ที่จริงก็ไม่แปลกหรอกที่ิอวี่จะเกิดความสงสัยขึ้นมากมายขนาดนี้ แต่เพราะเฮยจีมีความลึกลับมากเกินไปต่างหาก
ก่อนหน้านี้ในป่า เฮยจีเคยใช้จมสู่ความฝันควบคุมม่อเอาไว้ แต่เพราะไม่ระวังจึงทำให้ได้รับาเ็จนเกือบตาย ตอนนั้นเฮยจีดูอ่อนแรงอย่างมาก
แต่เมื่อเวลาผ่านไป เมื่อความสามารถของเขาเพิ่มขึ้น พลังความสามารถของเฮยจีก็เพิ่มขึ้นด้วย นางก็ยิ่งสามารถร่างลายเส้นอักขระที่อัศจรรย์ได้มากตามไปด้วย
เมื่อเห็นสายตาที่ประหลาดใจของิอวี่ เฮยจีก็ยิ้มแล้วพูดว่า “อยากรู้เื่ราวของข้าอย่างนั้นหรือ?”
“แน่นอนสิ”
ิอวี่เบะปาก เขาอยากรู้ประวัติความเป็มาของเฮยจี รวมถึงเื่ที่เป้นปริศนาในเืของเขาด้วย
แต่น่าเสียดายที่เฮยจีไม่อาจตอบคำถามเ่าั้กับเขาได้ เพราะตอนนี้นางยังความจำเสื่อมอยู่ ไม่รู้ว่านางจะนึกเื่พวกนี้ได้กลับมาทั้งหมดเมื่อไหร่
“ที่จริงลายเส้นอักขระที่ข้าร่างได้ยังมีอีกเยอะมาก พวกนี้เป็แค่ส่วนน้อยเท่านั้นเอง”
เฮยจีอธิบายต่อว่า “ในหยกโบราณ มันเป็โลกที่มีมิติพื้นที่กว้างใหญ่มหาศาล เมื่อห้าร้อยปีก่อน ข้ากักเก็บไข่มุกอักขระเอาไว้เยอะมากๆ เลย ไข่มุกอักขระแต่ละเม็ดแฝงไปด้วยลายเส้นอักขระที่มีอานุภาพแตกต่างกันออกไปมากมาย”
“เพียงแต่เพราะข้าสูญเสียความทรงจำไปบางส่วน ทำให้คาถาหลายอย่างข้านึกไม่ออก แต่ขอแค่พลังความสามารถของเ้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ พลังของข้าก็จะเพิ่มขึ้นตาม จากนั้นความทรงจำของข้าก็จะกลับมา จนเมื่อความสามารถของเ้าไปถึงในระดับที่กำหนด กลับไปสู่จุดเดียวกับข้าในชาติก่อน ถึงเวลานั้นความทรงจำของข้าก็จะฟื้นกลับมาหมด!”
ิอวี่ได้ยินดังนั้น ในใจก็คิดประเมินขึ้นมา
จากที่เฮยจีพูด หากความสามารถของข้าเพิ่มขึ้น ความทรงจำของนางก็จะกลับมามากกว่าเดิม นางก็จะสามารถใช้ลายเส้นอักขระได้มากกว่านี้อีก!
ถึงแม้ลายเส้นอักขระพวกนี้จะเกินกว่าระดับที่ิอวี่จะใช้งานได้ แต่ว่าเฮยจีกลับสามารถใช้มันผ่านการเสริมจากพลังจิติญญา ใช้มันออกมามากกว่าพลังที่มีในเวลานี้ชั่วคราว!
หรือพูดอีกอย่างว่า ถ้าความสามารถิอวี่ยิ่งแข็งแกร่ง เขาก็จะมีไพ่ไม้ตายรักษาชีวิตมากขึ้นอีกอย่าง แล้วไพ่ใบนั้นก็คือเฮยจี เพราะนางมีลายเส้นอักขระที่ลึกลับอย่างมากอยู่ด้วย!
