้อยปีก็ยังใช้สิ่งที่เคยทำในอดีตมาข่มขู่ขุนนางเวลาทำผิดแล้วไม่ยอมสารภาพผิด ไม่งั้นก็ยังทำตัวเหมือนเดิม ชอบโกงกินกันเสียจริง
"ไวท์ เ้าอยากไปไหนหรือเปล่า"
"ไม่พะยะค่ะ พี่คลาส"
"เ้ารู้ไหมว่าสิ่งที่เ้าทำนั้นเป็ปัญหาสุดๆ เ้าไม่เรียกร้องอะไรเลย บอกให้ทำอะไรก็ทำตามหมด จนข้าไม่รู้ว่าควรจะเอาใจเ้าแบบนี้ดีเลยไวท์" คลาสบอกพลางกุมขมับ ใบหน้า หล่อเหลาขมวดคิ้วเป็ปมอย่างเห็นได้ชัด เครียดกว่างานบ้านเมืองก็การเอาใจใครสักคนที่ถูกใจนั่นเอง
"ทำไมเหรอครับ ผมไม่เคยชินที่จะเรียกร้องอะไรแบบนี้ เลยไม่รู้จะขออะไรครับ"
ร่างสูงโปร่งเดินเข้าไปหาอีกคนที่ทำงานอยู่ด้วยความเป็ห่วง ปกติไม่เคยเห็นจะเครียดแบบนี้ เขาทำอะไรให้หนักใจขนาดนั้นเลยหรือเปล่า มือขาวลูบหลังเป็เชิงปลอบใจไม่ให้เครียดแต่ถูกรวบตัวให้ไปนั่งบนตักแทน แขนแกร่งโอบอีกคนไว้แล้วเอาคางเกยไหล่เหมือนรู้สึกสบายใจที่ได้ทำแบบนี้ ไม่รู้จะเอาใจคนที่อยู่ในอ้อมกอดยังไงดี แต่ทำไมดูอีกคนตัวสั่นแบบนี้กลัวหรือเปล่า
"วางใจได้ข้าไม่ดื่มเืของเ้าหรอก ข้าถูกฝึกมาให้อดทน"
"แค่นี้สบายมาก"
ถึงจะบอกว่าไม่ดื่มเืก็เถอะแต่แบบนี้มันไม่แปลกไปหน่อยหรือไง เขาก็ไม่ใช่เด็กตัวเล็กๆ ที่มานั่งตักผู้ใหญ่ไหมล่ะ ทำเหมือนเขาอายุไม่กี่ขวบกันไปได้...
"พี่คลาสครับ อายุเท่าไหร่เหรอครับ"
"หึ! อายุมากกว่าตาแก่และมากกว่าเ้าหลายร้อยปีนัก" และแน่นอนว่าท่านพี่ย่อมอายุมากกว่าข้าเสียอีก นับอายุไม่ได้หรอกว่าเท่าไหร่เพราะน่าจะเยอะจนไม่รู้จะบรรยายออกมายังไงเลยล่ะ
"ถ้าพี่คลาสอายุมากขนาดนั้น แปลว่าพี่คีย์ก็..." มือขาวพยายามยกมือมานับนิ้วอายุบุคคลที่สารภาพรักกับตนเองคนแรกว่าอายุเท่าไหร่กันแน่ หมายความว่าน่าจะใช้มือนับไม่ได้แล้วล่ะ เรียกเสียงหัวเราะที่อยู่ข้างกันได้เป็อย่างดีจนเหมือนหัวเราะร่าดังเช่นสามัญชนทั่วไป ไม่ได้มีท่าทีสงบนิ่งเหมือนเคย
"ทำไมขำขนาดนั้นครับ มีอะไรหรือเปล่า" ไวท์สงสัยทันทีเพราะปกติคลาสนอกจากดุกับทำสีหน้าปกติก็ไม่ค่อยแสดงท่าทีเท่าไหร่
"คือเ้าใช้ทั้งนิ้วมือนิ้วเท้ามันก็ไม่พออายุพวกข้าอยู่ดี แค่กำลังคิดว่าอืม...ข้าชอบเด็กคนนี้จริงๆ สินะ อะไรแบบนี้" คลาสเริ่มพูดเสียงเบาลงแล้วหันหน้าหนีไปทางอื่นแต่ก็ไม่สามารถซ่อนหูที่เริ่มแดงขึ้นมาได้ ตอนแรกแค่เล่นสนุกตามที่แฝดน้องแนะนำมาแต่ดันกลายเป็ตกหลุมรักเข้าแล้วจริงๆ ทีนี้จะทำยังไงกันดีล่ะ
