บุปผาซ่อนพิษ

สารบัญ
ปรับตัวอักษร
ขนาดตัวอักษร
-
+
สีพื้นหลัง
A
A
A
A
A
รีเซ็ต
แชร์

ยิ่งกว่านั้น เยี่ยนหวางถือว่าตนคือบุตรสาวของสกุลหวังที่บิดารั้งตำแหน่งเป็๲ถึงเสนาบดีกรมโยธา เป็๲ที่นับหน้าถือตาของเหล่าขุนนางต่าง ๆ ในวังหลวง ทำให้ทุกคนในชั้นเรียนต่างยกย่องไม่มีใครกล้าแข็งข้อ

เ๯้าชนข้า!” เสียงเยียบเย็นของอีกฝ่ายเอ่ยเตือนด้วยสายตาราบเรียบอย่างมีชั้นเชิง ก่อนหวางฟางเฟยจะชะงักนิ่ง แล้วขบคิด

‘ขนาดเมื่อก่อน พี่สาวของนางไม่ได้ขึ้นเป็๲พระสนม ยังวางอำนาจได้มากมายเพียงนั้น วันนี้พี่สาวของนางเป็๲ถึงพระสนมคนโปรดของฮ่องเต้ ไม่แปลกที่นางจะวางอำนาจได้มากกว่าเดิม ในเมื่อหวางฟางเฟยเคยเป็๲คนเจียมเนื้อเจียมตัว หากข้าบุ่มบ่ามไป ก็จะทำให้เป็๲ที่สงสัยเอาได้’ สิ้นความคิด หวางฟางเฟยก้มหน้าลง แล้วหลบทางเดินให้ ก่อนอีกฝ่ายจะมองเหยียดหนึ่งครั้งแล้วเดินจากไป พร้อมกับทำของบางอย่างหล่นทิ้งไว้ หวางฟางเฟยขมวดคิ้วเล็กน้อย แล้วก้มลงไปหยิบ พบว่าเป็๲กล่องพู่กันสีแดงสด นางจึงเก็บไว้ แล้วเบี่ยงตัวเดินจากไปอย่างเงียบ ๆ ด้วยท่าทางเจียมเนื้อเจียมตัว

เมื่อถึงเวลาสอบ อาจารย์ในหมวดวิชาเขียนภาพ ก็เดินเข้ามา พร้อมด้วยบัณฑิตทุกคนเลือกจองโต๊ะเป็๞ของตนเอง หวางฟางเฟยรอให้ทุกคนเลือกโต๊ะเสร็จ นางจึงค่อย ๆ ก้าวเท้าไปเลือกโต๊ะเป็๞คนสุดท้ายเช่นเดิม ทว่ากิริยาแน่นิ่ง มุ่งมั่น ไร้ความหวาดหวั่นใด ๆ ทำให้เพื่อนร่วมชั้นทดสอบด้วยการขว้างพู่กันใส่หลังนาง

หวางฟางเฟยค่อย ๆ หันกลับไปมองพบว่าเป็๲ฝีมือบุตรสาวสกุลเหลียน นางจึงค่อย ๆ เก็บพู่กันด้ามนั้นขึ้นมา แล้วลุกเดินไปยังโต๊ะของอีกฝ่ายด้วยกิริยาแน่นิ่ง

“ได้เวลาสอบแล้ว หวางฟางเฟยกรุณากลับเข้าที่” เสียงของอาจารย์ ทำให้ทุกคนหันมองเป็๞สายตาเดียว ก่อนนางกระซิบกับอีกฝ่ายเบา ๆ พร้อมใช้นิ้วขยี้ปลายพู่กันไปมาเบา ๆ

“หากเ๽้าปาใส่ข้าอีกเพียงครั้งเดียว ข้าจะหักพู่กันของเ๽้าทิ้งซะ” พร้อมวางพู่กันคืนให้ แล้วเดินกลับไปนั่งที่ ทำราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ท่ามกลางสายตาตกตะลึงของเหลียนซือหนาน ที่เบิกตากว้าง มองพู่กันปลายหงิกงอด้ามนั้น

ก่อนร่างของท่านมือปราบจิวอี้ซิง จะเดินเข้ามาดูการสอบวัดผลในครั้งนี้ด้วยตัวเอง ท่ามกลางเสียงฮือฮาของเหล่าบัณฑิตที่ทอดสายตามองชายหนุ่มด้วยความตกตะลึงในรูปลักษณ์หล่อเหลาของเขา ทำให้อาจารย์กั๋วเจี้ยนเอ่ยขึ้น

“วันนี้เป็๲การสอบเขียนภาพ ข้าจึงรบกวนให้มือปราบจิวอี้ซิง ผู้ที่มีความสามารถด้านการวาดภาพ มาช่วยลงคะแนน ขอให้ลูกศิษย์ของข้าทุกคน จงหยิบพู่กันที่วางไว้ด้านข้าง ขึ้นมาวาดภาพตามจินตนาการ มีเวลาหนึ่งชั่วยาม” พูดจบ ท่าทางหยุกหยิกของเยี่ยนหวางก็ปรากฏในสายตาของทุกคน นางรื้อหาบางอย่างด้วยท่าทางกังวลใจ

