ครั้นขู่เถิงทำเช่นนี้ บรรยากาศก็ครึกครื้นขึ้นมาทันใด กล่าวคือไม่ว่าเหรียญเงินถูกหว่านไปทางใด ชาวบ้านก็ไปรวมตัวกันทางนั้นจริงๆ
ปู่รองสกุลเคอกับปู่สามสกุลเคอเห็นเหรียญเงินบนพื้นก็พากันตาเป็ประกายทีเดียว
ทว่าอยู่ต่อหน้าชาวบ้านตั้งมากมายถึงเพียงนี้ พวกเขาสองคนยังห่วงหน้าตา ไม่กล้าร่วมเก็บเงินกับคนหนุ่มสาว
คนทั้งสองจดจ้องเหล่าเด็กๆ ในเรือนของตน ภายในใจร้องะโไม่ยอมหยุดว่า :
เก็บให้มากสักหน่อย มากขึ้นอีกสักหน่อย ทางนั้น ทางนี้ ตรงนี้มีตั้งเยอะ...
ให้ตายเถิด สิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้เป็เพราะศิษย์พี่้าเอาคืนนางกระมัง? ใช่หรือไม่?
หางตาของเคอโยวหรานอดกระตุกมิได้ นางจดจ้องภาพเหตุการณ์ความชุลมุน ภายในใจนึกกังวลเหลือเกินว่าจะเกิดเื่เหยียบกันหรือแย่งเงินกันขึ้นมา
ไอ้หยา เหตุใดศิษย์พี่ถึงจิตใจคับแคบเช่นนี้ เมื่อวานแค่เสียเปรียบอยู่ในมือของนางมิใช่หรือ?
ถึงขั้นต้องเอาความปลอดภัยของคนทั้งหมู่บ้านมาแก้แค้นตนเชียวหรือ? ช่างจิตใจคับแคบเกินไปแล้ว!
หากขู่เถิงรู้ว่าการที่เขาทุ่มเทแรงกายแรงใจ เสี่ยงชีวิตถือเงินของพ่อไก่ขนเหล็กเช่นอินจิ่วมาหว่านแสดงความใจกว้างในหมู่บ้านเถาหยวน
นึกอยากจะทำให้เคอโยวหรานคิดว่าศิษย์พี่เช่นอินจิ่วเป็คนมั่งคั่งและใจกว้าง แต่ผลลัพธ์กลับตรงกันข้าม
กลับทำให้เคอโยวหรานเข้าใจผิดคิดว่าอินจิ่ว้าแก้แค้นนาง คาดว่าขู่เถิงคงจะหมักสมองตนเองจนตายไปเสียแล้ว
นายอำเภอได้รับรายงานมาก่อนหน้าแล้ว ว่าโรงสุราฟู่หยวนลั่นกลองตีฆ้องั้แ่เช้าตรู่มุ่งหน้ามาทางหมู่บ้านเถาหยวนเพื่อแสดงความยินดีที่โรงงานหนงเซียงเปิดกิจการ
เมื่อเป็เช่นนี้ จึงนึกถึงเื่แผ่นป้ายที่ตนตกปากรับคำเคอโยวหรานเอาไว้และพาเคอเจิ้งหนานกับเ้าหน้าที่ไล่ตามหลังคนของโรงสุราฟู่หยวนมาด้วยความรีบร้อน
ประจวบเหมาะกับได้เห็นว่าขู่เถิงคารวะเคอโยวหราน รวมถึงบรรยากาศการหว่านเงินอย่างครื้นเครง หัวใจของนายอำเภอถึงกับสั่นไหวอย่างอดมิได้ ลอบคิดในใจว่า :
์! สมแล้วที่เป็โรงสุราฟู่หยวน กระทั่งเปิดโรงงานเล็กๆ ยังโปรยเงินไม่ต่างกับโปรยดิน ต้องมีเงินทองมากมายเพียงใดถึงสามารถสุรุ่ยสุร่ายเช่นนี้ได้?
เห็นทีเคอโยวหรานแห่งหมู่บ้านเถาหยวนจะมีความสามารถอยู่บ้าง เหล่าเถ้าแก่ของโรงสุราฟู่หยวนในละแวกใกล้เคียงต่างมารวมตัวกัน นี่มันหมายความว่าเยี่ยงไร?
เพราะถึงอย่างไรเขาก็เป็นายอำเภอมาตั้งหลายสิบร้อนหลายสิบหนาว นี่นับเป็ครั้งแรกที่ได้เจอ จะน่าใเกินไปแล้วกระมัง?
ทางด้านชาวบ้านที่กำลังเก็บเงิน เมื่อเห็นนายอำเภอกับเ้าหน้าที่ทางการก็พากันแข้งขาอ่อนแรง
พวกเขาเป็ชาวบ้านธรรมดา ยามปกติเคยเห็นแค่ผู้ใหญ่บ้านเฉิน ต้องนานทีตั้งเพียงใดถึงจะได้พบท่านนายอำเภอ ทุกคนล้วนหวาดหวั่นในอกและถอยหลังไปด้านข้าง ต่างคนต่างไม่รู้ว่าจะทำเช่นไร
“ฮ่าๆๆๆ...ของแสดงความยินดีๆ!”