“แล้วลายเส้นอักขระของเ้าเมื่อครู่มันคืออะไร? ทำไมถึงขังประมุขตำหนักโยวิที่มีขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่เก้าระดับผนึกขั้วได้ มันเป็ลายเส้นอักขระอะไรกันแน่?” ิอวี่ถาม
เมื่อครู่ตอนที่เฮยจีใช้ลายเส้นอักขระ ิอวี่มองเห็นอย่างชัดเจน เขารู้สึกว่าลายเส้นอักขระนั้นมันอัศจรรย์มากและก็มีความแข็งแกร่งอย่างมาก เขาจึงถามอย่างประหลาดใจ
เมื่อได้ยินิอวี่ชื่นชมอย่างไม่มีปกปิด ในใจของเฮยจีก็รู้สึกดีมาก น้ำเสียงของนางดูมีชีวิตชีวาขึ้นมา “ลายเส้นอักขระที่ข้าใช้มันก็ต้องร้ายกาจอยู่แล้ว มันเป็ลายเส้นอักขระระดับล่างขั้นที่สอง มีชื่อว่ามัดไหม ไม่เพียงสามารถต้านทานกระบวนท่าสังหารของศัตรูได้ แต่ยังสามารถกักขังหน่วงเหนี่ยวอีกฝ่ายเอาไว้จนไม่สามารถหนีเอาตัวรอดไปได้”
ิอวี่พยักหน้า ทันใดนั้นเขาก็นึกอะไรขึ้นมาได้เลยถามว่า “เฮยจี ข้าเหมือนจำได้ว่าครั้งที่แล้วเ้าก็ใช้ลายเส้นประเภทกักขังอย่างหนึ่งเหมือนกัน ลายเส้นนั้นเหมือนจะร้ายกาจเหมือนกันใช่ไหม”
ในความทรงจำของิอวี่ ในป่าตอนที่รับมือกับองครักษ์เืจากหอว่านจง เฮยจีก็ใช้ลายเส้นอักขระประเภทกักขังเหมือนกันเพื่อคุมม่อเอาไว้ ดังนั้น ิอวี่ถึงได้มีจังหวะหาโอกาสทำให้ม่อาเ็
เฮยจีกะพริบดวงตาอันกลมโตของนาง จากนั้นก็คิดแล้วพูดว่า “อ๋อ เ้าหมายถึงตอนที่เล่นงานเ้านักฆ่านั่นใช่ไหม นั่นเรียกว่าจมสู่ความฝัน เป็ลายเส้นอักขระระดับล่างขั้นที่หนึ่ง แต่เพราะตอนนั้นพลังความสามารถข้ายังไม่มากพอ ตอนใช้ก็เลยกินแรงมากพอควร”
ิอวี่คิดวิเคราะห์ในใจ เขาประเมินว่ามัดไหมนั้นอยู่ระดับสูงเกินไป ด้วยความสามารถของเขาในเวลานี้คงใช้งานได้ยาก แต่ถ้าเป็จมสู่ความฝัน ... ไม่แน่ว่าเขาอาจจะร่างออกมาใช้งานได้!
