เย่เฟิงรู้สึกว่าไฟบนหลังตัวเองดับแล้วจึงโล่งใจมากขึ้น เขาปัดเศษอิฐและเศษกระเบื้องออกจากหลังโดยไม่สนใจหลินซือฉิงที่อยู่ใต้ร่าง แล้วขยับตัวขึ้นเหนือปากหลุม ไม่ต้องมองก็รู้ว่าเหลยิกำลังพาทหารมาทางนี้ ตามปกติเขาคงหลบหนีโดยไม่ลังเล แต่ตอนนี้ชายหนุ่มเจ็บบริเวณไหล่และอก
เพราะว่าเขาถูกยิง!
เย่เฟิงหวาดหวั่นในใจ เขารู้สึกถึงแรงประหลาดบางอย่างจากะุทั้งสองลูกที่ฝังอยู่ในร่างกาย มันยับยั้งพลังชี่ในตัวเขา
“พลังลมปราณถูกลดลงไปตั้งครึ่งหนึ่ง!” พลังลมปราณที่เขาบ่มเพาะถูกยับยั้งชั่วคราวจนเหลือเทียบเท่าระดับห้าปี เป็ไปไม่ได้ที่เย่เฟิงจะใช้ทักษะล่องหน แต่โชคดีที่เขาฝึกฝนพลังชี่ หากชายหนุ่มเป็เพียงผู้ฝึกวรยุทธ์ทั่วไป คงสูญเสียพลังภายในทั้งหมดอย่างสมบูรณ์
เย่เฟิงไม่คิดมาก เขาพยายามคลานออกมาจากเศษอิฐพวกนั้น แต่กลับถูกทหารสองนายของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติกดไหล่ไว้ทันทีเมื่อเห็นหน้าเขา พร้อมถือปืนจ่อศีรษะ
“อย่าขยับ!” เหลยิที่อยู่ห่างออกไปหลายสิบเมตรก็ชักปืนเล็งศีรษะของเย่เฟิงเช่นกัน
เย่เฟิงเพิ่งประสบการะเิรุนแรง อีกทั้งร่างกายาเ็จากะุสองนัด จึงไม่มีแรงจะขัดขืน ทำได้เพียงเงยหน้ามองหลินเต๋อเทียนกับเหลยิด้วยสายตาเย็นเยือก
“ลูกสาวของฉันอยู่ที่ไหน?” หลินเต๋อเทียนเดินไปหยุดอยู่ข้างเหลยิ เมื่อเห็นแผลไฟไหม้สาหัสทั่วแผ่นหลังของเย่เฟิงแล้ว สีหน้าของพลันทะมึนลง
ไอ้หมอนี่รอดชีวิตมาได้เพราะหลบอยู่ใต้เศษหินและดินตรงนั้น? แต่ก็ยังถูกเผาจนมีสภาพเช่นนี้ ถ้าอย่างนั้นหลินซือฉิงคง...
“พ่อคะ... แค่กๆ...” ขณะนั้นเองเสียงไอแ่เบาก็ดังจากกองเศษหินที่เย่เฟิงคลานออกมา แขนขาวเนียนที่โผล่ขึ้นมาไม่มีรอยไหม้ใดๆ มีเพียงคราบสกปรกเท่านั้น
“ซือฉิง!”
“คุณหนูหลิน!”
จากที่ทุกคนหน้านิ่วคิ้วขมวดด้วยความกังวลพลันมีความยินดีปรากฏขึ้นแทนที่ ความเดือดดาลของหลินเต๋อเทียนมลายหายไป เขารีบวิ่งไปพร้อมกับทหารสามนายเพื่อดึงเธอขึ้นมา
“แค่ก… แค่กๆ...” หลินซือฉิงสำลักไม่หยุด แม้เธอจะถูกชายสวมหน้ากากปกป้องจนไม่ได้รับาเ็จากแรงะเิหรือเปลวไฟเลย แต่ก็ยังรู้สึกหายใจไม่สะดวก เพราะถูกเขากอดแน่น ทั้งยังเผลอสูดควันไฟเข้าไปอีกด้วย
ขณะคนอื่นช่วยดึงเธอขึ้นมา หญิงสาวก็ไอไปอีกหลายรอบ ก่อนสูดหายใจเฮือกใหญ่ อาการจึงค่อยๆ ดีขึ้น
“เป็ยังไงบ้างลูก?” หลินเต๋อเทียนโอบลูกสาวพลางถามอย่างเป็ห่วง
“มะ.. ไม่เป็ไรค่ะ... แล้วเขาล่ะคะ?” หลินซือฉิงส่ายหน้าขณะเช็ดเหงื่อตามหน้าผาก เธอมองไปรอบๆ ในที่สุดก็เห็นว่าเย่เฟิงถูกทหารควบคุมตัวไว้