ทุกคนนึกไม่ถึงว่าท่านนายอำเภอจะประสานมือคารวะเคอโยวหรานอย่างเป็มิตร “แม่นางน้อยสกุลต้วน สบายดีหรือไม่?”
เคอโยวหรานย่อกายเล็กน้อยเพื่อแสดงความเคารพกลับ “ท่านนายอำเภอเกรงใจแล้วเ้าค่ะ แค่เปิดโรงงานเท่านั้น รบกวนท่านต้องเดินทางมาด้วยตนเองเสียแล้ว”
“ที่ใดกันๆ ล้วนแต่สมควร” นายอำเภอโบกมือไปมาด้วยความเกรงใจ
เ้าหน้าที่ด้านหลังต่างยกป้ายเตือนซึ่งที่ว่าการอำเภอออกให้เข้ามา
“นี่คือแผ่นป้ายซึ่งออกโดยที่ว่าการอำเภอ ภายหน้าเมื่อเห็นป้ายนี้ก็เหมือนเห็นข้า ไม่ว่าผู้ใดล้วนมิอาจก่อเื่ในโรงงาน หากมีผู้ใดก่อเื่ ข้าจะให้คนผู้นั้นได้นอนคุกยาวๆ”
สิ้นคำกล่าวของนายอำเภอ กลุ่มเ้าหน้าที่ก็พากันตั้งแผ่นป้ายไว้ข้างประตูใหญ่ของโรงงานอย่างมั่นคง
ปู่รองสกุลเคอกับปู่สามสกุลเคอหันมองหน้ากัน ต่างพากันล้มเลิกความคิดก่อความวุ่นวายเอาไว้ เมื่อมีท่านนายอำเภอหนุนหลัง ชาวบ้านธรรมดาเช่นพวกตนยังจะกล้าหาเื่ได้อย่างไร?
ชาวบ้านในหมู่บ้านเถาหยวนก็หันมองหน้ากัน ผู้คนที่ได้เข้าทำงานต่างพากันเหยียดเอวตรง มีความรู้สึกภาคภูมิใจประการหนึ่งก่อเกิดขึ้น
ส่วนผู้ที่มิได้สมัครล้วนเสียดายทีหลังที่มิอาจเข้าทำงานในโรงงาน และพากันใช้สายตาริษยามองไปทางคนสกุลเฉินที่ยืดอก
เคอเจิ้งหนานยืนอยู่ด้านหลังนายอำเภอ ดวงตาเล็กเอาแต่วนเวียนอยู่บนกายของเคอโยวหรานกับขู่เถิง ภายในใจลอบใคร่ครวญว่า :
นึกไม่ถึงว่าหลานสาวผู้นี้ของตนจะเป็คนมีความสามารถ ถึงขั้นรู้จักกับเ้าของกิจการที่อยู่หลังม่านโรงสุราฟู่หยวนเสียด้วย ไม่ธรรมดา!
ตนควรจะคิดหาหนทางคลี่คลายความสัมพันธ์กับพี่ใหญ่สักหน่อยหรือไม่?
ครั้นเด็กรับใช้สกุลโฉวเห็นภาพเช่นนี้ รู้ว่าสถานการณ์โดยรวมเกิดเื่ใดขึ้นก็รีบวิ่งกลับไปทางเดิมโดยไม่หยุดพัก
ทันทีที่เข้าประตูเรือนผู้เฒ่าเคอ ยังไม่ทันหอบหายใจก็รายงานเื่ที่เกิดขึ้นบนเชิงเขาต้าชิงจนหมด
โฉวฝูหรี่ดวงตา ยืนเอามือไพล่หลังคล้ายกำลังคิดบางสิ่ง?
ต่งปี้อู่ได้ยินเช่นนี้ หางตาพลันชำเลืองไปทางเคอเสี่ยวหรูที่อยู่ข้างกายโดยมิอาจสังเกตและลอบเคียดแค้นอยู่ในใจ :
โบราณกล่าวได้ถูกต้อง แต่งภรรยาควรแต่งผู้มีคุณธรรมเพียบพร้อมมิใช่แต่งเพราะความงาม ยามนั้นเหตุใดตนถึงได้เพ่งเล็งตำแหน่งนายทะเบียนของเคอเจิ้งหนานจนแต่งภรรยาที่เป็ภาระ ชอบทำตัวมือไม่พายเอาเท้าราน้ำเช่นนี้?
ต่งปี้อู่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ ในขณะที่ทุกคนยังไม่ทันสังเกต เขาก็พาเคอเสี่ยวหรูออกจากลานเรือนของเรือนสกุลเคอและนั่งรถม้ากลับไปอย่างวางก้าม
เขาต้องรีบบอกเื่ที่เกิดขึ้นในหมู่บ้านเถาหยวนในวันนี้ให้ท่านพ่อกับท่านปู่ฟัง จะได้คิดหาแผนการรับมือให้ดี
ทางฝั่งเรือนสกุลเคอ ขณะนี้โฉวฝูกำลังนิ่งเงียบใช้ความคิด
เคอเจิ้งซีพยายามกดร่องบนริมฝีปากของแม่เฒ่าเคออย่างสุดชีวิต ทั้งยังเขย่าร่างอีกฝ่ายพลางร้องะโไม่ยอมหยุด “ท่านแม่...ท่านฟื้นสิ! ท่านแม่...”