“ถ้าเช่นนั้น เอาอย่างนี้ เ้าสอนจมสู่ความฝันข้าเถอะ ข้าเชื่อว่าข้าจะต้องใช้งานจมสู่ความฝันได้แน่” สายตาของิอวี่เป็ประกายมาก
“ตอนนี้เ้ายังาเ็อยู่ควรรักษาตัวให้หายก่อน อีกอย่าง เ้าอยากจะเรียนจมสู่ความฝันก็ไม่ใช่เื่ในวันสองวันนี้ เ้าอย่าลืมนะ คาถาค่ายกลกันไฟกระบวนท่าที่สามเ้ายังฝึกไม่ได้เลย แค่คาถาเดียว เ้าคงต้องฝึกอีกนาน”
เฮยจีมองบนใส่ิอวี่ เหมือนรู้สึกว่าิอวี่โลภเกินไป ในสายตาของนางแล้วพร์ในการเป็นักร่างอักขระของิอวี่ธรรมดามาก
ิอวี่เบะปาก แต่ว่าเขาก็เถียงกลับไม่ได้ เพราะเฮยจีเป็ปรมาจารย์ด้านนี้ เขาไม่มีสิทธิไปเทียบกับปรมาจารย์ที่งดงามอย่างนางได้เลย
เห็นิอวี่กลัดกลุ้มเฮยจีก็ยิ้ม “แต่ว่า ที่ข้ายังมีไข่มุกอักขระจมสู่ความฝันอีกห้าเม็ด เ้าแค่ท่องคาถาและสัญลักษณ์มือได้ เ้าก็สามารถใช้มันได้แล้ว!”
“จริงหรือ?” ิอวี่ดวงตาเป็ประกาย
เฮยจีพลิกข้อมือแล้วไข่มุกอักขระห้าเม็ดสีฟ้าอ่อนก็ปรากฏขึ้นบนมือ นางยื่นมันให้กับิอวี่แล้วก็บอกคาถากับสัญลักษณ์มือทั้งหมดให้กับิอวี่
ิอวี่จดจำคาถาและวิธีการทั้งหมด จากนั้นก็รักษามันไว้ราวกับสมบัติล้ำค่า เก็บไข่มุกอักขระทั้งห้าเม็ดเอาไว้ในแขนเสื้อสีดำ
“เอ๊ะ! จริงสิ”
ิอวี่เหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ “จมสู่ความฝัน ถึงแม้จะไม่ได้อัศจรรย์เท่ามัดไหม แต่ก็เป็ลายเส้นอักขระประเภทกักขังเหมือนกันไม่ใช่หรือ? นอกจากคาถาค่ายกลกันไฟแล้ว ข้าเห็นว่า เ้ายังมีลายเส้นอักขระประเภทกักขังเยอะแยะเต็มไปหมดเลย”
เฮยจีพยักหน้าเบาๆ “นี่ คิดไม่ถึงเลยว่าเ้าจะมองออกด้วย บอกเ้าก็ได้ อย่างคาถาค่ายกลกันไฟ ที่จริงเป็ของเล่นที่ข้าฝึกมานานมากแล้ว สำหรับข้า มันไม่ใช่ศาสตร์ประเภทหลักที่ข้าเชี่ยวชาญหรอก ที่ข้าชำนาญจริงๆ คือลายเส้นอักขระประเภทควบคุมกับป้องกันต่างหาก”
“ที่แท้ลายเส้นอักขระก็มีแบ่งประเภทเหมือนกันหรือนี่?” ิอวี่เริ่มถามด้วยความสนใจ
“ถึงแม้ลายเส้นอักขระจะมีความพิสดารกว่าร้อยแปดพันอย่าง แต่หลักๆ แล้วก็แบ่งออกเป็สามศาสตร์ใหญ่ ศาสตร์การโจมตีที่แข็งแกร่ง ศาสตร์การป้องกัน และศาสตร์การควบคุม”
เฮยจีอธิบายต่อว่า “เพราะลายเส้นอักขระทั้งสามประเภทนั้นแตกต่างกัน ดังนั้น เวลาที่ร่างลายเส้นทั้งสามประเภทนี้ออกมาจึงมีความแตกต่างกันอย่างมาก เริ่มแรก นักร่างอักขระอาจจะเรียนรู้ทั้งสามประเภท แต่เมื่อฝึกจนถึง่หลัง เมื่อลายเส้นมันซับซ้อนขึ้น คิดอยากจะร่างอันใดอันหนึ่งออกมาให้ดีมีอานุภาพมันล้วนแต่ยาก”
“ดังนั้น ในสายเวทย์จึงมีแบ่งความเชี่ยวชาญออกไป ดังนั้นนักร่างอักขระจึงแบ่งออกเป็สามอย่าง มีนักร่างอักขระสายการโจมตีที่แข็งแกร่ง นักร่างอักขระสายการป้องกัน นักร่างอักขระสายควบคุม คิดจะกลายเป็นักร่างอักขระไม่ว่าจะเป็ศาสตร์สายไหนก็ตาม ก็ล้วนแต่ไม่ใช่เื่ง่ายเลยนะ”
ิอวี่ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “แต่ว่าเมื่อครู่เ้าเหมือนจะบอกว่า เ้าเชี่ยวชาญทั้งสายการป้องกันและโจมตีเลยนะ ถ้าอย่างนั้นเ้าก็เหยียบเรือสองแคม ไม่มั่นคงเลยน่ะสิ ไม่เพียงเป็นักร่างอักขระสายการป้องกัน แต่ยังเป็นักร่างอักขระสายควบคุมด้วย?”
