มู่หลิวเยวี่ยเป็ที่รักของจวนแม่ทัพั้แ่เด็กจนโต และเป็เพื่อนสนิทกับองค์หญิงฉางผิงที่เป็ที่รักของไท่เฮาอย่างมาก แม้ว่าจะเป็เพียงคุณหนู แต่ในเมืองหลวงกลับถูกเรียกว่าองค์หญิงรองฉางผิง แม้แต่เหล่านางสนมในวังเองก็ยังยอมนาง
นับประสาอะไรกับหานอวิ๋นซี!
นางเป็แค่ฉินหวังเฟยในนามคนหนึ่งเท่านั้น แม้กระทั่งสาวใช้จวนฉินอ๋องเองก็ยังปฏิบัติกับนางเหมือนต้นหอมต้นหนึ่ง
บอกให้นางหยุดก็ต้องหยุดไม่ใช่หรือ? หานอวิ๋นซีกลับทำเป็หูหนวกไม่ได้ยิน
มู่หลิวเยวี่ยโมโหและรีบตามไป จับหานอวิ๋นซีไว้ แต่ก็ไม่รู้ว่านางจงใจหรือไม่ เล็บยาวแทงเข้าไปในเนื้อของหานอวิ๋นซีซึ่งเจ็บอย่างมาก
“เ้าช่วยพี่ชายข้าได้หรือไม่?” มู่หลิวเยวี่ยถามอย่างโอหังอวดดี
แม่ทัพมู่ที่ออกมาเห็นก็พูดอย่างเ็าว่า “หลิวเยวี่ย ปล่อยนางไป อีกไม่นานพี่ชายเ้าก็ฟื้นแล้ว”
“เช่นนั้นก็หมายความว่ายังไม่ฟื้นหรือ?” มู่หลิวเยวี่ยแทบไม่เชื่อ “ท่านพ่อ ท่านเชื่อนางจริงๆ หรือ?”
หานอวิ๋นซีที่เ็ปจากการถูกดึงเหล่ตามอง ดวงตาเฉี่ยวของนางมืดมนจนน่ากลัว “ปล่อย!”
“ไม่ เ้าออกไปไม่ได้จนกว่าพี่ชายของข้าจะฟื้น!” มู่หลิวเยวี่ยยังคงไม่ยอมปล่อย
แต่ใครจะไปรู้ว่าหานอวิ๋นซีจะยื่นมือออกไปบีบจุดฝังเข็มบนข้อมือของนาง จนทำให้มือของนางอ่อนแรงทันที หานอวิ๋นซีสะบัดนางออกอย่างแรงด้วยความรำคาญ และพูดอย่างเ็าว่า “เ้าไม่มีสิทธิ์ที่จะมาสั่งข้า!”
พูดจบก็เดินออกไปโดยไม่หันกลับมามอง
มู่หลิวเยวี่ยที่ล้มลงกับพื้น ลุกขึ้นด้วยความโกรธและคิดจะไล่ตามไป แต่แม่ทัพมู่กลับหยุดนางเอาไว้ “พอได้แล้ว! นางไม่กล้าโกหกหรอก”
มู่หลิวเยวี่ยยังคงต่อต้าน ไม่เต็มใจที่จะปล่อยหานอวิ๋นซีไปก่อนที่พี่ชายของนางจะฟื้น และยิ่งไม่พอใจกับท่าทางทะนงตัว “ฉินหวังเฟย” ของหานอวิ๋นซี นางไล่ตามไปไม่กี่ก้าวก็ะโว่า “หานอวิ๋นซี ข้าเตือนเ้าไว้เลยนะ ถ้าพี่ชายของข้าไม่ฟื้น ข้าไม่มีวันปล่อยเ้าไปเด็ดขาด! องค์หญิงฉางผิงก็ไม่ปล่อยเ้าไปเช่นกัน!”
องค์หญิงฉางผิง...