“ลูกไปตรวจที่โรงพยาบาลก่อนเถอะ เดี๋ยวพ่อกับลุงเหลยจัดการทางนี้เอง” หลินเต๋อเทียนบอกลูกสาวก่อนบอกให้ทหารสองนายไปส่งลูกสาวของเขา
“ไม่ต้องหรอกค่ะ หนูไม่เป็อะไรมาก” หลินซือฉิงกล่าวหนักแน่น เธอยืนขึ้นแล้วเดินมาตรงจุดที่เย่เฟิงถูกคุมตัวอยู่ ภายใต้ดวงตาสุกสกาวราวดวงดาวบนท้องฟ้าปรากฏแววสับสนชัดเจน “ไม่ว่านายจะเป็ใคร ฉันก็ขอบคุณที่นายปกป้องฉันไว้ แต่นี่ไม่ใช่เหตุผลที่พวกเราจะปล่อยตัวนายไปหรอกนะ”
ชายสวมหน้ากากช่วยเธอไว้ก็จริง แต่มันเป็เพราะเขาพาเธอไปโรงงานร้าง ยิ่งกว่านั้นชายคนนี้ยังเป็กุญแจสำคัญในเหตุการณ์ครั้งนี้จึงจำเป็ต้องควบคุมตัวเขาไว้
ชายสวมหน้ากากเป็เพื่อนของเย่เฟิงจริงหรือ? ทั้งยังมีความสัมพันธ์กับคุณหนูตระกูลหลงในยุทธจักรอีกด้วย หรือเขา้าใกล้ชิดเธอเพื่อควบคุมตระกูลหลิน พาตัวเองไปสู่จุดสูงสุดของอำนาจ?
ช่างทะเยอทะยานเสียจริง
ไม่ว่านักล่าิญญาจะพูดเื่จริงหรือไม่ แต่เมื่อคิดตามแล้วก็มีความเป็ไปได้ ถึงเื่ของตระกูลหลินจะมีความเป็ไปได้เพียงน้อยนิด แต่ก็ไม่สามารถปล่อยตัวชายสวมหน้ากากไปง่ายๆ อยู่ดี
“แจ้งให้ซิวอู่เข้ามาค้นหาะเิในวงกว้าง ใครพบสิ่งต้องสงสัยให้รายงานฉันทันที” หลินเต๋อเทียนออกคำสั่ง แล้วเดินมายืนข้างลูกสาวตัวเอง ชายวัยกลางคนเกิดข้อสงสัยในใจเล็กน้อย
ชายสวมหน้ากากช่วยลูกสาวเขาไว้หรือ?
เขามองเศษซากที่ทั้งสองคนคลานออกมาก็เข้าใจสถานการณ์ทั้งหมด ชายสวมหน้ากากยังพอมีความเป็ลูกผู้ชายอยู่บ้าง
“ขอบคุณที่ช่วยลูกสาวฉันไว้” หลินเต๋อเทียนเอ่ยต่อ “อย่างไรก็ตาม หากนายคิดใช้โอกาสนี้เข้าใกล้ตระกูลหลินของฉัน บอกเลยว่านายคิดผิดมหันต์แล้ว ตอนนี้มากับพวกเราเพื่อรับการสอบสวนอย่างละเอียดก่อน ถ้านายไม่มีความผิด พวกเราจะไม่ให้นายได้รับความอยุติธรรมแน่นอน”
ไม่รู้ว่าเขาพูดเพื่อให้เย่เฟิงสบายใจหรือหมายความตามที่พูดจริงๆ แต่หลินเต๋อเทียนก็ไม่โง่ถึงขนาดจะสรุปว่าเย่เฟิงผิด ดูเหมือนหลังจากฟังคำพูดของนักล่าิญญา เขาแค่สงสัยเท่านั้น ไม่ได้เชื่อคำพูดพวกนั้นทั้งหมด
เมื่อเย่เฟิงได้ยินเช่นนั้นก็ครุ่นคิดพักหนึ่ง ก่อนกล่าว “พวกเราแค่มีศัตรูร่วมกัน ตอนนี้คนชั่วก็ตายหมดแล้ว ผมถูกใส่กุญแจมือขนาดนี้ ยังไงก็หนีไปไหนไม่ได้หรอก”
“เข้าใจก็ดี” ชายวัยกลางคนพยักหน้าด้วยความพอใจ “ยิงเขาอีกสองนัดแล้วค่อยพาไปโรงพยาบาล”
ใบหน้าเย่เฟิงเปลี่ยนเป็เคร่งขรึมทันที หลินเต๋อเทียนคนนี้ทำงานรอบคอบจริงๆ ขนาดจับกุมเขาไว้แล้วก็ยังจะยิงเขาอีกสองนัด? ชายหนุ่มอยากรีบฟื้นพลังของตัวเองเพื่อไปรับซูเมิ่งหาน แต่เหมือนตอนนี้คงต้องใช้แผนอื่นแล้วล่ะ
ปัง! ปัง!
