เที่ยงคืนอันเงียบสงบ ภายในตำหนักชิงหลิวท่ามกลางสวนดอกไม้ในจิ้งหวางฝู่ตลบอบอวลไปด้วยละอองน้ำและความร้อน
น้ำในบ่อมีความอุ่นร้อนตามธรรมชาติ ครั้นใส่แร่ศิลาโอสถกับน้ำสมุนไพรที่เคี่ยวจนร้อนผ่าวเข้าไปทำให้อุณหภูมิของน้ำในยามนี้ร้อนกว่าบ่อน้ำพุทั่วไปถึงสามส่วน
ร่างกายของจวินจิ่วเฉินแทบจะแช่อยู่ในน้ำสมุนไพรทั้งหมด น้ำสมุนไพรปกคลุมมาถึงลำคอของเขา ถึงแม้จะเป็เช่นนี้ทว่าใบหน้าของเขาก็ยังคงขาวซีด ริมฝีปากอมม่วง ์ทราบดีว่าเขาหนาวเหน็บเพียงใด?
คิ้วเรียวที่งดงามไม่เป็สองรองใครขมวดกันแน่น ทว่าเขาไม่ได้แสดงออกถึงความเ็ปใดๆ แม้กระทั่งบั้นเอวยังตั้งตรงจนมองไม่เห็นถึงความทรมานเลย
เหตุผลที่เขาขมวดคิ้วไม่ใช่เพราะทนความหนาวเหน็บถึงขั้วหัวใจไม่ไหว แต่เป็เพราะทุกครั้งที่อาการกำเริบ สมองของเขาจะปรากฏภาพบางอย่างแล่นผ่านอย่างรวดเร็ว
เขาพยายามอย่างหนักที่จะ “จ้องมอง” ให้ชัดเจน แต่น่าเสียดายที่ไม่เคยเห็นชัดเจนสักครั้ง เขามั่นใจมากว่าภาพที่แล่นผ่านเหล่านี้จะต้องเป็ความทรงจำของเขาที่สูญหายไป
ภายในห้องอันเงียบสงบ จวินจิ่วเฉินที่แช่ตัวอยู่ในน้ำสมุนไพรตกอยู่ในภวังค์ความคิดและความเ็ป ในยามนี้เขาแช่ตัวอยู่ในบ่อน้ำขนาดใหญ่ที่เงียบกริบและโดดเดี่ยวอย่างถึงที่สุด
หลังจากที่ผ่านไปนานกว่าหนึ่งชั่วยาม ความหนาวเหน็บก็ค่อยๆ สลายหายไป อุณหภูมิภายในร่างกายของจวินจิ่วเฉินจึงค่อยๆ ดีขึ้น เขาเอนตัวพิงกำแพงศิลาด้านหลังพลางเงยศีรษะขึ้นมาด้วยความอ่อนระโหยโรยแรง
เซี่ยเสี่ยวหม่านรีบยกถ้วยน้ำแกงสมุนไพรเข้ามา “เตี้ยนเซี่ย นู๋ไฉจัดเตรียมน้ำแกงโสมเอาไว้ ตอนนี้กำลังร้อนๆ เลย นู๋ไฉป้อนท่านเอง”
จวินจิ่วเฉินไม่ขยับเขยื้อน เขาพิงตัวอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะลืมตาขึ้นมาพลางยกน้ำแกงโสมขึ้นดื่ม
จิตใจที่ห้อยโหนด้วยความหวาดกลัวของเซี่ยเสี่ยวหม่านจึงผ่อนคลายลง
จวินจิ่วเฉินลุกออกจากบ่อน้ำพุร้อน หลังจากที่แต่งกายเรียบร้อยแล้วหมางจ้งก็รีบวิ่งเข้ามาพร้อมกับยื่นจดหมายมาหนึ่งฉบับ “เตี้ยนเซี่ย จดหมายจากหัวหน้าาุโแห่งหุบเขาเสินหนง”
จวินจิ่วเฉินรีบเปิดออกมาดูอย่างรวดเร็ว ครั้นเขาเห็นเนื้อหาภายในมุมปากก็ปรากฏถึงรอยยิ้ม
อย่าว่าแต่เซี่ยเสี่ยวหม่านเลย แม้กระทั่งหมางจ้งก็ยังอยากจะรู้ว่าหัวหน้าาุโแห่งหุบเขาเสินหนงเขียนจดหมายถึงจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยทำไม? ยิ่งไปกว่านั้นคือพวกเขาอยากจะรู้ว่าในจดหมายเขียนอะไรเอาไว้ถึงขนาดที่ทำให้จิ้งหวางเผยรอยยิ้มออกมาได้?