องค์หญิงองค์นี้เป็อัญมณีในฝ่ามือของฮองเฮาและไท่เฮา นิสัยดีกว่ามู่หลิวเยวี่ยเป็ร้อยเท่า ั้แ่เด็ก ก็เอาแต่ตัวติดกับมู่ชิงอู่ ในอีกแง่หนึ่งก็พูดได้ว่าเป็คนรักในวัยเด็กกับมู่ชิงอู่ ทุกคนทั้งในและนอกราชวงศ์ต่างรู้ดีว่านางจะไม่แต่งงานกับใครนอกจากมู่ชิงอู่
แต่ก็น่าเสียดายที่ไท่เฮาและฮองเฮาไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานของนาง ดังนั้นจึงยังไม่ได้แต่งงานจนถึงตอนนี้
หากนางรู้ว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับมู่ชิงอู่ แม้แต่พระเ้าเองก็ยังรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น!
คำเตือนของมู่หลิวเยวี่ย แน่นอนว่าหานอวิ๋นซีได้ยินมันแต่ก็ไม่ได้ใส่ใจ ไม่ว่าจะเป็องค์หญิงฉางผิงอะไรนั่นนางก็ไม่สนใจ
นางไม่เคยพลาดเลยสักครั้งั้แ่เป็หมอมา และระบบล้างพิษเองก็ไม่มีทางผิดพลาด หลังจากล้างพิษแล้วนางได้ทำการทดสอบและยืนยันอีกครั้งว่าสารพิษในร่างกายของมู่ชิงอู่อยู่ในเกณฑ์ที่ไม่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ อุณหภูมิร่างกายของเขาก็เริ่มลดลงเช่นกัน คิดว่าในไม่ช้าคงจะฟื้นขึ้นมา
เพียงมู่ชิงอู่ฟื้นขึ้นมา ก็สามารถพิสูจน์ได้ว่านางไม่มีความคิดที่จะสังหารเขา ต่อให้เป็ฮ่องเต้ก็ทำอะไรนางไม่ได้!
เมื่อเดินออกจากประตูจวนแม่ทัพใหญ่ หานอวิ๋นซีก็ถอนหายใจยาวๆ ในที่สุดก็สามารถกำจัดปัญหานี้ได้เสียที
บนรถม้าที่กำลังกลับ หานอวิ๋นซีรักษาาแจากการถูกแส้ฟาดอีกครั้ง โดยพันผ้าพันแผลเล็กน้อย แล้วใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดาแที่แขนนั้นไว้
เดิมทีนางตั้งใจจะไปพบอี้ไท่เฟยและพูดคุยเกี่ยวกับสถานการณ์ในวัง แต่เมื่อไปถึงหน้าประตู กลับได้รับแจ้งว่าอี้ไท่เฟยไปที่พักอีกแห่งที่ชานเมืองทางตะวันตกและจะอยู่ที่นั่นอีกสองสามวันจึงจะกลับ
เป็ไปได้หรือไม่ว่าจะรังเกียจห้องที่มู่หรงหว่านหรูทำสกปรก? เมื่อคิดถึงสิ่งนี้ หานอวิ๋นซีก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา
ดีเลยสิ อี้ไท่เฟยไม่อยู่จวน นางก็จะใช้ชีวิตได้ง่ายขึ้น แน่นอนว่าผู้ที่เข้ามาใหม่ก็ต้องแสดงความสามารถให้เห็น และการรับมือกับแม่สามีนั้นยากเสียกว่าต้องแสดงความสามารถให้เห็นเสียอีก หานอวิ๋นซียอมรับว่าตนเองไม่ใช่ลูกสะใภ้ที่ดีและหวังว่าสามีของนางจะไม่กลับมาอีกตลอดชีวิต
มู่หรงหว่านหรูที่ออกมาพอดีและเห็นหานอวิ๋นซีที่กำลังยิ้ม นางก็โกรธมากจนเกือบจะะเิออกมา
หลังจากที่หญิงสาวคนนี้และฉินอ๋องออกไป อี้ไท่เฟยก็รีบออกจากที่นี่ไปเช่นกัน ก่อนจากไปยังบอกให้สาวใช้เปลี่ยนทุกอย่างในจวนและตกแต่งใหม่ เพราะขยะแขยงนางอย่างมาก!