ในที่สุดแม่เฒ่าเคอก็ค่อยๆ ได้สติรู้ตัวหลังจากถูกเคอเจิ้งซีเคี่ยวกรำเช่นนั้น
ในเสี้ยววินาทีที่นางเปิดเปลือกตาขึ้น แม่เฒ่าเคอพลันะเิพละกำลังที่ไม่เคยมีมาก่อนด้วยการะโลุกพรวดขึ้นในคราเดียว
ขณะที่ทุกคนยังไม่ทันได้สติกลับมา นางก็คว้าคอเสื้อของผู้เฒ่าเคอ ก่อนจะฟาดฝ่ามือตบลงบนบ้องหูทั้งสองของชายชราด้วยเรี่ยวแรงทั้งหมดเท่าที่ตนมี
“โฮ...” หลังตบเสร็จ แม่เฒ่าเคอพลันผลักผู้เฒ่าเคอออกห่าง นางทิ้งบั้นท้ายนั่งลงบนพื้นพลางตบเข่าร่ำไห้ออกมา
“บุตรสาวชะตาอาภัพของข้า! เหตุใดชะตาชีวิตของเ้าจึงขมขื่นถึงเพียงนี้ ยามนี้ถูกบิดาของเ้าขายเสียแล้ว! ฮือ...”
ผู้เฒ่าเคอถูกตบบ้องหูทั้งสองข้างจนได้สติกลับมาทันที ยายแก่เสียสติ นึกไม่ถึงว่าจะกล้าตบตีตนต่อหน้าผู้คนตั้งมากมายกับนายท่านโฉวเช่นนี้ นับได้ว่าไม่มีขื่อไม่มีแปเสียแล้ว
ชั่วชีวิตนี้ของตาเฒ่า สิ่งที่เขาใส่ใจมากที่สุดก็คือหน้าตา เติบใหญ่มาจนป่านนี้ เขายังไม่เคยถูกผู้ใดทุบตีมาก่อน เพลิงโทสะพลันทะยานขึ้นสูง มิอาจกดข่มเอาไว้ได้อีกต่อไป
ทันใดนั้นชายชราก็คว้าคอเสื้อแม่เฒ่าเคอแล้วดึงนางขึ้นจากพื้น ตามด้วยเสียงเพียะๆๆๆ ซึ่งเป็เสียงตบหน้าเจ็ดถึงแปดครั้ง
หลังจากตบเสร็จยังโยนแม่เฒ่าเคอลงกับพื้น ตามด้วยถีบนางแรงๆ อีกสองครั้งอย่างไม่หายโมโห
เคอเจิ้งซียืนนิ่งอึ้งอยู่ด้านข้าง มองบิดามารดาของตนทุบตีกันโดยไม่รู้ว่าควรจะช่วยผู้ใดดี
ครั้นถูกทุบตีหนึ่งยก แม่เฒ่าเคอจึงได้สติกลับมา นางตระหนักได้ว่าเมื่อครู่ตนทำสิ่งใดลงไป ยามนี้นึกเสียใจในภายหลังอย่างยิ่งยวดเสียแล้ว
ตนไปทุบตีตาเฒ่าได้อย่างไร? ไม่ว่าอีกฝ่ายจะทำไม่ถูกเยี่ยงไรก็ยังเป็หัวหน้าครอบครัว หากเื่นี้แพร่งพรายออกไป จะทำอย่างไรกับชื่อเสียงของตนเล่า? และจะทำอย่างไรกับชื่อเสียงของก่วงเถียน?
แม่สื่อหลบไปอยู่ตรงมุมกำแพง ทอดมองภาพนี้พลางอ้าปากหวอ ดวงตาแทบถลนออกจากเบ้าเลยทีเดียว
คหบดีโฉวเห็นภาพความวุ่นวายเช่นนี้ก็ยิ่งไม่พอใจกว่าเดิม วันนี้คือวันมงคลของเขา แม่เฒ่าผู้นี้ไม่ยินดีส่งตัวเ้าสาว อีกทั้งนึกไม่ถึงว่าจะยังร้องห่มร้องไห้
คิดอยากจะใช้วิธีการเช่นนี้เพื่อให้ตนยอมปล่อยเคอก่วงเถียนหรือ? ฝันไปเถิด
ตาเฒ่าเคอผู้นี้ก็ช่างกระไร ถึงขั้นตบปากแม่เฒ่าจนเืออก วันมงคลต้องพบเห็นเืเยี่ยงนี้ ช่างอัปมงคลตั้งเพียงใดกัน?
ตนแต่งภรรยาเพื่อส่งเสริมให้สามีและบ้านเจริญรุ่งเรือง มิใช่เพื่อหาความอัปมงคลและความไม่สบายใจ