ะุสองนัดหลังเหมือนะุที่ยิงแขนสองข้างของเขาครั้งแรก ะุชนิดนี้ทำให้เส้นลมปราณเป็อัมพาตชั่วคราว จึงสามารถยับยั้งวรยุทธ์ไว้ชั่วคราว หลังจากเข้าสู่ร่างกายแล้วจะหลอมละลายเป็พลังงานชนิดหนึ่ง นอกจากทำให้ไร้พลังแล้ว ก็ไม่มีผลข้างเคียงอื่น
เย่เฟิงไร้เรี่ยวแรงจนไม่สามารถหลบะุได้ ทำได้เพียงมองผู้อื่นทำตามอำเภอใจ พลังลมปราณของเขาถูกยับยั้งจนเหลือเพียงสามปีเท่านั้น จากความรู้สึกของเขา ดูเหมือนต้องผ่านคืนนี้ไปพลังถึงจะคืนกลับมา...
“เยี่ยม” หลินเต๋อเทียนเดินไปใกล้เหลยิ ก่อนกระซิบ “ะุสี่นัดคงพอปิดกั้นเส้นลมปราณไม่ให้เขาใช้พลังภายในหนึ่งอาทิตย์ เ้าเด็กนั่นไม่ขัดขืนเลยด้วย แต่ตอนนี้พวกเราต้องตรวจสอบพื้นที่ใกล้เคียงให้ละเอียด เผื่อพบสิ่งที่อาจเป็หลักฐานได้ การเสียชีวิตของไช่เฉ่าหงเป็เื่ระหว่างประเทศ เราจำเป็ต้องอธิบายเื่นี้ให้ชัดเจน”
“รับทราบครับ” เหลยิพยักหน้า เขาสั่งผู้ใต้บังคับบัญชาของตัวเองให้ตรวจสอบร่วมกับหน่วยทหารของหลินซิวอู่
หลินเต๋อเทียนพยักหน้า เขาเหมือนยกหินออกจากอกเมื่อเห็นว่าหลินซือฉิงไม่เป็อะไร เื่อื่นจึงไม่สำคัญนัก
แม้ระดับพลังลมปราณของเย่เฟิงจะถูกยับยั้ง แต่จิตหยั่งรู้ของเขายังทำงานได้ปกติจึงได้ยินบทสนทนาระหว่างสองคนนั้น ผู้ฝึกวรยุทธ์ของโลกนี้กับในโลกเทวะไม่เหมือนกัน ประสิทธิผลของะุปิดกั้นเส้นลมปราณของพวกเขาใช่ว่าจะแข็งแกร่งนัก ผู้ฝึกวรยุทธ์ทั่วไปต้องใช้เวลาหนึ่งสัปดาห์ถึงจะกลับมาใช้พลังภายในได้ แต่สำหรับเย่เฟิงที่ถูกยับยั้งพลังชี่ เพียงคืนเดียวก็สามารถฟื้นพลังได้แล้ว นี่คือความแตกต่าง
ขณะที่เขาครุ่นคิด กลิ่นหอมสดชื่นก็ลอยมา เมื่อเงยหน้าก็พบใบหน้าอันสมบูรณ์แบบของหลินซือฉิง
“ไปโรงพยาบาลก่อนเถอะ อาการาเ็ของนายไม่ใช่น้อยๆ นะ” ริมฝีปากบางขยับเล็กน้อย เปล่งเสียงสดใสน่าฟัง ดวงตาแสดงความกังวลและความห่วงใยอย่างปิดไม่มิด
“เดี๋ยวก่อน ถอดหน้ากากของเขาออกก่อนเถอะ” หลินเต๋อเทียนหันกลับมาก่อนกล่าวอย่างหวาดระแวง“ดูว่าเขาคือใครแล้วค่อยพาไปโรงพยาบาลก็ยังไม่สาย”
หัวใจของเย่เฟิงสั่นสะท้าน เป็ตามที่คิดไม่มีผิด อีกฝ่าย้าถอดหน้ากากของเขา ตอนนี้ชายหนุ่มถูกยับยั้งจนเหลือระดับพลังลมปราณเพียงสามปี หากจะหลบหนีก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อยสองถึงสามชั่วโมง! กล่าวอีกนัยหนึ่งคือภายในสองสามชั่วโมงนี้ เขาจะโดนคนพวกนี้ทำตามอำเภอใจโดยขัดขืนอะไรไม่ได้เลย
ทหารของสำนักงานความมั่นคงแห่งชาตินายหนึ่งเดินมาดึงหน้ากากสีขาวบนหน้าเขาออกในที่สุดใบหน้าที่ทุกคนต่างคาดเดาก็ถูกเปิดเผย
นิยายแนะนำจากท่านเทพเทียนเป่าตี้