นางนั่งอยู่กลางแอ่งอุจจาระปัสสาวะ ะโก็แล้ว แต่ก็ไม่มีใครสนใจนาง สุดท้ายนางต้องเดินคอตกออกไปและวิ่งกลับไปที่ห้อง
เหตุการณ์ท้องร่วงในที่สาธารณะเป็ที่รับรู้โดยทั่วกันในจวนอ๋อง แม้ว่าเหล่าคนใช้จะไม่กล้าหัวเราะเยาะต่อหน้านาง แต่มู่หรงหว่านหรูรู้ว่าทั้งจวนต้องหัวเราะเยาะนางเป็แน่
มันน่าโมโหจริงๆ เมื่อคิดเกี่ยวกับเื่นี้มู่หรงหว่านหรูอยากจะร้องไห้เหลือเกิน และเมื่อนางเห็นหานอวิ๋นซี นางก็ยิ่งรู้สึกโกรธขึ้นไปอีก นางไม่รู้ว่าหานอวิ๋นซีเก่งเื่พิษ เลยคิดในใจว่าตนเองต้องใช้ยาผิดแน่ๆ
อย่างไรก็ตาม เื่ทั้งหมดก็เป็เพราะผู้หญิงคนนี้!
เมื่อเห็นหานอวิ๋นซีมองไปรอบๆ มู่หรงหว่านหรูก็เก็บอารมณ์ไว้ “มู่เฟยไปที่พักอื่นเพื่อพักผ่อนอีกหลายวันกว่าจะกลับมา หากพี่สะใภ้คิดถึงมู่เฟยข้าสามารถพาท่านไปหานางได้ตลอด อีกอย่าง ต่อไปหากพี่สะใภ้้ากินอะไร ก็บอกข้าได้เลย ข้าจะไปสั่งให้ครัวทำอาหารให้”
จำเป็ต้องให้นางพาไปด้วยหรือ? อยากกินแล้วสั่งด้วยตัวเองก็ไม่ได้หรือ? หานอวิ๋นซียิ้มเยาะ
เหตุใดหญิงสาวคนนี้ถึงต้องแสร้งทำตัวเป็เ้าบ้านทุกครั้งที่คุยกับนาง? ราวกับว่าลูกสะใภ้คนใหม่อย่างนางเป็แขก
มู่หรงหว่านหรูเดินลงมา “พี่สะใภ้ พี่ชายข้าล่ะ?”
ด้วยน้ำเสียงแสดงความเป็เ้าของนั้น ราวกับว่าหลงเฟยเยี่ยเป็ของนาง และหานอวิ๋นซีไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ
“เราไม่ได้กลับมาด้วยกัน ข้าเองก็ไม่รู้ว่าเขาไปไหน” เมื่อเผชิญหน้ากับคนที่ไม่ชอบ หานอวิ๋นซีก็ไม่อยากที่จะพูดด้วยแม้แต่คำเดียว นางจึงเดินตรงไปที่ลานหลัก
มู่หรงหว่านหรูเดินตามไปอย่างรวดเร็ว และจับมือหานอวิ๋นซีอย่างสนิทสนม “พี่สะใภ้ เมื่อคืนพี่ชายกับท่าน...”
หานอวิ๋นซีหยุดฝีเท้า แกะมือของนางออก เลิกคิ้วแล้วถามว่า “ใช่ของจริงหรือเป็ของปลอมหรือ เ้าไม่พอใจหรือไม่?”