จวินจิ่วเฉินเก็บจดหมายแล้วหันไปถามเซี่ยเสี่ยวหม่าน “กูเฟยเยี่ยนกลับมาหรือยัง? ”
เซี่ยเสี่ยวหม่านรีบตอบตามความจริง “ดูเหมือนว่าแพทย์หญิงกูจะมีเื่ด่วนเพราะทันทีที่กลับมาก็ร้องตามหาเตี้ยนเซี่ย ในตอนนี้ยังคงเฝ้าอยู่ที่หน้าประตูห้องบรรทมอยู่เลย”
จวินจิ่วเฉินรีบก้าวเดินออกไปด้านนอก เซี่ยเสี่ยวหม่านจึงรีบไล่ตามไปโน้มน้าวอย่างรวดเร็ว “เตี้ยนเซี่ย เกรงว่าแพทย์หญิงกูจะมาเพราะเื่ของกำหนดการสามเดือน ฝ่าาทรงจับตามองเื่นี้มาโดยตลอด เตี้ยนเซี่ยไม่สามารถหุนหันพลันแล่นได้นะพ่ะย่ะค่ะ!”
จวินจิ่วเฉินไม่เอ่ยวาจาพลางก้าวเดินต่อไป เซี่ยเสี่ยวหม่านกำลังจะไล่ตามทว่าหมางจ้งขวางไว้ “เสี่ยวหม่าน เื่นี้เ้าไม่สามารถควบคุมได้”
เซี่ยเสี่ยวหม่านสะบัดมือของหมางจ้งออกด้วยความโมโหพลางไล่ตามไปขวางทางด้านหน้าของจวินจิ่วเฉินอย่างแน่วแน่ เขาเอ่ยโน้มน้าวด้วยความจริงจัง “เตี้ยนเซี่ย แพทย์หญิงกูรู้ความลับของฝ่าาแล้ว หากนางอาศัยอยู่ในจวนต่อไป ทั้งฝ่าาและนางต่างก็จะประสบเื่ราวเลวร้าย อีกทั้งฝ่าามีตัวเลือกพระชายารองแล้ว ถ้าเตี้ยนเซี่ยมีข้อยกเว้นให้แก่แพทย์หญิงกู เกรงว่าเมื่อถึงเวลานั้นก็จะไม่สามารถผลักดันพระชายารองออกไปได้”
จวินจิ่วเฉินเลิกคิ้วเหลือบมองเขาแวบหนึ่งโดยไม่พูดอะไร เขาเพียงแค่สะบัดมือเป็นัยเพื่อให้เซี่ยเสี่ยวหม่านถอยออกไป
“เตี้ยนเซี่ย นู๋ไฉ…”
เซี่ยเสี่ยวหม่านยังคง้าโน้มน้าว และในที่สุดจวินจิ่วเฉินก็เอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงเ็า “ถอยไป! ”
เซี่ยเสี่ยวหม่านไม่ปริปากพูด นอกจากเขาจะไม่ยอมถอยแล้วเขายังคุกเข่าลงอีกด้วย บัดนี้แววตาของจวินจิ่วเฉินนั้นเ็ามากขึ้น เขาใช้ขาข้างหนึ่งถีบเซี่ยเสี่ยวหม่านแล้วก้าวเดินออกไป
จวินจิ่วเฉินถีบได้รุนแรงจริงๆ เพราะเซี่ยเสี่ยวหม่านล้มลงกับพื้นจนไม่สามารถลุกขึ้นมาได้เลย
หมางจ้งรีบเข้ามาช่วยประคองด้วยความกังวล “ไม่เป็อะไรใช่ไหม ข้าบอกเ้าแล้วว่าเื่นี้เ้าควบคุมไม่ได้ ทำไมเ้าถึงไม่ฟังกันบ้าง? ”
“ข้าทำไปเพื่อพวกเขานะ! ”
เซี่ยเสี่ยวหม่านครุ่นคิดจนกลัดกลุ้มอย่างแท้จริง “หากว่าเตี้ยนเซี่ยเข้ายึดครองราชบัลลังก์มันก็จะไม่เกิดเหตุยุ่งยากเช่นนี้ไม่ใช่หรือ! ข้าพเ้าไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าเตี้ยนเซี่ยละทิ้งราชบัลลังก์ไปตามหาความลับของทะเลน้ำแข็งปิงไห่ทำไม สุดท้ายก็ต้องมาเสียเปรียบให้กับองค์รัชทายาท! ตำแหน่งมกุฎราชกุมารนี้เดิมทีควรเป็ของเตี้ยนเซี่ย! ”
หมางจ้งใมากจึงรีบไปปิดปากเซี่ยเสี่ยวหม่าน “เ้าเบาลงหน่อย! คำพูดเช่นนี้นำมาพูดซี้ซั้วได้อย่างไรกัน! ”
เซี่ยเสี่ยวหม่านแงะมือหมางจ้งออกพลางเอ่ยแ่เบา “เื่นี้ไม่ได้เป็เพราะคำสัญญาที่เตี้ยนเซี่ยให้ไว้กับต้าหวงซูของพระองค์ใช่หรือไม่? เตี้ยนเซี่ยตกอยู่ภายใต้อำนาจของต้าหวงซูหรือ? ”