“อิอิ ... ถูกต้องแล้ว”
ใบหน้าเล็กๆ อันงดงามของเฮยจีมีรอยยิ้ม “เพราะฉะนั้น การที่ข้าจิตใจไม่มั่นคงแบบนี้ แล้วยังเป็นักร่างอักขระได้ถึงสองศาสตร์สองสายนั้น หาได้ยากเลยนะ”
ระหว่างที่พูดเฮยจีก็พยายามสบตาิอวี่ เพราะ้าได้รับคำชมจากเขา
ิอวี่พูดว่า “พูดมาตั้งนานที่แท้ก็อยากให้คนอื่นชมว่าเ้าร้ายกาจนี่เอง ... แต่ว่า ถ้ามีคนเป็นักร่างอักขระถึงสามสายเลย? อย่างนั้นก็ร้ายกาจกว่าเ้าน่ะสิ”
“ข้าว่าเ้านี่ใจใหญ่เกินไปแล้วนะ!”
เฮยจีเบะปากแล้วพูดอย่างมั่นใจว่า “เ้ารู้หรือเปล่า แค่เป็นักร่างอักขระสายใดสายหนึ่ง ก็มีคนมากมายประจบอยากได้ไปเป็พวกแล้ว เมื่อเป็นักร่างอักขระสองสายถือได้ว่าอัศจรรย์มาก ถือว่าพญาหงส์พญากิเลนเลย พันปี หมื่นปี ถึงจะมีสักคน และแต่ละคนก็ล้วนแต่เป็บุคคลที่มีพร์ น่านับถืออย่างมาก”
ถึงแม้ฟังดูเฮยจีจะพูดคุยโวเกินจริง แต่ในความเป็จริงแล้วนางไม่ได้พูดผิดเลย การจะกลายเป็นักร่างอักขระคนหนึ่งนั้นยากยิ่งกว่ายาก แล้วยิ่งเป็เหมือนนางที่เป็นักร่างอักขระเชี่ยวชาญทั้งสองศาสตร์ ยิ่งหาได้ยาก!
หลายคนตลอดชีวิตยังไม่เคยเจอนักร่างอักขระเลยแม้แต่หนเดียว แล้วนักร่างอักขระก็มีน้อยมากอยู่แล้ว พวกเขาส่วนมากจะเชี่ยวชาญลายเส้นอักขระแค่ประเภทเดียวเท่านั้น
ส่วนปรมาจารย์นักร่างอักขระสองศาสตร์ แทบจะมีแค่ในตำนาน เฮยจีก็คือคนประเภทในตำนานนั้น!