ใบหน้าของมู่หรงหว่านหรูเต็มไปด้วยความประหลาดใจ รีบจับมือหานอวิ๋นซีแล้วถามว่า “พี่สะใภ้ ท่านกำลังพูดถึงอะไรกัน? ท่านกำลังเข้าใจข้าผิดแล้ว? แม้ว่าท่านไม่ได้เต็มใจที่จะแต่งงานกับพี่ชายของข้า แต่ถึงอย่างไรท่านก็อยู่ที่นี่ ข้าเข้าใจนิสัยของพี่ชายข้าดีที่สุด ข้าแค่เป็ห่วงเลยถามไปเช่นนั้น ถ้าเขาละเลยท่าน ท่านบอกข้าได้เลย ข้าจะจัดการแทนท่านเอง”
เสแสร้ง เวลาที่ไม่มีใครอยู่รอบๆ นางก็แสร้งทำเป็ว่าตัวเองเป็ดอกบัวขาวบริสุทธิ์จริงๆ
“ข้าแค่ล้อเล่นน่ะ เหตุใดเ้าต้องร้อนรนด้วยล่ะ?” หานอวิ๋นซีถามติดตลก
“พี่สะใภ้ เื่แบบนี้มันไม่ตลกเอาเสียเลย ท่านทำให้ข้าใ ข้าแค่อยากให้พวกท่านมีความสุขกันก็เท่านั้นเอง! แค่หวังว่าท่านจะให้กำเนิดเด็กน้อยตัวอ้วนสักคนให้กับพี่ชายเร็วๆ” มู่หรงหว่านหรูรีบพูดอธิบาย
“งั้นหรือ ฮ่าฮ่า ข้าเองก็หวังว่าเ้าจะรีบหาสามีดีๆ แต่งงานกันแล้วมีลูกกันเร็วๆ เหมือนกัน เ้าเป็ห่วงข้ามากขนาดนี้ ข้าเองก็เป็ห่วงเ้าไม่แพ้กัน” หานอวิ๋นซีพูดพลางยิ้ม แต่ละประโยคที่พูดทิ่มแทงมู่หรงหว่านหรูไม่น้อย
เมื่อเห็นความแข็งกระด้างในดวงตาของมู่หรงหว่านหรู นางก็สงบสติอารมณ์อีกครั้ง “ไม่ต้องกังวลไปหรอก เมื่อพี่ชายของเ้ากลับมา ข้าจะคุยกับเขาเื่นี้”
พี่ชายก็เหมือนพ่อ หลงเฟยเยี่ยนี่ช่างมีพลังนี้จริงๆ
“พี่สะใภ้ ความจริงแล้วข้า...” มู่หรงหว่านหรูที่กำลังจะอธิบาย ทว่าหานอวิ๋นซีกลับหยุดนางไว้ “เอาล่ะ ข้าเหนื่อยแล้ว เ้าไปทำธุระของเ้าเถอะ”
หลังจากเดินออกไป นางหันกลับมาและพูดเสริมว่า “แม่นางมู่หรง เื่เมื่อคืนของเรา...เป็เื่จริง! เ้าวางใจเถอะ!”
มู่หรงหว่านหรูหยุดกะทันหัน สุดท้ายก็ไม่สามารถอดกลั้นได้อีกต่อไป ใบหน้าที่น่าสงสารของนางกลายเป็ดุร้ายและน่ากลัว นางกำหมัดแน่นและพูดอย่างเ็าว่า “หานอวิ๋นซี สักวันหนึ่งเ้าจะถูกไล่ออกจากจวนฉินอ๋องแน่นอน!”
เดิมทีหานอวิ๋นซีคิดว่าในสองสามวันนี้หลงเฟยเยี่ยคงจะไม่กลับมา แต่ใครจะรู้ว่า พอตกกลางคืนนางที่เพิ่งจะแช่น้ำร้อนอย่างสบายตัว เมื่อกำลังจะออกจากอ่างก็เห็นหลงเฟยเยี่ยเดินเข้ามา
“อ๊าย...เ้ารอก่อน!”
เสียงคำรามราวกับสิงโตของหานอวิ๋นซีไม่ได้ทำให้ฝีเท้าของหลงเฟยเยี่ยหยุด เห็นแค่เพียงเขาปรากฏตัวขึ้นมาจากที่ไหนสักแห่งที่สระน้ำพุร้อน ทั้งยังสวมชุดกลางคืน ซึ่งทำให้เห็นรูปร่างที่สมบูรณ์แบบและสง่างามได้อย่างชัดเจน เขาเป็เหมือนเสือชีต้าลึกลับในเวลากลางคืน เ็า น่าเกรงขาม และเต็มไปด้วยความเย่อหยิ่งที่ไม่อาจต่อกรได้!