หมางจ้งหวาดผวามากกว่าเดิมเสียอีก เขารีบเข้าปิดปากเซี่ยเสี่ยวหม่านอีกครั้งหนึ่ง “บอกว่าอย่าพูดจาซี้ซั้วไง เ้ายังพูดอยู่อีก! ”
เซี่ยเสี่ยวหม่านแงะมือออกโดยที่ยังคง้าพูดต่อ
ด้วยเหตุนี้ทั้งคู่จึงโต้เถียงใส่กันและกัน ในส่วนของจวินจิ่วเฉินนั้นเดินออกมาจากสวนดอกไม้ด้านหลังตั้งนานแล้ว
ทั้งๆ ที่จวินจิ่วเฉินก้าวเดินด้วยความรีบร้อน แต่เมื่อเห็นกูเฟยเยี่ยนนั่งอยู่หน้าประตูห้องบรรทมจากระยะไกล เขาก็หยุดเดินกะทันหัน หลังจากที่เขาลังเลอยู่นาน ในที่สุดก็ตัดสินใจไม่เดินเข้าไป แต่อ้อมไปอีกฝั่งเพื่อออกจากจวน
กูเฟยเยี่ยนรอมาทั้งคืนจนถึง่สายของวันรุ่งขึ้นก็ยังไม่ได้พบเขา ในที่สุดนางก็ตระหนักได้ว่าจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยไม่ได้อยู่ในห้องบรรทม หญิงสาวเกิดโทสะจึงพุ่งตรงไปยังห้องของเซี่ยเสี่ยวหม่านแล้วคว้าเข้าที่คอเสื้อของเขา “คนหลอกลวง! จิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยอยู่ที่ใด เ้ารีบบอกมานะ! ”
เซี่ยเสี่ยวหม่านตะลึงงันอย่างคาดไม่ถึง
กูเฟยเยี่ยนทั้งร้อนรนและทุกข์ใจ มืออีกข้างหนึ่งยื่นไปบีบคอเซี่ยเสี่ยวหม่านพลางกล่าวเตือน “เ้าจะพูดหรือไม่! ”
เซี่ยเสี่ยวหม่านยังคงไม่ไหวติง กูเฟยเยี่ยนจึงผลักเขาออกอย่างรุนแรง หญิงสาวหรี่ตามองเขาพลางะโออกมาด้วยความโกรธ “เซี่ยเสี่ยวหม่าน คอยดูเถอะ รอให้ข้ากลายเป็คนโปรดของห้องทรงพระอักษรก่อน คนแรกที่ข้าจะไม่ยกโทษให้ก็คือเ้า! ”
เซี่ยเสี่ยวหม่านตกตะลึงทันทีที่ได้ยินเช่นนี้ “อะไรนะ? ”
คนโปรดของห้องทรงพระอักษรไม่ใช่เหมยกงกงหรือ?
หรือว่าฝ่าาไม่ได้ให้นางกลับไปที่ห้องยาสำนักหมอหลวง แต่ให้นางคอยรับใช้อยู่ข้างกาย?
เซี่ยเสี่ยวหม่านรู้ซึ้งถึงพฤติกรรมของเทียนอู่ฮ่องเต้ดี วินาทีนั้นเขาเหงื่อไหลพลั่กไปทั้งตัว เพียงครู่เดียวจึงเอ่ยออกมาด้วยความร้อนใจ “เ้า เ้า เ้า ทำไมเ้าไม่พูดให้เร็วกว่านี้! เ้ารอก่อน ข้าพเ้าจะไปตามหาจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยในตอนนี้เลย! ”
ทว่าเซี่ยเสี่ยวหม่านตามหามาทั้งวันก็ยังไม่พบกับเ้านายของตนเอง เขาถามหมางจ้งแล้วทว่าหมางจ้งก็ไม่รู้เช่นกัน! เซี่ยเสี่ยวหม่านหงุดหงิดและโมโหเป็อย่างยิ่ง เขาตบเข้าไปที่ใบหน้าของตนเองสองครั้งแล้วไปพบกูเฟยเยี่ยน
ตลอดคืนที่ผ่านมาเขาปรารถนาให้เตี้ยนเซี่ยฟังคำโน้มน้าวของเขาบ้าง แต่บัดนี้เขาหงุดหงิดและโมโหเป็อย่างยิ่ง เขากลัวว่าเตี้ยนเซี่ยจะฟังคำโน้มน้าวของเขาจริงๆ และซ่อนตัวไม่ยอมออกมาพบกูเฟยเยี่ยน
เตี้ยนเซี่ยจะต้องคาดไม่ถึงว่าฝ่าาจะให้กูเฟยเยี่ยนคอยรับใช้อยู่ข้างกายแน่ๆ !