"แต่ว่าก่อนอื่นให้ผมลงก่อนดีไหมครับ เดี๋ยวเมื่อยแย่เลย" จริงๆ แล้วเขาเขินมานานแล้วจนไม่รู้ว่าหน้าแดงไปขนาดไหนต่างหาก ไม่เคยอยู่ใกล้ใครนานขนาดนี้มาก่อน แบบนี้เรียกว่าอ้อนหรือเปล่า มือขาวยกขึ้นลูบกลุ่มผมนิ่มของอีกฝ่ายอย่างเอ็นดูเพราะคิดว่าน่าจะทำแบบนี้เพื่อเป็การปลอบใจหรือความรู้สึกอะไรก็ตามที่ไม่สามารถอธิบายได้
"ข้าว่าไปเดินเล่นที่สวนกันดีกว่า เปลี่ยนบรรยากาศ"
ทั้งสองออกจากห้องทำงานมาโดยที่ทุกคนในวังเห็นสิ่งที่ไม่น่าเชื่อก็คือเ้าชายคลาสจับมือคุณชายริคออกมาแล้วพาไปเดินเล่นที่สวนในวัง เช่นเป็อะไรที่น่าประหลาดใจเป็อย่างมาก เห็นทีว่าข่าวลือที่พระองค์ทรงมีใจให้กับลูกครึ่งเทพจะไม่ใช่เพียงแค่ข่าวลืออีกต่อไปเสียแล้ว
ไม่ได้ออกมาผ่อนคลายแบบนี้นานเท่าไหร่แล้ว การมีชีวิตอยู่มานานเกินไปจนไม่ได้สนใจสวนที่ตนเองสั่งให้ทำก็เหมือนกัน จากนี้มาสนใจหน่อยคงจะดีไม่น้อยเชียวล่ะ
ดวงตากลมโตมองเห็นอีกฝ่ายมีสีหน้าผ่อนคลายลงมากจากการทำงาน อาจจะเพราะว่ามีชีวิตอยู่มานานจนไม่ค่อยได้ทำอะไรแบบนี้ ควรหาอะไรทำเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศหรือเปล่า
"มาลองทำขนมกันดีไหมครับ เปลี่ยนบรรยากาศ" เสียงทุ้มนุ่มเสนอด้วยใบหน้าสดใสเมื่อคลาสหันไปมองถึงกับเข้าใจแล้วว่าโลกสดใสนั้นเป็อย่างไร นี่สินะ...สิ่งที่เขาไม่มี
"ถ้างั้นไปสิ ข้าเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าทำยังไง" คลาสเห็นด้วยแล้วเดินตามอีกคนไปด้วยความอยากรู้เพราะปกติกินอย่างเดียว อาจจะมีอะไรน่าสนใจมากกว่าที่คิด
กิจกรรม่หลังเที่ยงคืนนั้นกลายเป็การสอนทำขนมไปเสียแล้ว และดูเหมือนจะทำให้บรรยากาศในวังเปลี่ยนไปอย่างสนุกสนาน มีเสียงหัวเราะ อะไรที่เคยหายไปเป็เวลานานกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง เหล่าคนรับใช้ปรารถนาจะให้มีสิ่งนี้นานมากแล้ว ต้องขอบคุณคุณชายริค ไวท์ ที่ช่วยทำให้พระราชวังเขตเหนือมีสีสันขึ้นมาในเวลานี้
"วันนี้เป็ยังไงบ้างครับ สนุกไหม"
"สนุกดี ถือว่าเปลี่ยนบรรยากาศดีไม่น้อย"
นานๆ ทีได้ทำอะไรแบบนี้ก็นับเป็สีสันเหมือนกันเพราะว่าปกติไม่ค่อยได้เข้าครัวทำสักเท่าไหร่ ผ่อนคลายจากงานเอกสารที่ยังไม่ลดจำนวนลงเลยสักนิด