เมื่อเทียบกับเขาแล้ว ความงามของหานอวิ๋นซีนั้นสามารถถูกมองข้ามได้เลย แม้ว่านางจะออกมาจากอ่างอาบน้ำก็ตาม
หานอวิ๋นซีตัวแข็งไปครู่หนึ่ง เต็มไปด้วยใบหน้าที่มืดมน ความคิดขาวโพลน นางทั้งกังวลทั้งโกรธเกรี้ยว “หลงเฟยเยี่ย ท่านหมายความว่ายังไง ท่าน...ท่านออกไปเลยนะ!”
แม้ว่าหานอวิ๋นซีจะแต่งงานกับคนคนนี้แล้ว แต่หัวใจของนางไม่ได้แต่งด้วยเสียหน่อย ระหว่างชายกับหญิงมีความแตกต่างกัน ชายผู้นี้ไม่เข้าใจหรือ?
ยิ่งไปกว่านั้น เขาเองก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะปฏิบัติต่อนางในฐานะภรรยาและรับผิดชอบต่อนางจริงๆ เสียหน่อย อย่างไรเขาเป็ชายตัวใหญ่คนหนึ่ง เช่นนั้นแล้วช่วยทำตัวสุภาพและมียางอายกว่านี้ได้หรือไม่?
หานอวิ๋นซีประหม่าแทบตาย แต่ในไม่ช้านางก็ค้นพบว่าความกังวลใจของนางเป็เพียงความคิดเพ้อฝัน
หลงเฟยเยี่ยไม่เพียงไม่้าเอาเปรียบนาง ทั้งยังไม่ได้คิดที่จะจริงจังกับเื่นี้เลย เขาไม่แยแสใดๆ และพูดอย่างเ็าว่า “ข้ามีพิษอยู่ในตัว รีบช่วยข้าเตรียมยาแก้พิษหน่อย เดี๋ยวนี้”
ทั้งที่เห็นได้ชัดว่ากำลังถูกเอาเปรียบ แต่เมื่อมองจากท่าทางเ็าของเขา จู่ๆ หานอวิ๋นซีก็รู้สึกว่าตนเองเป็คนจิตใจคับแคบที่มองเขาผิดไป
อ๊ะ...เห็นๆ กันอยู่ว่ามันต้องเป็ความผิดของหลงเฟยเยี่ยต่างหาก
ในที่สุดหานอวิ๋นซีก็สงบลง กระแอมสองสามครั้งแล้วพูดอย่างใจเย็นว่า “รอให้ข้าขึ้นไปก่อนแล้วค่อยพูดกันอีกครั้ง ตอนนี้ท่านออกไปก่อนได้หรือไม่?”
หลงเฟยเยี่ยยังมีสีหน้านิ่งเฉย หันหลังกลับและเดินออกไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ
หานอวิ๋นซีถอนหายใจด้วยความโล่งอก ทว่าจู่ๆ หลงเฟยเยี่ยก็หันกลับมา
หานอวิ๋นซีที่ใกลัว ก็เอาตัวจุ่มลงไปในน้ำ แม้แต่ศีรษะก็จุ่มลงไป
เมื่อเห็นสิ่งนี้ หลงเฟยเยี่ยยังคงสงบนิ่ง ในที่สุดดวงตาที่เ็าราวกับทะเลสาบน้ำแข็งของเขาก็แสดงความสงสัยออกมา หญิงสาวคนนี้กล้าหาญมากไม่ใช่หรือ?
แต่ตอนนี้กลับกลัวอย่างนั้นหรือ?
“หานอวิ๋นซี!” เขาร้องเรียก
หานอวิ๋นซีขึ้นมาจากน้ำ แล้วสาดน้ำใส่หน้า พร้อมกับส่งเสียงคำรามว่า “ท่านจะไปหรือไม่ไป?”