ส่วนนักร่างอักขระที่เชี่ยวชาญทั้งสายการโจมตีที่แข็งแกร่ง สายการป้องกัน และสายควบคุม ... อย่าว่าแต่พันปีเลย ต่อให้มองไปในประวัติศาสตร์ที่อันยาวนานที่ผ่านมาก็ไม่เคยมีคนแบบนี้มาก่อน หรือพูดง่ายๆ ก็คือ ไม่เคยมี!
จึงไม่แปลกที่เฮยจีจะมีปฏิกิริยาแบบนี้ ไม่ว่าใครก็ตามที่ได้ยินิอวี่พูดก็จะต้องหัวเราะจนฟันร่วงแน่นอน
“ก็ได้”
เห็นเฮยจีงอน ิอวี่ก็พูดปลอบไปว่า “ถ้าอย่างนั้น ... ขอบคุณท่านปรามาจารย์นักร่างอักขระผู้ยิ่งใหญ่ที่มอบมุกทั้งห้าเม็ดนี้ให้กับข้า”
“ต้องแบบนี้สิ” เฮยจีเบะปากแล้วพูดว่า “จริงสิ ลายเส้นอักขระอำพรางที่ข้าร่างเพิ่มขึ้นมาให้อยู่ได้มากสุดแค่เดือนเดียวนะ หลังจากหนึ่งเดือนเ้าต้องไปจากที่นี่ ไม่อย่างนั้นหากประมุขตำหนักโยวิจ้องมาที่นี่เมื่อไหร่ยุ่งยากแน่”
เมื่อพูดถึงประมุขตำหนักโยวิ อารมณ์ของิอวี่ก็รู้สึกกดดัน
ถูกต้อง คนที่ทำร้ายเขาจนาเ็ขนาดนี้ก็คือประมุขตำหนักโยวิ! แล้วมีดบินปี้ลั่วของเขายังตกไปอยู่ในมือของประมุขตำหนักโยวิอีก เขาต้องชิงมันกลับมาให้ได้!
“เอาล่ะ ิญญาของข้าหมดแรงแล้ว ข้าต้องกลับไปพักก่อน ถ้าครั้งหน้าเ้าให้ข้าต้องมาเจอเื่อะไรแบบนี้อีกนะ รอดูได้เลยว่าข้าจะเล่นงานเ้าอย่างไร ชิ”
เฮยจีกำหมัดให้ิอวี่ดู จากนั้นก็กลายเป็แสงสีดำลอยเข้าไปในหยกโบราณ
ในถ้ำเหลือเพียงิอวี่แค่คนเดียว
เพราะิอวี่มีขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่เจ็ด ระดับหลอมความเป็เทพแล้ว พลังจิตของเขาแข็งแกร่งมาก เขาสามารถลองใช้พลังจิตสั่งเคลื่อนย้ายเืลมให้เข้าไปในหยกโบราณแทนการกรีดเืเหมือนที่เคยทำ จากนั้นเืก็ค่อยๆ เข้าสู่หยกโบราณ มันค่อยๆ เปล่งแสงสีขาวของพลังงานออกมาเป็ระลอกๆ เพื่อรักษาแผลที่บริเวณหน้าอกของิอวี่อย่างต่อเนื่อง
หากเป็ผู้กล้าขอบเขตหลุดพ้นปุถุชนขั้นที่เจ็ดระดับหลอมความเป็เทพทั่วไปที่รับพลังฝ่ามือของประมุขตำหนักโยวิแบบนี้ ต่อให้ไม่ตายตรงหน้า ก็จะต้องถูกพลังชั่วร้ายกัดกินเนื้อหนังและอวัยวะภายในทรมานจนตาย
ิอวี่จำเป็ต้องกำจัดพลังชั่วร้ายสีดำนั่นให้หมดไปให้เร็วที่สุด ไม่อย่างนั้นต่อให้ร่างกายของเขาจะแข็งแกร่งแค่ไหนก็ตาม เขาก็จะต้องถูกพลังความชั่วร้ายกัดกิน และสุดท้ายก็ต้องตาย!