“มีอะไร” อาจารย์กั๋วเจี้ยนขมวดคิ้วแล้วเอ่ยถาม

“พู่กันของข้าหาย หากไม่มีพู่กันอันนั้น ข้าต้องแย่แน่เ๽้าค่ะ” อาจารย์กั๋วเจี้ยนชะงักเล็กน้อย

“แต่ว่า ได้เวลาเขียนภาพแล้ว” เขาแย้ง ก่อนนางจะลุกขึ้นยืน แล้วน้อมกายเล็กน้อย

“ท่านอาจารย์ ชะลอการสอบเขียนภาพก่อนได้หรือไม่ ขอข้ากลับไปเอาพู่กันด้ามใหม่ ที่ตำหนักของพระสนมเถียนหลัน” สิ้นเสียงของหญิงสาว ร่างของหวางฟางเฟยก็ลุกขึ้นยืนในทันที พร้อมสายตาทุกคนจับจ้องมายังหญิงอ่อนแอผู้นั้น ด้วยความตกตะลึง

“ท่านอาจารย์ กว่าเยี่ยนหวางจะกลับไปเอาพู่กันมา ต้องใช้เวลาอยู่มาก จะให้พวกข้าทั้งหมดนั่งรอนางเพียงผู้เดียว ก็คงพอไหว แต่จะให้ท่านมือปราบคนสนิทของฮ่องเต้ มานั่งรอนางด้วยอีกคน ก็คงไม่เหมาะสม” คำพูดของหวางฟางเฟยทำให้ ทุกคนในที่นั้นนิ่งอึ้งกับความกล้าหาญของนางไปพร้อม ๆ กัน พลันเสียงกระซิบดังขึ้นจากด้านหลัง

“หวางฟางเฟยเลอะเลือนไปแล้วแน่ ๆ”

“ปกตินางอ่อนแอจะตายไป แค่เอานิ้วจิ้มก็จวนเจียนจะล้ม วันนี้นางต้องกินอะไรผิดสำแดงแน่ ๆ” ขณะที่เสียงซุบซิบดังขึ้น สายตาของเยี่ยนหวางก็มองนางแน่นิ่ง แล้วยิ้มเล็กน้อย

“ข้าคิดว่าผู้ใดกล้าคัดค้าน ที่แท้ก็เป็๲หวางฟางเฟยหรอกรึ” หวางฟางเฟยยิ้มกลับ ท่ามกลางสายตาของมือปราบจิวอี้ซิงที่ทอดมองกิริยาท่าทางของนางเงียบ ๆ ก่อนเยี่ยนหวางจะหันไปหาอาจารย์แล้วเอ่ยขึ้น

“อาจารย์ หากไม่มีพู่กันด้ามนั้น ข้าก็ไม่อาจเขียนภาพได้ ความสามารถของข้า จะถูกลดทอนลงครึ่งหนึ่ง ได้โปรดเมตตาข้าด้วย”

“หากบนโต๊ะของเยี่ยนหวาง ไม่มีพู่กันวางอยู่ ข้าก็พอเข้าใจได้ แต่เราทุกคนได้รับพู่กันเหมือน ๆ กันทุกโต๊ะ เช่นนี้แล้วหากเยี่ยนหวาง เอาพู่กันที่คุณภาพดีกว่ามาเขียน จะยุติธรรมต่อพวกเราได้ยังไง อีกอย่าง หากผู้เขียนภาพมีความสามารถจริง จะพู่กันด้ามไหน ผลย่อมออกมาไม่ต่างกัน” สิ้นเสียงของหวางฟางเฟย

“ข้าเห็นด้วย” จิวอี้ซิงที่นั่งจิบชาอยู่ เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงราบเรียบ ทำให้อาจารย์กั๋วเจี้ยนหน้าซีดลงเล็กน้อย ก่อนชายหนุ่มจะให้เหตุผลต่อ

“การเขียนภาพ จะงดงามหรือไม่นั้น ใช่อยู่ที่พู่กัน แต่อยู่ที่ความสามารถและอารมณ์ของผู้วาดในเวลานั้น แม่นางเยี่ยนหวาง โปรดใช้พู่กันเหมือนเพื่อน ๆ เพื่อความยุติธรรมเถอะ” คำพูดตรงไปตรงมาของจิวอี้ซิง ทำให้อาจารย์กั๋วเจี้ยนกลืนไม่เข้าคายไม่ออก จำใจให้นางใช้พู่กันเหมือนกับศิษย์คนอื่น

“ตอนนี้มีเวลาไม่มาก เยี่ยนหวางเ๯้าก็ใช้ของที่มีเหมือนเพื่อน ๆ นั่นล่ะ” หญิงสาวเลื่อนสายตามองพู่กันนั้น แล้วยอมนั่งลงด้วยความจำใจ ก่อนสายตาของจิวอี้ซิงจะหันมาสบตากับหวางฟางเฟย นางไม่พูดสิ่งใด ยอมนั่งลงแล้วหันไปจับพู่กันลงมือเขียนภาพในทันทีด้วยความตั้งใน

นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้