สำหรับเื่นี้นอกจากเตี้ยนเซี่ยแล้วไม่มีใครสามารถช่วยกูเฟยเยี่ยนได้เลย ระยะเวลาสามวันนั้นสั้นมาก ผ่านไปแวบเดียว่เวลาก็จะมาถึง! หากเตี้ยนเซี่ยหลบซ่อนจริงๆ กูเฟยเยี่ยนอนาถแน่!
กูเฟยเยี่ยนวิตกกังวลมาทั้งวัน หญิงสาวร้อนใจจนทำอะไรไม่ได้สักอย่าง ครั้นนางเห็นว่าเซี่ยเสี่ยวหม่านมาจึงรีบเอ่ยถาม “เป็อย่างไรบ้าง เจอเตี้ยนเซี่ยหรือยัง? ”
เซี่ยเสี่ยวหม่านส่ายศีรษะด้วยความรู้สึกผิด
กูเฟยเยี่ยนแกว่งแขนไปมาด้วยความโกรธ แต่สุดท้ายก็ปล่อยแขนลง หญิงสาวเดินไปนั่งข้างแปลงดอกไม้พลางถอนหายใจออกมาอย่างหนักใจ
ทันใดนั้นเซี่ยเสี่ยวหม่านก็นึกถึงสถานที่อีกสองถึงสามแห่ง เขาไม่พูดอะไรมากรีบตามหาต่อไป กูเฟยเยี่ยนทำได้เพียงรอคอย
ทว่าน่าเสียดายที่เซี่ยเสี่ยวหม่านกลับมามือเปล่า
จวบจนกระทั่งค่ำคืนของวันที่สาม กูเฟยเยี่ยนก็ยังไม่ได้พบจวินจิ่วเฉิน
ค่ำคืนนี้คือวันสุดท้ายของกำหนดการ ตามกฎแล้วหากว่าจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยไม่ได้ให้อยู่ต่อ ในเช้าวันพรุ่งนี้นางจะต้องออกไปด้วยตนเอง แล้วกลับไปรายงานตัวที่ห้องยาสำนักหมอหลวง และนับั้แ่วันพรุ่งนี้เป็ต้นไป ไม่ว่าจะเป็ผู้ใดล้วนสามารถโยกย้ายนางได้ทั้งนั้น
อันที่จริงแล้วกูเฟยเยี่ยนรับรู้ดีว่า ในเวลานี้ทางเลือกที่ดีที่สุดของจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยคือการไม่ปรากฏตัวออกมา ไม่ปรากฏตัวจะเท่ากับไม่แสดงท่าที เทียนอู่ฮ่องเต้ก็จะไม่เข้าใจความคิดของเขา
แต่อย่างน้อยเ้านายกับคนรับใช้ก็ควรเป็ห่วงใยกันหน่อยไม่ใช่หรือ? อย่างน้อยนางก็เคยขอร้องอ้อนวอนเขาด้วยความจริงใจถึงสองครั้ง เขาควรที่จะให้คำตอบนางอย่างชัดเจนไม่ใช่หรือ?
นางคิดมาโดยตลอดว่าตนเองจะมีที่ยืนอยู่ในใจของเทพบุตรอย่างจิ้งหวางเตี้ยนเซี่ยอยู่บ้าง แต่ในตอนนี้ถึงได้รู้ว่าที่แท้นางก็ไม่มีที่ยืนเลยแม้แต่น้อย
กูเฟยเยี่ยนก้มหน้าก้มตา ภายในจิตใจปรากฏถึงความรู้สึกผิดหวังและความล้มเหลว
ทว่าหญิงสาวรู้ดีว่าตนเองไม่้าจะประนีประนอม ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องพึ่งพาตนเอง ในวันพรุ่งนี้ไม่ว่าจะต้องแลกด้วยสิ่งใด นางก็จะไม่มีทางอาศัยอยู่ข้างกายเทียนอู่ฮ่องเต้อย่างแน่นอน…