หลงเฟยเยี่ยตกตะลึงเล็กน้อย ไม่มีใครในโลกนี้กล้าะโใส่เขาเช่นนี้ และหญิงสาวคนนี้ก็เป็คนแรก
เขาที่ไม่ได้เดินเข้ามาและยืนอยู่ข้างสระโดยเอามือไพล่หลัง “เ้าเป็เศษขยะของตระกูลหานไม่ใช่หรือ? ไปเรียนรู้วิธีการล้างพิษมาจากไหนกัน?”
เมื่อคืนที่ผ่านมา หลงเฟยเยี่ยสั่งให้คนตรวจสอบหญิงสาวคนนี้ แต่น่าเสียดายที่ผลการสืบสวนเหมือนกับข่าวลือภายนอก นางเป็แค่คนที่ไร้ประโยชน์ที่สุดในประวัติศาสตร์คนหนึ่งของตระกูลหาน และอัจฉริยะทางการแพทย์ของตระกูลหานก็ไม่ได้ชำนาญในการล้างพิษ
“ท่านให้ข้าขึ้นไปก่อนได้หรือไม่ แล้วค่อยถามอีกที?” หานอวิ๋นซีระงับอารมณ์ แล้วพูดอย่างจริงจัง
แต่ใครจะไปรู้ว่าหลงเฟยเยี่ยกลับตอบว่า “ไม่”
เอาเถอะ หานอวิ๋นซีรู้สึกได้ว่าชายผู้นี้กำลังสงสัยในตัวนาง แล้วตอนนี้ก็เป็จังหวะที่สามารถขู่นางได้ ถ้าไม่พูดอะไร เขาคงไม่ปล่อยให้นางขึ้นจากอ่างน้ำแน่ๆ
นางแสร้งทำเป็จนปัญญาแล้วพ่นลมหายใจ “ท่านพ่อของข้าคิดว่าข้าเป็คนฆ่าท่านแม่ ดังนั้นเขาเลยเกลียดข้ามาตลอด เวลาเจอข้าก็เหมือนเจอศัตรู นอกจากนี้ข้ายังหน้าตาน่าเกลียด เลยทำให้เขายิ่งรังเกียจมากขึ้น”
หานอวิ๋นซีพูดพร้อมกับก้มหน้าลงอย่างเศร้าใจ “อันที่จริง ข้าไม่ใช่คนไม่ได้เื่หรอก เป็เพราะพวกเขาไม่สอนข้าต่างหาก ในตอนที่ข้ายังเด็ก ข้าแอบเอาหนังสือทางการแพทย์ที่ท่านแม่ทิ้งไว้มาศึกษาอย่างลับๆ และวันนี้เองที่เพิ่งจะได้นำมันมาใช้ เนื้องอกบนใบหน้าของข้าก็เป็พิษ แต่ข้าได้รักษามันแล้ว ข้ากลัวว่าท่านพ่อจะหาว่าข้าขโมยตำราแพทย์ของท่านแม่ แล้วก็กลัวว่าเขาจะไม่ให้ข้าเรียน ข้าจึงเก็บเป็ความลับมาโดยตลอด”
หลงเฟยเยี่ยที่ไม่ได้เชื่อทั้งหมด เมื่อกำลังจะถามต่อ หานอวิ๋นซีก็พูดเสริมว่า “ข้าได้เผาหนังสือทางการแพทย์นั้นไปแล้ว เพราะข้าเรียนมันหมดแล้ว”
หลังจากที่นางพูดจบ ดวงตาก็เป็ประกายสดใส และสบตากับดวงตากลมโตของหลงเฟยเยี่ย
ผลักทุกสิ่งทุกอย่างไปที่ฮูหยินเทียนซินที่ตายไปแล้ว เพราะคนตายไม่สามารถให้การได้ และแม้ว่าหลงเฟยเยี่ยจะไม่เชื่อ เขาก็ไม่สามารถหาเบาะแสใดๆ ได้อยู่ดี หลงเฟยเยี่ยไม่ได้พูดอะไร มีเพียงดวงตาเ็าของเขาที่ดูเหมือนว่าจะมองนางได้อย่างทะลุปรุโปร่ง...
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้